大姐大 บทที่ 347 ทำไมเธอถึงหลอกฉัน
อันหยางรีบตรงไปที่คลาสของโม่ชืออวิ้น เพื่อนร่วมชั้นของโม่ชืออวิ้นต่างพากันประหลาดใจและสงสัยเมื่อเห็นอันหยางเข้ามา
ไม่ใช่ว่าอันหยางกำลังไปพบบอสที่เขาเพิ่งยอมรับเหรอ แล้วทำไมเขาถึงมาที่ห้องเรียนนี้
อันหยางเดินตรงไปที่โม่ชืออวิ้นและถามเธอว่า
“ทำไมเธอถึงหลอกฉัน”
ดวงตาของอันหยางแผดเผาไปด้วยความโกรธ
ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะไม่โกรธมากเท่านี้
แต่ทว่า คนนี้คือโม่ชืออวิ้นโม่ การโกหกของชืออวิ้นต่อเขานั้นมีความหมายมาก
“อะ… อะไรนะ” โม่ชืออวิ้นพูดตะกุกตะกัก เธอมองไปที่อันหยางที่โกรธจัด ทันใดนั้นเธอก็พูดไม่ออก
“เธอคิดว่าไงล่ะ เธอบอกว่าตระกูลเจี่ยนกล่าวหาเธออย่างผิดๆ แต่ว่าพวกเขามีหลักฐานว่ามือของแม่เธอไม่สะอาด นอกจากนี้แม่เธอก็ยังโกหกอีกด้วย แต่เธอก็ยังบอกฉันว่าพวกเขาทำผิดต่อเธอ ทั้งเธอก็ยังคร่ำครวญกับฉันทั้งน้ำตา… เธอกำลังเล่นกับฉันงั้นเหรอ”
อันหยางโกรธและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน
นี่คือผู้หญิงที่เขาต้องการปกป้องอย่างเงียบๆ
ถึงกระนั้น เขาก็ยังถูกเธอหลอกแบบนี้
“ฉันไม่ได้…” โม่ชืออวิ้นพูดขณะที่เธอกัดริมฝีปากล่าง การตั้งคำถามของอันหยางและการจ้องมองของนักเรียนรอบๆตัวเธอทำให้ร่างกายเธอรู้สึกเย็นยะเยือก
แม้กระทั่งในตอนนี้ โม่ชืออวิ้นก็ยังเชื่อว่าแม่เธอไม่ผิด
เธอคิดว่าผู้คนจงใจกระจายข่าวลือ ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วเพื่อทำร้ายเธอและแม่เธอเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของเจี่ยนอีหลิง ตระกูลเจี่ยนไม่ได้คำนึงถึงชีวิตของพวกเธอเลย
นอกจากนี้ เธอไม่มีใครอื่นให้หันหน้าไปหา อย่างไรก็ตาม อันหยางกลับยินดีที่จะช่วยเธอ
เธอทำให้อันหยางไปสร้างปัญหากับเจี่ยนอีหลิง อย่างไรก็ตามเป็นเพราะตระกูลเจี่ยนเป็นผู้ที่ทำให้เธอต้องทำเช่นนี้ พวกเขาบังคับเธอ
พวกเขาทำอย่างนี้กับเธอและแม่เธอ จะผิดอะไรถ้าเธอจะต่อสู้กลับ
“เธอไม่ได้งั้นเหรอ เธอกำลังบอกฉันว่าไม่ได้ทำ” เสียงของอันหยางช่างสิ้นหวังเหลือเกิน “โม่ชืออวิ้น ฉันได้ตาบอดมาหลายปีแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเด็กหญิงใจดีคนนั้นอยู่ที่ไหนแล้ว เด็กหญิงที่ยืนข้างถนนหลายชั่วโมงเพื่อช่วยเด็กน้อยตามหาพ่อแม่ เด็กหญิงคนนั้นจากไปแล้ว”
ความรักและความชื่นชมของอันหยางที่มีต่อโม่ชืออวิ้นได้เริ่มต้นขึ้นในเวลานั้น
นั่นเป็นความทรงจำที่ดีมากสำหรับอันหยาง
เด็กหญิงที่ใจดีแต่จริงจังเดินเข้ามาในหัวใจเขาตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“อันหยาง นายไม่มีหลักฐานยืนยันสิ่งที่นายพูด นายไม่สามารถพิสูจน์คำพูดของนายได้” โม่ชืออวิ้นกล่าว เธอยอมให้ตัวเองเป็นคนโง่ไม่ได้ มันจะทำให้เธอดูอ่อนแอ
“โม่ชืออวิ้น เธอกล้าบอกฉันไหมว่าเมื่อวานเธอไม่ได้คร่ำครวญกับฉันที่เธอและแม่เธอถูกตระกูลเจี่ยนทำร้าย เธอขอให้ฉันไปช่วยคืนความยุติธรรม”
“ฉันไม่ได้ขอให้นายไปช่วยฉันคืนความยุติธรรม ฉันบอกว่าแม่กับฉันถูกใส่ความ ไม่ว่ายังไง มันก็ขึ้นอยู่กับนายว่าจะเชื่อฉันหรือไม่ ไม่ว่ายังไง แม่กับฉันก็ถูกต้อง ไม่มีอะไรผิดกับการพูดความจริง ส่วนการสร้างปัญหาให้กับเจี่ยนอีหลิงนั้น นั่นมันเป็นเรื่องของนายเอง ฉันไม่เคยขอให้นายไปหาเจี่ยนอีหลิง แล้วก็ ทำไมนายถึงต้องมาโทษฉันในตอนนี้ หรือเป็นเพราะว่าตอนนี้เจี่ยนอีหลิงเป็นบอสของนายงั้นเหรอ เพียงเพราะว่านายต้องฟังเธอ ไม่ได้หมายความว่านายต้องปฏิบัติกับฉันแบบนี้นี่ หรือว่านี่เป็นสิ่งแรกที่เธอขอให้นายทำหลังจากที่รับนายเข้ามาเป็นลูกน้องของเธอเหรอ”
คำพูดของโม่ชืออวิ้นทำให้อันหยางหัวเราะลั่น
ขณะที่เขาหัวเราะ ดวงตาเขาก็แดง
อา… นี่คือเทพธิดาที่เขาต้องการปกป้องมาโดยตลอด นี่คือผู้หญิงที่เขาสาบานว่าจะปกป้อง
เมื่อเขารีบมาที่ห้องเรียนเธอ เขาคาดว่าจะได้ยินคำอธิบายจากเธอ
เวลานั้น เขาหวังว่าตนเองจะเข้าใจเธอผิด
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่สามารถเป็นไปได้อีกต่อไป ผู้หญิงที่อ่อนโยน ใจดี และสวยงามในความทรงจำเขา ไม่ใช่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอีกต่อไป
แม้ว่าใบหน้าเธอจะเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เขาไม่สามารถรับรู้ถึงความเห็นใจเธออีกต่อไป
อันหยางหันหน้าและเดินออกจากห้องเรียนของโม่ชืออวิ้น
“พี่หยาง… พี่หยาง…”
ลูกน้องของอันหยางไล่ตามเขา พวกเขากังวลอย่างถึงที่สุด
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพี่หยางในสภาพเช่นนี้
บทที่ 348 เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจี่ยนอีหลิง
หลังจากที่อันหยางจากไป ภาพของโม่ชืออวิ้นในความคิดของเพื่อนร่วมชั้นของเธอก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์
เพื่อนร่วมชั้นเธอไม่พูดอะไรต่อหน้าโม่ชืออวิ้น อย่างไรก็ตามฟอรั่มของโรงเรียนเต็มไปด้วยความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับเธอ
[ว้าว โม่ชืออวิ้นทำอย่างนั้นจริงๆ เธอใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของอันหยางจริงๆ]
[ใช่ ฉันได้ยินการสนทนาระหว่างพวกเขาสองคน ดูเหมือนว่าอันหยางจะถูกเธอหลอกโดยสิ้นเชิง]
[พี่หยางผู้น่าสงสาร]
[นี่คือเหตุผลที่นายไม่ควรเป็นคนง่ายๆ นายจะจบลงด้วยการไม่เหลืออะไรเลย]
[ฉันไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้เลยแม้แต่น้อย ฉันคิดมาตลอดว่าโม่ชืออวิ้นเป็นผู้หญิงที่ดี สุภาพ และนิสัยดี… อาาาา…]
ทุกคนรู้สึกขยะแขยงกับความคิดที่จะเก็บใครบางคนไว้เป็นแผน B ยิ่งไปกว่านั้น การยุยงและขอให้คนทำสิ่งต่างๆให้กับพวกเขานั้นกลับน่ารังเกียจยิ่งกว่า
อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com
ดังนั้น ทุกคนจึงวิพากษ์วิจารณ์โม่ชืออวิ้นอย่างท่วมท้น
นักเรียนในชั้นเรียนของโม่ชืออวิ้นเริ่มอยู่ห่างจากเธอ บางคนทำสิ่งนี้โดยเจตนาในขณะที่บางคนทำสิ่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ
ฉากนี้คล้ายกับบทที่เจี่ยนอีหลิงถูกกล่าวหาว่าผลักเจี่ยนหยุ่นน่าวลงบันไดมาก
เมื่อเผชิญกับสิ่งนี้ โม่ชืออวิ้นก็ได้แต่กัดฟัน หัวใจเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความขมขื่น
เมื่อโม่ชืออวิ้นกลับบ้านในตอนเย็น เธอตรงไปหาแม่เพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“แม่ ต้องบอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป”
ภายใต้การโน้มน้าวของโม่ชืออวิ้น ในที่สุดโม่ฮุ่ยฉิงก็เปิดเผยความจริงกับโม่ชืออวิ้น
โม่ชืออวิ้นถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่พูด มันทำให้เธอตกใจมาก
โม่ชืออวิ้นรู้สึกว่า ส่วนหนึ่งของโลกเธอพังทลายลง
จากนั้น เธอก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอนึกถึงสิ่งของที่เจี่ยนอีหลิงเอาไปจากเธอ และจากตระกูลเจี่ยนในส่วนที่เหลือ
เธอนึกถึงการแข่งขันเคมี นึกถึงตอนเย็นที่พวกเธอถูกไล่ออกจากตระกูลเจี่ยน นึกถึงตอนที่ฉินชวนไปเที่ยวกับเจี่ยนอีหลิง นึกถึงบทบาทที่เธอถูกแทนที่ และนึกถึงการกล่าวหาที่เธอได้รับที่โรงเรียนในตอนนี้…
โม่ฮุ่ยฉิงตื่นตระหนกเมื่อเห็นสีหน้าลูกสาว “ซืออวิ้น อย่าทำให้แม่ตกใจ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของแม่ แม่ผิดเองที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้”
โม่ฮุ่ยฉิงเอาแต่ขอโทษลูกสาว “แม่ขอโทษ แม่รู้ว่าแม่ผิด แต่แม่ต้องการจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง… อย่างไรก็ตาม… สิ่งเดียวที่แม่ทำได้ก็คือลากลูกเข้ามายุ่ง แม่ขอร้องให้พวกเขายกโทษให้… แต่มันก็ไม่มีประโยชน์… พวกเขาไม่ฟังแม่… และตอนนี้ แม่ก็ลากลูกลงมาอีก แม่ขอโทษจริงๆ”
โม่ฮุ่ยฉิงสะอื้นไห้อย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
โม่ชืออวิ้นค่อยๆฟื้นคืนสติ “แม่ อย่าร้องไห้ หนูรู้ว่าแม่ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อหนู หนูจะโทษใครได้ สิ่งเดียวที่แม่ทำก็คือโกหกเล็กน้อย ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นโดยตัวเจี่ยนหยุ่นน่าวเอง และตอนนี้ ตระกูลเจี่ยนก็กำลังโยนความผิดพลาดของพวกเขามาให้เรา”
โม่ชืออวิ้นหาเหตุผลที่เหมาะสมสำหรับตัวเองและแม่อย่างรวดเร็ว เธอปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเธอและแม่เธอเป็นฝ่ายผิด ดังนั้น คนที่ผิดก็คือคนที่ยืนหยัดต่อสู้กับพวกเธอ นั่นคือตระกูลเจี่ยน
โม่ชืออวิ้นพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม่ แม่เคยปกป้องหนูจากลมและฝน อย่างไรก็ตาม ถึงตาหนูที่จะปกป้องแม่แล้ว ไม่ต้องกังวล หนูจะไม่ปล่อยให้แม่ต้องเจ็บปวดทรมานแบบนี้อีก…”
###
สุดสัปดาห์นี้เป็นวันรวมญาติประจำเดือนของตระกูลเจี่ยน
นอกจากครอบครัวของน้องชายคนเล็กเจี่ยนชูฉิงที่ไม่ได้อยู่ในเมืองเหิงหยวนแล้ว ครอบครัวที่เหลือทั้งหมดต่างก็มุ่งหน้าไปที่บ้านเก่าตระกูลเจี่ยน เพื่อใช้เวลากับย่าและปู่เจี่ยน วันนั้นพวกเขาทั้งหมดตั้งใจจะนั่งทานอาหารและพูดคุยกัน
เมื่อพวกเขามาถึงที่บ้านเก่าตระกูลเจี่ยน เจี่ยนหยุ่นน่าวก็เห็นเสื้อสเวตเตอร์ที่เจี่ยนหยุ่นโม่สวมอยู่ทันที
มันเป็นสไตล์เดียวกับเสื้อสเวตเตอร์สีดำที่พี่ชายใหญ่ใส่
เห็นได้ชัดว่ามันถูกถักขึ้นจากเจี่ยนอีหลิงเช่นเดียวกัน
เจี่ยนหยุ่นน่าวรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าถามหยุ่นโม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ คราวที่แล้วเขาโดนพี่ชายต่อย ความทรงจำนั้นยังคงสดอยู่ในใจ นอกจากนี้หยุ่นโม่ได้บอกว่า ตัวของเขานั้นมีปัญหาเรื่องอารมณ์มาก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุนี้ ทางที่ดีควรอยู่ห่างจากเขา
ไม่นานนัก หลังจากการมาถึงของครอบครัวเจี่ยนชูฉิง เหอเยี่ยนก็มากับเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยู่เจี๋ยด้วย
ในบรรดาพี่น้องนั้น ส่วนใหญ่สวมเสื้อสเวตเตอร์ที่ถักด้วยมือของเจี่ยนอีหลิง ราวกับว่าพวกเขาสองสามคนนั้นได้ตกลงเรื่องนี้ล่วงหน้าแล้ว
เสื้อสเวตเตอร์สี่ตัวที่เหมือนกัน สิ่งเดียวที่แตกต่างคือสี
เจี่ยนหยุ่นเฉิงสีดำ
เจี่ยนหยุ่นโม่สีขาว
เจี่ยนหยู่หมินสีแดงเข้ม
เจี่ยนหยู่เจี๋ยสีเทาอ่อน
เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่มี