วันถัดมา โม่ชืออวิ้นมาโรงเรียนด้วยความรู้สึกทดท้อ ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องเรียน เธอก็ได้ยินว่าการแข่งขันเคมีได้ประกาศผลออกมาแล้ว
จำนวนคนที่เข้าร่วมการสอบแข่งขันเคมีนี้มีไม่มากนัก ดังนั้นองค์กรจึงสามารถที่จะประกาศผลข้อสอบออกมาได้ภายในเย็นวันนั้นหลังจากที่จบการสอบ
ทันทีที่ผลการสอบประกาศออกมา ก็ไม่มีใครที่จะสามารถทำใจให้เย็นอยู่ได้อีกต่อไป
โม่ชืออวิ้นรีบเปิดดูโทรศัพท์มือถือของเธอเพื่อที่จะท่องอินเตอร์เน็ตและเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของการแข่งขัน และเธอก็เห็นผลการสอบพร้อมกับคะแนนที่ได้ประกาศออกมา
ตัวอักษรสามตัวเข้ามาสู่สายตาของเธอในทันที นั่นก็คือ เจี่ยนอีหลิง
ชื่อนี้อยู่ด้านบนสุดของรายงานผลการแข่งขัน
อันดับแรก
เจี่ยนอีหลิงอยู่ตำแหน่งที่หนึ่งจริงๆ
ความจริงนี้เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ
ไม่ต้องพูดถึงโม่ชืออวิ้นที่มีความสัมพันธ์กับเจี่ยนอีหลิงจะยอมรับผลลัพธ์นี้ไม่ได้ แม้กระทั่งคนอื่นๆก็ยอมรับไม่ได้เหมือนกัน
ด้วยความตกใจ โม่ชืออวิ้นรีบค้นหาชื่อของเธอในรายชื่อ
เมื่อเธอพบชื่อของตัวเอง เธอก็รีบมองดูอันดับของตัวเธอเองที่ช่องแรกสุด
อันดับที่สิบเอ็ด
โม่ชืออวิ้นติดอันดับที่สิบเอ็ดของเมือง
เพียงแค่อันดับเดียวเท่านั้นเธอถึงจะได้รางวัล
โม่ชืออวิ้นมองดูหน้าจอมือถือด้วยใบหน้าซีดเผือด
เธอคาดหวังไว้มากเหลือเกินกับการแข่งขันนี้
ยิ่งตั้งความหวังไว้มากก็ยิ่งผิดหวังมาก
ความแตกต่างเพียงแค่อันดับเดียวนี้ใหญ่หลวงนัก มันทำให้ความเจ็บปวดที่ต้องทนมานานนั้นท่วมทับเธอเหมือนทำนบแตก ทำให้เธอจมสำลักตาย
ในตอนนี้ ชูชาก็เข้ามา เมื่อเห็นหน้าตาเศร้าสร้อยของโม่ชืออวิ้น เธอก็ปลอบโยนว่า “ฉันไม่คิดว่าเธอจำเป็นจะต้องเศร้าในตอนนี้ เธอก็เห็นว่าอันดับแรกคือเจี่ยนอีหลิง นี่เป็นเรื่องที่ประหลาดจนเกินไป ใครกันที่ไม่รู้จักว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นนักเรียนแบบไหน ก็เห็นแล้วว่ายังทำได้ไม่ดีในการสอบเคมีธรรมดาแล้วจะมาได้ที่หนึ่งในการแข่งขันเคมีนี่นะ นั่นเป็นเรื่องโกหกกันเกินไปแล้ว ฉันคิดว่าความเป็นไปได้ที่ระบบจะเกิดความผิดพลาดนั้นมีสูงมาก ถ้าหากว่าผลคะแนนของเจี่ยนอีหลิงนั้นผิด เธอก็จะได้ที่สิบใช่ไหมล่ะ”
คำพูดของชูชาทำให้โม่ชืออวิ้นนึกขึ้นมาได้
ใช่แล้ว ถ้าคะแนนของเจี่ยนอีหลิงผิดพลาด เธอก็จะได้อันดับที่สิบ
“แต่ว่า…รายชื่อนั้นประกาศออกมาจากองค์กร ฉัน…” โม่ชืออวิ้นไม่รู้ว่าจะขอให้องค์กรตรวจสอบผลคะแนนอีกครั้งได้อย่างไร
“ไม่ต้องกังวล เธอไม่ต้องแสดงตัว ฉันได้ยินว่ามีคนบางคนได้ขอให้มีการตรวจสอบผลคะแนนไปแล้ว เธอไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่สงสัยคะแนนของเจี่ยนอีหลิง มีคนอีกหลายคนที่สงสัยคะแนนของเจี่ยนอีหลิงด้วยเหมือนกัน” ชูชาพูด
โม่ชืออวิ้นรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเธอได้ยินชูชาพูดแบบนี้
แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินเลย
ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตกใจให้กับรุ่นพี่ห้องพิเศษมัธยมปลายเท่านั้น ห้องเรียนของเจี่ยนอีหลิงเองก็ยิ่งมีปฏิกิริยามากกว่าใครในครั้งนี้
ในเวลานี้ เจี่ยนอีหลิงยังมาไม่ถึงโรงเรียน แต่ว่าทั้งชั้นก็ได้มาถึงกันเกือบหมดแล้ว
หูเจียวเจียวมองดูหน้าจอมือถือเพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง
“ฉันไม่ได้ตาฝาดจริงๆ อันดับหนึ่งเป็นเจี่ยนอีหลิง ฉันจะบ้าตาย”
หลิวเหวินก็คิดสงสัยอยู่เช่นเดียวกัน “เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนร่วมโต๊ะของเธอก่อนหน้านี้เหรอ เธอพูดว่าครูสอนพิเศษที่เจี่ยนอีหลิงจ้างมาไม่มีประโยชน์ ทำไมฉันรู้สึกไม่อยากจะเชื่อแล้วตอนนี้”
“ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ตอนที่เจี่ยนอีหลิงมา ฉันต้องสอบถามเธออย่างละเอียดว่าใครเป็นครูสอนพิเศษที่เธอจ้างมา”
หูเจียวเจียวกับหลิวเหวินต่างพากันสงสัยในความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของเจี่ยนอีหลิงในช่วงเวลาสั้นๆนี้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิธีการเรียนของเธอ สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดในตอนนี้ก็คือครูสอนพิเศษลึกลับที่เจี่ยนอีหลิงจ้างมาในช่วงเวลาก่อนหน้านี้
เจี่ยนอีหลิงมาถึงหลังจากนั้นไม่นานนัก
ทันทีที่เธอก้าวเท้าเข้าไปในห้อง เธอก็กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งห้อง
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เธอตรงไปยังที่นั่งของตัวเอง
ทันทีที่เธอนั่งลง หูเจียวเจียวกับหลิวเหวินก็เข้ามาประกบเธอทั้งซ้ายและขวา
ไม่ต้องพูดถึงหูเจียวเจียว กระทั่งหลิวเหวินที่ปกติแล้วจะสนใจแต่การเรียนก็ยังมาร่วมสนุกกับเขาด้วยในวันนี้
หูเจียวเจียวกับหลิวเหวินไม่ได้คิดสงสัยว่าคะแนนของเจี่ยนอีหลิงจะมีข้อผิดพลาด พวกเธอต้องการถามความลับในความก้าวหน้าของเจี่ยนอีหลิง