大姐大 บทที่ 375 ช่วยให้เจี่ยนหยู่หมินชนะ 1
เรือจอดเทียบเกาะร้าง
เมื่อทุกคนลงจากเรือ พวกเขาได้รับการต้อนรับจากเกาะที่รกร้างและไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
ทีมงานได้ตรวจสอบเกาะล่วงหน้าแล้ว พวกเขาติดตั้งกล้องจำนวนมากเพื่อจับภาพการเคลื่อนไหวของแขกรับเชิญ
นอกจากนี้ยังมีปริศนาบนเกาะให้เหล่าดาราได้สำรวจและค้นพบอีกด้วย
เมื่อทุกคนขึ้นเกาะแล้ว ปัญหาแรกที่พวกเขาต้องแก้ไขก็คือปัญหาปากท้อง
ก่อนหน้านี้ บางคนเลือกอาหารเมื่อตอนเลือกอุปกรณ์ ดังนั้น คนเหล่านั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารมื้อแรก ผู้คนเหล่านี้เริ่มหาที่พักพิงสำหรับคืนนี้แทน
เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงไม่มีอาหารในกระเป๋าเป้ ดังนั้น สิ่งแรกที่พวกเขาต้องรับมือก็คือมื้ออาหาร
เจี่ยนหยู่หมินกังวลเรื่องนี้มาก เขาใช้สมองคิดอย่างหนักว่าจะไปหาอาหารให้น้องสาวเขาได้ที่ไหน
ต้องมีของที่กินได้ซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่งบนเกาะอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เขากลัวว่าจะไม่สามารถหาอาหารได้ทันเวลา เขาไม่ต้องการเสียเวลาเดินไปรอบๆเกาะเพื่อหาอาหาร จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีหลิงอดอาหารตายตอนที่เขากลับมา
ขณะที่เจี่ยนหยู่หมินกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจี่ยนอีหลิงก็เดินไปที่ชายหาด ขณะนี้เป็นช่วงน้ำลง เธอเริ่มมองหาหอยมีดโกน หอยแมลงภู่ และหอยอื่นๆ
ตอนแรกเจี่ยนหยู่หมินสันนิษฐานว่าเจี่ยนอีหลิงสุ่มขุดขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่าเธอกำลังขุดหอยขึ้นมาตัวแล้วตัวเล่า เขาก็เริ่มตระหนักว่าน้องสาวเขามีพรสวรรค์ในการขุดพวกมัน
อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com
ดังนั้นเจี่ยนหยู่หมินจึงรีบเดินไปช่วยน้องสาวเขาเขาขุดทุกที่ที่เจี่ยนอีหลิงชี้ไป
พี่น้องสองคนเดินไปรอบๆชายหาดและเก็บหอยแมลงภู่ครึ่งกระสอบ
จากนั้นทั้งสองก็ออกจากชายหาด พวกเขาร่วมกันขุดสองรูที่มีโพรงเชื่อมกัน พวกเขาเริ่มวางฟืนลงในหลุมหนึ่งแล้วจุดไฟ
พวกเขาทำหลุมไฟดาโกต้า ด้วยวิธีนี้ ฟืนสามารถเผาไหม้ได้เต็มที่มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดปริมาณควันไฟที่เกิดขึ้น
จากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็หยิบหม้อทำอาหารเหล็กขนาดเล็กออกจากกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอ เธอปรุงหอยแมลงภู่ในน้ำจืด เนื่องจากหอยเป็นอาหารทะเล การปรุงในน้ำสามารถคงรสชาติดั้งเดิมไว้ได้ หอยแมลงภู่กินได้ไม่ยากถึงแม้ว่าจะไม่มีเครื่องปรุงอื่นๆ
[อะไรนั่น ทำไมฉันรู้สึกไม่มั่นใจ ดูเหมือนกับว่าน้องสาวของหมินหยู่ค่อนข้างมีความสามารถและฉลาด]
[ใช่ ฉันมองดูหลุมไฟที่เธอใช้อยู่ ดูเหมือนจะเป็นเทคนิคการเอาตัวรอดที่คนในกองทัพใช้ ปกติทั่วไปจะขุดเพียงหลุมเดียว]
[แฟนๆเซี่ยหมินหยู่อย่าดีใจมากไปนะ มันเป็นแค่หอยแมลงภู่ไม่กี่ตัว ไม่จำเป็นต้องสรรเสริญเขามากนัก ไปดูที่โม่ชืออวิ้นสิ โม่ชืออวิ้นและแม่เธอได้ตั้งเต๊นท์สำหรับคืนนี้แล้ว โม่ชืออวิ้นคือนิยามของความสามารถและไหวพริบ]
ครั้งนี้ทางทีมงานไม่ได้เตรียมเต๊นท์ไว้สำหรับกลางคืน แขกรับเชิญจึงต้องสร้างเต็นท์ของตนเองด้วยวัสดุที่จำกัด สิ่งนี้ทดสอบความสามารถในการลงมือปฏิบัติของพวกเขา
ขณะที่ดาราคนอื่นๆเริ่มสำรวจเกาะร้าง โม่ชืออวิ้นและแม่ของเธอก็สร้างเต็นท์เสร็จแล้ว เต็นท์ของพวกเธอดูแข็งแรงและสวยงาม ดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่ต้องกังวลถึงแม้ว่าจะมีลมแรงหรือฝนตกในตอนกลางคืน
[โอ้ ซืออวิ้นของผมน่าทึ่งมาก แม่เธอก็ใจดีและอ่อนโยนมากเช่นเดียวกัน คู่นี้มีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาก พวกเธอช่างมีความสามารถมากจริงๆ]
[ฉันเห็นด้วย ฉันก็ต้องการแม่ที่อ่อนโยนเหมือนกัน ซืออวิ้นน่าทึ่งมาก สู้ๆ]
[ครั้งนี้ซืออวิ้นก็ต้องได้ที่หนึ่งเช่นเดียวกัน]
ในทางกลับกัน เจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยู่หมินก็นั่งทานอาหารกันก่อนที่พวกเขาจะเริ่มสำรวจเข้าไปในส่วนลึกของเกาะร้าง
ถ้าพวกเขาต้องการชนะ พวกเขาต้องหาปริศนาและหีบสมบัติที่ซ่อนอยู่บนเกาะ พวกเขาต้องจัดการเรื่องนี้ก่อนกลุ่มอื่น
อย่างไรก็ตาม การสำรวจเกาะในตอนนี้อาจหมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถกางเต็นท์ได้ทันเวลามืด
เจี่ยนหยู่หมินกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ “อีหลิง ทำไมเราไม่ตั้งเต็นท์ก่อนล่ะ พี่คงไม่เป็นไรถึงจะมีลมเล็กน้อยในตอนกลางคืน อย่างไรก็ตาม พี่เป็นห่วงเรื่องน้อง”
บทที่ 376 ช่วยให้เจี่ยนหยู่หมินชนะ 2
“หาหีบสมบัติกันก่อน ฉันได้ศึกษาเมื่อภาคแรกได้ออกอากาศ มีของจำเป็นเก็บไว้กับหีบสมบัติเหล่านั้น”
เจี่ยนอีหลิงตอบกลับเจี่ยนหยู่หมิน
“ฉันรู้… แต่หีบสมบัติพวกนั้น… พวกมันมีรหัสผ่าน…”
กล่องสมบัติกระจัดกระจายไปทั่วเกาะ การค้นหาพวกมันไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตามการถอดรหัสปริศนาของพวกมันนั่นสิที่ยาก
กล่องสมบัติแต่ละกล่องมีปริศนาหรือคำถาม รหัสผ่านจะได้รับจากการแก้ปัญหา
ยิ่งไปกว่านี้ มีคำถามมากมายหลายประเภท คำถามและปริศนามากกว่าแปดร้อยข้อต่างล้วนยากมาก ตามจริง บางคนได้กล่าวว่าพวกมันเป็นคำถามที่แก้ไม่ได้
หากไม่มีรหัสผ่านที่ถูกต้อง ก็ไม่สามารถเปิดหีบสมบัติได้
และถ้าหากไม่สามารถเปิดหีบสมบัติได้ พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่มองดูมันเท่านั้น
กล่องสมบัติอีกกว่า 200 กล่องต้องการให้คนแสดงความสามารถหรือทำงานต่อหน้ากล้อง งานเหล่านี้ถือว่าค่อนข้างง่าย
“ไม่เป็นไร มาหาหีบสมบัติกัน” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ เธอให้ความมั่นใจต่อเจี่ยนหยู่หมิน แม้ว่าเธอจะไม่พูดมาก แต่น้ำเสียงเธอยังคงหนักแน่น
“ก็ได้” เจี่ยนหยู่หมินตอบกลับ แม้จะเห็นด้วย แต่เขากลับไม่มีความมั่นใจเหมือนเจี่ยนอีหลิง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอีหลิงต้องการหาหีบสมบัติ เขาย่อมต้องไปกับเธอด้วยเช่นเดียวกัน
ประมาณสิบนาทีต่อมา เจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยู่หมินก็พบหีบสมบัติชิ้นแรกของพวกเขา
คำถามบนกล่องสมบัตินี้คือปัญหาทางคณิตศาสตร์
“บัดซบ ทำไมมันต้องเป็นคำถาม IQ สูงเช่นนี้อีกแล้ว ฉันสาบานได้ว่าทีมผู้ผลิตตั้งใจทรมานฉัน” เจี่ยนหยู่หมินร้องออกมา เขาอยากจะร้องไห้ทันทีที่เห็นคำถาม
ความคิดเห็นเริ่ม ‘ไร้ความปราณี’ ล้อเลียนเจี่ยนหยู่หมิน
[ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ในภาคก่อนหน้านี้ หมินหยู่ถูกทรมานด้วยคำถามคณิตศาสตร์ ตอนนั้นเขาโดนเข้าไปหนักมาก]
[เด็กน้อยที่น่าสงสาร ความรู้สึกที่ไม่สามารถเปิดกล่องสมบัติได้ทั้งๆที่มันอยู่ตรงหน้านายช่างสุดทน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า]
เจี่ยนอีหลิงมองคำถามคณิตศาสตร์ตรงหน้าเธอ เธอหยิบปากกาและกระดาษออกมาและเริ่มคำนวณ
คำถามคณิตศาสตร์ไม่ได้ยากขนาดนั้น มันไม่ใช่คณิตศาสตร์ขั้นสูงหรือระดับสูง อย่างไรก็ตาม วิธีการใช้ถ้อยคำของคำถามนั้นทำให้สับสนและซับซ้อนเกินทน
เจี่ยนอีหลิงใช้เวลาเพียง 1 นาทีในการแก้ปัญหา
จากนั้น เธอก็ดูตัวเลขหกหลักสุดท้ายของคำตอบ ตัวเลขเหล่านี้ถูกใช้เพื่อปลดล็อกหีบสมบัติ
ผู้ชมที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดต่างตกตะลึง
[เทพ น้องสาวของหมินหยู่ช่างน่ามหัศจรรย์ เธอไขคำถามได้ภายในหนึ่งนาที ไอคิวเธอดีกว่าของหมินหยู่มาก เธอเป็นน้องสาวของเขาจริงๆเหรอ]
[ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า คนที่ถามว่าเธอเป็นน้องสาวเขาหรือเปล่านั่น ฉันสงสัยว่านายกำลังเยาะเย้ยหมินหยู่]
[ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมหมินหยู่ถึงพาน้องสาวมารายการเรียลลิตี้ เธอช่างฉลาดมาก]
ด้วยเหตุนั้น คนที่ตั้งคำถามกับเจี่ยนหยู่หมินในตอนแรกว่าพาเด็กหญิงอ่อนแออย่างเจี่ยนอีหลิงมาที่รายการเรียลลิตี้ก็เหมือนถูกตบหน้า
เมื่อเปิดหีบออกมา เจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยู่หมินก็ได้รับอาหารถุงใหญ่และการ์ดคำใบ้
อย่างไรก็ตาม เจี่ยนอีหลิงไม่ได้วางแผนที่จะหยุดเพียงแค่นั้น เธอต้องการที่จะมองหาหีบสมบัติชิ้นต่อไป
ไม่นานหลังจากนั้น ก็พบหีบสมบัติกล่องที่สอง คราวนี้มันเป็นปริศนานักสืบ คำถามนั้นยาวอย่างไม่น่าเชื่อ มันอธิบายรูปแบบการฆ่าของฆาตกร และนิสัยบ้าๆของฆาตกร นอกจากนี้ยังมีหนังสือพิมพ์และวันที่ในปฏิทินที่เกี่ยวข้องซึ่งอยู่ข้างคำถาม
เจี่ยนหยู่หมินกำลังจะกลายเป็นบ้า
“ฉันต้องการคุยกับผู้กำกับเกี่ยวกับชีวิตของฉัน…”
คำถามนี้มันบ้าอะไรกัน คำถามนี้มีไว้สำหรับมนุษย์หรือเปล่า
ขณะที่เจี่ยนหยู่หมินคร่ำครวญด้วยความเศร้า เจี่ยนอีหลิงก็ได้ปลดล็อกกล่องสมบัติแล้ว
คราวนี้เธอไขปริศนาได้เร็วกว่าครั้งก่อน นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ปากกาและกระดาษอีกด้วย เธอเพียงแค่ตรงเข้าไปเปิดกล่อง
เจี่ยนหยู่หมินและผู้ชมการออกอากาศต่างตกตะลึง
“อีหลิงเธอรู้คำตอบได้ยังไง” เจี่ยนหยู่หมินถาม นี่คือคำถามที่อยู่ในใจของทุกคน
ด้วยเหตุนั้น เจี่ยนอีหลิงจึงเริ่มอธิบายกระบวนการคิดของเธอ “ฉันวิเคราะห์จิตวิทยาของฆาตกร เขาก่ออาชญากรรมเป็นประจำ นอกจากนี้ทุกปี เขาจะฆ่าในเวลาที่กำหนด… … ข้อมูลที่ให้ไว้ในหนังสือพิมพ์และบันทึกสามารถใช้เพื่อระบุรูปแบบการฆ่าของฆาตกรได้ เรายังสามารถคาดเดาตัวตนของฆาตกรได้จากข้อมูลที่เราได้รับ… …และรหัสผ่านคือวันเกิดของฆาตกร”