แต่สิ่งที่เจี่ยนอีหลิงสามารถมั่นใจได้ก็คือเธอไม่ได้ต่อต้านการสัมผัสแบบนั้น
“เธอไม่ต้องขอโทษ” หูเจียวเจียวพูดต่อ “ไม่ใช่เธอที่เป็นคนทำให้ฉันเจ็บ ทำไมเธอต้องขอโทษด้วย ไม่มีเหตุผลเลย ฉัน ฉันกลัวมาก โกรธมากมาก แต่… แต่นั่นไม่ใช่เธอที่ทำความผิด ดัวยเหตุนั้นฉันไม่มีเหตุผลที่จะโกรธเธอ”
ขณะที่เธอพูด หูเจียวเจียวยังคงมีอารมณ์รุนแรงอยู่เล็กน้อย เธอเพิ่งผ่านการร้องไห้ เธอยังคงสะอื้น
“ขอบคุณ ขอบคุณ” คำพูด “ขอบคุณ” ธรรมดาสองคำออกมาจากปากของเจี่ยนอีหลิงย่อมมีน้ำหนักเป็นพิเศษ
หูเจียวเจียวตาแดงและส่ายหน้า “ไม่ใช่ความผิดของเธอ อาา เธอไม่จำเป็นต้องพูดขอโทษหรือขอบคุณฉันจริงๆนะ”
หลัวซิ่วเอินทันได้เห็นฉากนี้เมื่อตอนที่เธอเดินเข้ามา
เจี่ยนอีหลิงยืนอยู่ข้างเตียง ตัวเล็กๆ ดูขาวและนุ่มนวล น่ารักน่าหยิก
คนที่นอนอยู่บนเตียงดูเหมือนจะอายุมากกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ได้แย่ไปกว่าเจี่ยนอีหลิงเท่าไหร่นัก
เด็กหญิงตัวเล็กสองคนจับมือและพูดคุยกัน
หลัวซิ่วเอินเดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม ถือของมากมายไว้ในมือ
หลัวซิ่วเอินเพิ่งออกไปหาซื้อของให้กับหูเจียวเจียว ของจำเป็นในชีวิตประจำวันและของว่างมื้อดึก
เพราะว่าเธอรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงก็จะมาที่นี่เช่นเดียวกัน เธอจึงซื้อเผื่อเจี่ยนอีหลิงด้วย
“น้องสาวอีหลิง เธอก็ต้องกินด้วย นี่เป็นอาหารเสริมพลังงานที่เหมาะสมเอื้อต่อสุขภาพไม่ทำให้อ้วน”
หูเจียวเจียวและเจี่ยนอีหลิงทั้งคู่กินไปเล็กน้อย
เมื่อได้เพิ่มพละกำลังให้แก่ร่างกาย อารมณ์ของหูเจียวเจียวก็มั่นคงขึ้น
จากนั้นหูเจียวเจียวก็มองไปยังหลัวซิ่วเอินด้วยความซาบซึ้งใจและชื่นชม “พี่สาว พี่เก่งจริงๆ…”
ครั้งล่าสุดที่เธอเห็นหลัวซิ่วเอินทุบตีพวกอันธพาลที่ไปหาเรื่องเจี่ยนอีหลิงที่ประตูโรงเรียนนั้น หูเจียวเจียวก็คิดว่าเธอนั้นแข็งแรงมาก
เมื่อถึงวันนี้ความรู้สึกนี้ยิ่งลึกซึ้งขึ้น
“ไม่ต้องเกรงใจพี่สาวคนนี้ ไม่ได้มีอะไรมาก เธอเป็นเพื่อนอีหลิงก็เหมือนกับเป็นเพื่อนพี่สาวคนนี้ เธอเก็บเบอร์โทรพี่ไว้ คราวหน้าถ้ามีอันตรายก็เรียกมาที่เบอร์โทรพี่สาวคนนี้”
คำพูดของหลัวซิ่วเอินนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ทำให้คนรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
หูเจียวเจียวค่อนข้างจะอายอยู่บ้างแต่เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้น
ดังนั้นเธอจึงทำตามที่หลัวซิ่วเอินพูด เซฟเบอร์โทรของอีกฝ่ายไว้
หลังจากอยู่เป็นเพื่อนกับหูเจียวเจียวที่โรงพยาบาลสักพักหนึ่ง หลัวซิ่วเอินกับเจี่ยนอีหลิงก็ออกจากโรงพยาบาล
เมื่อลงมาชั้นล่าง หลัวซิ่วเอินก็กล่าวกับเจี่ยนอีหลิงว่า “น้องสาวอีหลิง พวกอันธพาลกลุ่มนั้นดูเหมือนจะมีปัญหา พวกเขาเห็นโพสต์ให้รางวัลนี้ในเน็ตมืด พวกเขาจึงหาตัวเจียวเจียวพบ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโพสต์ข่าวนี้ ข้อมูลในเน็ตมืดนั้นยากที่จะตรวจสอบ พี่ให้คนในสถาบันติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ใ้หช่วยน้องหาแล้ว ทันทีที่รู้ว่าเป็นใครพี่สาวคนนี้จะช่วยน้องจามหัวหมา”
เพราะว่าผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์แบบนั้นไม่ใช่ว่าหาได้ง่ายๆ หลัวซิ่วเอินจึงยังหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องไม่ได้
ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น โทรศัพท์ของเจี่ยนอีหลิงก็ดังขึ้น
เจี่ยนอีหลิงเอาโทรศัพท์ออกมาและก็พบว่าโทรศัพท์ที่เข้ามานั้นเป็นหมายเลขแปลกหน้า
เจี่ยนอีหลิงลังเลก่อนจะรับโทรศัพท์
เป็นเสียงของชายหนุ่มอยู่ที่อีกปลายของสายโทรศัพท์
“เซี่ยวหลิงหลิง นี่พี่ชายของเธอ ฮั่วอวี้ ไง”
เจี่ยนอีหลิงถือโทรศัพท์อย่างเงียบๆไปชั่วขณะ “…”
“ไม่ เซี่ยวหลิงหลิง อย่าบอกนะว่าน้องจำพี่ไม่ได้หนะ”
“จำได้”
นี่ไม่ใช่เพื่อนสนิทของเจี่ยนหยุ่นเฉิงหรอกเหรอ ตอนนี้ควรอยู่ที่ต่างประเทศ เป็นแกนหลักของบริษัทเกมของเจี่ยนหยุ่นเฉิง
ฮั่วอวี้ก่อนหน้านั้นเคยติดตามเจี่ยนหยุ่นเฉิงมาที่บ้านตระกูลเจี่ยนหลายครั้ง และเจี่ยนอีหลิงคนเดิมก็ได้พบกับเขาหลายครั้ง
“เซี่ยวหลิงหลิง น้องเรียกพี่ว่า พี่ชายอวี้ แล้วพี่จะให้ข้อมูลแก่น้อง เธออยากรู้ไหม”
——————————————–
ฮั่วอวี้ – แม้ว่าผมจะอยู่ต่างประเทศ แต่นี่ก็ไม่ได้ขัดขวางการปรากฏตัวของผมได้ ให้มั่นใจว่าพวกคุณจะจำผมได้แต่เนิ่นๆ