ตอนที่205 รีบมาถึงแล้ว
ไม่นาน ผลการวิเคราะห์ก็ถูกส่งออกไป เฉาหยวนเต๋อรับผลนั้นมาแล้วเปิดไปที่หน้าสุดท้ายทันที
หยางโปยืนอยู่ข้างๆ เห็นบรรทัดสุดท้าย “มีความคล้ายคลึงกับเครื่องเคลือบเกอเหยาทรงดอกโบตั๋นสามสีในสมัยราชวงค์ซ่งเหนือถึง 98.46%”!
เฉาหยวนเต๋อมองไปที่หยางโปอย่างตื่นเต้น “มีความคล้ายคลึงกันถึงเก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์ นี่มันบอกได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ทั้งสองใบมีส่วนประกอบที่เหมือนกัน! เครื่องเคลือบเกอเหยาใบที่สองของราชวงศ์ซ่งเหนือได้ปรากฏขึ้นแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ใหญ่มากอย่างแน่นอน นี่เป็นเรื่องที่จะได้รับการยืนยันอย่างเต็มที่มากขึ้นว่าในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือก็มีเครื่องเคลือบเกอเหยาอยู่แล้ว!”
หยางโปพยักหน้า “มีหลักฐานที่เพียงพอ แต่ก็ไม่เคยพบปากเตาเผาเกอเหยา และก็ไม่มีอะไรที่ชี้นำมากนัก”
เฉาหยวนเต๋อถูกคำพูดของหยางจี้จุดเข้า เขาจ้องมองไปที่หยางโป
ตาอ้วนหลิวนั่งอยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วกล่าว “อย่าถือสาคำพูดของเขาเลย อย่างน้อยของชิ้นนี้ก็นับว่าเป็นของที่หายากมาก คุณได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่แล้ว!”
หยางโปอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา แม้ว่าจะไม่คำนึงถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมของเครื่องเคลือบเกอเหยานี้ แต่สำหรับเขาแล้ว มันเป็นเงินก้อนโตเลยทีเดียว!
เสียงมือถือดังขึ้นมา หยางโปเห็นว่าเป็นเบอร์ของอาโทรเข้ามาก็รู้สึกตกใจ เขาจึงรับสาย
“อา อาโทรหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า?”
“แกยังจะมาถามฉันว่ามีธุระอะไรอีกเหรอ? ตอนนี้พ่อของแกป่วย อยู่ในห้องฉุกเฉิน แกไม่รู้เลยเหรอ?” อากล่าวอย่างดุดัน
หยางโปตกใจ แล้วจึงถามทันที “ป่วยเป็นอะไร ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลไหน?”
แม้ว่าพ่อจะดุด่าแรงมาก แต่ในเมื่อพ่อป่วย หยางโปก็ต้องละทิ้งความคับแค้นใจเหล่านั้น รีบถามด้วยความกังวลทันที
“โรงพยาบาลประจําจังหวัด!” อาตอบ
พูดจบ อาก็วางสายไป
หยางโปกังวลใจขึ้นมา รีบโทรกลับอย่างว่องไว แต่ว่าอีกฝ่ายติดสายอยู่ หยางโปหันไปมองที่เครื่องเคลือบเกอ
เหยาทรงดอกทานตะวัน แล้วเขาหันไปมองเฉาหยวนเต๋อ
เฉาหยวนเต๋อได้ยินหยางโปคุยโทรศัพท์ก็เข้าใจว่าต้องมีเรื่องร้อนใจแน่ เขารีบกล่าว “ในเมื่อนายมีเรื่องร้อนใจ งั้นก็กลับไปก่อน
ถ้านายไว้ใจในตัวฉัน ก็ฝากเครื่องเคลือบเกอเหยาทั้งสองใบนี้เอาไว้ที่ฉันได้ ฉันจะช่วยดูแลให้อย่างดีเอง!”
หยางโปกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณมากจริงๆ!”
ตาอ้วนหลิวมองหยางโป “ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง”
หยางโปรีบกล่าวหยุดไว้ “พี่หลิว ผมซึ้งในน้ำใจของพี่ พี่ก็ยุ่งมาก บ้านผมอยู่จินหลิงและมีญาติอยู่หลายคน สามารถช่วยได้อยู่แล้ว พี่ยังต้องรีบกลับไปรายงานเรื่องนี้กับคุณอาหลิวเจียจวิ้นนะ!”
ตาอ้วนหลิวคิดๆ ดูก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ นายก็ดูแลตัวเองด้วย มีปัญหาอะไรก็บอกมาได้ ฉันช่วยได้แน่นอน!”
เฉาหยวนเต๋อก็กล่าวด้วย “ใช่แล้ว หากที่จินหลิงรักษาไม่ได้ เธอสามารถพาพ่อมาเมืองหลวง เมื่อมาถึงฉันจะจัดการเรื่องโรงพยาบาลให้นายเอง!”
“ขอบคุณ! ขอบคุณครับ!” หยางโปรีบกล่าวขอบคุณ
หยางโปทิ้งเครื่องเคลือบเกอเหยาเอาไว้ เฉาหยวนเต๋อโทรไปช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้หยางโปแล้วไปส่งหยางโปที่หน้าสนามบินอีกครั้ง
ระหว่างทางไปสนามบิน หยางโปคิดทบทวนดู แล้วโทรไปหาลัวย่าวหัว ขอให้เขาช่วยไปดูที่โรงพยาบาลก่อน
ลัวย่าวหัวพึ่งจะเสร็จจากงานประมูล เขากำลังว่างอยู่ก็ตอบรับทันที
พอลงจากเครื่องบินแล้ว หยางโปก็เรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลโดยตรง
เที่ยวบินจากเมืองหลวงมายังจินหลิงใช้เวลาสองชั่วโมง ถ้ารีบกลับมาบวกกับนั่งเครื่องบินมา หยางโป ใช้เวลาทั้งหมดราวๆ สี่ถึงห้าชั่วโมง กระทั่งเขามาถึงโรงพยาบาลมันก็ห้าโมงเย็นแล้ว
พอถึงโรงพยาบาล หยางโปเห็นลัวย่าวยืนอยู่ด้านนอกห้องผู้ป่วย เขาไม่รีบร้อนเข้าไป แต่กระทืบเท้าอย่างจงใจ เมื่อเห็นว่าลัวย่าวหัวนั้นมองเขาก็กวักมือเรียกหา
“ขอบใจนายจริงๆ” หยางโปกล่าวหนึ่งคำ
“นายพูดจาเกรงใจแบบนี้เห็นฉันเป็นคนอื่นคนไกลแล้วเหรอ” ลัวย่าวหัวส่ายหน้าแล้วกล่าว
ไม่เจอกันนาน ไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนไม่คุ้นเคยกัน แต่ยังไงก็มีมิตรภาพหลังจากที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจากการหาสมบัติในสุสาน
“มันเป็นยังไง? พ่อของฉันป่วยเป็นอะไร? ทำไมต้องเข้าโรงพยาบาลทันที? ” หยางโปชี้ไปที่ห้องผู้ป่วยแล้วถาม
ตอนที่รับสาย เขาไม่ได้คิดมาก แค่กังวลเกี่ยวกับร่างกายของพ่อ แต่รีบรุดมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็มีปฏิกิริยา ตามนิสัยของพ่อแล้วในเวลาแบบนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่จะขอเงินจากเขา เขาอยากรู้ว่าในครั้งนี้พ่อของเขาแกล้งเล่นละครหรือเปล่า
ลัวย่าวหัวไม่ได้คิดอะไรมากนัก ตอบกลับ “ฉันถามหมอก่อนแล้ว หมอบอกฉันว่าผู้ป่วยมีอาการหัวใจวายและมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและสมอง ดังนั้นเขาจึงเป็นลม”
หยางโปพยักหน้า “ก่อนหน้านี้เป็นเพียงมะเร็งตับ แต่ตอนนี้เป็นโรคหัวใจอีก เฮ้อ!”
ในใจของหยางโปคิดถึงเมื่อตอนผ่าตัดมะเร็งตับ จะอยู่ได้ไม่เกินห้าปีจากนั้นชีพจรก็จะอ่อนลง ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของตนเอง แม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อตนเองไม่ดี ตนเองจะยังคงกตัญญูอยู่อีกเหรอ?
หยางโปหันไปกล่าวกับลัวย่าวหัว “ขอบคุณสำหรับวันนี้จริงๆ คืนนี้ไม่มีเวลาจริงๆ ไว้วันหลังฉันจะเลี้ยงอาหารนาย!”
“สุภาพทำไม? มีอะไรก็โทรหาฉันแล้วกัน อ้อ! จริงสิ งานประมูลได้เสร็จสิ้นแล้ว ฉันก็หาที่ตั้งสำนักงานได้แล้วด้วย มีเวลาให้รีบไปให้เร็วที่สุด พวกเราจะได้พูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาขั้นตอนการทำงานกัน” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปยิ้มและส่ายหน้า “นายเป็นผู้ดูแลเรื่องเหล่านี้ ฉันก็แค่เป็นคนออกเงิน!”
“นายอย่าขี้อายเหมือนเด็กสิ!” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปหัวเราะขึ้นมา กล่าวทักทายกับ ลัวย่าวหัวแล้วเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย
ในห้องผู้ป่วย พ่อหยางนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับสอดท่อออกซิเจนไว้ใต้จมูกของเขา แม่นั่งข้างๆร้องไห้ด้วยเสียงเบาๆ อายืนอยู่ข้างๆ คอยดุด่าว่า “สัตว์สองตัวนั้นเลี้ยงไว้ทำไม? ใช้งานอะไรก็ไม่ได้ ช่วงเวลาหน้าสิวหน้าขวานขนาดนี้ยังไม่กลับมากันเลย!”
หยางโปยืนอยู่ที่ประตูได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจแต่เขาระงับความสงสัยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและเดินไป “แม่ ไม่เป็นไรนะ?”
อาต้องการที่จะตำหนิสองสามคำแต่เขารู้สึกอาย เขาแอบดูสีหน้าของหยางโปและเห็นว่าเขาไม่ตอบสนองอะไร นี่ทำให้ผ่อนคลายลง เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้นออกไป
แม่เห็นหยางโปมา นัยน์ตาของเธอมีความผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังเอ่ยถาม “เสี่ยวโป ลูกกลับมาแล้ว ลูกไปอยู่ที่ไหนมา?”
“เมื่อเช้าผมพึ่งเดินทางจากเยอรมันกลับมาถึงจิ่งเฉิง พอรับสายจากอาก็รีบนั่งเครื่องบินกลับมาที่นี่เลย” หยางโปตอบ
แม่สีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “ลูกบอกว่ากลับมาจากจิ่งเฉิงเหรอ?”
หยางโปพยักหน้า “ใช่ ผมนั่งเครื่องกลับมา”
แม่นิ่งไปชั่วขณะ “ลูกเจอพี่หยางหล่างหรือเปล่า?”
หยางโปหันไปมองรอบๆ ไม่เห็นมีหยางหล่าง เขาส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่เจอนะ เขาไม่ได้มาที่นี่เหรอ?”
แม่ส่ายหน้าและถอนหายใจ “เขาก็อยู่ที่เมืองหลวง เขาพาแฟนไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน ถ้านั่งเครื่องกลับมา ก็น่าจะถึงแล้วนะ!”
หยางโปไม่มีอะไรจะพูด เขารู้ว่าตัวเองรีบมาเร็วมาก แต่ยังรอที่สนามบินเป็นเวลานานตามปกติ แม่จะต้องโทรหาหยางหล่างก่อนแน่นอน หยางหล่างเขาไม่ได้อยู่ที่ห้องรอเครื่องในเวลานั้น เขาคงมาไม่ได้อย่างแน่นอน
อาอดที่จะปลอบใจไม่ได้เลยกล่าว ” ไม่เป็นไร ในเมื่อหยางโปรีบมาจากเมืองหลวง หยางหล่างก็คงจะตามมาถึงเร็วๆ นี้ล่ะ”