หูเจียวเจียวพยักหน้าขณะที่เธอสะอื้น
เธอนั้นกลัวจริงๆ
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงไซเรนก็ดังขึ้นและตำรวจก็มาที่ซอยนั้น เป็นหลัวซิ่วเอินที่ช่วยหูเจียวเจียวรายงานให้แก่ตำรวจ
หลัวซิ่วเอินอุ้มหูเจียวเจียวไปที่รถตำรวจ
หลัวซิ่วเอินสูงหนึ่งเมตรเจ็ดสิบเซนต์ มีกล้ามเนื้อแข็งแรง การอุ้มหูเจียวเจียวนั้นไม่ได้เป็นเรื่องหนักแรงเลยแม้แต่น้อย
เมื่ออุ้มไปจนถึงรถแล้ว หลัวซิ่วเอินก็ยังพูดอีกว่า “เธอสมกับเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของเซี่ยวหลิงจริงๆ เธอตัวเบาเหลือเกิน ไม่มีปัญหาเลยถ้าพี่สาวคนนี้จะอุ้มเธอสองคนแล้วไปวิ่งมาราธอน”
แน่นอน เธอนั้นตัวเล็ก แต่เจี่ยนอีหลิงกลับยิ่งตัวเล็กกว่า
เป็นเรื่องยากที่จะปีนขึ้นรถด้วยมือเท้าที่เล็ก
จากนั้นหลัวซิ่วเอินก็ตามหูเจียวเจียวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสภาพร่างกาย
พวกอันธพาลวัยรุ่นทั้งหมดล้วนถูกจับกุม
เจี่ยนอีหลิงตรงไปที่โรงพยาบาลทันทีหลังจากที่ได้ยินข่าวจากหลัวซิ่วเอิน
หูเจียวเจียวร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายจุด เธอได้รับรอยฟกช้ำเหล่านี้เมื่อตอนที่เธอพยายามดิ้นรนใ้หพ้นมือพวกอันธพาลเหล่านั้น
ดวงตาหูเจียวเจียวนั้นแดงเพราะว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา ใบหน้าเธอดูเหมือนกันแมวจากรอยน้ำตา ร่างกายของเธอนั้นอดที่จะสั่นเทาไม่ได้
เธอไม่ได้เป็นเด็กที่กล้าหาญ สามารถจินตนาการได้ว่าเธอนั้นหวาดกลัวเพียงใด
เมื่อเจี่ยนอีหลิงมาถึง ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนอยู่ในหอผู้ป่วยกำลังบันทึกถ้อยคำของหูเจียวเจียว
หูเจียวเจียวสะอึกสะอื้นขณะที่เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอออกมา
มันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดและน่าหวาดกลัวสำหรับเธอ
เจี่ยนอีหลิงได้ยินหูเจียวเจียวพูดว่าเมื่อตอนที่เธอถูกอันธพาลรังแกนั้น พวกอันธพาลพูดคำว่า “ใครใช้ให้เธอเป็นเพื่อนกับเจี่ยนอีหลิง”
ดังนั้นคนที่ทำร้ายหูเจียวเจียวคืนนี้แน่นอนว่าแท้จริงแล้วกำลังต้องการที่จะสร้างปัญหาให้กับเธอ เธอเป็นคนที่ทำให้หูเจียวเจียวประสบกับปัญหานี้
เป็นเพราะเธอที่ทำให้หูเจียวเจียวนั้นเผชิญพบกับสิ่งเหล่านี้ที่เธอไม่ควรจะได้พบเจอ
จากเสียงร้องสะอึกสะอื้นของหูเจียวเจียว เจี่ยนอีหลิงสามารถรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังและเจ็บปวดที่เธอได้เผชิญพบมา
เจี่ยนอีหลิงไม่เคยปลอบโยนคน เธอไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้น
แต่เจี่ยนอีหลิงก็รู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรบางอย่างในตอนนี้
“ฉันขอโทษ” เจี่ยนอีหลิงพูดออกมาอย่างช้าๆ
เธอรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหูเจียวเจียว
“ขอโทษ” เป็นเพียงถ้อยคำที่เลื่อนลอย แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่เจี่ยนอีหลิงสามารถคิดที่จะพูดออกมาให้หูเจียวเจียวได้ในตอนนี้เท่านั้น
เพราะว่าหูเจียวเจียวกำลังเล่าย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอจึงค่อนข้างที่จะหวาดกลัวสะอึกสะอื้น
เธอจึงไม่ได้ตอบรับคำขอโทษของเจี่ยนอีหลิง
เมื่อเห็นหูเจียวเจียวที่สะอึกสะอื้นอยู่ตรงหน้าเธอ เจี่ยนอีหลิงคิดว่าเธอควรจะจากไป
หูเจียวเจียวอาจจะไม่ต้องการที่จะเห็นเธอในตอนนี้
ในขณะที่เจี่ยนอีหลิงหันหลังกลับ หูเจียวเจียวก็พลันยื่นมือออกมาจับมือเธอไว้
เมื่อถูกจับมือ เจี่ยนอีหลิงก็หันตัวกลับมองตรงไปยังหูเจียวเจียวที่ยึดมือเธอเอาไว้
มีแววของความลังเล ประหลาดใจ และไม่เข้าใจในดวงตาของเธอ
เสียงของหูเจียวเจียวยังคงสั่นสะท้าน แต่มือของเธอนั้นจับมือของเจี่ยนอีหลิงไว้อย่างมั่นคง
“ฉัน ฉันกลัว แต่ฉันก็รู้ว่าไม่ใช่เธอหรือว่าฉันที่เป็นคนผิด และฉันก็ไม่ต้องการที่จะให้คนเลวพวกนั้นได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ พวกนั้นทำผิด แล้วทำไมฉันจะต้องให้สิ่งที่พวกนั้นต้องการด้วย ฉันไม่ยอม ฉันต้องการเป็นเพื่อนกับเธอ ฉันไม่ต้องการให้พวกนั้นมีความสุข”
ใช่แล้วคนพวกนั้นมุ่งเป้าไปที่เจี่ยนอีหลิง พวกนั้นไม่ต้องการให้หูเจียวเจียวเป็นเพื่อนกับเจี่ยนอีหลิง
ดังนั้นหูเจียวเจียวจะไม่ยอมมีชีวิตอยู่ตามที่พวกนั้นต้องการ
เป็นคนพวกนั้นที่ผิด ไม่ใช่เจี่ยนอีหลิง
แม้ว่าหูเจียวเจียวจะเสียใจและหวาดกลัวมาก แต่ใจของเธอนั้นก็เข้าใจถึงเหตุและผลของเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้อย่างชัดเจน
เจี่ยนอีหลิงมองไปยังมือของหูเจียวเจียวที่กำมือของเธอไว้และมีท่าทางเงอะงะอยู่บ้างเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เจี่ยนอีหลิงจับมือของใครสักคนไว้แบบนี้
ความรู้สึกนี้ทั้งแปลกใหม่และมหัศจรรย์