ตอนที่ 354 เริ่มถ่ายทำ
ขนาดของสถานีโทรทัศน์ซูเซิงนับว่าไม่น้อย หยางโปเดินไปถึงโถงใหญ่ก็เจอกับพิธีกรสาวคนสวยและคุ้นตาอยู่ไม่น้อย เขามองสำรวจไปสองสามครั้ง ก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสาม โถงถ่ายทำอยู่ที่นี่
เมื่อมาถึงชั้นสามแล้วหยางโปก็มองเห็นกลุ่มคนจัดการเรียงกันเข้าไปในฉากอย่างคึกคัก ลัวย่าวหัวยืนอยู่ด้านหลัง เดินวนไปมาอย่างร้อนใจอยู่บ้าง
เมื่อเขามองเห็นหยางโปเดินเข้ามา ลัวย่าวหัวก็ร้อนใจขึ้นมาทันที ” ทำไมนายมาช้าขนาดนี้ ? เร็วเข้า
ผู้กำกับรอจนทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้นายไปแต่งหน้าเลย ! “
หยางโปประหลาดใจ ” ตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่ ? แต่งหน้า ? ต้องแต่งหน้าด้วยเหรอ ? “
” ก็ต้องแต่งหน้าสิ ไม่อย่างนั้นผลของการถ่ายทำจะไม่ดี นายรีบไปเลย พวกอาจารย์กุ้ยเขารอกันอยู่ ! “
ลัวย่าวหัวดึงหยางโปเดินไปทางห้องแต่งตัว
เข้าไปในห้องแต่งตัวแล้ว หยางโปก็มองเห็นกุ้ยหรงจิ่วและคนอื่นๆ แต่งหน้ากันเสร็จแล้ว และกำลังนั่งคุยกันอยู่ กุ้ยหรงจิ่วมองเห็นหยางโปก็เอ่ยขอโทษขอโพยว่า ” เมื่อวานไม่ทันสังเกต ลืมบอกนายไปว่าออกรายการต้องแต่งหน้าหน่อย ไม่อย่างนั้นตอนที่ถ่ายทำอยู่จะผิวดำมากเพราะว่าแสงไฟของสตูดิโอ มันจะส่งผลกระทบต่อรายการน่ะ “
หยางโปกลับถูกช่างแต่งหน้าดึงลงนั่งแล้ว ช่างแต่งหน้าดูแล้วอายุยี่สิบกว่าปี จีบไม้จีบมือ ” ไอ๊หยา นายรีบหน่อยสิ อีกเดี๋ยวผู้กำกับจะมาด่าฉันแล้ว ! “
หยางโปนั่งลงไป ช่างแต่งหน้าก็ถืออุปกรณ์ต่างๆ มาปัดๆ ถูๆ แต่ว่าลงมือไม่นานช่างแต่งหน้าก็ถอนหายใจ “ยังดีที่ฉันลงมือเร็ว เลยไม่เสียเวลามาก ! “
เพิ่งจะพูดขาดคำทางนั้นก็แว่วเสียงของผู้กำกับ ” เรียนแขกรับเชิญทุกท่าน เชิญมาประจำที่นั่งโดยเร็วที่สุด “
หยางโปเดินตามพวกของกุ้ยหรงจิ่วเข้าไปในห้องสตูดิโอ ลัวย่าวหัวก็เข้าไปนั่งที่นั่งผู้ชม
ก่อนหน้านี้หยางโปเคยมาเป็นหน้าม้าในฉากของรายการ นับว่าเข้าใจเรื่องรายการอยู่บ้าง แต่นั่งบนที่นั่งผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยากที่จะไม่รู้สึกแปลกไปบ้าง
กุ้ยหรงจิ่วนั่งอยู่ด้านข้างหยางโป ” รู้สึกเป็นยังไงบ้าง ? “
” ยังไม่เลว เพียงแต่ไม่รู้ว่าที่นั่งผู้เชี่ยวชาญนี้จะนั่งได้นานแค่ไหน ” หยางโปหัวเราะ
กุ้ยหรงจิ่วส่ายหน้า ” นายไม่ต้องถ่อมตัว ระดับของนายฉันเข้าใจดี แต่ว่ายังไงนายก็เด็กที่สุดอาจจะดึงดูดข้อโต้แย้งไม่น้อย ตอนแรกเรื่องที่ทีมงานรายการจะให้นายเข้ามาก็โต้เถียงกันใหญ่โต ท้ายที่สุดแล้วก็ตกลงกันได้ ก็เพราะว่านายอายุน้อย และสามารถดึงดูดหัวข้อสนทนาและความสนใจได้ไม่น้อย ! “
กุ้ยหรงจิ่วมองหยางโปอย่างแฝงนัยลึกซึ้ง หยางโปย่อมเข้าใจความหมายในคำพูดของอีกฝ่ายดี ทุกคนต่างต้องการเห็นเขาถูกหัวเราะเยาะ ! เพราะว่าเขาอายุน้อย ทุกคนจึงรู้สึกว่าระดับของเขาไม่ผ่าน !
หยางโปย่อมไม่อาจให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะได้ !
ขณะกำลังครุ่นคิด พิธีกรสูอี้หมิงก็เดินขึ้นไปเวที รอบด้านเสียงปรบมือดังขึ้น เริ่มต้นการถ่ายทำรายการอย่างเป็นทางการแล้ว !
อี้หมิงมองไปทางที่นั่งผู้เชี่ยวชาญ ” ขอเสียงปรบมือดังๆ ต้อนรับทีมผู้เชี่ยวชาญของพวกเรา ผู้เชี่ยวชาญการประเมินเครื่องทองแดงและของจิปาถะชื่อเสียง อาจารย์เหวย เหวยอวี้หยาง ! “
นิ่งไปครู่หนึ่งจนเสียงปรบมือด้านล่างหยุดลง อี้หมิงก็เอ่ยแนะนำต่อว่า ” ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินหยกชื่อดัง อาจารย์อู๋กั๋วเฉียง ! ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพอักษรชื่อดัง อาจารย์กุ้ยหรงจิ่ว ! “
กล่าวจบ สูอี้หมิงก็ทอดสายตามาทางหยางโป ” รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านประเมินเครื่องลายครามคนใหม่ของพวกเรา อาจารย์หยางโป ! ยินดีต้อนรับทุกท่าน ! “
หยางโปยืนขึ้นตามเสียงของสูอี้หมิง ตอนที่เขายืนขึ้นมองก็ดึงดูดสายตาของทุกคนแต่เขากลับสัมผัสได้ถึงสายตาประหลาดใจที่กวาดมองมาของทุกคน !
หยางโปอายุน้อยเกินไปจริงๆ ! ให้เขามาอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนผมขาวก็แปลกแยกเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด !
หยางโปติดต่อกับทีมงานรายการเยอะมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ประหลาดใจเกินไป แต่ทุกคนในที่นี่กลับไม่เป็นแบบนั้น พวกเขาจับจ้องหยางโป มองคนหนุ่มที่แม้จะสวมแว่นตากรอบดำ สวมสูทแบบเหมา ถึงแม้จะแต่งตัวยิ่งกว่านี้ ท่าทางก็ไม่ถึงสามสิบปี ! นี่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน !
สูอี้หมิงยืนอยู่บนแท่นพิธีกร ไม่ได้แนะนำหยางโปมากนัก เขากล่าวว่า ” ต่อไปพวกเราจะเชิญสหายสมบัติท่านแรกขึ้นมาบนเวที ! “
หยางโปนั่งเฉยๆอยู่บนเก้าอี้ ในใจกลับเข้าใจดี เขาต้องใช้ระดับที่แท้จริงของตัวเองมาเอาชนะใจทุกคน !
ผู้เฒ่าที่อายุสักเจ็ดสิบกว่าปีคนหนึ่งเดินเข้ามาในโถงถ่ายทำ สองมือของเขาว่างเปล่า ใบหน้าแฝงรอยยิ้ม
สูอี้หมิงเดินไป ” ผู้เฒ่าสุขภาพแข็งแรงดีจริงๆ สวัสดีค่ะท่านผู้เฒ่า ! ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร ? “
” แซ่เฉียน ไม่ต้องเป็นทางการนักหรอก ” ผู้เฒ่ายิ้มเอ่ย
สูอี้หมิงก็ยิ้มขึ้นมา ” โอ้ สวัสดีครับคุณเฉียน วันนี้คุณเอาอะไรมาครับ ? ทำไมผมไม่เห็นอะไรเลยล่ะ ? “
” อยู่ที่นี่น่ะ ! ” คุณเฉียนยื่นมือที่ล้วงเข้าไปในอกเสื้อเอาหยกรูปแพะออกมาชิ้นหนึ่ง
” นี่ยังห้อยอยู่ที่คอเหรอครับ ? ” สูอี้หมิงยิ้มบาง ไม่ได้รับไป ” คุณได้จี้หยกนี้มาจากที่ไหน ? “
” อันนี้เหรอ นี่ฉันคว้ามาได้ตอนอายุหนึ่งขวบน่ะ ใส่มาจนถึงตอนนี้ จนหลานกำลังจะแต่งงาน ตอนนี้วางแผนจะซื้อบ้าน ฉันก็ไม่มีเงินมากมายอะไร ดังนั้นเลยอยากจะขายจี้หยกนี้ไป ช่วยดูทีว่ามันจะได้อะไรไหม ! ” ตาเฒ่าเฉียนเอ่ย
” เป็นความรักของปู่ที่ดีจริงๆ นะครับ ถ้างั้นขอให้ผู้เฒ่าสมดั่งปรารถนา ! ” สูอี้หมิงเอ่ย
ผู้เฒ่าเฉียนถือจี้หยก เดินงกเงิ่นไปถึงหน้าโต๊ะ อาจารย์อู๋กั๋วเฉียงผู้รับหน้าที่ประเมินหยกลุกขึ้นยืนทันที เขาสวมถุงมือแล้วก็รับจี้หยกมา
อาจารย์อู๋กั๋วเฉียงหยิบแว่นขยายออกมาส่อง ดูอยู่ครู่หนึ่งก็เงยหน้ามองคุณเฉียน ” คุณเฉียน ก่อนหน้านี้ครอบครัวคุณเฉียนเป็นเจ้าที่ดินใช่ไหม ? “
ผู้เฒ่าเฉียนพยักหน้า ” ใช่แล้ว ใช่แล้ว “
อู๋กั๋วเฉียงหัวเราะ ” การจับเสี่ยงทายครบขวบเป็นประเพณีดั้งเดิมอย่างหนึ่งของพวกเราชาวจีน แต่ว่าตอนนี้มีประเพณีแบบนี้น้อยมากแล้ว เพราะว่าทุกคนคิดว่าใช้วิธีแบบนี้มาทำนายชีวิตในอนาคตไม่เป็นวิทยาศาสตร์เพียงพอ แต่ว่าจี้หยกรูปแพะชิ้นนี้ ยังไงก็เป็นศูนย์รวมความห่วงใยรักใคร่ต่อผู้เฒ่ามาหลายปี “
ผู้เฒ่าเฉียนพยักหน้ารัว ” ใช่แล้ว “
” สีหยกชิ้นนี้โปร่งแสง เนื้อหยกขาวไร้ที่ติ ห่อหุ้มแน่นหนา มุมของจี้หยกรูปแพะเปื้อนคราบสีเหลืองเล็กน้อย นี่น่าจะเกิดจากการใส่เป็นเวลานานแล้วทำความสะอาดไม่เหมาะสมนัก ” อู๋กั๋วเฉียงมองคุณเฉียน ” แต่ว่าความปรารถนาของคุณเกรงว่าจะไม่เป็นจริง หยกนี่ไม่ใช่หยกเหอเถียน แต่เป็นหยกปากีสถาน เกรงว่ามูลค่าจะไม่สูงเท่าไหร่นัก “
ผู้เฒ่าเฉียนสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูแข็งทื่อขึ้นมา ” นี่ เรื่องนี้ อาจารย์อู๋ จี้หยกชิ้นนี้ขายได้เท่าไหร่ ? “
อู๋กั๋วเฉียงลังเลเล็กน้อย ” หยกปากีสถานผลิตเป็นจำนวนมาก ราคานั้นไม่จัดว่าแพง “
ผู้เฒ่าเฉียนสีหน้าไม่น่าดู ราวกับไม่เชื่อถือ เขายืนบนเวลาที ไม่เคลื่อนไหวเลย ” คุณพูดราคามาเถอะ ! “
อู๋กั๋วเฉียงรู้สึกทนไม่ไหว ทันใดนั้นก็หันหลังไปมองหยางโป ” อาจารย์หยางทำงานอยู่ในแวดวงร้านขายของโบราณมาตลอด คุ้นเคยเรื่องราคามากกว่าผม นี่ก็ขอเชิญอาจารย์หยางช่วยแล้ว ! “
หยางโปเดิมกำลังใจลอย ได้ยินประโยคนี้ก็ชะงัก จากนั้นก็โมโหเล็กน้อย นี่อาจารย์อู๋จะโยนเรื่องมาให้เขาเหรอ !