ตอนที่ 359 แรงกดดันหนักหน่วง
หยางโปนั่งลง จู่ๆ ก็เงยหน้าเอ่ยถาม ” ช่วงนี้มีข่าวเรื่องอวี่เหวินไหม ? “
” เรื่องนี้นายน่าจะไปถามตาอ้วนนะ เมื่อวานฉันโทรหาเขา นายรู้ไหมว่าเขาไปไหน ? เขาไปดูสาวสองที่ประเทศไทยนู่น ! ” ลัวย่าวหัวยิ้มกล่าว
หยางโปตาถลน ” ไม่เลวจริงๆ “
” เขาพาลูกเมียไปน่ะ ติดพันครอบครัวแบบนั้น อยากลอบไปดูก็เกรงว่าจะไม่ง่าย ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้เขาจะลากฉันไปด้วย ! ” ลัวย่าวหัวเอ่ย
หยางโปสงสัย ” เรื่องดีแบบนี้ ทำไมไม่ลากฉันไปล่ะ ? “
” เพราะว่าอายุของนายน้อยเกินไป เกรงว่าจะทนรับกิเลสแบบนี้ไม่ไหว พอถึงเวลาแล้วเลือดกำเดาไหลขึ้นมาจะทำยังไง ? ” ลัวย่าวหัวเอ่ย
หยางโปส่ายหน้า ” น่าจะเพราะว่าฉันไม่ได้มักมากเท่าพวกนาย ดังนั้นถึงได้ไม่ลากฉันไปใช่ไหม ? “
ลัวย่าวหัวถอนหายใจ ” ไม่ ไม่สิ ฉันยังเป็นหนุ่มโสดไม่ได้หมั้นหมาย นายอย่าทำลายชื่อเสียงของฉันสิ ! “
หยางโปหัวเราะขึ้นมา ” โอ้ นี่หนุ่มโสดอย่างพวกเราสนใจเรื่องภาพลักษณ์ด้วยเหรอ ? “
ลัวย่าวหัวส่ายหน้า เปิดลิ้นชักหยิบเอากระดาษมาแผ่นหนึ่ง วางไว้ตรงหน้าหยางโป ” เอ้า นายดูสิ “
หยางโปรับมาอย่างประหลาดใจพลางเอ่ยถาม ” นี่คืออะไร ? “
” นายอ่านก็รู้แล้ว ” ลัวย่าวหัวเอ่ย
หยางโปอ่านอย่างละเอียด ไม่นานก็ขมวดคิ้ว ” พวกเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง ? “
ลัวย่าวหัวส่ายหน้า ” พวกเราเก็บซ่อนตราหยกเอาไว้อย่างมิดชิด ว่ากันตามเหตุผลแล้วคนของกรมโบราณคดีของประเทศไม่น่าจะพบนะ “
” วันนั้นคนที่ธนาคารมองเห็นแล้วปล่อยข่าวไปรึเปล่า ” หยางโปเอ่ยคาดเดา
ลัวย่าวหัวชะงัก จากนั้นก็พยักหน้าเอ่ยว่า ” ก็อาจจะเป็นแบบนี้ได้อยู่นะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะรู้เรื่องขนาดนี้ได้ยังไง ? แม่งเอ้ย ธนาคารพึ่งพาไม่ได้ เรื่องแบบนี้ก็กล้าพูดออกไปเหรอ ? “
หยางโปจ้องมองประกาศตรงหน้า ในใจกลับไม่ดีใจเท่าไหร่นัก กระดาษใบนี้คือเอกสารภายในหน่วยงานหนึ่งของกรมโบราณคดีของประเทศ ด้านบนนั้นเขียนว่าพวกเรารู้ว่าลัวย่าวหัวอาจจะเก็บตราหยกสืบทอดราชบังลังก์เอาไว้อย่างชัดเจน ต้องการให้หน่วยงานด้านล่างดำเนินการค้นคว้าต่อไป
พูดกันตามหลักเหตุผลแล้ว เอกสารภายในหน่วยงานแบบนี้ลัวย่าวหัวไม่น่าจะได้มา แต่เขาก็เอามาได้ง่ายๆ หยางโปไม่ต้องคิดก็รู้ นี่พวกเขาตั้งใจส่งมา
หยางโปเงยหน้ามอง ” นายคิดยังไง ? “
” นายมีคนรู้จักไม่ใช่เหรอ ? นายโทรศัพท์ไปสอบถามดูก่อน เพื่อยืนยันสักหน่อย ” ลัวย่าวหัวเอ่ย
หยางโปพยักหน้า เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา ต่อสายหาเบอร์ของเฉาหยวนเต๋อ โทรศัพท์ดังอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่หยางโปคิดว่าจะไม่มีคนรับสายนั้น โทรศัพท์ก็ต่อสายติด
” โอ้ หยางโป ทำไมนายโทรมาเวลานี้ได้ล่ะ ? ” เฉาหยวนเต๋อเอ่ย
หยางโปอึกอักเล็กน้อย แล้วก็เอ่ยไปตามตรง ” ทางผมมีเอกสารภายในกรมของพวกคุณแผ่นหนึ่ง บอกว่าค้นพบตราหยกสืบบัลลังก์ อยากจะเอามันไปค้นคว้าสักหน่อย “
เฉาหยวนเต๋อพลันชะงักไปแล้วหัวเราะขื่น เขาย่อมรู้เรื่องนี้ แล้วก็รู้ชัดว่าหยางโปเป็นหนึ่งในเจ้าของตราหยกสืบบัลลังก์ ตอนนั้นเขาก็เข้าร่วมในการประชุมครั้งนั้น แต่ว่าไม่ได้เอ่ยถามหยางโปไปตรงๆ ” เอกสารฉบับนี้ฉันก็รู้ ตอนประชุม หัวหน้าบางคนเจาะจงชื่อฉันเป็นพิเศษ ให้ฉันอย่าพูดมาก “
หยางโปพยักหน้า ” โอ้ ผมเข้าใจแล้ว “
” พวกนายคิดจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ? ” เฉาหยวนเต๋อเอ่ยถาม
หยางโปเหลือบมองลัวย่าวหัว ” พวกเรายังปรึกษากันอยู่ กำลังพิจารณา “
เฉาหยวนเต๋อลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังเอ่ยว่า ” บอกตามตรง เรื่องนี้ไม่ได้แจ้งนาย ฉันก็เห็นแก่ตัว อ้างอิงจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ ด้วยความสามารถของนาย ตราหยกสืบบัลลังก์เก้าส่วนไม่มีทางผิดพลาด สมบัติล้ำค่าของประเทศแบบนี้ ฉันคิดว่าไม่ควรจะเก็บเอาไว้ในตู้เซฟของธนาคาร ! “
หยางโปถือโทรศัพท์ ไม่ได้พูดจาอะไรนัก ตั้งแต่เฉาหยวนเต๋อเอ่ยว่าไม่ได้โทรบอกกล่าวกัน เขาก็เข้าใจความคิดของอีกฝ่ายดี เฉาหยวนเต๋อบอกเล่าอย่างใจเย็น หยางโปกลับถอนหายใจ บางคำพูดออกไปไม่สำคัญ ก็กลัวว่าจะไม่พูด !
” การไตร่ตรองของคุณก็มีเหตุผล พวกเราจะใคร่ครวญกันเอง ” หยางโปเอ่ย
เฉาหยวนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่ได้โน้มน้าวอีก ” งั้นก็ดีแล้ว ไม่ว่ายังไง หวังว่าพวกเธอจะเก็บรักษาตราหยกเอาไว้ให้ดี “
วางสายโทรศัพท์แล้วหยางโปก็มองลัวย่าวหัว
ลัวย่าวหัวมือหนึ่งวางบนโต๊ะ นิ้วทั้งห้าเคาะบนโต๊ะไม่หยุด นิ้วมือคล่องแคล่วว่องไว แต่ลัวย่าวหัวเคาะโต๊ะกลับรุนแรงมาก !
” นายคิดว่าควรจะทำยังไง ? ” ลัวย่าวหัวเงยหน้ามองหยางโป
หยางโปลุกขึ้นยืน เดินไปมาภายในห้องทำงาน ” เรื่องนี้เกรงว่าจะจัดการไม่ง่ายขนาดนั้น ยังไงมันก็เป็นตราหยกสืบบัลลังก์เชียวนะ ! “
หยางโปกล่าวแล้วจู่ๆ ก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ เขาเงยหน้ามองคอมพิวเตอร์บนโต๊ะของลัวย่าวหัว
” ตอนนี้นายสืบหาบนอินเตอร์เน็ต ดูสิว่าเรื่องนี้เป็นข่าวไปแล้วรึยัง ? “
” ไม่น่ามั้ง พนักงานธนาคารน่าจะไม่ไร้จริยธรรมในอาชีพขนาดนั้นหรอกมั้ง ? “
แม้จะพูดแบบนี้ แต่ลัวย่าวหัวยังลงมือสืบหาบนอินเตอร์เน็ต ค้นหา ” ตราหยกสืบบัลลังก์ ” สี่คำนี้ ก็มองเห็นรายการสืบค้นแรกปรากฏว่า ” ตราหยกสืบบัลลังก์ปรากฏขึ้นที่ธนาคารแห่งหนึ่งในเมืองหลวง ! “
หยางโปมองเห็นหัวข้อข่าวนี้ สายตาก็มองไปด้านล่าง มองเห็นด้านล่างบรรยายเกี่ยวกับข้อความข่าวใหม่เรื่องหนึ่ง หยางโปหันไปมองลัวย่าวหัวที่มองมา ทั้งสองคนสบตากันอย่างตกตะลึง !
” แม่งเอ้ย พวกเขาปล่อยข่าวมาบีบบังคับพวกเรา ! ” ลัวย่าวหัวก่นด่า
หยางโปพยักหน้า เขาเข้าใจชัดเจนดี ข่าวที่เหมือนจะไม่ได้รับการยืนยันแบบนี้ดูแล้วราวกับจะไม่ได้มีความน่าเชื่อถือนัก เป็นไปไม่ได้ที่จะออกข่าวกันเร็วขนาดนี้ จะต้องมีบางคนลงมืออยู่ข้างหลังแน่ๆ !
ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น โทรศัพท์ของลัวย่าวหัวดังขึ้นมา เขาเหลือบมองแล้วก็รับสาย
” ฮัลโหล พ่อ พ่อโทรมาหาผมมีเรื่องอะไร ? “
” แกมีตราหยกสืบบัลลังก์อยู่ใช่ไหม ? “
หยางโปอยู่ใกล้มาก ได้ยินเสียงของอีกฝั่ง เขาพลันตกใจ ลัวซือเต๋อเป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง รู้เรื่องนี้ได้ยังไง ?
” พ่อ พ่อรู้ได้ยังไง ? ” ลัวย่าวหัวก็ประหลาดใจ
” มีคนโทรศัพท์มาหาฉัน บอกเรื่องนี้มา ว่าตราหยกสืบบัลลังก์นี่เป็นเรื่องจริงไหม ? ” ลัวซือเต๋อเอ่ยถาม
ลัวย่าวหัวเหลือบมองหยางโป หยางโปก็พยักหน้า
” เรื่องจริง “
” จริงเหรอ ? ” ลัวซือเต๋อในน้ำเสียงปกปิดความประหลาดใจเอาไว้ไม่อยู่ ” พวกแกไปได้มาจากที่ไหน ? “
” ที่มองโกเลียนอก ” ลัวย่าวหัวเอ่ยตามตรง ” พ่อ เรื่องนี้คงจะไม่อยู่ในความรับผิดชอบของพ่อใช่ไหม ? “
ลัวซือเต๋อถือโทรศัพท์ หายใจดังเล็กน้อย ” ที่แท้ก็อยู่ที่มองโกเลียนอก งั้นก็ดีมาก แต่ว่ายังไงมันก็เป็นตราหยกสืบบัลลังก์นะ ! “
” พ่อ ความหมายของพ่อคือ ? ” ลัวย่าวหัวเอ่ยปากถาม
ลัวซือเต๋อลังเลเล็กน้อย เนิ่นนานถึงค่อยเอ่ยปาก ” ฉันแนะนำให้พวกแกส่งมอบมาเถอะ ยังไงแรงกดดันก็หนักหน่วงเกินไป ! “
ลัวย่าวหัวเงียบขรึมไป ” พวกเราจะปรึกษากันอีกสักหน่อย “
วางสายโทรศัพท์แล้ว ทั้งสองก็เงียบขรึมลงไป ลัวย่าวหัวมองหยางโป ” ถ้าหากเขาไม่ได้ถูกกดดันอย่างหนัก ก็ไม่น่าจะโทรศัพท์มาแบบนี้ “