ตอนที่ 363 ติดต่อ
หยางโปเงยหน้าขึ้นมอง ” โอ้ คุณพูดมาได้เลย “
หยางโปยืนขวางประตูเอาไว้ เพื่อให้คนข้างนอกได้ยืนแค่ที่หน้าบ้านเท่านั้น ไม่มีทางเข้ามาข้างในได้ ชายผู้สวมแว่นในวัยสี่สิบดูเหมือนเป็นผู้ดี เขามองที่หยางโป ” จะไม่ให้เข้าไปพูดกันข้างในเหรอ ? “
” คุยธุระกันแค่ไม่กี่คำจะเข้ามาข้างในทำไม ? ” หยางโปพูดอย่างหงุดหงิด
” เอ่อ ? ” ชายผู้สวมแว่นนั้นงุนงงเล็กน้อย แต่จากนั้นเขาก็นึกถึงคำสั่งของเจ้านายและกล่าวอย่างอดทนว่า
” เราได้รับรายงานว่ามีวัตถุทางวัฒนธรรมอยู่ในมือของคุณ ดังนั้นเราจึงมาขอตรวจสอบสักหน่อย “
หยางโปมองไปที่อีกฝ่าย ทั้งหันไปมองที่หน้าบ้านอีกครั้งซึ่งมีชายแปลกหน้า สองสามคนยืนอยู่ “แค่คุณคนเดียวเหรอ ? “
ชายผู้สวมแว่นเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันมากล่าว ” พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนร่วมงานของผม “
หยางโปพยักหน้า ” อืม ผมรู้ว่ามีทีมผู้บังคับใช้กฎหมายวัตถุทางวัฒนธรรมภายใต้สำนักบริหารมรดกทางวัฒนธรรม ถ้างั้นตอนนี้ผมขอให้พวกคุณแสดงหลักฐานการบังคับใช้กฎหมายของคุณมาหน่อย ! “
ชายผู้สวมแว่นเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ เขายังไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ที่ต้องเอาใบรับรองการบังคับใช้กฎหมายของเขาออกมาจากกระเป๋าเพื่อทำให้มันกระจ่างขึ้นแล้วรีบเก็บกลับไป
หยางโปมองไปที่อีกสองคน ทั้งสองอึดอัดใจ ชายหนุ่มคนหนึ่ง พูดอย่างตรงๆว่า ” ตอนนี้ถ้าคุณตามผมไปที่สำนักงาน ผมจะแสดงเอกสารให้คุณดู ! “
หยางโปมองไปที่อีกฝ่าย ” ตามกฎระเบียบแล้ว สถานการณ์นี้ต้องมีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสองคน ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาของพวกคุณ ผมจะรายงานโดยตรงต่อผู้อำนวยการของพวกคุณ !”
พูดจบ ” ปัง ” หยางโปปิดประตูกระแทก!
ทุกคนมองหน้ากันที่นอกประตู ชายหนุ่มคนนั้นไม่ยอมปล่อยจึงต่อว่า ” ถ้าคุณกล้าพอก็รายงานไป ! “
หยางโปมองไปที่ประตูแล้วส่ายหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร
ลัวย่าวหัวยิ้มแล้วกล่าว ” มันโง่เหมือนควายจริงๆ สำนักบริหารมรดกทางวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานระดับที่สองสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมให้ชุยซื่อหยวนจัดการให้ดีกว่า ! “
พวกเขานั่งอยู่ในห้องด้วยความหมดปัญญา คิดไม่ออก รอจนเสียงจากข้างนอกเงียบไปในที่สุด หยางโปมองไปรอบๆ
” ไม่ได้ ฉันต้องการย้ายของทุกอย่างออกไป ! “
” ไร้ประโยชน์น่า อาจจะมีคนคอยจับตาดูพวกเราอยู่แน่ๆ ” ลัวย่าวหัวส่ายหน้า
หยางโปนิ่งอึ้ง ” งั้นจะนั่งนิ่งๆ อยู่ไม่ได้แล้ว ! “
พูดจบ หยางโปลุกขึ้นและเก็บของ เขามาอยู่เมืองหลวงไม่ได้มีข้าวของหลายอย่าง ค่อยๆเก็บของเอาไว้ในกระเป๋าเดินทาง ขณะที่เขาค่อยๆคิดไตร่ตรองอย่างระมัดระวัง ว่าเขาต้องส่งกระเป๋าเดินทางให้ใครจึงจะปลอดภัย
คิดอยู่พักใหญ่ หยางโปจึงพบว่ามีคนน้อยมากที่เขาไว้ใจได้ จะมีก็แต่ชุยอี้ผิงและหูชิงชิงเท่านั้น
หลังจากพิจารณาคร่าวๆ แล้ว หยางโปได้ตัดหูชิงชิงออกไป ยังไงหูชิงชิงก็อ่อนแอเกินไปในการต่อสู้ แถมจะกลายเป็นเหยื่อได้เท่านั้น แต่ชุยอี้ผิง หยางโปไม่รู้ว่าชุยอี้ผิงจะสามารถไว้วางใจได้รึเปล่า เขาไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลชุยมากนัก !
หยางโปกล่าวถามด้วยความสงสัย ลัวย่าวหัวลุกขึ้นยืนทันที ” มันน่าสับสนจริงๆ ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นภาระของครอบครัวชุยก็แล้วกัน พวกเราจะได้ไม่ต้องกังวลกับมันอีก ! “
หยางโปเงยหน้าขึ้นมอง ลัวย่าวหัวแล้วกล่าว ” แม้ว่าครอบครัวจะแข็งแกร่งมากแต่เมื่อพูดกันโดยละเอียดแล้วยังสู้ตระกูลชุยไม่ได้ “
หยางโปส่ายหน้า ” ฉันไม่ต้องการยืมมือตระกูลชุย “
” ไอ้บื้อเอ้ย ! ” ลัวย่าวหัวด่า
หยางโปส่ายหน้าและคิดอยู่พักหนึ่งว่า แต่ถ้าส่งมอบให้ชุยอี้ผิงเก็บรักษาเอาไว้ ก็ยังไม่ใช่ยืมมือตระกูลชุยช่วยเหลือสักหน่อย ?
ในที่สุดหยางโปก็โทรหาชุยอี้ผิงและขอให้เขามาช่วยย้ายข้าวของ
ในเวลาทุ่มกว่าๆ ชุยอี้ผิงได้รับโทรศัพท์ก็รีบไปอย่างรวดเร็ว หยางโปเอากล่องใส่มือของอีกฝ่ายแล้วกล่าวเน้นย้ำ
” ของในกล่องนี้แพงมากและมีคุณค่ามาก นายช่วยเก็บเอาไว้ให้ฉันสักพัก “
ชุยอี้ผิงเป็นคนฉลาดสังเกตแล้วรู้ปัญหาทันที เขายิ้มแล้วกล่าว ” จะทำเหมือนดูแลลูกบุญธรรมเลย ช่วงนี้นายกำลังทำอะไร ? “
หยางโปส่ายหน้า ” ไม่มีไร เพียงแค่ในชุมชนของฉันขโมยกันได้ง่าย มันไม่ปลอดภัยเลย ดังนั้นฉันต้องการที่จะให้นายเอาไป “
” จริงเหรอ ? ” ชุยอี้ผิงจ้องมอง
หยางโปพยักหน้า ” ฉันไม่ได้หลอกแน่นอน “
ชุยอี้ผิงจ้องมองไปที่หยางโป ” เสี่ยวโปเราเป็นครอบครัวเดียวกัน มีอะไรเกิดขึ้นอย่าปิดบังกันเลย แต่ไหนแต่ไรครอบครัวชุยของเราไม่เคยเกิดปัญหา แต่ถ้ามีก็ไม่เคยกลัวมัน ! “
หยางโปพยักหน้า ” นายวางใจได้ อืม ฉันขอให้นายพาคนมาด้วย นายพามาได้กี่คน ? “
” มั่นใจได้ ฉันมีคนมากพอ ! ” ชุยอี้ผิงกล่าว
หยางโปเป็นกังวลเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
ชุยอี้ผิงถือกล่องเดินออกจากประตู ข้างหลังของเขาตามมาด้วยชายที่แข็งแกร่งสี่คนในชุดเครื่องแบบทหาร ซึ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจในการดูแล ยังไงก็ตามเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำอะไรสักอย่างและต้องโทรไป
” อะไรนะ ? มีคนเข้าไปแล้วเอากล่องไปเหรอ ? ทำไมพวกแกไม่เข้าไปล่ะ ! ” คุณชายจั๋วดูเหมือนจะหงุดหงิด เดินไปเดินมาในห้องพิเศษ เขาหันไปดูซ่งห้าวซวนยังนอนอยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิงคนหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะด่า ” เศษสวะ ! “
” ดูเหมือนว่าจะเตรียมการมาอย่างดี พวกมันพาทหารมาด้วยสี่นาย “
คุณชายจั๋วตาเบิกกว้าง จิตใจเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง ในใจนั้นหงุดหงิดมาก ” รู้รึเปล่าว่ามันคือใคร ? “
” อาจเป็นคนตระกูลชุย ! “
คุณชายจั๋วตกตะลึง แค่นเสียงเย็น ” ฉันเข้าใจแล้ว “
พูดจบ คุณชายจั๋ววางหูโทรศัพท์ เขาเดินไปและตบที่ไหล่ของซ่งห้าวซวน
ซ่งห้าวซวนสะดุ้งอยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิง ไม่นานก่อนที่จะหันหลังกลับ
คุณชายจั๋วดูถูกอยู่ในใจ แต่ก็ยิ้มมุมปากแล้วกล่าว ” พี่น้องลงมือได้ดีมาก ! “
ซ่งห้าวซวนยิ้มอย่างเชื่องช้าใบหน้าของเขาค่อนข้างตึง และดูเหมือนว่าเขาจะไม่สบายใจ ” คุณชายจั๋วเกิดอะไรขึ้น ? “
คุณชายจั๋วบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ซ่งห้าวซวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ” ต้องเป็นชุยอี้ผิงแน่ๆ ทำไมเขาถึงไปปรากฏตัวที่นั่น ? “
คุณชายจั๋วขมวดคิ้ว ” ฉันเข้าใจแล้ว “
คุณชายจั๋วส่งเสียงพึมพำเล็กน้อย เข้าใจว่าตนเองสามารถแตะต้องตระกูลชุยได้ในตอนนี้ ท้ายที่สุดแล้วครอบครัวนั้นไม่สามารถแตะต้องได้ตอนนี้เขาต้องมีสมาธิกับการรับมือกับหยางโปเท่านั้น !
” โทรหาเขาให้ผมหน่อย ! “คุณชายจั๋วกล่าว
ซ่งห้าวซวนรีบนำมือถือของเขา หาหมายเลขมือถือของหยางโปและโทรให้คุณชายจั๋ว
หยางโปเหนื่อยทั้งวันจนกระทั่งชุยอี้ผิงนำของเหล่านั้นไป ในที่สุดเขาก็สามารถผ่อนคลายและเขากำลังจะอาบน้ำ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หยางโบก็แปลกใจกับเบอร์แปลก
เขายังคงกดรับและได้ยินเสียงของชายคนหนึ่ง ” คุณหยาง คุณสบายดีไหม ! “
หยางโปตกใจและมองดูเวลาตอนนี้ใกล้จะถึงสี่ทุ่มแล้ว คาดเดาบางอย่างในใจ เมื่อเห็นว่าหลัวย่าวหัวได้ยืนขึ้นแล้ว เขากดมือถือของเขาแล้วกล่าว ” สวัสดี ! “
” ทำไมรับช้าจัง ไม่รบกวนคุณหยางพักผ่อนอยู่ใช่ไหม ! ” อีกฝ่ายกล่าว
หยางโปมองไปที่ลัวย่าวหัวจุ่มมือลงในน้ำแล้วเขียนลงบนโต๊ะ ” ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ! “
ลัวย่าวหัว ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ !
หยางโปยิ้ม ” สบายดี “