ตอนที่ 872 คาบุกิโจ
หยางโปพยักหน้า เขาแสดงให้เห็นคุณค่าที่มีอยู่จนมากพอ ก็เป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายจะยกระดับการดูแลต้อนรับเขา นี่เป็นการแสดงออกถึงความเคารพซึ่งกันและกัน ถ้าทานิกาวะทำถึงขั้นตอนนี้ไม่ได้ คิดว่าคงอยู่อย่างมั่นคงในตำแหน่งนี้ไม่ได้แน่ๆ !
“ ขอบคุณคุณทานิกาวะมาก ” หยางโปกล่าวขอบคุณ
ทานิกาวะยิ้มและพูดว่า “ สมควรแล้ว คุณหยางวันนี้มีแผนอะไรเตรียมไว้บ้างไหม ? ถ้าไม่มีการเตรียมการอะไรไว้ อู่อีว่างพอดี เธอออกไปเดินเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนกับคุณได้ ”
หยางโปส่ายหน้า ” วันนี้ไม่ดีกว่า ผมมีเพื่อนมาหา วันนี้ต้องรักษาอาการป่วยให้เธอ “
ทานิกาวะรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ ” ด้วยความสามารถของคุณหยาง ไม่น่ายากใช่ไหม ? “
” อาการป่วยของเธอซับซ้อนเกินไป คงไม่หายขาดในเวลาอันสั้นนี้ ” หยางโปกล่าว
ทานิกาวะอยากรู้อยากเห็นมาก แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น และหยุดพูดถึงหัวข้อนี้ไป
หลังจากรับประทานอาหารเช้าได้ไม่นาน หยางโปก็ได้รับโทรศัพท์จากอู๋เฉียงที่โทรมาสอบถามว่ามีใครมารับเขา หยางโปจึงตอบกลับเขาไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงพี่น้องอู๋เฉียงก็ถูกรับตัวมา
หลังจากที่อู๋เยว่ได้รับความเจ็บปวดจากอาการป่วย แม้ว่าจะนอนพักผ่อนมาทั้งวันทั้งคืนแต่ใบหน้าเล็กๆก็ยังคงซีดเซียว ดูเหมือนว่าจะไม่มีความกระปรี้กระเปร่าสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังคงมองดูรอบๆที่นี่อย่างอยากรู้อยากเห็น
อู๋เฉียงพยุงน้องสาวและหันมาพูดกับหยางโปว่า ” ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ? “
” ไม่มีอะไรหรอก เพื่อนคนหนึ่งป่วยหนักฉันมาช่วยรักษาอาการป่วยให้เขา เกรงว่าจะต้องใช้เวลาสักพัก อีกอย่างสภาพแวดล้อมที่นี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน ! “
พอพูดจบ ตัวหยางโปเองก็หัวเราะออกมา
อู๋เฉียงพยักหน้า ” ต้องการให้ผมอยู่เป็นเพื่อนกับคุณที่นี่ไหม ? “
หยางโปโบกมือ “ ไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง ”
หยางโปไม่ได้รีบร้อนรักษาอาการป่วย ก่อนอื่นเขาจัดให้พี่น้องอู๋เฉียงทานอาหารเช้ากันก่อน จากนั้นจึงพาพวกเขาไปเดินเล่นที่ทะเลสาบเล็กๆใกล้ๆรอบหนึ่ง เพื่อให้อู๋เยว่ได้พักผ่อนให้เต็มที่ก่อน ถึงจะเริ่มการรักษา
เพราะมีประสบการณ์จากครั้งก่อนมา ครั้งนี้หยางโป จึงชำนาญลู่ทางเป็นอย่างดี บวกกับตับของ
อู๋เยว่ก็ไม่ได้รับความเสียหายที่ร้ายแรงมากนัก ใช้เวลาไปเพียงสองชั่วโมง ก็สามารถยุติการรักษาได้แล้ว
แต่เมื่อตอนที่เดินออกมา สีหน้าของหยางโปก็ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย
หยางโปลากอู๋เฉียงออกมาข้างนอกและกระซิบเสียงเบาว่า ” มันรุนแรงกว่าครั้งที่แล้วมาก ตับของเธอเหมือนจะถูกกัดกิน ครั้งนี้มันกัดกินเร็วกว่าครั้งที่แล้วมาก ! “
อู๋เฉียงตกใจมาก ” ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงดี ? “
หยางโปโบกปัดมือ “ นายอย่าพึ่งตื่นตกใจไป ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว พักนี้มันไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร นี่น่าจะเกิดจากฝีมือของกู่พิษ แต่ฉันไม่เคยสัมผัสกับกู่พิษมาก่อน เวลานี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรักษาอาการป่วยยังไง บางทีมันอาจจะดีขึ้นหลังจากผ่านไปสักระยะ ”
อู๋เฉียงยังคงค่อนข้างตื่นตระหนก ” ผมมีน้องสาวแค่คนเดียวเท่านั้น “
หยางโปทำอะไรไม่ถูก “ นายไปดูแลเธอก่อน ฉันจะคิดหาวิธีดู ”
เมื่อผลักอู๋เฉียงให้ออกไป หยางโปก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น เขาจะไปมีวิธีที่ไหนกัน ?
อาการป่วยของอู๋เยว่กำเริบขึ้นอย่างรวดเร็วและหายไปในพริบตา หลังจากที่หยางโปรักษาอาการให้ อู๋เยว่ก็นอนติดเตียงไปครึ่งวัน เท่านี้ก็พอที่จะลุกจากเตียงออกไปกระโดดโลดเต้นได้ !
ดูเหมือนว่าเพราะความเจ็บปวดแบบนี้ ทำให้อู๋เยว่มีบุคลิกที่ร่าเริงมากขึ้นและมีเสียงหัวเราะร่าเริงดังอยู่ในลานบ้าน
แม้ว่าจะอยู่ในบ้านของทานิกาวะ แต่อู๋เยว่ก็เป็นแขกของหยางโป จึงไม่มีใครกล้าพูดอะไรมาก
หลังจากครึกครื้นกันอยู่สักพัก หยางโปที่กำลังจะพาพี่น้องอู๋เฉียงออกไปเดินเล่นที่ใจกลางเมืองแต่จู่ๆ นามิก็เดินเข้ามา
นามิสวมชุดเดรสหลวมๆสีดำดูเยือกเย็นและมีเสน่ห์ ” คุณหยาง บ้านเราไม่ใช่สนามเด็กเล่น
ทางคุณช่วยระวังกันหน่อย ” หยางโปหยักคิ้วขึ้น “ ผมจะระวัง ”
นามิยิ้มให้เบาๆ ” ก็ไม่รู้ว่าเด็กเหลือขอคนนี้เป็นลูกบ้านใคร ทำไมถึงไม่มีมารยาทแบบนี้
มาเป็นแขกบ้านของคนอื่น ทำไมถึงได้เสียงดังโวกเหวกแบบนี้กันนะ ? “
“ คุณกำลังพูดเรื่องอะไร ? ” หยางโปถามเสียงเข้ม
นามิได้รับคำสั่งจากทานิกาวะนานแล้ว จึงไม่กล้าต่อปากต่อคำกับหยางโป เธอทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “ คุณหยาง หรือว่าที่ฉันพูดแบบนี้มันมีปัญหาหรือยังไง ? ”
” คุณกรุณาพูดอย่างมีศีลธรรมหน่อย ! ” อู่อีเดินออกมาจากด้านหลังของเธอ อู่อีรู้สึกรังเกียจนามิมากโดยเฉพาะนามิที่เคยดูถูกเหยียดหยามเธอมาก่อน เธอชอบใช้คำนี้ ” เด็กเหลือขอที่ไร้มารยาท ” มาเยาะเย้ยถากถางเธอ ดังนั้น อู่อีจึงอ่อนไหวกับคำพูดนี้เป็นพิเศษ
นามิทำเสียงดูถูก “ อ้อ มาเป็นแนวร่วมกันเร็วขนาดนี้แล้วเหรอ แต่ทำไมพวกคุณไม่ลองคิดดู ธุรกิจของตระกูลทานิกาวะ เป็นสิ่งที่พวกคุณจะสามารถมาสืบทอดกันต่อได้ไหม ”
พอพูดจบ นามิก็ลูบท้องเบาๆ “ 20 ปีผ่านมาไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย คิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่าจะมาท้องเอาตอนนี้ ! ”
อู่อีจ้องไปที่ท้องของเธอแต่ก็ไม่พูดอะไรอีก เธอรู้ดีว่าตั้งแต่ทานิกาวะและนามิแต่งงานกันมา
ทั้งคู่ไม่เคยมีลูกด้วยกันมาก่อน แต่ถ้านามิท้องขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าทานิกาวะจะเห็นคุณค่าของลูกมากทีเดียว !
นามิเงยหน้าขึ้นเหมือนไก่ตัวผู้ที่ชนะ เดินจากไปอย่างอ้อนแอ้นสง่างาม
หยางโปขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะที่มองร่างของนามิที่เดินจากไป
แต่อู๋เฉียงกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้หยางโป จึงรีบเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว ” ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร “
“ งั้นเดียวฉันจะพาพวกนายออกไปเดินเล่นกันก่อน ” หยางโปพูด
เพราะสนิทคุ้นเคยกับอู่อีมาก เธอจึงขึ้นรถตามและมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง
แม้ว่าจะไม่มีใครเอ่ยพูดถึงนามิ แต่หยางโปกลับรู้สึกไม่สบายใจ เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับท่าทางที่หยิ่งผยองของนามิ
ในระหว่างที่เดินช้อปปิ้งกันอยู่นั้น จู่ๆอู่อีก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ เขาให้ฉันกลับมาโตเกียวเพื่อดูแลรับผิดชอบงานทางนี้ ”
หยางโปอึ้งไปสักพัก ” ทานิกาวะให้เธอกลับมา “
อู่อีพยักหน้า “ หลังจากที่เขาหายจากอาการป่วยหนักในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีทัศนคติทางความคิดที่เปลี่ยนไปมาก เขาต้องการให้ฉันอยู่ข้างกายเขา ”
หยางโปไม่ค่อยเข้าใจ ” เธอคิดว่าเขาหมายถึงอะไร ? “
” เขาพูดกับฉันอย่างตรงไปตรงมาว่า ต่อไปเขาจะไม่บังคับฉันในเรื่องแต่งงานอีก และอนุญาตปล่อยให้ฉันมีอิสระในความรัก สำหรับการพัฒนาก้าวหน้าในอนาคตของกลุ่มอินากาวะ
ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องมาคิดถึง ” อู่อีกล่าว
หยางโปพยักหน้า “ แบบนี้ก็ไม่เลวเพราะยังไงซะเธอก็เป็นเด็กผู้หญิง อยู่ที่อเมริกาก็ยังค่อนข้างมีอันตรายอยู่ ”
“ เมื่อหลายวันก่อนหยวนเฉิงเฟยส่งคนมาลอบสังหารฉัน แต่ก็ถูกบดี้การ์ดคุ้มกันเอาไว้ได้ ”
อู่อีกล่าว
หยางโปขมวดคิ้ว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้ ” ทำไมเธอไม่บอกฉัน “
“ ในเวลานั้น ฉันคิดว่าทั้งสองฝ่ายอยู่คนละฝั่งกัน ไม่อยากทำให้นายลำบากใจ แต่เขาขโมยกระจกเจ็ดสีของนายมาแลกกับโสมเขียว ฉันคิดว่าคุณสมบัติของคนผู้นี้มีปัญหา ดังนั้นจึงพูดออกมาเพื่อที่จะเตือนนายสักหน่อย ” อู่อีกล่าว
หยางโปพยักหน้า “ เธออยู่ที่นี่ต่อเถอะ อย่างน้อยในโตเกียวก็ไม่มีใครกล้าลอบสังหารเธออย่างโจ่งแจ้ง ” อู่อีพยักหน้า จากนั้นเธอก็หันไปมองหยางโป และอดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้ม
“ ที่โตเกียวมีที่ที่หนึ่งที่สนุกสนานมาก ฉันจะพานายไปที่นั่นเอาไหม ? ” ได้ยินแบบนั้นหยางโปก็ถามอย่างสงสัย ” ที่ไหน ? ” “ คาบุกิโจ ! ” อู่อีตอบ
หยางโปไม่รู้จักชื่อสถานที่ของประเทศญี่ปุ่นดีเท่าไหร่ แต่เขารู้จักชื่อสถานที่นี้ ที่นั้นเป็นย่านโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย !
” เอาสิ พวกเราไปกันตอนนี้เลยไหม ? ” หยางโปถามด้วยรอยยิ้ม
อู่อีรู้สึกค่อนข้างเขินอาย ชี้มือไปที่อู๋เยว่ ” ทางนั้นยังมีเด็กอยู่ “
“ เราก็แค่สั่งให้ใครสักคนพาพวกเขาออกไปเดินเล่นก็ได้แล้วไหม ” หยางโปพูดพร้อมกับยิ้ม
คิดไม่ถึงว่าอู่อีจะตอบตกลง “ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ พวกเราไปเดินเล่นรอบๆเป็นเพื่อนพวกเขากันก่อน รอจนถึงสามสี่ทุ่ม ก็ค่อยส่งพวกเขากลับบ้าน แล้วพวกเราค่อยไปที่คาบุกิโจกัน ! ”