ตอนที่ 383 การเปลี่ยนแปลงอย่าฉับพลัน
หยางโปคลายกระจกในมือลง เขาพอใจกับการเคลื่อนไหวของเขามาก
ซุนเหอจั๋วถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่เศษกระจก และใช้น้ำเสียงหวาดกลัว สรุปว่าแก … ต้องการอะไร ? “
” เป็นฉันที่ควรจะถามนาย สรุปแล้วนายต้องการอะไร ? หยางโปจ้องไปที่ซุนเหอจั๋ว
นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ? นายให้ฉันเข้าไปทีซิ !
ในที่สุดเย่เหวยหลินก็รีบเข้ามา เมื่อเห็นพื้นที่ยุ่งเหยิงไปหมด และหยางโปที่ถือแก้วแตกเอาไว้บนคอซุนเหอจั๋วอยู่ เขาก็บุกเข้ามาทันที ” สรุปแล้วนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ? “
เหวยหลิน เหวยหลิน ! รีบช่วยฉันเร็ว ! ซุนเหอจั๋วรีบร้องขอความช่วยเหลือ เสียงปนสะอื้น
เย่เหวยหลินหันกลับมามองรอบๆแล้วตะโกน มองอะไร ไม่ต้องมามอง จะไปไหนก็รีบไป !
เย่เหวยหลินเหลือบมองไปที่ซุนเหอจั๋ว และมองหยางโปอีกครั้ง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?ทำไมพวกนายถึงทะเลาะกัน ? เรื่องนั้นมันจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ ?
หยางโปพูดเสียงเย้ยหยัน ประโยคนี้ นายควรไปถามคุณชายซุนนะ ว่าทำไมพอเจอหน้าฉันก็ขอให้เถ้าแก่มาเก็บค่าทิปที่ฉันทันที แถมยังจี้เอาสาวที่ฉันพูดคุยด้วยเอาไว้อีก
เมื่อพูดจบ หยางโปก็เอ่ยถึงชื่อหลิวยียีทันที เขาเงยหน้าขึ้นเห็นหลิวยียีถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งจับกุมตัวเอาไว้ ถังพังจื้อก็ลุกยืนขึ้นเช่นกัน เรามาแลกตัวประกันกันเถอะ !
เมื่อเย่เหวยหลินได้ยินประโยคนี้ ก็โกรธขึ้นมาทันที เขาลุกขึ้นยืนเดินไปที่ด้านข้างของถังพังจื้อ และใช้มือทั้งสองข้างสลับกันตบ เพียะ เพียะ เพียะ เพียะ ได้ยินเสียงตบดังมาสี่ครั้ง เสียงดังฟังชัด คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็พากันตกใจ !
ไอ้อ้วน แกอยากตายเหรอ ! มันมาถึงจุดนี้แล้ว แกยังจะมาหาเรื่องอีก ! แกมันโง่จริงๆ !
เย่เหวยหลินพลางตีพลางดุด่าไปด้วย
ถังพังจื้อยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น เขาใช้เวลาสักครู่ก็ได้สติกลับคืนมา ถอยกลับไปหนึ่งก้าว
” คุณชายเย่ คุณหมายความว่ายังไง “
ฉันหมายความว่าไง ?นี่แกอยากให้ซุนเหอจั๋วตายไปเร็วๆรึไง ! เย่เหวยหลินทำเสียงดูถูก
ผม … ผมไม่ได้ ถังพังจื้อปฏิเสธ
เย่เหวยหลินทำเสียงเย้ยหยัน ฉันเลี้ยงแขก แกก็ยังกล้าไปเก็บเงินเขาอีก !
ใช้เท้าแตะเข้าไปที่ท้องของถังพังจื้อ จนเขาต้องเอามือกุมท้อง และถอยหลังไปสองก้าว
เย่เหวยหลินมองไปทางหยางโป เขายิ้มเล็กน้อย เสี่ยวโป เรื่องวันนี้ฉันจะไกล่เกลี่ยเอง นายก็ปล่อยไปเถอะนะ?
หยางโปเงยหน้าขึ้นมองเย่เหวยหลิน ก็เห็นเย่เหวยหลินกระพริบตาใส่เขาอีกครั้ง เหมือนกับส่งสัญญาณลับ หยางโปแปลกใจเล็กน้อย แต่ในใจก็โมโหจนยากที่จะระงับอารมณ์ลงได้ เขากับซุนเหอจั๋วไม่ถูกชะตากันนานแล้ว ตอนนี้เขามีโอกาส แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่
หยางโปยืนขึ้น ถีบไปที่หน้าท้องของซุนเหอจั๋ว จนร่างของซุนเหอจั๋วขดงอตัวเหมือนกุ้งที่ถูกต้มสุกยังไงอย่างนั้น !
เย่เหวยหลินเบิกตากว้าง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกไป
ซุนเชี่ยนหยุนไม่รู้ว่าวิ่งเข้ามาจากไหน เมื่อเห็นเข้ากับฉากนี้เข้าพอดี เธอก็ร้องอย่างตกใจ แล้ววิ่งพุ่งเข้ามา เย่เหวยหลิน นายกำลังทำอะไรอยู่ ? พวกนายจะตีพี่ของฉันเหรอ ?
เย่เหวยหลินที่ถูกปรับปรำแสยะปากและไม่ได้พูดอะไร
ซุนเชี่ยนหยุนวิ่งเข้าไปประคองซุนเหอจั๋วขึ้นมา ก็มองไปทางหยางโปด้วยความขุ่นเคืองใจ
พวกแกรอดูเถอะ ! ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่ !
พูดไปซุนเชี่ยนหยุนก็ประคองซุนเหอจั๋วและจะเดินออกไป
ซุนเหอจั๋วจ้องไปที่ซุนเชี่ยนหยุน ฉันไม่ไป ช่วยเรียกคนมาให้ฉันที !ไปเรียกพรรคพวกมา ฉันจะฆ่าพวกมัน !
” อ่า ” เสียงร้องแหลมดังมาอีกครั้ง ซุนเชี่ยนหยุนรู้สึกว่าซุนเหอจั๋วที่อยู่ในอ้อมแขนใช้แรงต้าน เธอจนต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าว เธอโซเซจนเกือบจะล้มลงไปกับพื้น !
ซุนเหอจั๋วกุมเป้าของตัวเองอีกครั้ง และขดตัวเป็นวงกลมทันที !
ซุนเชี่ยนหยุนเงยหน้าขึ้น เห็นช่วงเวลาที่หยางโปหดขากลับเข้าพอดี เธอจ้องมองไปและตะโกน
แกอยากตายมากใช่ไหม !
หยางโปจ้องไปที่ซุนเชี่ยนหยุน เขาก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ซุนเชี่ยนหยุนเห็นแบบนั้นก็กลัวจนรีบก้าวถอยหลัง !
คนที่เฝ้าดูเหตุการณ์ก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ซุนเชี่ยนหยุนประคองซุนเหอจั๋ว และทำเสียงเยาะเย้ย แล้วเดินออกไปข้างนอก
เย่เหวยหลินดึงหยางโปไว้ เมื่อเขาเดินผ่านถังพังจื้อ หยางโปก็เหลียวไปมอง ถังพังจื้อเห็นแบบนั้นก็กลัวจนซวนเซก้าวถอยหลังไปหลายก้าว จนชนเข้ากับโต๊ะกระจก เสียงดัง เพลี้ยง แก้วและ ขวดบนโต๊ะตกกระจัดกระจายลงไปทั่วพื้น น้ำเปียกโชกไปทั่วทั้งตัวถังพังจื้อ เขาลำบากใจและกระอักกระอ่วนใจสุดๆ !
เย่เหวยหลินลากหยางโปออกไป หยางโปถูกลมพัดเยือกเย็นด้านนอก ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาและ กระชับเสื้อผ้าให้แน่นๆ
สวัสดี ! หยางโปได้ยินเสียงสั่นเทาเสียงหนึ่ง เขาก็หันกลับไปมอง เห็นหลิวยียีเดินออกมากับคนสองคน
เย่เหวยหลินจะเอ่ยถาม หยางโปก็ส่ายหัวเล็กน้อย พวกเราทุบร้านคนอื่น ถ้าเธอกลับคนเดียวก็จะไม่ปลอดภัย
เย่เหวยหลินเหลือบมองหยางโป เขาถอนหายใจเบาๆ และเข้านั่งในรถ หยางโปก็นั่งตำแหน่งคนขับ หลิวยียีก็ไปนั่งที่เบาะหลังอย่างเงียบ ๆ
รถขับมาถึงด้านหน้าร้านสวรรค์บนดิน ก็หยุดรถลง
เย่เหวยหลินปรับเบาะให้เอนไปด้านหลัง แล้วเอนตัวลงนอน
หยางโปประหลาดใจมาก นายไม่กลับไปเหรอ ?
เย่เหวยหลินหันมายิ้มเล็กน้อยให้หยางโป และมองไปที่เบาะหลังอีกครั้ง เฮ้ย เฮ้ย ไอ้เด็กน้อยคืนนี้นายมีโชคนะ ด้านข้างมีโรงแรม พวกเธอสามารถ …
” อย่าพูดพล่ามไร้สาระ ! ” หยางโปเอ่ยเสียงดุ
เย่เหวยหลินยิ้มกรุ่มกริ่ม แล้วส่ายหัว เมื่อสักครู่ฉันแหกปากร้องตะโกนมากเกินไป เลยหิวน้ำขึ้นมาซะแล้วสิ
หยางโปที่กำลังจะด่า ก็ได้ยินเสียงที่คมชัดเหมือนเสียงนกดังมาจากข้างหลังของเขา ฉันจะไปซื้อน้ำในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้เอง
เย่เหวยหลินได้ยินแบบนั้นก็ยื่นแบงค์สีแดงใบหนึ่งให้ไป หลิวยียีหยิบมาโดยไม่มีพูดอะไร ก็เดินลงจากรถแล้วเดินไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตทันที
หยางโปมองไปที่เย่เหวยหลิน ” นายต้องการจะพูดอะไร “
” พี่น้องตระกูลซุนรีบเร่งออกไปแบบนี้ ยัยซุนเชี่ยนหยุน ก็ไม่พูดอะไรสักคำ นายคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติเหรอ ? ” เย่เหวยหลินหันหน้ามามอง
หยางโปสงสัยบางอย่าง เขาไม่ค่อยเข้าใจ นายหมายถึงอะไร ?
” ดูท้องฟ้าในคืนนี้ซิ มันจะเกิดเรื่องบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ดังนั้นฉันเลยพานายมาที่นี่ เพื่อทำให้นายรู้สึกดีขึ้นยังไงละ ! ” เย่เหวยหลินพูด
หยางโปสงสัยบางอย่าง มองไปทางด้านหน้า ก็เห็น สวรรค์บนดิน อักษรสี่ตัวกระพริบอยู่ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง แล้วหันหน้าไปมองเย่เหวยหลิน ” ร้านนี้เป็นของใคร ? “
” หรือว่านายดูไม่ออก ? ” เย่เหวยหลินยิ้มกรุ่มกริ่ม
ได้ยินแบบนั้นหยางโปก็เข้าใจทันที ตระกูลซุนซินะ
” รอก่อน คืนนี้ฉันมีละครดีๆให้นายได้ดู ! ” เย่เหวยหลินไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย เขาเอนตัวลงนอนต่อไป หยางโปมองผ่านกระจกหลัง ก็เห็นหลิวยียีเดินกลับมาแล้ว
หลิวยียีเอาน้ำให้สองคน และไม่พูดอะไรมาก แค่เข้าไปนั่งที่เบาะหลัง รออยู่อย่างเงียบ ๆ
ค่ำคืนที่ปกคลุมไปด้วยความมืดสนิท การจราจรเคลื่อนไหวไปรอบๆไม่หยุด แสงหลอดไฟนีออนกระพริบสว่างไสว
หลิวยียีก้มหน้าอยู่นานถึงจะเงยหน้าขึ้นมอง เหมือนกับพูดพึมพำอยู่ ดูเหมือนจะบอกให้หยางโปเปิดประตู ” ต่อไปฉันจะไม่มาที่นี่อีก ฉันวางแผนที่จะไปตลาดและบริษัทไวน์สักแห่ง พวกเขาคงต้องการนักชิมไวน์มืออาชีพแน่ “
แสงสลัวภายใต้ดวงไฟข้างถนน เย่เหวยหลินที่เอนตัวนอนอยู่บนเบาะ ก็ได้ยินเสียงไซเรนแผ่วเบาดังขึ้น…