ตอนที่ 203 เงินช่วยชีวิต
ชื่อของเครื่องเคลือบเกอเหยา ไม่พบในเอกสารสมัยราชวงศ์ซ่ง เพิ่งจะมีการกล่าวถึงเครื่องเคลือบเกอเหยาในสมัยราชวงศ์หยวน ซวีจือเหิง คนในสมัยราชวงศ์ชิง บันทึกอิ่นหลิวไจพูดถึงเครื่องเคลือบลายคราม เมืองหลง
ฉวนในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ มีพี่น้องตระกูลจางทำเครื่องเคลือบเลี้ยงตัว จางเซิงอี้ผู้พี่ทำเครื่องเคลือบที่มีเนื้อลายละเอียดคุณภาพดี ลวดลายที่เป็นรอยแตกร้าวซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว ดังนั้นจึงถูกตั้งชื่อว่าเกอเหยา ซึ่งนี่ดูจะสมกับชื่อเสียงดี หลังจากการก่อตั้งประเทศแล้วขุดค้นทางโบราณคดีในเมืองหลงฉวน ได้ค้นพบศิลาดลเนื้อแตกลายสีดำ เครื่องเคลือบลายครามเมืองหลงฉวนลวดลายละเอียด
เครื่องเคลือบเกอเหยาราชวงศ์ซ่งที่สืบทอดกันมา เครื่องมือแกะสลักสร้างในรูปแบบเครื่องทองสัมฤทธิ์มากขึ้น เช่นเดียวกับรูปแบบเครื่องลายครามที่ราชสำนักใช้ มันน่าจะมาจากเตาเผาหลวงเอง และดังกล่าวข้างต้น เกอเหยาของจางเซิงอี้เผาแค่ในเตาส่วนตัวของชาวบ้าน
ต่อมา หลังจากการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีแล้ว และก็ตรวจสอบความแตกต่างระหว่างทั้งสองใบด้วย ทุกคนทำได้แค่เพียงคาดเดา เครื่องเคลือบเกอเหยาราชวงศ์ซ่งดูเหมือนว่าจะมาจากเตาเผาหลวงที่สร้างในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ เพียงแต่ว่าเตาเผาหลวงในเวลานั้นถูกเก็บเป็นความลับจากผู้คน เมื่อเตาถูกทิ้งและได้ทำการอีกครั้ง ดังนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังหาที่ตั้งของเตาเผาไม่พบ เพราะรุ่นต่อมาชื่อเสียงของเครื่องเคลือบเกอเหยาของจางเซิงอี้โด่งดังมาก มันขึ้นชื่อว่าเครื่องเคลือบล็อตนี้ออกมาจากเตาหลวงในสมัยซ่งใต้ น่าจะทำให้เกิดส่วนที่ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ถูกดึงมาวิเคราะห์ไปด้วย
หยางโปได้รับเครื่องเคลือบเกอเหยาของราชวงค์ซ่งเหนือซึ่งมันหายากมากๆ มีคุณค่าต่อการศึกษาสูงมากจริงๆ
ดังนั้น ในคืนที่ได้รับเครื่องเคลือบเกอเหยา หยางโปเลยจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว ในตอนเช้ามืดฟ้าสลัว หลิวหย่งก็ได้ขับรถไปส่งทั้งสองคนถึงสนามบิน
หยางโปเอาใบแจ้งหนี้ติดตัวไปกับเขาด้วย เขาเตรียมตัวไว้พร้อมนานแล้ว เครื่องเคลือบเกอเหยาทั้งสามใบนี้ เขาจะต้องยื่นภาษี มูลค่าสามหมื่นยูโร ภาษีมูลค่าเพิ่มรวมแล้วเกือบ 30% ภาษีอย่างมากที่สุดก็เก้าหมื่นหยวน เขายังคงสามารถเอามันออกมาได้
แม้ว่าหยางโปนั้นจะเข้าใจดีว่าตอนนี้การตรวจสอบงานศิลปะไม่ค่อยเข้มงวดมาก ภายใต้สถานการณ์ปกติยังสามารถผ่านได้ โดยไม่ต้องยื่นภาษี แต่เขาก็รู้ดีว่าถ้าเครื่องเคลือบเกอเหยาของราชวงค์ซ่งเหนือถูกเปิดเผย ในการตรวจสอบจะมีผู้สื่อข่าวคอยติดตามเขา ข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆนี้ จะทําให้เสื่อมเสียได้
หยางโปรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน เขาปิดมือถือ
แม่เห็นพ่อหยางล้มลง ทันใดนั้นก็ตื่นตระหนก เลิ่กลั่กไม่รู้จะทำยังไง
โชคดีที่ทุกคนกระตือรือร้นมาก ช่วยโทรไปยังเบอร์รถฉุกเฉิน ไม่นาน รถพยาบาลก็มาถึง แม่หยางตามไปที่โรงพยาบาล
ถึงโรงพยาบาลแล้ว พยาบาลที่กำลังถือรายการ หันไปถามแม่หยาง “คุณต้องไปจ่ายเงินก่อน”
แม่หยางจู่ๆ ก็นิ่งอึ้งไป เธอไม่มีเงินในบัตรATM หยางหล่างก็ลั้นลาอยู่เมืองหลวง ตอนนี้คงมาไม่ทัน เธอต้องพูดโกหก “คุณพยาบาล ตอนนี้ฉันไม่มีเงินติดตัวมา ขอกลับไปเอาที่บ้านก่อนได้ไหม แล้วจะเอามาให้ทีหลัง?”
พยาบาลขมวดคิ้ว “ไม่ได้ คุณกลับไปไม่ได้ ต้องมีใครอยู่ที่นี่สักคน ถ้าหากอีกเดี๋ยวมีจุดที่ต้องเซ็นชื่อขึ้นจริงๆ คุณไม่ได้อยู่ที่นี่นั่นก็จะใช้เวลานานเกินไป ฉันคิดว่าอย่างนี้แล้วกัน คุณโทรหาคนในบ้านให้เอามาส่งนะ”
แม่อารมณ์เสียขึ้นมา มือถือของเธอพังเสียแล้ว มือถือของพ่อหยางที่เธอพึ่งจะหยิบขึ้นมา แต่ข้อตกลงของพ่อ
หยางและหยางโป ไม่มีเบอร์โทรของหยางโปอยู่แต่แรกแล้ว อย่างนี้แล้วจะให้เธอไปเอาเงินมาจากไหน?
“คุณรอสักครู่นะ ฉันจะโทรให้คนเอามาให้!” แม่ต้องเกลี้ยกล่อมพยาบาลให้ออกไป แล้วจึงเริ่มต้นในการดูสมุดรายชื่อ
แม่โทรไปหาหยางหล่างอีกครั้ง ไม่นานก็ติดต่อได้
“พ่อ พ่อไม่ได้ด่าว่าผมเป็นลูกชั่วเหรอ? ยังจะโทรมาหาผมทำไม? พ่อกำลังวางแผนที่จะจ่ายเงินให้ผมไปลั้นลามากขึ้นเหรอ?” พูดแล้ว ฮ่า ฮ่า หยางหล่างก็หัวเราะขึ้นมา
แม่หยางได้ยินคำพูดแบบนี้ ทันใดนั้นก็โกรธเอามากๆ กล่าวด้วยความโกรธ “พ่อของแกโกธรแกจะตายอยู่แล้ว แกยังหัวเราะได้อีก!”
ฮ่าฮ่า หยางหล่างยังคงหัวเราะแล้วกล่าว “โกธรมากก็ดี เขาไม่ดูถูกผมไปตลอดเลยล่ะ? เขาไม่รู้สึกมาตลอดเลยเหรอว่าผมไม่สามารถเปรียบเทียบกับลูกชายคนเล็กของเขาได้? ผมแค่อยากจะทำให้เขาโกรธมาก ให้เขาโกรธมากๆ!”
แม่ใจแทบขาด “อาเสี่ยวหล่าง พ่อแกโกธรแกจนเข้าโรงพยาบาลแล้ว แกจะให้พ่อแกโกรธแกไปจนตายจริงๆ เหรอ?”
หยางหล่างตกตะลึง จากนั้นจึงกล่าว “แม่ ผมขี้ขลาด อย่าทำให้ผมตกใจสิ!”
“ถ้าแกขี้ขลาด ถ้าแกขี้อายแกก็คงจะไม่ขโมยบัตรเครดิตATMที่บ้านออกไปเที่ยวข้างนอกหรอก!” แม่อยากจะดุด่าหยางหล่างชุดใหญ่
แต่เธอไม่มีแรงมากขนาดนั้น เพียงแค่ถาม “แกเอาโฉนดบ้านไปทำไม?”
“แม่โฉนดบ้านมันเป็นชื่อของผม ต่อไปก็ต้องให้ผมนี่ ผมเอามาตอนนี้ก็ไม่เร็วไปนะ!” หยางหล่างกล่าว พูดแล้ว เขาจึงถามนอกเรื่องอีกครั้ง “จริงสิ แม่ แม่โทรมามีธุระอะไร? ถ้าไม่มีอะไรจะพูด ผมจะวางสายแล้ว นี้ผมยังเดินบนกำแพงเมืองจีนอยู่นะ!”
“หยางหล่าง!” แม่ตวาด “แกรีบกลับมาเดี๋ยวนี้ พ่อของแกถูกพาไปที่ห้องฉุกเฉินแล้ว แกรีบส่งเงินกลับมาหน่อย!”
หยางหล่างหัวเราะเหอเหอ “แม่ อย่าโกหกผมเลย ผมยังเดินบนกำแพงเมืองจีนอยู่ มีธุระอะไรกลับไปค่อยพูดกันอีกทีก็แล้วกันนะ!”
พูดจบ หยางหล่างถึงกับวางสายจริงๆ!
แม่ถือโทรศัพท์ ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอโทรกลับอีกครั้ง ครั้งนี้หยางหล่างไม่รับสาย และกดตัดสายทันที
แม่ถือโทรศัพท์ คุกเข่าบนทางเดินของโรงพยาบาล น้ำตาไหลทั้งสองตา เธอคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นอย่างนี้ โฉนดบ้านก็ถูกเอาไปแล้ว อย่างนี้ดูเหมือนว่าในอนาคตมีโอกาสสูงมากที่จะไม่มีบ้านให้อยู่
แม่คิดแล้วคิดอีก จำเบอร์มือถือของหยางโปไม่ได้ ตอนนี้เบอร์โทรก็ถูกเก็บไว้ในมือถือ เธอไม่สนใจที่จะจำ ทำให้ตอนนี้เธอจำไม่ได้
เลื่อนดูรายชื่อผู้ติดต่อ แม่คิดแล้วคิดอีก ยังคงวางแผนที่จะโทรหาญาติพี่น้องที่ลี่ซุ่ย ในเวลานี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
หยางหล่างหืดหอบจึงหยุดก้าวเดิน ขั้นบันไดสูงชันมากของกำแพงเมืองจีนในส่วนนี้ เขาไม่ได้ก้าวเดินบ่อยทำให้เขารู้สึกกินแรง ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังต้องขึ้นไปคนเดียว
หลานเย่วหยุดอยู่ในที่พักข้างบันไดที่กว้างขึ้นเล็กน้อย นั่งลงแล้ว เธอมองไปที่หยางหล่าง “เป็นยังไง? ทำไมวันนี้ยายแก่ถึงโทรหาคุณตลอดเลย หรือพวกเขาพบว่าคุณเอาบัตรATMและโฉนดบ้านมาแล้ว?”
หยางหล่างหัวเราะเหอะเหอะ “ไม่มีอะไร ยังไงผมก็ไม่ได้อยู่ในจินหลิง แม้ว่าพวกเขาจะรู้แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ฮะฮะ ขายบ้านออกไปหนึ่งล้านหยวน แล้วมีเงินสดอยู่ในมือ นี่มันดีจริงๆ!”
หลานเย่วหันไปมองหยางหล่าง “นายภูมิใจกับเงินนี้ไหม?”
เฮ้ เฮ้ หยางหล่างหัวเราะ “ภูมิใจไม่น้อยเลย”
หลานเย่วเงยหน้าขึ้นมอง เผยให้เห็นต้นคอที่ขาวใส ร้องอืมเบาๆ แล้วกล่าว “นายไม่มีท่าว่าจะมีอนาคตที่สดใสเลยจริงๆ นายดูน้องชายของนายสิ เขาหยิบเครื่องเคลือบลายครามชิ้นหนึ่งก็ได้สองสามล้านหยวนแล้ว ในเวลานี้นายมีหนึ่งล้านกลับมีความสุขถึงขนาดนี้!”
หยางหล่างรีบจับมือของหลานเย่ว ลูบเบาๆ ยิ้มแล้วกล่าว “เธอดูสิ ผมไม่ได้ให้ของขวัญแก่คุณไปหกแสนหกหมื่นหยวนเหรอ? เราสองคนจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดี?”
หลานเย่วดึงมือออกมา ยืนขึ้นทันที แล้วเดินไปบนกำแพงเมืองจีน หันหลังกลับแล้วตอบ “เมื่อคุณตามทันฉัน พวกเราก็จะแต่งงานกัน!”
หยางหล่างกระโดดด้วยความดีใจ รีบวิ่งไล่ตามไป แล้วพูดออกมาดังๆ “ผมตามคุณทันแน่นอน!”