เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 303-304

 

คุณนายเฉียนรู้ดีว่า หากโม่ชืออวิ้นต้องการเข้าสู่วงการบันเทิง เธอต้องใส่ใจกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตอนนี้โม่ชืออวิ้นไม่มีเงินเก็บไว้ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ดีๆอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ คุณนายเฉียนไม่ต้องการทำร้ายความภาคภูมิใจของโม่ชืออวิ้น นี่คือเหตุผลที่เธอใช้วิธีการทางอ้อมนี้ เพื่อซื้อเสื้อผ้าให้โม่ชืออวิ้น

 

ขณะที่โม่ชืออวิ้นเดินเข้ามา เธอก็หยุดเดินในทันที คนที่เมื่อกี้นี้นั่นไม่ใช่ …เจี่ยนอีหลิงเหรอ

 

ใช่แล้ว เธอไม่ได้เข้าใจคนอื่นผิดว่าเป็นเจี่ยนอีหลิงเลย

 

แต่… แต่ทำไมเจี่ยนอีหลิงถึงอยู่ที่นี่กับคุณนายเฉียน

 

ทันใดนั้นความรู้สึกแย่ๆ ก็ผุดขึ้นในใจของโม่ชืออวิ้น

 

นั่นเป็นความรู้สึกกังวลที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที

 

เธอไม่อยากคิดร้ายกับเรื่องนี้ แต่เธอต้องคิดหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอไม่สามารถลืมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้

 

“ซืออวิ้น เธออยู่ที่นี่เหรอ” คุณนายเฉียนพูดขณะที่เธอเห็นโม่ชืออวิ้นมาถึง เธอเดินเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับรอยยิ้ม

 

“อื้มม” โม่ชืออวิ้นตอบ เธอมีความสงสัยในใจ แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ถามคุณนายเฉียนเกี่ยวกับพวกเขา

 

###

 

หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงได้แสดงใน MV ของจูปีเตอร์ ผู้คนจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเธอ

 

ภาพโลลิมืดที่แสดงใน MV เป็นที่สังเกต สิ่งนี้ดึงดูดแฟนๆมาหาเธอเป็นจำนวนมาก

 

อ่านตอนล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไปที่หน้า Weibo อย่างเป็นทางการของจูปีเตอร์ และแสดงความคิดเห็นสอบถามว่าเธอเป็นใคร

 

หลังจากที่เจี่ยนหยู่หมินเห็นความคิดเห็นเหล่านี้ เขาก็บอกผู้จัดการเขาและคนอื่นๆในกลุ่มทันทีว่า ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของน้องสาวเขา

 

เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ขอให้น้องสาวเขามาเป็นนักแสดงนำหญิงใน MV ใหม่ของพวกเขา

 

แม้ว่าเขาจะสามารถปกป้องข้อมูลจากชาวเน็ตทั่วไปได้ แต่บริษัทด้านการเงินและการโฆษณาก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

 

เอเจนซี่บอกเขาว่าพวกเขามองเห็นแววในอนาคตของเจี่ยนอีหลิงในวงการบันเทิง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการทำสัญญากันเธอ

 

อย่างไรก็ตาม เจี่ยนหยู่หมินปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้นทันที

 

แม้ว่าผู้รับผิดชอบในการทำสัญญากับดาวรุ่งในสังกัดจะได้รับคำตอบดังกล่าว แต่พวกเขาก็ยังพยายามเกลี้ยกล่อมให้เจี่ยนหยู่หมินคิดให้ดี อย่างเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอในทันที การตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับเจี่ยนอีหลิง เธอสามารถตัดสินใจได้ว่าต้องการเข้าสู่วงการบันเทิงหรือไม่ แม้ว่าเขาจะเป็นพี่ชายเธอแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขา

 

หลังจากคิดอีกครั้ง เจี่ยนหยู่หมินก็ตระหนักว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นถูกต้อง เขาเองก็เข้าวงการบันเทิงเพื่อตอบโต้ความปรารถนาของแม่เช่นกัน ถ้าเจี่ยนอีหลิงต้องการ เขาจะหยุดเธอได้ยังไง

 

ดังนั้นเจี่ยนหยู่หมินจึงส่งข้อความถึงเจี่ยนอีหลิงเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว

 

[ไม่] ทันทีที่เจี่ยนอีหลิงเห็นข้อความของเจี่ยนหยู่หมิน เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอทันที

 

[จริงเหรอ] เจี่ยนหยู่หมินตอบกลับ เขามีความสุขมากที่ได้เห็นการตอบกลับเช่นนี้

 

[ใช่]

 

เจี่ยนอีหลิงรู้ว่าวงการบันเทิงไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน เจี่ยนหยู่หมินสามารถอยู่รอดได้ในโลกนี้ แต่เธอทำไม่ได้

 

[น้องทำถูกต้อง การเป็นคนดังไม่ใช่เรื่องน่าอัศจรรย์ มีคนจำนวนมากเฝ้าดูเธอทุกวัน ทุกสิ่งที่เธอทำจะถูกขยายความไปจนกว่าจะลืม การตัดสินใจของน้องถูกต้องแน่นอน]

 

[อืม]

 

ลั่วซวินเหลือบไปเห็นเนื้อหาของแชทระหว่างเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิง เมื่อเห็นบันทึกการสนทนา เขาก็พูดว่า “ชิชิ ทำไมฉันถึงจำคนที่บอกว่าแฟนๆให้ความสนใจคุณก็ต่อเมื่อพวกเขาชอบคุณ นอกจากนี้ก่อนหน้านี้นายก็เคยบอกว่านายไม่กลัวการถูกมองอย่างพินิจพิเคราะห์ของพวกเขา เพราะนายไม่เคยทำอะไรผิด”

 

“ สถานการณ์นี้จะเป็นเหมือนแบบนั้นได้ยังไง”

 

“แล้วมันแตกต่างกันยังไง”

 

“ เด็กอย่างนายไม่เข้าใจหรอก”

“พี่ชายหยู่หมิน นายก็แก่กว่าฉันไม่มาก”

 

“ชิ่ว”

 

###

 

เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ใส่ใจกับบทสนทนาที่เธอเพิ่งคุยกับเจี่ยนหยู่หมินมากนัก เธอไม่ได้คิดอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายหนังหรือละคร อย่างไรก็ตามในเวลานี้ชาวเน็ตก็ได้เข้ามาวุ่นวายกับบางสิ่งบางอย่าง

 

เมื่อเร็วๆนี้เว็บดราม่าที่สร้างจากนวนิยายยอดฮิตกำลังจะถ่ายทำ แฟนๆของนวนิยายเรื่องนี้แสดงความคิดเห็นในบัญชี Weibo ทางการของละครเรื่องนี้ พวกเขาแนะนำผู้สมัครที่พวกเขาคิดว่าเหมาะกับนักแสดง

 

ทุกคนคิดว่าหนึ่งในบทบาทนี้ น่าจะเหมาะกับนักแสดงนำหญิงของ MV ใหม่ของจูปีเตอร์อย่างลงตัวที่สุด

 

นั่นคือโลลิที่เย็นชาแต่สวยงาม

 

บทที่ 304 ทุกคนต้องการเซ็นสัญญากับอีหลิง 2

 

และนั่นทำให้ทุกคนเริ่มแนะนำนางเอก MV ของจูปีเตอร์สำหรับบทบาทนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักชื่อเธอ แต่ในความคิดของพวกเขา เธอนั้นเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของตัวละครในนิยายต้นฉบับมากที่สุด

 

อินเทอร์เน็ตกำลังคึกคักไปด้วยข่าว และอย่างรวดเร็ว นักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายเชิ่งหัวก็ทำตามเช่นเดียวกัน

 

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบเจี่ยนอีหลิงก่อนหน้านี้มากแค่ไหน ตอนนี้เธอได้อยู่ใน MV นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าเธอจะถูกคัดเลือกในละครเว็บ สำหรับพวกเขารู้สึกเหมือนว่าเธอทำให้โรงเรียนของพวกเขาภาคภูมิใจ

 

เมื่อพวกเขาพูดคุยกับเพื่อนและญาติ พวกเขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ‘คนนี้มาจากชั้นเรียนของเรา’ มันเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ

 

ดังนั้นเมื่อนักเรียนเห็นว่าผู้คนบนอินเทอร์เน็ตพากันแนะนำให้เจี่ยนอีหลิงสวมบทบาทนี้ พวกเขาจึงรีบส่งข้อความสนับสนุนทันที

 

ในความเป็นจริงนักเรียนบางคนเริ่มโพสต์ในฟอรัมของโรงเรียน เพื่อเรียกร้องให้มีการสนับสนุนเจี่ยนอีหลิง พวกเขาต้องการให้เธอมีบทบาทในเว็บดราม่าเรื่องใหม่

 

เมื่อชูชาเห็นโพสต์และความคิดเห็นเหล่านี้ เธอรู้สึกขัดเคืองใจเหลือทน “คนพวกนี้เป็นอะไรไป ไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขาไม่ชอบเจี่ยนอีหลิง ความจริงแล้ว พวกเขาดูถูกและหลีกเลี่ยงเธอด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้พวกเขากลับไปเข้าข้างอย่างง่ายดาย ทำไมความคิดเห็นที่มีต่อใครบางคนถึงกับเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้”

 

หลังจากที่ชูชาพูดจบเธอก็มองไปที่โม่ชืออวิ้น เธอเห็นว่าโม่ชืออวิ้นมีสีหน้าน่าแย่อยู่เล็กน้อย

 

“ซืออวิ้น เธอคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“อย่าไปสนใจ เธอไม่สามารถควบคุมสิ่งที่คนอื่นคิดได้ เราทำได้แค่ควบคุมตัวเอง ถ้าไม่มีคนมายุ่งกับฉัน ฉันก็จะไม่ยุ่งกับพวกเขาเหมือนกัน”

 

อย่างไรก็ตาม ขณะที่โม่ชืออวิ้นพูดประโยคสุดท้าย ภาพของเจี่ยนอีหลิงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ ทำไมวันนั้นเจี่ยนอีหลิงถึงอยู่ที่ร้านอาหารได้

 

ถ้าไม่มีคนมายุ่งกับฉัน … มันจะเป็นไปได้จริงเหรอ

 

ในห้องเรียน เจี่ยนหยุ่นน่าวยังได้ยินการพูดคุยของคนอื่นๆ ความรู้สึกในใจเขาค่อนข้างแปลก

 

ที่ผ่านมาเขาคงหยุดพวกเขาแล้ว

 

เขาไม่ชอบให้คนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับน้องสาวเขา

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่สามารถพูดแบบนั้นได้

 

เขาไม่รู้อีกต่อไปว่าน้องสาวคิดอะไรอยู่ เขาไม่รู้ว่าเธอสนใจที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงหรือไม่

 

ในใจเขาเองนั้น เขาไม่ต้องการให้น้องสาวเข้าไปในวงการบันเทิง…มีกฎที่ไม่มีการพูดถึงมากมายที่ต้องปฏิบัติตามในวงการนั้น ผู้คนมักจะต้องพลีกายเพื่อให้ได้รับความก้าวหน้าที่ดี

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะคุยกับน้องสาวเขายังไงดี แล้วเขาจะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงกัน

 

เจี่ยนหยุ่นน่าวฟุบตัวลงบนโต๊ะ เขาใช้แขนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเป็นเบาะรองขณะพยายามซุกซ่อนอารมณ์ของตนเองไว้ในอ้อมแขน

 

เจี่ยนอีหลิงได้ยินเรื่องนี้ก็ตอนที่เธอได้ยินหูเจียวเจียวพูดถึง

 

อย่างไรก็ตามเธอไม่มีบัญชี Weibo ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถออกมาประกาศได้ว่าเธอจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการผลิตเว็บดราม่า

 

เธอไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับการคาดหวังของพวกเขาได้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะไม่สนใจมัน

 

เมื่อสิ้นวัน เจี่ยนอีหลิงก็ได้รับข้อความจากรายชื่อเพื่อนของเธอคนหนึ่ง

 

[Dr.FS ถ้าคุณต้องการเข้าวงการบันเทิง คุณควรบอกฉัน แม้ว่าจะเป็นเพียงตัวประกอบ แต่ภาพลักษณ์ของตัวละครก็ค่อนข้างเหมาะกับคุณ อย่างไรก็ตามฉันมีสคริปต์ที่ดีกว่าที่นี่ ผู้กำกับระดับสูงในประเทศของเราจะดูแลการผลิตละครให้ หากคุณสนใจ ฉันสามารถแนะนำคุณให้ได้]

 

[ไม่ ฉันไม่สนใจ] เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ เธอปฏิเสธข้อเสนออย่างเด็ดขาด

 

[แล้วทำไมถึงมีการพูดคุยกันมากมายบนอินเทอร์เน็ต]

 

[อินเทอร์เน็ตไม่ใช่ของฉัน]

 

[อ่า งั้นก็ได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ แต่ก็ยังเป็นการตัดสินใจของคุณ หากคุณต้องการเข้าสู่วงการบันเทิง ฉันก็พร้อมที่จะจัดหาละครที่สร้างขึ้นเองให้เหมาะสมกับคุณ]

 

[ฉันไม่ ขอบคุณ]

 

[อ่า คุณยังไร้หัวใจเหมือนเดิม แต่ฉันก็ยังชอบคุณมาก]

 

[คุณเป็นผู้หญิง] เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ

 

[เอิ่มม… คุณยังคงจริงจังเหมือนเดิม ฉันหมายถึงน่ารักสุดๆจริงๆ]

 

[เราไม่รู้จักกันดี]

 

อีกฝ่ายพูดราวกับว่าเธอรู้จักเจี่ยนอีหลิงเป็นอย่างดี

 

อย่างไรก็ตามความจริงก็คือ พวกเธอไม่ได้รู้จักกันมากเท่าไรนัก

 

มากที่สุด พวกเธอรู้จักกันมาเป็นเวลาแค่หนึ่งเดือน

 

อย่างไรก็ตามจากมุมมองของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าพวกเธอมีมิตรภาพ ‘ชั่วชีวิต’

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงเพราะเจี่ยนอีหลิงได้ช่วยชีวิตเธอไว้

 

[Dr.FS คุณมักจะทิ่มแทงจิตใจที่น่าสงสารของฉัน ฉันคิดว่าหัวใจฉันเจ็บปวด ฉันต้องการแพทย์ ฉันต้องการให้คุณวินิจฉัยฉัน]

 

เจี่ยนอีหลิงหยุดตอบข้อความของอีกฝ่าย

 

ถ้าเธอตอบกลับไป อีกฝ่ายก็จะคุยเรื่อยๆ

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset