เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 379-380

大姐大 บทที่ 379 การต่อสู้ระหว่างปัญญา 1

 

ยามค่ำ

 

ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวบนเกาะร้างนั้นสวยงามเป็นพิเศษ

 

แต่ทว่า ผู้เข้าร่วมรายการส่วนใหญ่บนเกาะในวันนี้ไม่มีอารมณ์เพลิดเพลินไปกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

 

เนื่องจากลมเริ่มพัดมาในตอนกลางคืน

 

ลมทะเลได้พัด ‘เต็นท์’ ที่พวกเขาใช้เวลาอย่างหนักมากในการสร้างมันขี้นมาในตอนกลางวันล้มลง

 

เต็นท์ทั้งหมดต่างถูกพัดล้มลงจนหมด ยกเว้นของเจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยู่หมิน เต๊นท์ที่พี่น้องคู่นี้มีเป็นเต๊นท์มืออาชีพที่ได้มาจากการเปิดหีบสมบัติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มอื่นๆไม่ได้โชคดีนัก กลุ่มอื่นสร้างเต็นท์ของพวกเขาด้วยวัสดุที่พบในเกาะร้าง  ความทนทานของเต็นท์เหล่านั้นธรรมดามาก

 

แม้แต่เต็นท์ของโม่ชืออวิ้นและแม่ก็ถูกพัดล้ม ในตอนบ่ายแฟนๆของโม่ชืออวิ้นได้อวดเต็นท์ที่ ‘มั่นคงและแข็งแรง’ นี้ แม้ว่าเต็นท์ของพวกเธอจะดูทนทานอย่างมากมาย แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพายุนี้ได้เช่นกัน

 

ทั้งสองต้องพยายามรักษาเต็นท์ของตนเองไว้ท่ามกลางพายุ

 

เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงต่างก็มีเต็นท์เล็กๆเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังมีถุงนอนในแต่ละเต็นท์

 

ทั้งสองนอนในถุงนอนของตัวเอง นอกจากนี้ เต็นท์ของพวกเขายังอบอุ่นและมั่นคง เต็นท์ของพวกเขาสามารถทนต่อลมที่พัดมาได้

 

ดังนั้น ความแตกต่างระหว่างกลุ่มของเจี่ยนหยู่หมินกับกลุ่มอื่นๆจึงเห็นได้ชัดเจน

 

แฟนๆของไอดอลคนอื่นๆต่างพากันเสียใจ ไอดอลที่น่าสงสารของพวกเขา…

 

แต่ทว่า แฟนๆของเจี่ยนหยู่หมินต่างก็พากันหัวเราะและสแปม [ฮ่าฮ่าฮ่า]

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นจากการหลับใหล แต่อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆกลับมีรอยคล้ำใต้ตา

 

เมื่อคืนที่ผ่านมา ลมพัดแรงมากจนพวกเขาทั้งหมดต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพยายามช่วยรักษาส่วนของเต็นท์ที่เหลืออยู่ เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้ยินลม พวกเขาก็ไม่สามารถพักผ่อนได้

 

เป็นเรื่องยากที่จะไม่มีรอยคล้ำใต้ตา เมื่อพวกเขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน

 

โม่ชืออวิ้นและโม่ฮุ่ยฉิงก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้

 

โม่ชืออวิ้นต้องใช้ครีมปกปิดริ้วรอยจำนวนมากในการปกปิดรอยคล้ำใต้ตาของเธอ

 

จากนั้นก็ได้เวลาอาหารเช้า เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงทานอาหารเช้าที่หรูหรามาก พวกเขาแต่ละคนมีแซนด์วิชและโยเกิร์ตหนึ่งขวด พวกเขาได้รับสิ่งนี้จากหีบสมบัติที่พวกเขาเปิดเมื่อวานนี้

 

ในทางกลับกัน กลุ่มอื่นๆทำได้เพียงแต่มองด้วยความอิจฉาเท่านั้น

 

หลังอาหารเช้า เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงก็เริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นหาหีบสมบัติเพิ่มเติมในวันนี้

 

ผู้ชายที่เคยเข้าหาเจี่ยนหยู่หมินก่อนหน้านี้เพื่อขอความร่วมมือกัน เข้าหาเจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยู่หมินอีกครั้ง

 

อีกครั้งที่เขาเสนอแนวคิดในการร่วมทีม อย่างไรก็ตาม คราวนี้ ความคิดเห็นและทัศนคติเขาได้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

“หมินหยู่โปรดพาพวกเราไปด้วย ฉันไม่ต้องการที่จะชนะการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ฉันแค่อยากนอนหลับดีๆสักคืน”

 

“ใช่ ใช่ เราจะช่วยเหลือเธอทุกอย่าง”

 

ลูกพี่ลูกน้องของชายผู้เข้าร่วมการแข่งเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะดังกล่าว ลูกพี่ลูกน้องเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและทรงพลัง

 

ทั้งสองคนมีพละกำลังมากที่สุดในที่นี้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับสถานการณ์เมื่อคืนนี้

 

ก่อนที่เจี่ยนหยู่หมินจะทันได้ตอบ ความคิดเห็นก็เริ่มคาดเดาว่าเขาจะพูดอะไรออกมา

 

[ยอมแพ้ไปเถอะ หมินหยู่จะไม่แบ่งปันน้องสาวเขากับพวกนาย]

 

[น้องสาวหมินหยู่เหนื่อยกับการพาหมินหยู่ไปอยู่แล้ว พวกนายไม่สามารถเป็นภาระเธอมากไปกว่านี้{หน้าหมา}]

 

[น้องสาวหมินหยู่เป็นของฉัน พวกนายไม่มีใครขโมยเธอไปจากฉันได้]

 

แน่นอน เจี่ยนหยู่หมินปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ทุกคนได้คาดเดาสิ่งนี้ไว้แล้ว “ขออภัย น้องสาวของฉันและฉันชอบทำงานด้วยตัวเองมากกว่า”

 

หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว เจี่ยนหยู่หมินก็ดึงเจี่ยนอีหลิงออกไป

 

หีบสมบัติของวันนี้ไม่ได้หาง่ายเหมือนเมื่อวาน เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงได้พบกับหีบที่หาง่ายทั้งหมดแล้ว

 

หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็พบหีบสมบัติที่ยังไม่ได้เปิดออก

 

บังเอิญ โม่ชืออวิ้นและโม่ฮุ่ยฉิงก็ยืนอยู่หน้าหีบสมบัตินั้นด้วยเช่นกัน ทั้งสองคนพยายามจะเปิดมัน

 

หีบสมบัตินี้ต้องการให้ผู้ร่วมรายการไขปริศนา ปริศนาต้องได้รับการแก้ไขก่อนเพื่อให้ได้รหัสเปิดหีบสมบัติ

 

เมื่อทั้งสองกลุ่มมาพบกัน ความคิดเห็นก็ระเบิดออกมาเต็มหน้าจอ

 

[อ๊าาาา ในที่สุดพวกเขาก็ได้ปะทะกัน ใครจะได้รับหีบสมบัติ จะเป็นเซี่ยหมินหยู่กับน้องสาวเขา หรือโม่ชืออวิ้นกับแม่เธอ]

 

[แฟนของบางคนมีมารยาทบ้างได้ไหม โม่ชืออวิ้นไปถึงก่อน มาก่อนได้ก่อน อย่ามาขวางซืออวิ้น]

 

บทที่ 380 การต่อสู้ระหว่างปัญญา 2

 

อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com

 

เมื่ออ่านข้อความนี้ แฟนๆของเจี่ยนหยู่หมินก็โต้กลับทันที

 

[ หีบสมบัติยังไม่ถูกเปิดด้วยซ้ำ รายการก็บอกว่าของข้างในหีบเป็นของคนที่เปิดหีบ พวกเขาไม่เคยพูดว่าหีบสมบัติเป็นของใครที่เห็นก่อน เข้าใจไหม]

 

[ใช่ ถูกต้อง ต้องเปิดก่อนถึงจะพูดแบบนั้นได้]

 

[โม่ชืออวิ้นยืนอยู่ที่นั่นมานานแค่ไหนแล้ว ถ้าเปิดไม่ได้ก็ต้องให้คนอื่นได้ลองดูบ้าง]

 

อย่างไรก็ตาม แฟนๆของโม่ชืออวิ้นยังคงปกป้องเธอต่อไป

 

[แน่นอน เราจะเปิดหีบ เราแค่กังวลว่าบางคนมีมารยาทไม่ดี จะเป็นยังไงถ้าบางกลุ่มคว้าหีบไปจากมือของซืออวิ้น]

 

[มีแขกเพียงคนเดียวที่สามารถเปิดหีบสมบัติคำถามเชิงเหตุผลได้ในภาคก่อนหน้านี้ และแขกคนนั้นก็คือโม่ชืออวิ้น พวกนายยังจำได้ไหม]

 

แฟนๆเริ่มโต้เถียงกันทางอินเทอร์เน็ต

 

อย่างไรก็ตามเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงไม่ได้วางแผนที่จะต่อสู้แย่งชิงหีบสมบัติ พวกเขาตัดสินใจให้โม่ชืออวิ้นได้ลองก่อน กลับกันพี่น้องสองคนนั่งลงบนก้อนหินที่อยู่ใกล้ๆแทน

 

เจี่ยนหยู่หมินหยิบส้มที่เขาคว้ามาด้วยก่อนจะออกจากเต็นท์ เขาเริ่มปอกส้มให้กับเจี่ยนอีหลิง

 

พวกเขาได้ผลไม้จากการเปิดหีบสมบัติ ไม่มีใครมีผลไม้อีก

 

สองพี่น้องดูผ่อนคลายมาก ดูไม่เหมือนว่าพวกเขาอยู่ในสภาพเร่งรีบที่จะตอบคำถาม

 

เมื่อเห็นแบบนี้ แฟนๆของเจี่ยนหยู่หมินก็เรียกแฟนๆของโม่ชืออวิ้นทันที

 

[พวกนายเห็นนั่นไหม หมินหยู่ไม่ได้ตั้งใจจะแย่งชิงหีบสมบัติเลย]

 

[ วิธีปอกส้มให้น้องสาวก็ช่างน่ารัก ใครบอกว่าเขาจะหาแฟนไม่ได้]

 

[ฉันต้องการขโมยหมินหยู่ ฉันอยากขโมยน้องสาวเขาด้วย]

 

แม้ว่าใบหน้าของโม่ชืออวิ้นจะไม่แสดงความกังวล แต่ในใจเธอก็ค่อนข้างกังวล

 

คำถามมุ่งเน้นไปที่การให้เหตุผล

 

มีข้อมูลมากมายที่ให้มา เธอจำเป็นต้องค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ท่ามกลางข้อมูลที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมด นอกจากนี้เธอต้องใช้เหตุผลของเธอเพื่อรับรหัสผ่านสุดท้าย

 

ในภาคที่แล้ว โม่ชืออวิ้นสามารถถอดรหัสหนึ่งในคำถามเหล่านี้ได้

 

ในคราวนั้นผู้ชมต่างประทับใจในสติปัญญาของเธอ พวกเขาประหลาดใจกับความจริงที่ว่าเธอทั้งดูดีและฉลาด

 

แต่คราวนี้ หลังจากอ่านคำถามแล้ว โม่ชืออวิ้นก็ครุ่นคิดอยู่นาน อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้

 

ใจเธอวุ่นวาย เธอไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร

 

โม่ฮุ่ยฉิงยิ่งไม่เข้าใจคำถามดังกล่าว และด้วยเหตุนี้ เธอจึงทำได้แต่เพียงอดทนรอให้ลูกสาวตอบคำถาม

 

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชมก็เริ่มแสดงความไม่อดทน

 

[โม่ชืออวิ้นตอบคำถามนี้ได้หรือเปล่า ถ้าเธอตอบคำถามไม่ได้ ก็ให้คนอื่นลองตอบคำถาม เธอจะยืนอยู่ตรงนี้โดยไม่ไปงั้นเหรอ]

 

[ใช่ เธอยืนอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว ก็แค่ลืมเรื่องนี้ไป ไม่เป็นไรถ้าเธอไม่ทราบวิธีแก้ปัญหา]

 

[ไม่ใช่พวกอ้างว่าเธอเป็นเทพธิดาไอคิวสูงไม่ใช่เหรอ มีอะไรผิดปกติกับเธอ ตอนนี้ถ้าเธอทำไม่ได้ ก้อย่าบังคับตัวเองให้ยืนอยู่ที่นั่น ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้น]

 

เป็นอีกครั้งที่แฟนๆของโม่ชืออวิ้นปฏิเสธที่จะยอมรับความคิดเห็นดังกล่าว

 

[พวกนายอาศัยอยู่ริมทะเลหรือไง ทำไมนายถึงสนใจในทุกเรื่อง ทีมงานฝ่ายผลิตไม่เคยกำหนดเวลาในการตอบคำถาม ทำไมพวกนายถึงสนใจว่าเธอต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการไขปริศนา]

 

[เกิดอะไรขึ้นกับการใช้เวลานานในการแก้ปัญหา หรือว่าเธอขวางทางของพวกนายหรือยังไง ถ้าไม่ชอบดูซืออวิ้นก็ไปซะ]

 

[แฟนๆบางคนพูดจาหยาบคายเพื่อให้ไอดอลของพวกเขามีโอกาสเปิดหีบสมบัติ ยังกับว่าพวกนายไม่ได้ให้เวลาซืออวิ้นแก้ปริศนาบ้าง]

 

หลังจากนั้นอีกห้านาที โม่ชืออวิ้นก็ยังคงไขปริศนาไม่ได้ เธอได้ลองใช้รหัสผ่านหลายรหัส อย่างไรก็ตาม คำตอบทั้งหมดนั้นผิด

 

ดังนั้นโม่ชืออวิ้นจึงต้องยอมแพ้

 

เธอไม่สามารถเสียเวลาอยู่กับหีบสมบัติที่เธอไม่สามารถเปิดได้ ถ้าเธอทำอย่างนั้น ไม่เพียงแต่เธอจะล้มเหลวในการเปิดหีบนี้ แต่เธอก็จะพลาดหีบสมบัติอื่นๆอีกด้วย

 

นอกจากนี้โม่ชืออวิ้นก็ไม่ต้องการให้ผู้ชมเห็นว่าเธอพยายามเปิดหีบอย่างโง่เขลา

 

และด้วยเหตุนี้ โม่ชืออวิ้นจึงจากไป ขณะที่เธอเดินผ่านเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิง สายตาของเธอก็จ้องไปที่เจี่ยนอีหลิงชั่วขณะ

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset