ตอนที่ 340 ตราหยกแผ่นดิน
ตราหยกชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า ตราหยกเปล่งประกายนวลอ่อน สีเขียวชั้นดี หยกล้อมกรอบด้วยไม้ ริ้วสีแดงเด่นชัดแจ่มแจ้ง ตรงกลางของหยกกลายเป็นกระดูกไปแล้ว ปรากฏเป็นกระดูกไก่สีขาว !
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดกลับอยู่ที่มุมหนึ่งของหยกที่ปะด้วยทองคำ !
ถึงแม้หยางโปเพิ่งจะมองไปแวบหนึ่งก็คาดเดาความเป็นมาของตราหยกชิ้นนี้ออก เวลานี้ก็ยิ้มเต็มใบหน้า เขายื่นมืออย่างช้าๆ คิดจะหยิบตราหยกขึ้นมา แต่กลับถูกลัวย่าวหัวแย่งไปเสียก่อน !
ลัวย่าวหัวยื่นมือหยิบหยกขึ้นมาเปิด มองเห็นลายมือด้านล่างของตราหยก ทั้งตัวก็สั่นระริกขึ้นมา ใบหน้าของเขาแดงมาก มือขวาที่ถือหยกสั่นไม่หยุด
หยางโปรีบยื่นมือไปประคองเอามา วางไว้บนโต๊ะ เมื่อกี้เขาก็มองเห็นลายมือด้านล่างของตราหยก
” รับบัญชาจากสวรรค์ อายุยืนหมื่นปี ” อักษรสลักแปดตัว !
ตาอ้วนหลิวหายใจกระชั้น ช่องอกและท้องไส้ตื่นเต้นไม่หยุด เขาจ้องตราหยกเขม็ง เบิกตาถลน !
นี่คือตราหยกแผ่นดิน!
นี่คือตราหยกแผ่นดินของฉินสื่อฮวงและสร้างขึ้นจากเหอสื่อปี้ !
นี่คือตรา ” โอรสสวรรค์ สืบบัลลังก์ชอบธรรม ” ! จักรพรรดิในประวัติศาสตร์ล้วนใช้ตรานี้ตอบรับบัญชาจากสวรรค์ การได้รับสมบัติหายาก ที่เป็นสมบัติของประเทศชาติ ” รับบัญชาจากสวรรค์ ” ได้สูญเสียไปในตอน ” ใกล้ล่มสลาย ” ! ฝานเติงจ้าเว่ยและผู้ที่ไม่ได้ครองตราลัญจกรนี้ ถูกเยาะหยันว่าเป็น ” จักรพรรดิป้ายขาว ” ชัดเจนว่าบารมีไม่เพียงพอและผู้คนทั่วหล้าดูแคลน
นับแต่ราชวงศ์ฉินสืบทอดถึงราชวงศ์หยวน ตราแผ่นดินสืบราชบัลลังก์ถูกหยวนซื่อตี้เอาไปตอนที่หนีขึ้นเหนือ และตอนนี้ถึงกับปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา !
พักหนึ่งลัวย่าวหัวก็มองไปรอบด้านอย่างตึงเครียด มองเห็นแม่บ้านไม่อยู่ เขาก็รีบเอาตราหยกวางใส่ในกล่องทันที !
เขาถึงได้หอบหายใจหนักๆ มองไปทางหยางโป ” นี่เป็นของแท้ไหม ? “
” เดือนธันวาคม ปีจูเซ่อที่สาม หวางหม่างบังคับไทเฮาให้ส่งมอบตราหยกสืบราชบัลลังก์ ไทเฮาถูกบีบบังคับเธอโกรธจนปาตราหยกลงกับพื้นอย่างรุนแรง ตราหยกสืบราชบัลลังก์แตกไปมุมหนึ่ง หวางหม่างจำต้องสั่งช่างหยกใช้ทองมาปะมุมนี้ ! ” หยางโปเอ่ย
ลัวย่าวหัวจ้องกล่องไม้เขม็ง เขายืนยันจากมุมนั้นที่มีทองคำปะอยู่อีกครั้ง เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ !
เสียง ” ปัง ” ดังขึ้น หยางโปหันหลังไปมองก็เห็นตาอ้วนหลิวตบตัวเองอย่างแรงทีหนึ่ง ” ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ? “
ลัวย่าวหัวก็ออกแรงทุบหลังของตาอ้วนหลิว ” นายไม่ได้ฝันไป ! “
ตาอ้วนหลิวจ้องมองตราหยกสืบราชบัลลังก์ ” ในตำนานว่ากันว่าตราหยกสืบราชบัลลังก์หลังจากสมัยหยวนแล้วก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย คิดไม่ถึงว่าจะถึงกับเอาไปไว้ในสถานที่แบบนั้น ! “
” หยวนซื่อตี้รีบหนีไปจากเมืองหลวงแล้วขึ้นเหนือ อาจจะยากลำบากมาก เขาอยู่ที่พื้นที่ทะเลทรายของบรรพชนทางเหนือ น่าจะอยากฟื้นแว่นแคว้น ตราหยกนี้อยู่ภายในเรือทองคำ น่าจะมีความหมายถึง ” คลื่นลูกเก่าไป คลื่นลูกใหม่มา ” ! เพียงแต่คิดจะใช้เลือดบูชายัญ ฟื้นฟูแว่นแคว้นแต่ก็ล้มเหลวก็เท่านั้น ! ” หยางโปครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วก็คาดเดา
กล่องไม้ถูกหยางโปตบพังไปแล้ว ลัวย่าวหัวพยายามต่อเข้าด้วยกัน แต่ด้วยที่ไม่มีบริเวณให้เชื่อมต่อกัน แถมรวมกันก็ไม่ได้เลยสักนิด ในที่สุดเขาก็ล้มเลิก เวลานี้เขาไม่สนใจมูลค่าของไหมทองหนานมู่อีกแล้ว ตราหยกสืบราชบัลลังก์นี่ถึงจะเป็นสมบัติของชาติอย่างแท้จริง !
” เดี๋ยวพวกเราไปหาที่ซ่อนตราหยกสืบราชบัลลังก์กันเถอะ ! เก็บมันเอาไว้ที่นี่ไม่ได้ มันไม่ปลอดภัยเกินไป ! ” ลัวย่าวหัวเดินไปสองก้าว เอ่ยอย่างร้อนใจ
หยางโปหัวเราะเบาๆ แล้วก็เพราะว่าตราหยกสืบราชบัลลังก์ล้ำค่ามากเกินไป ถึงได้ทำให้ลัวย่าวหัวเคร่งเครียด ตอนนี้ในบ้านของเขา จะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ยังไง ?
” เอาไปฝากไว้ที่ธนาคารเป็นไง ” ตาอ้วนหลิวรีบเอ่ย
หยางโปส่ายหน้า หันหลังไปหยิบผ้าเช็ดหน้าจากบนโซฟามาปิดเอาไว้ด้านบนทันที ” เอาแบบนี้ไม่ได้เหรอ ? “
ตราหยกสืบราชบัลลังก์ถูกปิดอย่างมิดชิด ลัวย่าวหัวก็ยังไม่สบายใจ ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองหยางโป ” ตราหยกสืบราชบัลลังก์นี้ควรจะจัดการยังไง ? พวกเราจะแบ่งกันเหรอ ? “
” ตัดเป็นสี่ส่วน แล้วส่งให้คนละชิ้น ” หยางโปเอ่ย
ตาอ้วนหลิวตะลึง ” พวกเราสี่คน แบ่งแบบนี้ไม่ดีนะ ตราหยกสืบราชบัลลังก์นี่หยางโปแทบจะทิ้งชีวิตไปเอามา ถ้ายังไง… “
” ไม่ต้อง ตราหยกสืบราชบัลลังก์นับว่าเป็นของพวกเราสี่คน แล้วให้ทองแท่งฉันมากหน่อยก็พอแล้ว ” หยางโปรีบเอ่ยขัด
ตาอ้วนหลิวยังคงลังเลเล็กน้อย หยางโปปรบมือ ” เอาเป็นว่าตกลงแบบนี้ล่ะ ! “
ลัวย่าวหัวรีบเอ่ยเสริม ” แบบนี้ก็ดี ทองแท่งรวมแล้วสิบหกแท่ง พวกเราคนละสามแท่ง ที่เหลือเจ็ดแท่งก็ให้
หยางโป เรือทองคำลำนี้ก็ให้เขาไป ตราหยกพวกเราสี่คนแบ่งเท่ากัน เมื่อกลับไปก็ฝากเอาไว้ในตู้เซฟของธนาคาร รอจนตอนที่เหมาะสมก็ค่อยเปิดเผยต่อสาธารณชนก็ได้ ค่อยส่งไปจัดแสดงในแต่ละพิพิธภัณฑ์ ถึงเวลานั้นเราก็ได้เงินแล้ว ! “
ตาอ้วนหลิวก็พยักหน้า ” อวี่เหวินไปแล้ว ก็รับว่าเขายอมรับก็แล้วกัน ตกลงแบบนี้นะ ! “
หยางโปจำต้องพยักหน้า เขาเข้าใจดี ตราหยกสืบราชบัลลังก์ล้ำค่ามาก ถึงขนาดอยู่ตรงหน้าตัวเองแล้วก็ไม่มีทางตีราคาที่เหมาะสมออกมาได้เลย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีใครพูดถึงเรื่องขายออกไป หรือว่าการซื้อเอาไว้คนเดียว
จากนั้นทั้งสามคนก็แบ่งทองแท่งกัน แล้วก็ส่งเรือทองคำและตราหยกสืบราชบัลลังก์ให้กับธนาคารถึงค่อยวางใจลงได้
ตาอ้วนหลิวพยายามติดต่ออวี่เหวิน แต่เมื่อโทรศัพท์หาเขาก็ไม่ติดเลย เขาจำต้องล้มเลิกไป
ทั้งสามเหนื่อยหอบ แล้วก็ไม่ได้ออกไปดื่มเหล้า ต่างกลับบ้านของตนเองทันที
หยางโปกลับไปถึงห้องพักใกล้ๆ กับพานเจียหยวน แท่งทองเจ็ดแท่งเขาฝากเอาไว้ในตู้เซฟของธนาคารแล้ว ทองแต่ละแท่งหนักสิบกว่ากิโลกรัมเต็มๆ เขาใส่ทองแท่งเอาไว้ในกระเป๋าเป้ ถึงขนาดแบกไปไม่ได้
หยางโปเหนื่อยล้าอ่อนแรง กลับมาถึงหน้าบ้าน เขามองเห็นบนประตูถึงกับแปะกระดาษเอาไว้แผ่นหนึ่งก็ฉีกออกอย่างไม่ใส่ใจ มองเห็นบนนั้นเขียนด้วยลายมือหวัดๆ เจ็ดแปดตัวอยู่แถวหนึ่ง ” รีบไสหัวออกมาหาฉัน ! “
หยางโปขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพักอยู่ที่นี่ ไม่รู้จักเพื่อนบ้านรอบข้างเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้นมองลักษณะของเจ้าของบ้านแล้ว เหมือนว่าจะไม่ได้หลอกลวงเขาเลยสักนิด อีกฝ่ายน่าจะไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร ดังนั้นเขาจึงหัวเราะเบาๆ โยนกระดาษแผ่นนั้นเข้าไปในถังขยะทันที
หยางโปเอนอยู่บนเตียง ไม่อยากเคลื่อนไหว หันหลังไปมองเห็นวัตถุดิบหยกสลักและเครื่องมือที่วางอยู่ครบชุดหน้าเตียง เขานั่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถึงได้หยิบขึ้นมา
ไม่ฝึกฝนสามวันก็มือตกแล้ว เขาแกะสลักเหมือนเรือต้านลม ไม่คืบหน้าไปไหนเลย !
เพราะว่ามือมีแรงไม่พอ สองมือเหนื่อยล้าจนไม่ฟังคำสั่งการ หยางโปจึงแกะสลักได้ช้ามาก ถึงขนาดไม่ยืดหยุ่นพอ พอแกะสลักเสือได้ตัวหนึ่ง เมื่อมองอย่างละเอียดแล้วก็เหมือนกับแมวตัวหนึ่งเท่านั้น !
หยางโปจนปัญญา จำต้องวางของลงแล้วพักผ่อนทันที
ขณะกำลังนอนฝันสะลึมสะลือ หยางโปก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองครั้งหนึ่ง เป็นเบอร์แปลก เขาก็กดรับสาย
” ตู๊ดตู๊ดตู๊ด… “
หยางโปไม่ได้ยินเสียงพูดอะไร เพียงได้ยินเสียงสั้นๆ หลังจากตัดสายไปแล้ว เขาก็ไม่ได้คิดมาก เขาวางโทรศัพท์เอาไว้ด้านข้าง จากนั้นก็นอนหลับต่อ
ไม่นานนัก โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง หยางโปมองเห็นแล้วว่ายังคงเป็นเบอร์เดิม ครั้งนี้เขาไม่ลังเล รับสายทันที ปลายสายแว่วเสียง ” ตู๊ดตู๊ดตู๊ด ” มาอีกครั้ง