ตอนที่ 324 ความลับของหูชิงชิง
ซ่งห้าวซวนเอนกายลงนอนบนเตียง พร้อมกับมองไปทางพ่อที่กำลังวุ่นวายอยู่ด้านข้าง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น กระดูกซี่โครงก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในทันที
เงินจำนวน15 ล้านหยวนหายวับไปกับตา เหลือเพียงไม่กี่หยวนและร้านค้าที่มีสัญญาเช่าเหลือเพียง 1 ปีเท่านั้น แต่เมื่อดูจากเขาในตอนนี้แล้ว ร้านค้าก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขาอีกแล้ว !
ซ่งฉีหู่มองไปทางซ่งห้างซวน และก็พบว่าเขายังคงนอนอย่างเหม่อลอยอยู่เช่นเดิม จึงอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ !
” ห้าวซวน ลูกอย่าไปคิดอะไรมากเลย เมื่อวานพ่อโทรศัพท์หาป้าของลูกแล้ว เธอให้พ่อมาพูดกับลูก ผู้ชายของตระกูลซ่งไม่ใช่ว่าจะแพ้ไม่เป็น ! เมื่อตอนที่ปู่ของลูกตายไป เขาได้โจมตีใส่ตระกูลซ่งจนย่อยยับ พ่อก็ยังลุกขึ้นมาได้ไม่ใช่เหรอ ? ลูกวางใจเถอะ ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น ! ” ซ่งฉีหู่พูด
ซ่งห้างซวนมองไปทางพ่อของเขา ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ แต่เขากลับอดที่จะพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆออกมาไม่ได้ ” คุณป้าเขาพูดว่ายังไงบ้างครับ ? หลังจากนี้ผมยังมีความหวังอยู่ใช่ไหม ? “
ซ่งฉีหู่เกิดความลังเลเล็กน้อย ” ห้าวซวน ตระกูลของเราร่ำรวยมหาศาลไม่น้อย ต่อไปลูกจะได้รับมรดกตกทอดของตระกูล มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอลูก ? “
” พ่อ ! ” ซ่งห้างซวนมองไปทางซ่งฉีหู่ ” พ่อ พ่อไม่เข้าใจ ! “
” พ่อไม่เข้าใจลูกตรงไหน ? ” ซ่งฉีหู่ถามขึ้น ” ไม่ใช่เพราะในใจของลูกโลภกว่าคนอื่นเหรอ ถึงได้ไม่รู้จักคำว่าพอเลย ? “
ซ่งห้าวซวนมองไปทางซ่งฉีหู่ โดยที่ไม่มีการปฏิเสธกลับมา
” คุณป้ามาที่นี่ แล้วก็กลับไปแล้ว เธอยุ่งมากใช่ไหม ? ” ซ่งห้าวซวนถามขึ้นอีกครั้ง
ซ่งฉีหู่ส่ายหน้า ” ลูกพักผ่อนก่อนเถอะ ! ไม่ต้องถามอะไรให้มากความ ! “
” พ่อ ! ” ซ่งห้างซวนตะโกนเสียงดังออกมาอีกครั้ง ” พ่อก็ทำแบบขอไปทีแบบนี้กับผมตลอด ! “
ซ่งฉีหู่โบกมือไปมา ” ไม่ใช่นะลูก ! ห้าวซวน ลูกอย่าคิดมากสิ “
เมื่อลังเลอยู่สักพัก ซ่งฉีหู่จึงได้เอ่ยปากพูดขึ้นว่า ” คุณป้าของลูกเพิ่งจะโทรศัพท์มา พวกเขาต้องทะเลาะกัน ก็เพราะเรื่องของลูก ! “
” หา ? ” ซ่งห้าวซวนตื่นตกใจอย่างมาก ก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้นว่า ” พ่อ พ่อถามแน่ใจแล้วใช่ไหม ว่าสามีของคุณป้าเขาว่ายังไงบ้าง ? “
” เขาเป็นคนที่ใจเด็ดมาก แต่ก็ดูเหมือนจะยังมีความยืดหยุ่นอยู่บ้างเหมือนกัน ” ซ่งฉีหู่พูด
ซ่งฉีหู่พูดขึ้นประโยคหนึ่ง แต่กลับทำให้ซ่งห้าวซวนมีความหวังขึ้นมาทันที ซ่งห้าวซวนจึงหมุนตัวอย่างสุดแรงเกิดก่อนจะถามขึ้นว่า ” พ่อ พ่อวางใจเถอะ ผมต้องโจมตีเขาได้แน่ ! “
” ก็แค่ร้านขายวัตถุโบราณเท่านั้น ธุรกิจค้าขายในร้านของเขาก็เงียบสงัดมาก ปกติแล้วก็มีลูกค้าแค่คนเดียวเอง ! ผมกล้าพนันเลยว่าร้านสืออี๋ถางทำกำไรไม่ได้เท่าไหร่ต่อปีหรอกครับ ! ” ซ่งห้าวซวนพูด
” ดี มีความมุ่งมั่นมาก ! ” ซ่งฉีหู่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากจะหมุนตัวเดินจากไป
ซ่งห้าวซวนมองไปทางแผ่นหลังที่จากไปของพ่อ ก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
” ฉันไม่มีวันวางมือเด็ดขาด ! ” ซ่งห้างซวนพูด
….
หยางโปมองไปทางอวี่เหวินที่นั่งอยู่ตรงข้าม พูดตามจริงก็คือ เขาไม่มีทางเชื่ออวี่เหวินเด็ดขาด เขารู้สึกว่า
อวี่เหวินเหมือนกับมีอะไรที่มากกว่านั้น
เขารู้สึกว่าที่อวี่เหวินพูดดูไม่มีมูลความจริงเลยสักนิด ฟังดูเหมือนจริง แต่ใครๆก็ไม่สามารถวิเคราะห์แยกแยะความจริงกับความไม่จริงได้หรอก เขาบอกว่าเขาตามร่องรอยมากว่าครึ่งปีแล้ว เขาคนเดียวจะไปตามร่องรอยมากว่าครึ่งปีได้ยังไง ? หรือว่าจะเอาแต่พึ่งเข็มทิศที่ติดตั้งอยู่บนนาฬิกาข้อมือของเขาอย่างนั้นเหรอ ?
อีกทั้ง ในตอนแรกที่พวกเขาลงไปยังสุสานใต้ดินด้วยกัน ก็มีเพียงอวี่เหวินคนเดียวที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้พวกเขาหาร่องรอยของเขาไม่เจอ สุดท้ายกลับพบว่าเขาจากไปก่อนแล้ว ในช่วงเวลาที่หายสาบสูญไปนั้น เขาไปทำอะไร ? เขานำหน้าพวกหยางโปเข้าไปก่อน ก็เพื่อนำวัตถุโบราณออกไปอย่างนั้นเหรอ ?
หยางโปรู้สึกว่าบนตัวของอวี่เหวินนั้นมีจุดน่าสงสัยมากทีเดียว จุดน่าสงสัยเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายได้ เขาคิดๆอยู่สักพัก สุดท้ายก็ยังไม่เอ่ยปากออกมา
อวี่เหวินกลับมองไปทางหยางโป ” ฉันรู้อยู่ตำแหน่งหนึ่ง พวกเขาน่าจะมีฐานอยู่ที่มองโกเลีย เพียงแต่ฉันก็ยังไม่เคยเข้าไป “
” ฐาน ? ” หยางโปแสดงสีหน้าตื่นตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่าชาวญี่ปุ่นจะมีเงินลงทุนมากมายขนาดนี้เพื่อสำรวจสุสานของจักรพรรดิหยวนหนิงจง
” แล้วแอบเข้าไปได้ไหม ? ” หยางโปถามขึ้น
” น่าจะแอบเข้าไปได้ ! “
หยางโปและตาอ้วนหลิวมองหน้ากัน ด้วยความประหลาดใจ
ผ่านไปสักพัก หยางโปก็ถามขึ้นว่า ” ถ้าจะไปจริงๆ เราต้องเตรียมความพร้อมกันสักหน่อยนะ “
” แน่นอนอยู่แล้ว ! ” อวี่เหวินพยักหน้า ” พวกนายพร้อมเมื่อไหร่ ก็รีบติดต่อฉันก็แล้วกัน ! “
ตาอ้วนหลิวพยักหน้า ” ได้ ! “
เมื่อส่งอวี่เหวินแล้ว หยางโปก็มองไปทางตาอ้วนหลิว ” นายคิดว่าไง เชื่อใจเขาได้ไหม ? “
ตาอ้วนหลิวเกิดความลังเลเล็กน้อย เขามองไปทางหยางโป ” ครั้งนี้เขาเป็นคนติดต่อฉันมาเอง ! “
หยางโปยิ่งประหลาดใจมากเข้าไปอีก เขาคิดว่าตาอ้วนหลิวเป็นคนติดต่อหาอีกฝ่ายมาโดยตลอด แต่เมื่อนึกย้อนกลับไป กลับแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าใครมีสิทธิควบคุมทั้งสองฝ่ายได้มากกว่ากัน !
” ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ต้องระวังตัวกันหน่อยแล้วละ ! ” หยางโปพูด
พวกเขาไม่ได้เลือกที่จะเชื่ออีกฝ่าย พวกเขาตั้งใจรอต่อไปอีกครั้ง เพื่อหวังว่าบางทีอาจจะพบการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เหมือนกับเรื่องนี้ การไปปรากฏตัวอยู่ในต่างประเทศ แล้วเกิดถูกจับตัวขึ้นมา แล้วโจรเหล่านั้นเรียกค่าไถ่ ต้องเป็นเรื่องที่วุ่นวายมากอย่างแน่นอน !
หยางโปและตาอ้วนหลิวปรึกษาหารือกันอยู่นานมาก สุดท้ายก็ไม่มีคำแนะนำที่สร้างสรรค์ใดๆ ทั้งสองคนทำได้เพียงแค่แยกย้ายกลับไปในที่ของตัวเอง
หยางโปมองดูเวลา 5 โมงแล้ว จะไปร้านในตอนนี้ก็ดึกเกินไปแล้ว เขาจึงได้ครุ่นคิดอยู่สักพัก สุดท้ายก็ปล่อยวางลง
ในขณะที่เดินอยู่บนถนนนั้น ในใจของหยางโปเอาแต่คิดถึงเรื่องของอวี่เหวินอยู่ตลอดเวลา ในใจของเขาเกิดความกังวลใจ ไม่รู้ว่าควรจะเชื่ออีกฝ่ายดีไหม เขารู้ถึงระดับของอีกฝ่าย ในตอนที่อยู่ในสุสาน เขาไม่กล้าออกความเห็นออกมาสักนิด ในช่วงแรกเริ่มทุกคนอาจจะยังไม่สังเกตเห็น แต่ต่อมาก็รู้จนได้
หยางโปเดินไปยังทิศทางของซอยเล็กๆ ก่อนจะได้ยินเสียงตะโกน และเสียงกระโดดโลดเต้นราวกับเสียงของนก
เขาเงยหน้าขึ้นมองออกไป ก็เห็นหูชิงชิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก มีแอร์โฮสเตสสวมเสื้อคลุมสีดำพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางยืนอยู่ตรงหน้าของเธอคนหนึ่ง เขาเห็นว่าหูชิงชิงนั้นใช้มือประคองแก้มของแอร์โฮสเตสคนนั้น แล้วเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ !
หยางโปจึงได้ตาโตอ้าปากค้างขึ้นมาในทันที เพราะเขาเห็นหูชิงชิงและแอร์โฮสเตสคนนั้นจุ๊บแก้มกัน แล้วก็จูบกับแอร์โฮสเตสคนนั้น !
บนถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านจำนวนมาก อีกทั้งทั้งสองคนก็เป็นผู้หญิงที่สูงยาวเข่าดี ภาพการจูบกันนั้นสวยงามมากจริงๆ จึงทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นอดที่จะหันกลับมามองไม่ได้
หยางโปรีบหาที่ซ่อนตัวทันที แต่เขาก็ยังอดที่จะมองไปยังทิศทางของหูชิงชิงผ่านทางช่องว่างของหน้าต่างไม่ได้ เดิมทีเขาคิดว่านิสัยของหูชิงชิงนั้นแปลกประหลาดมากมาโดยตลอด ที่ไหนได้เธอมีปัญหาใหญ่เรื่องรสนิยมทางเพศนี่เอง !
” บรรทัดฐานของสังคมเริ่มถดถอยลงแล้วจริงๆ ” หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างของหยางโปอดที่จะถอนหายใจอนิจจังออกมาไม่ได้ ” จูงมือยังพอว่า แต่ทำแบบนี้บนถนน ไม่กลัวว่าต่อไปจะถูกคนรู้จักเห็นแล้วเอาไปประจานอย่างนั้นเหรอ ? “
” ช่างมีบุคลิกภาพจริงๆ ! ” ผู้หญิงอีกคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทางปลงอนิจจัง
หยางโปหันหน้ากลับไปมอง แล้วก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าตัวเองนั้นได้เดินเข้ามาในร้านขายวัตถุโบราณแห่งหนึ่ง หญิงสาวที่เป็นพนักงานทั้งสองก็ต่างให้ความสนใจกับเรื่องด้านนอก จึงได้มายืนมองออกไปด้านนอกอยู่ข้างๆเขา !