“อืมมม … “หลัวซิ่วเอินแตะคางของตัวเอง “วิธีที่นายพูดมานี้เป็นไปได้ งั้นเรามาทำตามนี้กันเถอะ”
“เฮ้อ” เฉิงอี้ถอนหายใจโล่งอกเฮือกใหญ่
เมื่อเจี่ยนอีหลิงนอนอยู่บนเตียง เธออดคิดไม่ได้ว่า ‘การผ่าตัดเสร็จสมบูรณ์และผลลัพธ์ก็ราบรื่น สิ่งเดิมๆจะเกิดขึ้นอยู่หรือเปล่า’
เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ว่าเธอจะสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอเช่นนี้ได้หรือไม่
แต่อย่างน้อย เจี่ยนหยุ่นน่าวก็จะไม่มีอารมณ์มืดมนและแปรปรวนตามที่เกิดขึ้นในหนังสือต้นฉบับ
ในเวลาเดียวกันเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ยังคงมองโลกในแง่ดีและเป็นบวกมาจนถึงตอนนี้
เธอก็ควรจะเปลี่ยนไปใช่มั้ย
เจี่ยนอีหลิงหลับไปอย่างงุนงงเพราะความเหนื่อยล้า
ในยามหลับ เจี่ยนอีหลิงได้ฝันถึงหอผู้ป่วยที่คุ้นเคย ซึ่งเป็นหอผู้ป่วยที่เจี่ยนอีหลิงเสียชีวิตตามหนังสือต้นฉบับ
แพทย์และพยาบาลเข้ามาดูเธอด้วยความเห็นใจในดวงตาของพวกเขา
เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ประตูของหอผู้ป่วยก็เปิดออกและมีชายคนหนึ่งเข้ามา
เจี่ยนอีหลิงเห็นหน้าตาของชายคนนั้นอย่างชัดเจน ด้วยท่าทางยะโสและไม่มีวินัย
เขาก็คือจ๋ายหวินเชิ่ง
จ๋ายหวินเชิ่งยืนอยู่ข้างเตียงมองไปที่เจี่ยนอีหลิง
“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่แต่ฉินชวน และในที่สุดก็ถูกตระกูลเจี่ยนขับออกจากบ้านภายใต้แรงกดดันของฉินชวน”
ทุกคนในเมืองหลวงรู้ดีว่าฉินชวน ทายาทคนปัจจุบันของตระกูลฉินโกรธมากกับเมืองเหิงเหย่วน
เพื่อปกป้องผู้หญิงอันเป็นที่รัก เขาจึงได้ยื่นคำขาดกับตระกูลเจี่ยน โดยขอให้พวกเขาตัดความสัมพันธ์กับเจี่ยนอีหลิง ผู้ที่พยายามทำร้ายโม่ชืออวิ้นคู่หมั้นของเขา ไม่เช่นนั้นเขาจะทำลายตระกูลเจี่ยนทั้งหมด
“นายเป็นใคร”
ด้วยเสียงที่อ่อนแออยู่แล้ว และไม่ได้ห่างไกลจากความตายมากนัก
“จ๋ายหวินเชิ่ง ฉันมีเรื่องราวที่จะต้องจัดการกับฉินชวนคนที่เธอรักและเกลียดมากที่สุดอยู่หลายเรื่อง วันนี้ฉันมาที่โรงพยาบาลจัดการธุระบางอย่าง และได้ยินมาว่าหอผู้ป่วยที่นี่มีผู้หญิงที่หมกมุ่นอยู่กับฉินชวนอาศัยอยู่ และก็ได้ยินว่าเธอนั้นใกล้ตายจากฉินชวนแล้ว จึงแวะมาดู”
“เป็นนายนี่เอง ฉันเคยได้ยินชื่อของนาย” ไม่มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงใดๆบนใบหน้าซีดเผือดนั้น
ความตายอยู่ต่อหน้าเธอแล้วและไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอเสียใจหรือมีความสุขได้
“ดูเหมือนว่าเธอคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เธอเสียใจที่มาถึงจุดนี้ไหม”
จ๋ายหวินเชิ่งถามหมอก่อนเข้ามา เจี่ยนอีหลิงเป็นมะเร็งในระยะสุดท้าย ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้
เจี่ยนอีหลิงมองไปที่จ๋ายหวินเชิ่งและค่อยๆพูดหลังจากนั้นไม่นานนัก “สิ่งที่ผิดทั้งหมดที่ฉันได้ทำในชีวิตนี้มีความเกี่ยวข้องกับความรัก ฉันผิดเอง ถ้าหากได้เริ่มชีวิตอีกครั้ง ฉันอยากเป็นใครสักคนที่ไม่เข้าใจความรักและครอบครัว ไม่รักใคร ไม่สนใจใคร”
…
“อีหลิง”
ความฝันของเจี่ยนอีหลิงเพียงดำเนินไปแค่ครึ่ง และก็ถูกปลุกด้วยเสียงของเฉิงอี้และดึงกลับสู่ความเป็นจริงในทันใด
“อีหลิงเป็นอะไรรึเปล่า มีเหงื่อออกที่หน้าผากเยอะเลย”
เฉิงอี้ปลุกเจี่ยนอีหลิง เมื่อเห็นเหงื่อเย็นที่หน้าผากของเธอ
เจี่ยนอีหลิงยกมือขึ้นแตะหน้าผากของเธอ เหงื่อเย็นเยียบจริงด้วย
“ไม่เป็นไร” เจี่ยนอีหลิงไม่ต้องการให้เฉิงอี้กังวลเกี่ยวกับตัวเอง และเธอก็สบายดีแล้วจริงๆ
เธอแค่ฝันแปลกๆ
###
ขณะที่เจี่ยนอีหลิงกำลังพักฟื้นอยู่ในสถาบันวิจัย เจี่ยนหยุ่นน่าวก็ตื่นขึ้นมาในหอผู้ป่วยของเขา
ประโยคแรกหลังตื่นนอนคือถามถึงสภาพมือของเขา
“การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีไหม” เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่สามารถซ่อนความกังวลใจของเขาไว้ได้
เจี่ยนชูฉิงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้บอกกับลูกชายว่า “ประสบความสำเร็จ ราบรื่นมาก หมอบอกว่าการซ่อมแซมมือของลูกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หลังจากลูกฟื้นตัวจากการผ่าตัด ลูกก็ต้องทำการฝึกฟื้นฟูอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ดวงตาของเจี่ยนหยุ่นน่าวก็เต็มไปด้วยน้ำตา
เท่านี้เขาก็มีความสุขแล้ว