ตอนที่ 287 นัดหมาย
ลัวย่าวหัวแจ้นเข้ามา เข้าประตูก็มองเห็นหยางโปกำลังแกะสลักอะไรอยู่ เขาก็วิ่งมาอย่างตื่นเต้น เห็นหยางโปถึงกับใช้แค่หัวไชเท้าแกะสลักก็ผิดหวังขึ้นทันใด
เขาหันหลังมองไปรอบด้านก็มองเห็นผู้เฒ่าผมขาวกำลังจดจ่อกับการอ่านหนังสืออยู่ด้านข้าง ส่วนหญิงสาวด้านข้างก็จดจ่ออยู่กับการแกะสลัก เขาเอนไปหาหยางโปช้าๆ ทันใดนั้นก็ตะโกนเสียงดัง ” แฮ่ ! “
หยางโปพลันหันหลังมาแลบลิ้นปลิ้นตา ท่าทีนี้ทำให้ลัวย่าวหัวตกใจมาก เขาพลันถอยหลังไปสองก้าวแล้วก็สะดุดล้มกองอยู่กับพื้น !
” อ๊า ! ” เสียงร้องแหลมดังแว่วมา หยางโปหันไปมองก็เห็นชิงชิงปิดหูร้องอย่างตกใจ
ลัวย่าวหัวปัดบั้นท้ายพลางลุกขึ้นยืน แล้วก็หันหน้าไปมองชิงชิง
ชิงชิงหยุดกรีดร้องแล้วก็มองไปทางลัวย่าวหัว ” ทำไมนายทำแบบนี้ ? นายทำให้ฉันตกใจนะ นายรู้ไหม ? นายรู้ไหมว่าถ้าฉันทำไม้แกะสลักชิ้นนี้เสียไป ฉันจะสูญเงินไปเท่าไหร่ ? “
ลัวย่าวหัวเหลือบมอง ” ขอโทษนะครับ คุณเรียกร้องเท่าไหร่ ผมจะชดใช้ให้คุณ ขอโทษจริงๆ ครับ “
หลิ่วมีดเดียวมองไปทางหยางโป ” นี่คือเพื่อนเธอเหรอ ? “
หยางโปยิ้วพลางส่ายหน้า กล่าวปฏิเสธ ” ไม่ครับ นี่ไม่ใช่เพื่อนผม ! “
ลัวย่าวหัวหัวเราะเหอะเหอะ พลันสาวเท้าไปด้านหน้า คว้าเอาหัวไชเท้าที่หยางโปยังไม่ได้แกะสลักขึ้นมาถือ น้ำของหัวไชเท้าไหลออกมา ” โกหกหน้าตาย ! “
หยางโปหัวเราะ ” ต้องขอโทษจริงๆ ครับ เขาแค่อยากล้อเล่นน่ะ “
หยางโปกล่าวจบแล้วก็ลุกขึ้นยืน เอ่ยแนะนำว่า ” ขอแนะนำตัวใหม่นะ ท่านนี้คืออาจารย์แกะสลักหลิ่วมีดเดียว อาจารย์ของฉัน ฉันเรียนการแกะสลักจากเขา นี่คือชิงชิง นับว่าเป็นศิษย์น้อง “
” ศิษย์พี่ ! ” ชิงชิงกล่าวแก้อยู่ด้านข้าง
ลัวย่าวหัวกลับประหลาดใจมาก อ้าปากค้าง ” หลิ่วมีดเดียว ท่านปรมาจารย์หลิ่ว ที่แท้ท่านก็อยู่ที่นี่ ผมอยากพบท่านมาตลอดเลย ! “
หลิ่วมีดเดียวมองไป ” ผมอยากเจอฉัน ? “
ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” ช่วงก่อนหน้านี้ผมซื้อหินเลือดล้ำค่ามาชิ้นหนึ่ง อยากจะแกะสลักเป็นตราสักดวง ท่านว่ายังไงครับ ? “
หลิ่วมีดเดียวไม่ได้ตอบตกลง แต่เงียบขรึมไปพักหนึ่ง
ลัวย่าวหัวพลันดึงหยางโป ส่งสัญญาณให้กับเขา หยางโปก็เอ่ยถามเสียงเบา ” นายรู้จักอาจารย์เหรอ ? “
” ต้องรู้จักอยู่แล้ว ปรมาจารย์หลิ่วเป็นปรมาจารย์แกะสลักระดับสุดยอดในวงการ ถ้าเป็นอันดับทั้งประเทศ ปรมาจารย์หลิ่วอย่างน้อยก็สามอันดับแรก ! ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปตะลึง เขาเหลือบมองลัวย่าวหัวแล้วก็มองไปที่หลิ่วมีดเดียว ” อยากสลักตราประทับ น่าจะมีค่าใช้จ่ายสูง สลักตราดวงหนึ่งเขาก็ได้ร่วมล้านหยวนแล้ว ! “
ลัวย่าวกัวตบบ่าหยางโป ตราประทับของเขาอย่างมากก็ราคานี้ ด้านบนสลักอยู่สี่ตัวอักษร ถ้าหากเป็นราคานี้ ถ้างั้นเขาก็จ่ายก้อนโต
หลิ่วมีดเดียวส่ายหน้า มองลัวย่าวหัว ” เห็นแก่หน้าของหยางโป ฉันจะคิดตามราคาปกติก็ได้ “
ลัวย่าวหัวรีบกล่าวอย่างยินดี ” ถ้างั้นก็ขอบคุณท่านปรมาจารย์หลิ่วมากครับ ! “
” ราคาปกติเท่าไหร่เหรอ ? ” หยางโปเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
ลัวย่าวหัวเหลือบมองหยางโปอย่างดูแคลน ” ตัวละสองหมื่นหยวน ! “
หยางโปจ้องเขม็ง ตราหนึ่งสี่ตัวอักษร นี่ก็คือแปดหมื่นหยวน ! อักษรหนึ่งล้ำค่ากว่าทองจริงๆ !
เมื่อคิดแบบนี้แล้วหยางโปหยิบมีดแกะสลักขึ้นมา ” นายอย่ารบกวน ฉันจะรีบขยันฝึกฝน กลับไปอย่าลืมมาให้ฉันสลักตราประทับ ราคาของฉันถูกลงได้สักหน่อย ตัวหนึ่งหมื่นหนึ่งก็พอแล้ว ! “
ลัวย่าวหัวส่ายหน้า ” นาย ? ต่อให้ตัวหนึ่งให้ฉันจ่ายหมื่นหนึ่ง ฉันก็ไม่เอา ! “
หยางโปจ้องเขาตาเขม็ง แล้วก็แกะสลักต่อ
พอไม่มีใครตอบลัวย่าวหัว เขาอยู่ว่างๆ ก็เบื่อขึ้นมา จำต้องเล่นหยกสลักที่อยู่ตรงหน้าหยางโป
จนกระทั่งถึงตอนเที่ยงอย่างไม่ทันรู้ตัว หยางโปก็เลี้ยงข้าวพวกเขา
ตอนบ่าย ลัวย่าวหัวก็ทนเหงาไม่มีใครพูดด้วยไม่ไหว จึงกลับไปแล้ว
จนถึงตอนค่ำ หยางโปถึงได้แกะสลักกระต่ายตัวสุดท้ายเสร็จก็วางลงตรงหน้าของหลิ่วมีดเดียว
หลิ่วมีดเดียวหยิบกระต่ายสลักขึ้นมาดูอยู่ครู่หนึ่ง ” กระต่ายปราดเปรียวไม่พอ กระโจนไปทีเดียวไม่ได้ รูปร่างอ้วนพี ดวงตาไร้ชีวิต นายรู้ไหมว่ากระต่ายสลักของตัวเองเป็นตัวเมียหรือว่าตัวผู้ ? “
หยางโปตาถลน เขาหยิบหยกสลักขึ้นมาแล้วก็มองด้านล่างของกระต่ายสลัก แล้วก็มองไม่เห็นสัญลักษณ์บ่งบอกเพศอะไร
หลิ่วมีดเดียวเห็นการกระทำของหยางโป ทันใดนั้นก็จนคำพูดขึ้นมา ชิงชิงหัวเราะจนใบหน้าแดงก่ำ
” อย่าบอกนะว่านายแยกเพศแบบนี้น่ะ ? งานฝีมือแกะสลักแบบนี้ดูแบบนี้ได้ที่ไหน ? ” หลิ่วมีดเดียวจ้องตาเขม็ง ดุด่าอย่างโมโหมาก
หยางโปจนปัญหา ” หรือว่าต้องเหมือนอย่างในบทกวีมู่หลาน กระต่ายตัวผู้เท้าสับสน กระต่ายตัวเมียดวงตาพร่าเลือน ? “
” แล้วมันไม่ใช่เหรอ ? ” หลิ่วมีดเดียวมองหยางโป
” จับทุกการเคลื่อนไหวที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด ใช้ฝีมือทางศิลป์เผยมันออกมา นี่คือเรื่องสำคัญต่อไปของเธอ ! ” หลิ่วมีดเดียวเอ่ยสรุป
” เอาล่ะ เธอไปได้แล้ว ! ” หลิ่วมีดเดียวกล่าว
หยางโปจนปัญหา จำต้องเอาหัวไชเท้าจากไป ผ่านไปค่อนวัน หัวไชเท้าสลักชิ้นแรกของเขาแห้งผากไปไม่น้อย รูปร่างที่เคยอ้วนพี เวลานี้ก็ผอมลงไม่น้อย หยางโปคิดอยู่ในใจ กลับไปแล้วจะนึ่งกินหรือว่าต้มกินดี ?
แต่ว่าวันนี้ก็นับว่าได้กำไรอยู่บ้าง แกะสลักมาถึงขั้นนี้แล้ว ทั้งยังซื้อหยกขาวสลักสิบสองนักษัตรมาชุดหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นหยกชิงไห่ แต่ชุดแบบนี้ก็แสนกว่าๆ ไปจนถึงสองแสนหยวนถึงจะได้มา
ยังมีคืนก่อนปีใหม่อีกสองวัน ร้านของหลิ่วมีดเดียวก็จะปิดทำการสามวัน ดังนั้นสามวันนี้หยางโปก็ไม่ต้องไป
พรุ่งนี้ เขาต้องหาเวลาไปซื้อผัก ตลาดสดพอปีใหม่แล้วก็อาจจะปิดไปหลายวัน
ขณะวางแผนอยู่นั้น โทรศัพท์ของหยางโปก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วก็เห็นเป็นสายของชุยซื่อหยวน ก็อดที่จะจนปัญญาไม่ได้ ในช่วงนี้ชุยซื่อหยวนโทรศัพท์หาเขาทุกวัน พูดแต่เรื่องน่าเบื่ออย่างพรุ่งนี้อากาศเย็น เธอต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆหน่อยนะ หรือวันนี้ไปที่ไหนมา ?
เขากดรับสายแล้วก็ฟังอีกฝ่ายกล่าว ” เสี่ยวโป วันนี้ยุ่งไหม ? “
” ก็โอเคครับ ไม่ยุ่ง “
” งั้นก็ดี ฉันอยู่ใกล้ๆ พายเจียหยวน พวกเราไปกินมื้อเย็นด้วยกันไหม ! ” ชุยซื่อหยวนกล่าว
หยางโปขมวดคิ้ว เขาไม่อยากเจอหน้าอีกฝ่าย จำต้องกล่าวปฏิเสธ ” วันนี้ผมมีนัดแล้ว “
” มีนัดแล้ว ? ” น้ำเสียงของชุยซื่อหยวนผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าไม่นานเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา
” ไปกับสาวเหรอ ? “
หยางโปคิดจะปฏิเสธ เงยหน้าขึ้นไปก็เห็นชิงชิงเดินมาจากด้านหลังตน เขารีบกวักมือ ปากก็กล่าวว่า
” ใช่ครับ ดังนั้นผมไม่สะดวกจริงๆ “
” ดี ! งั้นก็ดี เธอไปกินข้าวเถอะ ! ” ชุยซื่อหยวนน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย
หยางโปไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายตื่นเต้นอะไร แต่ตอนนี้เขาก็ต้องเผชิญกับเรื่องตรงหน้านี้ก่อน
” ชิงชิง เธอช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม ? ” หยางโปเห็นสีหน้าสงสัยของชิงชิงก็เอ่ยขึ้นว่า
” คืนนี้ช่วยไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม ? “
ชิงชิงมองหยางโป ทันใดนั้นก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ” นายคงจะไม่ได้ชอบฉันใช่ไหม ? ว่ามา นายอยู่กับคุณอาหลิ่วนั่น มีเจตนาไม่ดีใช่ไหม ? “