ตอนที่ 860 ได้รับบาดเจ็บ
ถ้าเบลสันไม่ได้เก็บข้าวของ เกรงว่าถ้าคิดจะตามหารูปปั้นหัวงูทองสัมฤทธิ์คงยากมาก
คนของกลุ่มอินากาวะที่อยู่ในห้องยังไม่ทันรื้อค้นตู้ ก็พบรูปปั้นหัวงูทองสัมฤทธิ์แล้ว !
อู่อีมองไปที่รูปปั้นหัวงูทองสัมฤทธิ์ที่ลูกน้องนำมามอบให้ หลังจากกวาดตามอง จากนั้นก็หันกลับมามองหน้าเบลสัน และพูดด้วยเสียงอันดังว่า ” จับมันขึ้นมา แล้วนำตัวไป ! “
เบลสันที่ถูกปิดปากอยู่ ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เขาพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะให้ตัวเองดิ้นหลุดออกมาแต่มันก็ไร้ผล
หยางเต๋อเชิงถูกกดเอาไว้อยู่บนโซฟา ไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมา เพราะกลัวว่าอู่อีจะสังเกตเห็นเขา !
คิดไม่ถึงว่าอู่อีจะหันมายื่นหัวงูให้กับผู้ระบุวัตถุโบราณที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นถึงได้หันกลับมามองหยางเต๋อเชิง เธอย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้ทั้งสองมองสบตาในระดับเดียวกัน จากนั้นถึงได้เอ่ยปากถามอย่างช้าๆว่า ” หยางเต๋อเชิง ? ”
หยางเต๋อเชิงรีบพยักหน้าพึมพำ “ อู้อี้ อู้อี้ ”
อู่อีก้าวถอยหลังไปสองก้าวแล้วชี้ไปที่ปากของหยางเต๋อเชิง จากนั้นก็มีคนเอาฝาถ้วยออกไปทันทีและในที่สุด หยางเต๋อเชิงก็มีโอกาสได้ถอนหายใจ
อู่อีจ้องไปที่เขาตาเขม็ง ” คุณสนิทกับหยางโปมากใช่ไหม ? “
หยางเต๋อเชิงเบิกตาโตจ้องมองไปที่อู่อี จากนั้นก็รีบหลุบสายตาลง เขาเคยได้ยินมาก่อนว่าหัวหน้าสาขาย่อยของกลุ่มอินากาวะสวยมาก เมื่อได้มาเห็นอีกฝ่ายด้วยตาตัวเอง ก็รู้สึกหลงเสน่ห์หน้าตาอันสดใสของอีกฝ่ายเข้าให้จริงๆ !
“ อาจารย์ลุงสบายดี ” หยางเต๋อเชิงกล่าว
อู่อีจ้องหยางเต๋อเชิงตาเขม็ง แต่มือกลับดึงกริชมันวาวออกมาเล่มหนึ่ง และตบไปที่หน้าเขาเบาๆ
” อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม ? “
หยางเต๋อเชิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ อยาก ! ”
“ ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยฉันไปจัดการเรื่องหนึ่ง ! ” อู่อีพูด
หยางเต๋อเชิงชำเลืองมองอู่อี เหมือนจะคาดเดาได้อย่างคร่าวๆ
เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้ เขาได้ยินที่อู่อีพูดออกมาว่า ” ช่วยฉันขโมยของชิ้นหนึ่งมาจากหยางโปหน่อย ! “
หยางเต๋อเชิงมองใบหน้าที่สวยงามของอู่อี แต่กลับสั่นสะท้านไปทั้งตัว “ แน่นอนว่าคุณต้องรู้จักอาจารย์ลุงเหมือนกัน เขาเก่งมาก แม้แต่โจรที่เฉลียวฉลาดก็ไม่สามารถขโมยของไปจากมือเขาได้ นับประสาอะไรกับผม ? ”
อู่อียิ้มเบาๆ และใช้กริชตบไปที่หน้าอ้วนๆของหยางเต๋อเชิง ” ใช่ไหม ? โจรที่แสนจะเฉลียวฉลาดก็ขโมยมันไปไม่ได้ แล้วฉันจะเก็บนายไว้ทำประโยชน์อะไร ? น้องชายของนายเรียนจบแล้ว กำลังจะไปทำงานที่ซิลิคอนวัลเลย์ น้องสาวของนายยังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 ที่โรงเรียนมาเรีย เธอนั่งรถบัสคันเดิมไปกลับจากโรงเรียนทุกวันเลยใช่ไหม ? “
หยางเต๋อเชิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ” คุณมีสถานะสูงส่ง ถ้าไปขอด้วยตัวเอง ไม่แน่อาจารย์ลุงอาจจะมอบให้คุณก็ได้ มันก็ยังไม่แน่ ? “
อู่อีกัดฟัน ” คุณจะขโมยมาไหม ? “
” ผมจะขโมยให้ ! ” หยางเต๋อเชิงพูดอย่างรวดเร็ว
อู่อีทำเสียงฮึดฮัดเย็นชา “ นำตัวเขาไป ของโบราณที่มีค่าทั้งหมดในห้องก็นำกลับไปให้หมด ! ”
ของโบราณในที่เกิดเหตุ ถูกเก็บกวาดออกไปหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็วเหลือไว้เพียงความระเกะระกะ
ไม่นานกลุ่มอินากาวะก็ได้มอบเงินชดเชยให้ หยางโป หยางโปได้วางเช็คไว้ตรงหน้าหยวนต๋า
” หลายวันมานี้รบกวนพวกคุณแล้ว “
แต่หยวนต๋ากลับผลักเช็คกลับไปให้อีกครั้ง ” ไม่ต้อง ทั้งหมดนี้ชดเชยให้คุณ “
หยางโปยิ้มเขารู้ว่าหยวนต๋าหมายถึงอะไร อธิบายว่า ” ไม่ต้องห่วง รอให้อวี่เหวินกลับมาผมจะบอกเรื่องเหล่านี้กับเขา เขาไม่ขาดแคลนเงินพวกนี้หรอก คุณรับเอาไปเป็นค่ารักษาพยาบาลและเงินช่วยเหลือให้เหล่าพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงหลายวันมานี้ดีกว่า “
หยวนต๋าเหลือบมองหยางโป จากนั้นถึงได้รับเงินเอาไว้ “ ถ้าอย่างนั้นก็ขอขอบคุณคุณหยางมาก ”
หยางโปยิ้มและกล่าวว่า ” ควรเป็นผมที่ต้องขอบคุณคุณ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของพวกคุณ “
หลังจากคำพูดเกรงใจ หยวนต๋าก็มองไปที่หยางโป “ ครั้งนี้ควรจะจบลงยังไงดี ? ”
หยางโปครุ่นคิดเล็กน้อย ” รอดูไปก่อน จนกว่าอวี่เหวินจะกลับมาแล้วค่อยว่ากัน เขาจากที่นี่ไปสามวันแล้ว ผมรู้สึกว่ามันต้องมีบางอย่างผิดปกติ “
หยวนต๋าก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
พอกลับมาถึงห้อง ทันใดนั้น ลัวย่าวหัวก็พูดกับหยางโปขึ้นมาว่า ” นั่นเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับหกเจ็ดสิบล้านหยวนเชียวนะ นายไม่รู้สึกสนใจสักหน่อยเลยเหรอ ? “
หยางโป เหลือบมองลัวย่าวหัว ” นายอยากได้ ? “
ลัวย่าวหัวส่ายหัว ” ไม่ใช่ของของฉัน แน่นอนว่าฉันเอามาไม่ได้ “
” คำตอบของฉันก็เหมือนกัน ” หยางโปกล่าว เขารู้สึกค่อนข้างจะลังเลจึงเอ่ยออกมาว่า
” เรื่องราวในครั้งนี้กลัวว่ามันจะจบยาก อวี่เหวินก็ไม่กลับมาสักที อู่อีก็มีทีท่าเด็ดขาด ไม่ยินยอมจะมอบโสมเขียวให้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ถึงแม้จะมีกระจกแก้วเจ็ดสีไว้ในมือ เกรงว่าจะไม่มีผลอะไรมากนัก กลัวแค่ว่าพวกเขาจะทำเรื่องบ้าๆขึ้นมานะสิ ! “
ลัวย่าวหัวส่ายหน้า ” ฉันคิดว่าอู่อียังดูพอมีไหวพริบอยู่บ้าง ท่านผู้แทนท่านนั้นมากกว่าที่เกรงว่ายากที่จะรับมือ ! “
ในระหว่างการพูดคุยปรึกษากัน ก็มีคนรับใช้มาเคาะประตูและบอกว่ามีคนมาหาหยางโป มันทำให้เขาแปลกใจมาก เมื่อมาถึงห้องรับแขก ก็เห็นหยางเต๋อเชิงกำลังนั่งอยู่ที่นั่น หยางโปอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ” ช่วงนี้คุณว่างมากใช่ไหม ? ”
หยางเต๋อเชิงพยักหน้า “ ใช่ อาจารย์ลุงที่ผมมาหาคืออยากให้ท่านช่วยหาอะไรให้ทำหน่อย ! ”
” อ้อ ? นายอยากทำอะไรล่ะ ? ” หยางโปถาม
หยางเต๋อเชิงลังเลอยู่เล็กน้อย “ แต่ก่อนผมทำเรื่องจำพวกลักลอบขนของโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม แต่ตอนนี้มันอยู่ในความดูแลของจางซานเซี่ย ผมไปแย่งชิงอำนาจกับเขาไม่ได้ผมคิดว่าจะช่วยเขาแบ่งเบาภาระสักหน่อยได้ไหม เขาไม่มีช่องทางปล่อยของที่เพียงพอผมจะช่วยเปิดตลาดให้เขา ! ”
หยางโปจ้องไปที่หยางเต๋อเชิงตาเขม็ง สีหน้าเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม สำหรับการลักลอบขนของโบราณทางวัฒนธรรม ช่องทางการขายเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญที่สุด การมีความเชี่ยวชาญในช่องการขาย เทียบเท่ากับการใช้ทรัพยากรทางการเงินอย่างเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม ของโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมไม่เหมือนสินค้าทั่วไป โบราณวัตถุทางวัฒนธรรม ไม่มีราคากำหนดที่ตายตัว เพียงแค่ได้รับอำนาจในการกำหนดราคามาแล้วต่อจากนั้นก็สามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ !
” อาจารย์ลุง ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมกลับเนื้อกลับตัวใหม่แล้ว ครั้งนี้จะไม่โลภเพื่อผลกำไรเล็กๆน้อยๆอีกแล้ว ” หยางเต๋อเชิงกล่าว
หยางโปโบกมือ “ เรื่องนี้ ฉันตัดสินใจไม่ได้ เดี๋ยวกลับไปจะเสนอความเห็นกับหยวนเฉินเฟยให้ ”
หยางเต๋อเชิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้า “ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ขอบคุณอาจารย์ลุงมาก ”
หลังจากส่งหยางเต๋อเชิงกลับไปแล้ว หยางโปก็ส่ายหน้า เขางงงวยมาก ในเมื่อหยางเต๋อเชิง วางมือไปแล้ว ทำไมถึงยังคิดที่จะกลับมา เป็นที่ทราบกันดีว่า ในเวลานั้นเขาโลภเอาเงินไปจำนวนมาก และยังไม่เคยคิดชำระบัญชีกับเขามาก่อน ถือว่าเป็นการไว้หน้ามากแล้ว ตอนนี้เขายังคิดที่จะมาแย่งชิงอำนาจของจางซานเซี่ยอีก ไม่ใช่หาเหาใส่ตัวเองหรอกหรือ ?
หยางโปเล่าเรื่องให้ลัวย่าวหัวฟัง ลัวย่าวหัวก็รู้สึกแปลกใจมากเช่นกัน ” ทำไมฉันรู้สึกว่ามันมีปัญหานะ เขาไม่ควรหนีไปไกลๆหรือยังไง ? เป็นไปได้ไหมว่าเขากลับมาเพื่อคิดวางแผนอะไรบางอย่าง ? “
” เขาจะคิดวางแผนอะไรได้ ” หยางโปแปลกใจ ” เงินหรือกำไร ? “
” บางทีอาจจะเป็นกระจกแก้วเจ็ดสี ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปส่ายหน้าช้าๆไม่เข้าใจสักเท่าไหร่
ทั้งสองคนกำลังจะคุยกันมากขึ้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากข้างนอกดังเข้ามา
“ คุณอวี่เหวิน คุณอวี่เหวิน คุณเป็นอะไรไป ? ”
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง หยางโปทั้งสองคนก็รีบออกไป เมื่อหยางโปเห็น อวี่เหวิน เดินโซซัดโซเซเข้ามา ผมสีดำของเขากลายเป็นเส้นสีเงิน ทั่วทั้งตัวดูแก่ขึ้นหลายเท่า !
แขนขวาของเขาทิ้งตัวลงแกว่งไปมาอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ในแขนเสื้อ เสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยคราบเลือดสีแดง !
หยางโป รีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยประคองอวี่เหวินให้นั่งลง ในหัวตอนนี้ว่างเปล่า ทันใดนั้นไม่รู้ควรทำอะไรดี อวี่เหวินฝึกวิทยายุทธอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายและอยู่นอกเหนือพลังบนโลกใบนี้แล้ว
มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำร้ายเขาได้ ทำไมเขาถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ?