เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 357-358

大姐大 บทที่ 357 ไม่อนุญาตให้ร้องไห้

 

มีสองสิ่งที่ทำให้หลัวซิ่วเอินมีความสุข

 

ประการแรก ไอดอลของเธอเป็นฝ่ายริเริ่มโทรศัพท์มาหาเธอ ชีวิตเธอช่างสมบูรณ์แบบแล้ว

 

ประการที่สอง มีใครบางคนต้องการให้เจี่ยนอีหลิงชี้แจงว่า เธอไม่ได้ลอกเลียนตัวเอง

 

ดังนั้นหลัวซิ่วเอินจึงโทรศัพท์มาหาเจี่ยนอีหลิงเพื่อแบ่งปันความสุข

 

“แล้ว” เจี่ยนอีหลิงถามหลัวซิ่วเอิน

 

เมื่อได้ยินเสียงถามอันนุ่มนวลของเจี่ยนอีหลิง เสียงหัวเราะของหลัวซิ่วเอินก็หยุดอย่างกระทันหัน “อืมมม….พี่สาวไม่ได้พูดอะไร… พี่สาวคิดจะทำให้เขามั่นใจว่า Dr.FS ของเราจะช่วยเขาชี้แจงสถานการณ์ให้สาธารณชนเข้าใจ แต่ว่า พี่สาวได้ยินเสียงเขาแล้วก็รู้สึกประหม่า… พี่สาวเลยวางสายโดยไม่พูดอะไรเลย…”

 

อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com

 

เธอทำได้แค่… แค่วางสาย

 

เจี่ยนอีหลิงวางสายหลัวซิ่วเอินหลังจากที่บอกอีกฝ่าย “ฉันจะโทรหาเขา” จากนั้นเธอก็โทรหาเจี่ยนหยู่หมินทันที

 

เจี่ยนอีหลิงกลัวเจี่ยนหยู่หมินเข้าใจผิดกับการกระทำของหลัวซิ่วเอิน เธอไม่อยากให้เขากังวล

 

ทันทีที่รับสาย เธอไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลย ก่อนที่เจี่ยนหยู่หมินจะเริ่มพูด เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าและวิตกกังวลมาก

 

“เด็กขี้แย อย่ากังวลไปเลยนะ กรุณาอย่าร้องไห้ อย่าปล่อยให้น้ำตาไหล แม้ว่าฉันจะล้มเหลวในการขอให้หลัวซิ่วเอินช่วยเรา แต่สถานการณ์ก็ยังดีอยู่ เธอเพิ่งวางสายฉันไป … แต่ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะลากลั่วซวินกับอีกสองคนไปโน้มน้าวเธอพร้อมกับฉัน มันต้องได้ผลแน่ๆ” เจี่ยนหยู่หมินไม่ต้องการที่จะได้ยินเจี่ยนอีหลิงร้องไห้ เขากลัวเธอร้องไห้

 

ตราบใดที่เธอไม่ร้องไห้ ทุกอย่างก็จะดีเอง

 

อย่างไรก็ตาม หากน้ำตาหยดหนึ่งหยดลง เขาคงทำอะไรไม่ถูกเลย

 

“ไม่จำเป็น”

 

“อะไรนะ ทำไมถึงไม่จำเป็น เด็กขี้แย อย่ากังวลไปเลยนะ อีกสักครู่พวกเราจะไปที่สถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิง” เจี่ยนหยู่หมินกล่าว เขาพร้อมที่จะเดินทางแล้ว

 

“มันเรียบร้อยแล้ว” เจี่ยนอีหลิงพูดอย่างเร่งรีบ

 

“เด็กขี้แย อย่ามาโกหกฉันนะ ถ้าเธอโกหกฉัน…เธอจะ…เธอจะ…เธอจะกลายเป็นคนขี้เหร่”

 

“ฉันไม่ได้โกหก”

 

“แต่สถานการณ์บนอินเทอร์เน็ตยังไม่คลี่คลาย”

 

“เดี๋ยวมันก็คลี่คลาย”

 

“โอ… นั่นหมายความว่าเธอไม่ร้องไห้จริงๆเหรอ”

 

“ไม่” คราวนี้คำตอบของเจี่ยนอีหลิงยิ่งหนักแน่นกว่าคำตอบก่อนหน้านี้

 

“โอ… นั่นช่างดีจริงๆ”

 

เจี่ยนหยู่หมินโล่งใจอย่างยิ่งที่ได้ยินเรื่องนี้

 

###

 

ทางฝั่งของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิง ทุกคนต่างก็พากันค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเช่นกัน

 

เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้เกิดการแปดเปื้อนในแวดวงวิชาการมากนัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหตุการณ์จะไม่ร้ายแรงนัก แต่ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนักเรียนมัธยมปลาย

 

เจี่ยนอีหลิงเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่พยายามเข้ามหาวิทยาลัย

 

หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม อนาคตของนักเรียนอาจถูกทำลายได้

 

แล้วจากนั้น ที่รักของสถาบันของพวกเขาก็จะถูกรังแก

 

มันเกิดขึ้นได้อย่างไร คนที่เตรียมการเรื่องนี้คิดว่าสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิงไม่มีอยู่จริงอย่างงั้นเหรอ

 

ด้วยเหตุนี้ สถาบันจึงตัดสินใจติดต่อนักข่าวทันที และแจ้งพวกเขาว่าทางสถาบันจะตอบคำถามในคดีลอกเลียนแบบ Dr.FS

 

“ทำไมเราไม่จัดงานแถลงข่าวเลยล่ะ” หลัวซิ่วเอินเริ่มหมดความอดทน

 

เฉิงอี้มองดูเธอแล้วอธิบายว่า “พี่สาวเอิน โปรดอย่ารีบร้อน สิ่งนี้จะต้องทำทีละขั้นตอน นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในแวดวงของเรา อย่างไรก็ตาม หากเราจัดงานแถลงข่าวอย่างกระทันหัน ผู้คนจะคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแปลก”

 

“ถ้าอย่างนั้น เราก็มีงานแถลงข่าวเรื่องอื่นไม่ได้เหรอ ไม่ใช่ว่าหลายวันนี้เรามีสิ่งที่จะเผยแพร่จากสถาบันหรอกเหรอ ก็เพียงแค่เผยแพร่อะไรไปบางอย่างแล้วเราก็พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในงานแถลงข่าวได้เช่นกัน นั่นจะไม่โอเคเหรอ”

 

เฉิงอี้และศาสตราจารย์คนอื่นๆต่างพากันมองไปที่หลัวซิ่วเอินด้วยความประหลาดใจ เธอพูดถูก

 

“ว้าว พี่สาวเอิน พี่สุดยอด” เฉิงอี้ยินดีที่จะยอมรับความพ่ายแพ้

 

“แล้วทำไมยังยืนอยู่ตรงนี้ทำไมกัน ไม่รีบไปจัดการล่ะ นายต้องการให้ฉันสอนว่านายต้องทำอะไรประมาณนั้นหรือเปล่า”

 

“ใช่ ใช่ ผมจะไปทันที”

 

บทที่ 358 งานแถลงข่าว 1

 

ทันทีที่สถาบันบอกว่าจะจัดงานแถลงข่าว เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทความใหม่ที่จะออกมา และตอบเหตุการณ์ลอกเลียนแบบ เหอเยี่ยนก็เริ่มหัวเราะ

 

เจี่ยนอีหลิงกำลังจะถูกพิพากษาในที่สาธารณะ และไม่มีใครสามารถทำอะไรเพื่อหยุดยั้งมันไม่ให้เกิดขึ้นได้

 

เหอเยี่ยนรู้ว่าตอนนี้เจี่ยนชูฉิงและเวินน่วนคงจะเป็นห่วงลูกสาวมาก อนาคตของลูกสาวตัวน้อยของพวกเขากำลังจะพังทลาย พวกเขาจะมาขอใหัย่ากับปู่เจี่ยนช่วยไหม

 

เมื่อเหอเยี่ยนจินตนาการถึงท่าทางที่กังวลและน้ำตาไหลของเวินน่วน หัวใจเธอก็รู้สึกพึงพอใจอย่างไม่น่าเชื่อ

 

เมื่อถึงเวลา เธอก็จะไป ‘ปลอบ’ พี่สะใภ้อย่างแน่นอน

 

เธอจะไม่เพียงแค่ปลอบโยนเวินน่วน แต่เธอยังจะปลอบโยนเจี่ยนอีหลิงด้วย

 

เมื่อเธอจินตนาการถึงหน้าตาที่สิ้นหวังของเจ้าเด็กเปรตนั่น เหอเยี่ยนรู้สึกว่าความทุกข์ทรมานที่เธอได้รับในช่วงเวลานี้ลดลงไปมาก

 

ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนรู้ดีว่าอะไรสามารถทำลายนักเรียนคนอื่นได้

 

อนาคต

 

อนาคตทั้งหมดของเจี่ยนอีหลิง

 

ไม่ว่าเจี่ยนอีหลิงจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ชื่อเธอก็จะยังมีรอยเปื้อนอยู่เสมอ สิ่งที่เธอทำในอนาคตจะไร้ประโยชน์

 

งานหนักทั้งหมดที่เธอได้ทำลงไปนั้นก็จะไม่เป็นผล

 

หลังจากเรียนหนักมาหลายปี มันคงเป็นหายนะหากมีบางอย่างเกิดขึ้นก่อนการสอบเข้าวิทยาลัย เหอเยี่ยนสามารถนึกภาพสีหน้าของเจี่ยนอีหลิงได้

 

ไม่ต้องพูดถึง สิ่งดังกล่าวก็จะดับความหวังใดๆที่เจี่ยนอีหลิงมีในการเข้าสู่วงการบันเทิงในอนาคตอีกด้วย

 

###

 

เรื่องของเจี่ยนอีหลิงก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่โรงเรียนมัธยมปลายเชิ่งหัวด้วยเช่นกัน

 

ฟอรั่มของโรงเรียนได้เปิดกระทู้ที่อุทิศให้กับเรื่องนี้ อันที่จริง มีนักเรียนให้ความสนใจเรื่องนี้มากกว่าเมื่อตอนที่โม่ชืออวิ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์

 

เมื่อชื่อจริงของพวกเขาปรากฏแล้ว ความเป็นปฏิปักษ์ของนักเรียนก็เบาบางลง พวกเขาเริ่มระมัดระวังและใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาพูดมากขึ้น

 

[ไม่ไม่ ฉันจะไม่เลือกข้างอีกแล้ว หน้าฉันยังเจ็บตั้งแต่ครั้งที่แล้ว]

 

{แต่คราวนี้ บทความข่าวดูเหมือนว่าจะถูกตีพิมพ์โดยองค์กรที่เชื่อถือได้ ดังนั้นฉันรู้สึกว่ามันมีโอกาสค่อนข้างมากที่มันจะเป็นจริง…]

 

[ฉันได้ยินมาว่าศัลยแพทย์ลึกลับกำลังจะตอบเรื่องนี้ตอนเที่ยงวันนี้ เรามาดูกันว่าเขาจะพูดอะไร]

 

[เขาจะพูดอะไรได้อีก แน่นอนว่าเขาต้องบอกว่าเจี่ยนอีหลิงลอกเลียนบทความของเขา เขาตีพิมพ์บทความตั้งแต่แรก เขาย่อมพูดไม่ได้ว่าเจี่ยนอีหลิงมีเอี่ยวอยู่ในนั้นใช่ไหม]

 

[ช่าย ฉันก็สงสัยว่าเธอลอกเลียนแบบหรือเปล่า ฉันอยากรู้ว่าสถาบันจะตอบอย่างไรกับเรื่องนี้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาสามารถยืนยันได้ว่าเจี่ยนอีหลิงส่งบทความนั้น เธอก็จะไม่สามารถหนีพ้นการลอกเลียนแบบได้]

 

[…]

 

อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆบนอินเทอร์เน็ตไม่สุภาพแบบนี้

 

นักเรียนบางคนจากโรงเรียนอื่น และคนอื่นๆบนอินเทอร์เน็ตยังคงวิพากษ์วิจารณ์เจี่ยนอีหลิงอย่างหนัก คนเหล่านั้นยังคงซ่อนอยู่หลังชื่อเล่นและชื่อออนไลน์

 

[ว้าว เธอช่างน่าขยะแขยง เธอได้ดูตัวเองในกระจกก่อนจะกล้าลอกบทความของมืออาชีพหรือเปล่าเนี่ย สมองเธอไม่ดีหรือยังไง]

 

[ฉันขอให้โรงเรียนตัดสิทธิ์นักเรียนดังกล่าวจากการสอบเข้าวิทยาลัย นอกจากนี้ ฉันขอให้มหาวิทยาลัยทั้งหมดขึ้นบัญชีดำชื่อเธอ จะมีประโยชน์อะไรในการเล่าเรียน หากเธอไร้ความสามารถทางวิชาการ]

 

[สนับสนุนให้ขับไล่นักเรียนคนนี้ออกไปอย่างจริงจัง พฤติกรรมเช่นนี้น่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าเกรดแย่ นี่ให้อภัยไม่ได้]

 

ผู้คนจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตเริ่มใช้คำพูดที่ร้ายกาจแช่งด่าเจี่ยนอีหลิง พวกเขาไม่สนใจว่าเป็นนักเรียนที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนหรือไม่

 

ขณะนี้ มีการจัดงานแถลงข่าวขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองเหิงหยวน

 

อิทธิพลของสถาบันนั้นดีมากเสมอมา และด้วยเหตุนี้ ทันทีที่มีข่าวว่าจะจัดงานแถลงข่าว นักข่าวหลายคนก็มาถึงโรงแรม

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset