เนตรเซียนทะลุสมบัติ – ตอนที่ 332

ตอนที่ 332 ปากทางเข้า

หยางโปเองก็ลงจากรถเช่นเดียวกัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทะเลทรายโกบีที่กว้างใหญ่ไพศาลแบบนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นตกหลุมพลางซะแล้ว

” อีกฝ่ายเห็นพวกเราแล้ว ! ” ลัวย่าวหัวพูดขึ้นด้วยความตกใจทันที

อวี่เหวินกำลังหยิบเข็มทิศขึ้นมาคำนวณสถานการณ์ ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้เข็มทิศอันเล็กบนนาฬิกาข้อมือ แต่เป็นเข็มทิศไม้หนานมู่เลื่อมทองชิ้นหนึ่ง ในขณะที่กำลังก้มลงมองดูเข็มทิศที่แสดงทิศทางอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนของลัวย่าวหัวขึ้นมา จากนั้นก็พูดโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นว่า ” มาก็มาสิ “

หยางโปเองก็เกิดความเป็นกังวลขึ้นมาในทันที เดิมทีเขาคิดว่าการที่ชาวญี่ปุ่นเหล่านั้นขุดเอาเงินทองที่อยู่บริเวณนั้นออกมา ก็ถือว่าอันตรายมากแล้ว แต่เมื่อดูจากตอนนี้ ชาวญี่ปุ่นเหล่านั้นคิดจะโจรกรรมสมบัติล่ำค่าของมองโกเลียนอกไปอีกด้วย !

 

ไม่นานรถจิ๊บก็ขับเข้ามาถึงตรงหน้าของพวกหยางโป เมื่อลัวย่าวหัวเห็นอู่อีลงมาจากรถ ก็ตื่นตกใจในทันที

” เธอมาได้ยังไง ? “

อู่อีมองไปทางหยางโปแวบหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยมองมาทางลัวย่าวหัว ” ฉันมาสร้างความวุ่นวาย “

ลัวย่าวหัวไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็ย่อมรู้ในทันทีว่าต้องเป็นคนหยู่หางที่บ้านเกิดเรียกกันอย่างแน่นอน คำพูดของคนหลอกลวง ” เธอเป็นชาวญี่ปุ่นเหรอ ? “

อู่อียิ้มพร้อมกับพยักหน้า ” ใช่ “

ลัวย่าวหัวไม่พูดอะไรอีก

หยางโปมองไปทางอู่อี ” พวกเธอหาที่นี่เจอจากบันทึกเล่มนั้นใช่ไหม ? “

 

” ใช่ และก็ไม่ใช่ ” เมื่ออู่อีพูดจบก็หัวเราะคิคะออกมา จากนั้นก็หมุนตัวกลับขึ้นรถแล้วขับจากไป

หยางโปมองไปทางรถที่ขับจากไป จากนั้นก็ทำการเดินไปรอบๆทิศทาง เขานึกปัญหาอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ ในเมื่อสุสานจักรพรรดิปรากฏขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ อวี่เหวินมาคนเดียวน่าจะดีกว่า จะลากพวกเขามาด้วยทำไม ?

ทะเลทรายโกบีที่ร้างไร้เงาผู้คนไปทั่วรอบทิศทาง ชาวญี่ปุ่นถึงได้กล้าที่จะใช้รถขุดทำการขุดเข้าไป

หยางโปและคนอื่นๆจึงได้ทำการระแวดระวังมากยิ่งขึ้น หยางโปและลัวย่าวหัวใช้รถคันเดียวกันขับตามรถของอวี่เหวินไป ในระหว่างที่ขับรถอยู่นั้น ก็คิดที่จะใช้เข็มทิศทำการค้นหาสุสานโบราณที่แท้จริง !

เมื่อเป็นแบบนี้ ทั้งสี่คนจึงยิ่งเดินทางกันไกลเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่เห็นชาวญี่ปุ่นที่อยู่ด้านหลังอีกแล้ว

 

แต่ หลังจากที่เดินทางกันมาทั้งวัน อวี่เหวินก็ยังไม่หยุดรถ แต่ก็ไม่เจออะไรเป็นพิเศษ

เมื่อกลับมาถึงเยิร์ตในช่วงเวลากลางคืน อวี่เหวินก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากจะล้มตัวลงนอนจนหลับไป

หยางโปอยากจะขอคำชี้แนะจากอีกฝ่ายแต่ก็ไม่มีโอกาส

วันที่สอง อวี่เหวินก็ยังไม่ได้เจออะไร เขากลับมาถึงเยิร์ตแล้วล้มตัวลงนอนเช่นเคย ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้พูดคุยปรึกษาหารือกันเลยแม้แต่น้อย

วันที่สาม หลังจากที่มาถึงทะเลทรายโกบีแล้ว หยางโปก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขากลับไม่ได้ขับรถตามอวี่เหวินไป แต่กลับเลี้ยวเข้าไปในละแวกนั้นแทน

 

จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ ลักษณะภายนอกของสุสานจักรพรรดิในราชวงศ์หยวนไม่ได้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้แต่หยวนหนิงจงที่เป็นถึงจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวนก็เป็นแบบนี้ เพียงแต่ว่าบันทึกที่ปรากฏอยู่ในหนังสือนั้นถูกฝังอยู่ในหลุมฝังศพของเจงกีสข่าน จะหาเจอที่นี่ไหมก็ไม่อาจรู้แน่ชัดได้

จากการร่ำเรียนศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยมา ในตอนที่เลือกสุสานของจักรพรรดินั้น จะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนภูเขาและใกล้แม้น้ำ น้อยนักจะได้อยู่บนทุ่งหญ้า เพียงแต่ราชวงศ์หยวนนั้นล่วงเลยผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว อีกทั้งที่นี่ก็ยังเป็นลักษณะของทะเลทรายนานแล้วด้วย การจะหาสุสานจักรพรรดิ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเอาการเลยทีเดียว !

หยางโปขับรถโอนเอนไปมารอบทิศทาง จนกระทั่งห่างไกลจากทิศทางของทั้งสามคนโดยไม่รู้ตัว

 

ทุกครั้งที่หยางโปเห็นพื้นที่ต่ำ ก็จำเป็นต้องลงจากรถมาสำรวจทุกครั้ง เพื่อหาต้นน้ำของเมื่อก่อน

มีเพียงแค่ทะเลที่กลายเป็นที่นา การคิดจะใช้วิธีการนี้ค้นหา ช่างเป็นความหวังที่ริบหรี่มากจริงๆ

เมื่อเวลาล่วงเลยมาตลอดจนถึงช่วงบ่าย หยางโปก็ลงจากรถ แล้วทำการค้นหาพื้นที่ต่ำที่สุดท้าย และก็ต้องปล่อยวาง เขาได้ขับรถไปยังที่ราบสูงแห่งหนึ่ง แล้วลงจากรถ เมื่อค้นหาตำแหน่งของลัวย่าวหัวกับคนอื่นๆ แต่หลังจากที่เท้าได้เหยียบย้ำไปบนเปลือกแข็งๆชิ้นหนึ่ง หยางโปก็อึ้งงันไปเล็กน้อย จนกระทั่งตื่นตกใจยกใหญ่ !

เปลือกแข็งๆมีอยู่ในทางน้ำเท่านั้น แต่เขาดันเจอกับเปลือกแข็งๆที่นี่ นั่นก็หมายความว่าพื้นที่ราบสูงอาจเคยเป็นเส้นทางผ่านของน้ำเมื่อหลายปีก่อนก็เป็นได้ !

 

หยางโปรีบทำการสำรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วนในทันที พื้นที่ราบสูงนี้อยู่สูงกว่าพื้นที่โดยรอบหลายเมตรทีเดียว พื้นดินเป็นทะเลทราย ไม่มีพืชพรรณ สามารถมองเห็นต้นกระบองเพชรหร็อมแหร็มได้จากในระยะไกลๆได้ เมื่อกวาดตามองออกไปรอบทิศทางจนสุดสายตาแล้ว ก็ทำให้มั่นใจได้มากพอว่าที่นี่เมื่อหลายร้อยปีก่อนเคยมีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นทุ่งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์อย่างแน่นอน

หยางโปหยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะกดโทรหาบริวารของตัวเอง ในขณะที่ทำการค้นหาเบอร์อยู่นั้น ก็ทำให้รู้ว่าที่นี่ไม่มีสัญญาณ

เขาจึงพยายามโทรศัพท์หาลัวย่าวหัว เมื่อตระหนักได้เขาก็เคลื่อนที่ออกจากจุดเดิม ไม่นาน ก็มีสัญญาณดังขึ้น

 

” ฝั่งนั้นของนายเป็นยังไงบ้าง ? ” หยางโปถามขึ้น

” นกสักตัวก็ไม่เห็น จะไปมีอะไรได้ยังไง ? ” ลัวย่าวหัวอดที่จะบ่นอุบอิบออกมาไม่ได้ ” เดิมทีฉันอยากจะไปหาสาวๆสวยๆมาพูดคุยถึงเรื่องอุดมคติมากกว่า แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ก็คงจะทำได้เพียงแค่ตามก้นอวี่เหวินต่อไป มองดูที่รกร้างว่างเปล่าและอ้างว่างต่อไปแบบนี้ ! “

เมื่อพูดจบ ลัวย่าวหัวก็ถอนหายใจออกมา ” เฮ้ มันเงียบเหงาเหมือนดินแดนหิมะจริงๆนะ ! “

หยางโปจึงได้หัวเราะออกมาเบาๆ ” ฉันอยู่…… “

หยางโปเพิ่งจะอ้าปากได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเดินไปยังทิศทางไหน ถึงได้ลื่นไถลลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็กลิ้งล้มลงไป เขาได้ยินเสียงทรายอยู่ข้างหู จึงรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาในทันที ส่วนร่างกายของเขานั้นได้ลื่นไหลจมหายไป !

 

ลัวย่าวหัวที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่นั้น กำลังตั้งใจฟังคำพูดของหยางโป แต่กลับไม่ได้ยินเสียงขึ้นมาเสียดื้อๆ เขาจึงได้เอาหูเข้าไปใกล้ลำโพงอีกนิด แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียง ในใจของเขาก็เกิดความตื่นตัวขึ้นมาทันที เมื่อตระหนักได้ว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน เขาจึงได้หมุนตัวแล้วเขย่าร่างของตาอ้วนหลิวที่กำลังหลับใหลให้ตื่นทันที ” เฮ้ ตาอ้วน ตื่นเร็วๆ ! เกิดเรื่องขึ้นกับหยางโปแล้ว ! “

ตาอ้วนหลิวถูกลัวย่าวหัวเขย่าจนหัวของเขากระแทกกับหน้าต่างรถ เขาจึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาในทันที

” เป็นอะไร ? เกิดอะไรขึ้น ? “

ลัวย่าวหัวเหยียบคันเร่งขับตรงไปข้างหน้าทันที จนรถขับเคลื่อนมาถึงข้างกายของอวี่เหวิน ก่อนที่ลัวย่าวหัวจะตะโกนออกไปว่า ” เกิดเรื่องขึ้นกับหยางโปแล้ว ! “

 

อวี่เหวินเกิดความลังเลขึ้น พร้อมกับเดินถือเข็มทิศเข้ามา ” เขาเป็นอะไร ? “

” ขึ้นรถเร็ว ! ฉันจะกำหนดที่เอง ! ” ลัวย่าวหัวพูดเร่งเร้าโดยไม่สนใจจะอธิบายอะไร

อวี่เหวินขึ้นรถแล้ว ยังไม่ทันที่จะได้ปิดประตู ร่างของเขาก็เอนกายไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว รถพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

” นายขับช้าๆหน่อย ! “

ในขณะที่กำลังทำการค้นหาอยู่สักพัก ในที่สุดทั้งสามคนก็พบรถของหยางโป พวกเขาต่างรีบเปิดประตูรถ แล้วลงมาค้นหาในทันที เมื่อหาอยู่ชั่วครู่ ก็ไม่มีวี่แววของหยางโปเลยแม้แต่น้อย

ลัวย่าวหัวจึงได้ร้อนใจขึ้น ” เขาเพิ่งจะโทรศัพท์หาฉันไม่นานนี่เอง พูดได้ครึ่งประโยค ก็หายไปเลย เขาต้องเจอเรื่องไม่คาดฝันแน่ ! “

 

ตาอ้วนหลิวจึงได้ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย ” คงจะไม่ถูกสาวสวยเกี่ยวไปหรอกนะ ? “

ลัวย่าวหัวยกเท้าข้างหนึ่งทำท่าจะเตะไปบนก้นของตาอ้วนหลิว ” ไอ้อ้วน อย่าพูดจามั่วซั่ว ! “

แต่ลัวย่าวหัวยังไม่ทันออกแรงเตะ ตาอ้วนหลิวก็ถูกผลักเบาๆเท่านั้น เขาก็ลื่นไถลลงไปข้างหน้าทันที

เดิมทีลัวย่าวหัวไม่ได้สนใจ แต่นึกไม่ถึงว่ากลับพบความเปลี่ยนแปลงอันน่าเหลือเชื่อ เขาเห็นใต้เท้าของตาอ้วนหลิวที่เหยียบย้ำลงไปนั้นได้ปรากฏเป็นถ้ำแห่งหนึ่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน !

อวี่เหวินเองก็ตื่นตกใจเช่นเดียวกัน ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความดีใจขึ้นมา ก่อนจะพูดกับลัวย่าวหัวว่า ” กระโดดลงไป ! บางทีที่นี่อาจจะเป็นปากทางเข้าสุสานโบราณก็ได้ ! “

 

เมื่อพูดจบ อวี่เหวินก็พุ่งตัวไถลลงไปในทันที

ลัวย่าวหัวเองก็จนปัญญา หลังจากที่ลังเลอยู่เล็กน้อย เขาก็ตัดสินใจไถลตามลงไป

หลังจากที่ลัวย่าวหัวไถลลงมาแล้ว ทรายที่อยู่รอบด้านก็ล้อมรอบกันเข้ามา ชดเชยส่วนที่หายไปใหม่อีกครั้ง เหลือทิ้งเอาไว้แค่เพียงแค่รถ 2 คันเท่านั้น

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เป็นเพราะพ่อที่ป่วยหนัก อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล จึงทำให้หยางโปเด็กฝึกงานของร้านขายวัตถุโบราณต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กดดัน เป็นเพราะจิตใจที่มีเมตตาของเขาจึงทำให้เขาได้รับหินแก้วโดยบังเอิญ จนทำให้ดวงตาของเขาสามารถประเมินสมบัติอันล้ำค่าได้ มาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถตรวจสอบสมบัติเหล่านั้นและล้มล้างชะตากรรมได้อย่างไร…….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset