“ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันแค่พูดความจริง พูดความจริงไม่ผิดกฏหมาย เธอไม่เพียงจะต้องรับฟังสิ่งดีๆที่คนอื่นพูดถึงเธอเท่านั้น แต่เธอจะต้องรับฟังสิ่งแย่ๆที่คนอื่นพูดถึงเธอด้วย เข้าใจใหม” หวังเซี่ยวจ้งกล่าวอย่างมั่นใจ
หวังเซื่ยวจ้งพูดต่ออีกว่า “แล้วก็ฉันไม่ได้พูดว่าคนที่ฉันพูดถึงว่าเป็นคนที่นั่งงอมืองอเท้าอยู่บนกองเงินกองทองนั้นเป็นเธอสองคน เธอคิดไปเอง”
หูเจียวเจียวทำแก้มป่อง
เธอโกรธแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้
ดังนั้นเธอจึงโกรธมากขึ้นกว่าเดิม
หูเจียวเจียวนั้นมองดูแล้วก็เหมือนกับมะเขือยาวที่เหี่ยวเฉาขาดชีวิตชีวา
ทำไมเธอไม่สอบให้ได้คะแนนมากกว่าเจ้าคนน่ารังเกียจหวังเซี่ยวจ้งคนนี้บ้างนะ
เจี่ยนอีหลิงมองดูหูเจียวเจียวชั่วครู่แล้วก็เห็นถึงความเศร้าที่อีกฝ่ายมี ดังนั้นเธอจึงหันหน้าไปและพูดกับหวังเซี่ยวจ้งว่า
“คราวหน้าถ้านายแพ้ฉันในการสอบ นายขอโทษให้ชัดเจน แล้วเขียนคำขอโทษพันเที่ยว”
“เจี่ยนอีหลิง เกิดอะไรขึ้นกับเธอ หือ” หวังเซี่ยวจ้งทำสายตาเหยียดหยาม
“พนัน พนันไหม”
“ถ้าเธอไม่ได้คะแนนดีกว่าฉัน เธอก็จะต้องขอโทษฉันแล้วก็เขียนว่า ฉันขอโทษ พันเที่ยวด้วย ใช่ไหม”
“อือ”
เมื่อได้ยินแบบนี้หวังเซี่ยวจ้งก็หัวเราะออกมา รวมไปถึงเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆที่อยู่ในชั้นต่างก็พากันดูเจี่ยนอีหลิงด้วยสายตาแปลกๆ
เป็นความจริงที่ผลการเรียนของเจี่ยนอีหลิงในการสอบครั้งล่าสุดนั้นดีขึ้น จนกระทั่งอาจารย์ก็ยังเอ่ยชื่อชมเธอ
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับหวังเซี่ยวจ้ง นักเรียนหัวกระทิของห้องแล้ว พัฒนาการของเธอด้อยกว่าอยู่บ้าง
เพียงแค่ผ่านการทดสอบ เธอก็เริ่มท้าทายนักเรียนที่เรียนเก่งที่สุดของห้อง
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแย่และเลื่อนลอย
ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่าทำไมเธออยู่ดีๆก็ร้อนแรงขึ้นมาไปลงทะเบียนการแข่งขันเคมี
หลังจากที่ผ่านการสอบทุกวิชาของเดือนนี้แล้ว เจี่ยนอีหลิงก็บ้าไปแล้ว
“ตกลง ทำไมไม่พนันล่ะ ไม่ว่ายังไงทุกคนก็ได้ยิน ถ้าคะแนนรวมของเธอต่ำกว่าของฉันในการสอบของเดือนหน้า เธอจะต้องขอโทษอย่างจริงจัง จำไว้ ขอโทษ แล้วก็คัดคำว่า “ฉันขอโทษ” พันครั้งด้วย”
เจี่ยนอีหลิงมักจะจองหองพองขนมาโดยตลอด ถ้าจะให้เธอขอโทษคนอื่นนั้น ฉากนี้ถือว่าเป็นภาพที่หาได้ยากมาก
หูเจียวเจียวรีบดึงเจี่ยนอีหลิงไว้ด้วยสีหน้ากระวนกระวาย “อย่าเลย อีหลิง อย่าไปพนันเรื่องนี้กับเขา”
หูเจียวเจียวไม่ต้องการให้เจี่ยนอีหลิงขอโทษหวังเซี่ยวจ้งจริงๆ
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้รับฟังคำห้ามปรามของหูเจียวเจียว แต่ไปตกลงกับหวังซื่อจ้ง “ตกลง”
หูเจียวเจียวยิ่งห่อเหี่ยวไปมากกว่าเดิม
จะทำอย่างไรดี
เป้าหมายที่จะผ่านการสอบนั้นถือว่าโชคดีมากแล้วหากว่าทำได้
หวังซื่อจ้งนั้นเป็นหนึ่งในนักเรียนที่เก่งที่สุดของห้อง ยากเหลือเกินที่จะเอาชนะ
หลังจากที่หวังซื่อจ้งจากไปแล้ว หูเจียวเจียวก็พูดกับเจี่ยนอีหลิงว่า
“อีหลิง ฉันขอโทษ ฉันจะคัดลอกคำขอโทษให้กับเธอหลังจากนี้พันครั้ง”
“ทำไม อะไร” เจี่ยนอีหลิงค่อนข้างประหลาดใจอยู่บ้าง
“เอ้อ สิ่งที่เขาว่ามาเมื่อกี้นี้เป็นพวกเราทั้งสองคน ดังนั้นฉันจะลอกคำขอโทษด้วย”
หูเจียวเจียวรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องของเจี่ยนอีหลิงเพียงลำพังคนเดียว
“ไม่เป็นไร”
“ไม่เป็นไร ฉันก็เพียงแค่คัด ฉันขอโทษ พันครั้ง ใช่ว่าฉันจะไม่เคยคัดตัวหนังสือมาก่อน” หูเจียวเจียวพูด
###
ฉินชวนมาที่โรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวเพื่อให้คำบรรยาย และอาจารย์หลี่ หัวหน้าฝ่ายวิชาการก็เป็นคนที่ไปต้อนรับเขาด้วยตัวเอง
สำหรับคนหนุ่มสาวที่มีความหวังเช่นนี้ อาจารย์หลี่ยิ่งดูยิ่งชื่นชอบ
ฉินชวนสวมเสื้อผ้าอย่างเป็นทางการในวันนี้ สูทสีกรมท่า สวมเนคไท กระดุมติดครบทุกเม็ด ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาจึงดูค่อนข้างเย็นชาห่างเหิน
“คุณนักศึกษาฉิน คุณนับได้ว่าเป็นความภูมิใจของเยาวชนในเมืองเหิงเหย่วน ถ้านักเรียนของโรงเรียนเราสามารถได้เรียนรู้จากคุณสัก 10 หรือ 20 % ผมที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการจะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง”
“ท่านอาจารย์ชมเกินไปแล้ว โรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวถือว่าเป็นหนึ่งในโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองเหิงเหย่วน ไม่ได้มีนักเรียนที่เก่งๆเพียงแค่คนสองคนที่จบออกไป”