เนตรเซียนทะลุสมบัติ – ตอนที่ 200

ตอนที่ 200 ดูถูก

“เสี่ยวหย่ง พ่อแม่เธอล่ะ?” เมื่อกลับมาถึงบ้าน ตาอ้วนหลิวก็เอ่ยปากถามเสียงค่อย

“ตอนที่พวกเราเพิ่งมาถึงเยอรมัน พวกท่านก็ประสบอุบัติทางรถยนต์” หลิวหย่งอธิบายประโยคหนึ่ง ก่อนจะกล่าวขึ้นอีกว่า “ครั้งนี้ต้องขอบคุณทั้งสองท่านจริงๆ ความจริงแล้วกิจการร้านอาหารของที่บ้านไม่ดีมาตลอด ถ้าไม่มีเงินทุน เกรงว่าใกล้จะต้องปิดร้านแล้ว”

ตอนนี้ตาอ้วนหลิวถึงได้เข้าใจ พ่อแม่หลิวหย่งเสียไปแต่แรกแล้ว ไม่แปลกที่หญิงชราจะไม่ยอมพูดถึงตอนอยู่ในโรงพยาบาล

 

หลิวหย่งเอาของแต่ละชิ้นออกมา หยางโปทำการประเมินของ ประเมินราคา ส่วนตาอ้วนหลิวก็แยกประเภทในขั้นท้ายสุดและรวมสถิติ

ทั้งสามคนรู้กันอย่างเงียบๆ แม้ว่าของสะสมจะมีเก้าร้อยกว่าชิ้น แต่ทั้งสามคนใช้เวลาสี่ห้าชั่วโมง ก็รวมของสะสมทั้งหมดเสร็จ

ใช้เวลาอีกสิบกว่านาที ในที่สุดตาอ้วนหลิวก็เงยหน้าขึ้น หยางโปกับหลิวหย่งต่างมองไปทางเขา ทั้งสองคนใจร้อนอยากรู้ผลสถิติท้ายสุด

ตาอ้วนหลิวลังเลเล็กน้อย ในที่สุดก็เอ่ยปากว่า “ทั้งหมดมีของจริงสิบสองชิ้น มูลค่าสามหมื่นยูโร ที่เหลือเก้าร้อยเจ็ดสิบเอ็ดชิ้นเป็นของปลอม มีสามร้อยสี่สิบชิ้นที่มีใบเสร็จ น่าจะคืนของได้”

 

หลิวหย่งผงกศีรษะ หันไปโบกมือให้ทั้งสองคน “ดึกมากแล้ว ทุกคนเองก็เหนื่อยแล้ว รีบพักผ่อนเถอะครับ”

เห็นหลิวหย่งเป็นอย่างนี้ พวกหยางโปทั้งสองคนก็ไม่พูดอะไรอีก แต่ละคนกลับไปที่ห้อง ไม่ว่าใครก็รู้ว่าตอนนี้สภาพจิตใจของหลิวหย่งแย่ถึงขีดสุด ของราคาหลายแสนดอลล่าร์ คิดเป็นหลายล้านหยวน ราคากลับลดลงมาอย่างนี้ แต่สุดท้ายสามารถแลกเอาเงินคืนกลับมาได้สองสามแสนดอลล่าร์ ก็นับว่าไม่เลวแล้ว

วันต่อมาหลิวเจียจวิ้นยืนยันที่จะออกจากโรงพยาบาล หญิงชราคิดว่าให้เขาเห็นของสะสมแต่ละชิ้นถูกขายจะทำให้เขาเจ็บปวดเกินไป จึงปฏิเสธไม่ให้เขาออกจากโรงพยาบาล

หยางโปกับตาอ้วนหลิวร่วมกับหลิวหย่งเอาของปลอมและใบเสร็จมุ่งหน้าไปคืนของที่แต่ละร้าน

 

นับกันจริงๆ แล้ว ของที่หลิวเจียจวิ้นซื้อมามีส่วนหนึ่งเป็นผลงานยุคปัจจุบัน แต่กลับถูกเขาสะสมเป็นวัตถุโบราณ ร้านส่วนใหญ่จึงยอมคืนเงินให้ มีร้านแค่ส่วนน้อยที่ไม่ยอมให้คืนของ เพราะใบเสร็จนานเกินไป คนในร้านล้วนเปลี่ยนคนไปหมดแล้ว

แน่นอนว่าก็มีส่วนหนึ่ง ที่เพราะร้านปิดกิจการไปแล้ว จึงไม่มีทางที่จะคืนของได้ เมื่อยุ่งกันตลอดช่วงสาย พวกเขาเพิ่งคืนของได้ยี่สิบกว่าชิ้น ได้เงินมาสองหมื่นกว่าดอลล่าร์คืนมา ยังมีของที่ไม่สามารถคืนเหลืออยู่มากยิ่งกว่า

ทั้งสามคนหาที่กินข้าว ตาอ้วนหลิวมองไปทางหลิวหย่ง “ประสิทธิภาพของพวกเราแย่มาก สายวันนี้ไปมาทั้งหมดหกร้าน นี่ยังเป็นเพราะร้านพวกนั้นอยู่ค่อนข้างจะใกล้กัน ในบรรดาพวกนี้ยังมีสองร้านที่ปิดกิจการแล้ว ถ้าคิดจะคืนของทั้งหมด คงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในวันสองวัน!”

 

หลิวหย่งพยักหน้า เขาเองก็เข้าใจในข้อนี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงถึงจะดี

“อาเล็ก อามีวิธีไหมครับ?” หลิวหย่งมองอีกฝ่าย

ตาอ้วนหลิวยิ้ม “หาคนมาช่วย ของเยอะขนาดนี้ อาศัยพวกเราสามคน ยากที่จะทำสำเร็จ ที่สำคัญฉันกับ

หยางโปไม่รู้ภาษาเยอรมัน ไม่มีใบขับขี่ของที่นี่ ได้แต่ต้องไปคืนของด้วยกันกับเธอ ไม่มีทางที่จะทำด้วยตัวเองได้เลย”

“ครับ ผมจะโทรขอให้เพื่อนมาช่วย แต่หลังจากนี้ ยังต้องพึ่งพาทั้งสองท่านช่วยดูแลควบคุมด้วย” หลิวหย่งพูด

ตาอ้วนหลิวพยักหน้า “เธอวางใจเถอะ”

 

เมื่อจ้างคนแล้ว ก็เร็วขึ้นมา พวกหยางโปทั้งสามคนทำการแบ่งประเภทใบเสร็จที่อยู่ด้านล่าง เมื่อเป็นอย่างนี้ ของของบางร้านก็สามารถวางไว้ด้วยกันได้ จากนั้นก็ส่งให้คนเหล่านั้น แล้วก็เอาใบเสร็จไปคืนของ

หลิวหย่งเองก็นับว่าเป็นคนร่ำรวย ตอนบ่ายก็หาคนมาได้ห้ากลุ่ม หยางโปรีบแบ่งประเภท ไม่ทันได้สังเกต หันกายไปก็พบว่าของส่วนใหญ่ล้วนถูกส่งออกไป ที่เหลือทั้งหมดเป็นของที่คืนไม่ได้

ร้านที่เหลือท้ายสุดมีวัตถุโบราณอยู่หกชิ้น ตาอ้วนหลิวมองแวบหนึ่ง หันไปบอกหลิวหย่งว่า “ร้านสุดท้ายมีอีกไม่กี่ชิ้น พวกเราไปด้วยตัวเองกันเลยเถอะ”

 

หลิวหย่งผงกศีรษะ ตอนแรกเขาวางแผนจะอยู่เก็บของ แต่พวกหยางโปทั้งสองคนยุ่งวุ่นวายช่วยเขาตั้งขนาดนี้ เขาจึงไม่อาจไม่ขับรถพาทั้งสองคนมุ่งหน้าไปร้านวัตถุโบราณได้

เมื่อทั้งสามคนมาถึง ก็เป็นเวลาสี่โมงครึ่งแล้ว อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะปิดร้านแล้ว หลิวหย่งรีบเข้าไปเจรจาขอคืนของ

หยางโปเดินเข้าไปในร้าน สังเกตเห็นงานศิลปะที่อยู่ทั้งสี่ด้าน ร้านงานศิลป์ของพอทสดัมมีอยู่ไม่มาก หลิวเจียจวิ้นเองก็มีงานศิลป์ส่วนหนึ่งที่ซื้อมาจากเมืองอื่น ดังนั้นจึงมีทางอยู่สองทาง ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถคืนของได้หรือเปล่า

 

ในร้านมีงานศิลปะหลายชนิด ภาพวาดสีน้ำมันตะวันตก รูปปั้นแกะสลัก เครื่องเคลือบจีน เครื่องเขินญี่ปุ่น เครื่องทองอียิปต์โบราณ แน่นอนว่าหยางโปสามารถมองออกว่า ส่วนใหญ่ล้วนเป็นของทำเลียนแบบ และก็เป็นงานศิลปะทั่วไป ไม่แปลกที่ราคาของที่หลิวเจียจวิ้นซื้อไปจะไม่สูง

สายตาของหยางโปตกอยู่ที่เครื่องเคลือบกลุ่มหนึ่ง เครื่องเคลือบพวกนี้ทำตามแบบการเผาเครื่องเคลือบเตาเผาเกอในสมัยราชวงศ์ซ่งของจีน เครื่องเคลือบเตาเผาเกอเป็นหนึ่งในเตาเผาทั้งห้าที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งของราชวงศ์ซ่ง เป็นเตาเผาพระราชวังหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์ เป็นสมบัติที่ล้ำค่าหายากอย่างยิ่งในหมู่งานเครื่องปั้นที่ราชสำนักซ่งเหนือได้ทำขึ้น เบื้องหน้านี้ คือเครื่องเคลือบเตาเผาเกอแห่งราชวงศ์ซ่งเหนือที่เหลืออยู่ในโลกนี้

 

เตาเผาเกอมีลักษณะพิเศษเฉพาะที่เด่นชัดเป็นที่สุด เพราะว่าบนผิวเคลือบจะมีรอยร้าวกระดองเต่าอยู่ รอยร้าวประเภทนี้นับเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผู้คนหลงใหล และคนรุ่นหลังก็มีการทำของเลียนแบบขึ้นมามากมาย

ตอนที่หยางโปเห็นเครื่องเคลือบพวกนี้ ความประทับใจแรกก็คือรู้สึกเหมือนมันเป็นของเลียนแบบ เพราะสีของเครื่องเคลือบเตาเผาเกอพวกนี้สดใส ไม่เหมือนของโบราณเลยสักนิด

แต่ว่า หยางโปกวาดสายตาอย่างสนใจแวบหนึ่ง แสงสว่างวาบขึ้น หยางโปก็ชะงักไปในทันที

หลิวหย่งตกลงราคากับพนักงานขายได้เรียบร้อยแล้ว การคืนของจำเป็นต้องมีส่วนลด แต่จะให้พูดแล้วสำหรับหลิวหย่งนั้น สามารถคืนของได้ ก็นับว่าชดเชยความเสียหายได้แล้ว ดังนั้นเขาเองก็ได้แต่ยอมรับ

 

หยางโปสังเกตเห็นพนักงานขายหญิงผมทองตาฟ้าคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า เขาชี้ไปที่เครื่องเคลือบเตาเผาเกอทั้งสามชิ้น ใช้ภาษาอังกฤษถามอีกฝ่ายว่า “ราคาเท่าไหร่?”

พนักงานขายกวาดสายตามองแวบหนึ่ง เงยหน้าขึ้น ไม่เอ่ยคำ

หยางโปขมวดคิ้ว ใช้ภาษาอังกฤษถามอีกครั้ง

พนักงานสาวกระซิบกระซาบประโยคหนึ่ง หยางโปฟังไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

หลิวหย่งเดินเข้ามา ก่อนจะพูดกับพนักงานหญิงอย่างโมโหด้วยภาษาเยอรมันประโยคหนึ่ง

หยางโปฟังไม่เข้าใจ แต่เห็นสีหน้าของพนักงานหญิงเมื่อกี้ เขาก็รู้ความคิดของอีกฝ่ายได้ หยางโปดึงหลิวหย่ง ก่อนจะให้เขาขอพบผู้จัดการโดยตรง

 

หลิวหย่งหันไปมองตาอ้วนหลิวแวบหนึ่ง เห็นเขาไม่มีทีท่า ก็ใช้ภาษาเยอรมันขอให้อีกฝ่ายเรียกผู้จัดการออกมา

ผู้จัดการเป็นชายใบหน้ากลมอายุสี่สิบกว่าปี พอเห็นพวกหยางโปทั้งสามคน เขาก็มีสีหน้าเหยียด เปิดปากคิดจะถามเหตุผล

หยางโปไม่อยากจะพูดกับอีกฝ่ายให้มากคำ จึงหยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าเงิน วางไว้บนเคาน์เตอร์ ชี้ไปที่เครื่องเคลือบเตาเผาเกอทั้งสามชิ้นอีกครั้ง “ผมต้องการซื้อ!”

เช็คใบนี้เป็นเช็คหนึ่งล้านยูโรที่หยางโปยังไม่ได้เอาไปขึ้นเงินใบนั้น

 

ตอนแรกผู้จัดการรู้สึกดูถูกอีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นตัวเลขบนเช็คก็ชะงักค้างไปทันที หนึ่งล้านยูโรสามารถที่จะซื้อร้านนี้ได้ราวแปดส่วน สามารถที่จะหยิบเช็คมูลค่ามากอย่างนี้ออกมาได้ พวกเขาย่อมไม่ใช่พวกที่จะสามารถแหย่ได้อย่างแน่นอน

ผู้จัดการรีบโค้งกายขออภัย พนักงานหญิงคนนั้นเองก็ตกใจจนรีบโค้งคำนับ

หยางโปฟังคำพูดอีกฝ่ายไม่เข้าใจ เขาเก็บเช็คขึ้นมา แล้วให้อีกฝ่ายห่อเครื่องเคลือบเตาเผาเกอ ก่อนจะรูดบัตรแล้วจากไป

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เป็นเพราะพ่อที่ป่วยหนัก อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล จึงทำให้หยางโปเด็กฝึกงานของร้านขายวัตถุโบราณต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กดดัน เป็นเพราะจิตใจที่มีเมตตาของเขาจึงทำให้เขาได้รับหินแก้วโดยบังเอิญ จนทำให้ดวงตาของเขาสามารถประเมินสมบัติอันล้ำค่าได้ มาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถตรวจสอบสมบัติเหล่านั้นและล้มล้างชะตากรรมได้อย่างไร…….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset