ตอนที่ 877 ใส่ร้าย
หยางโปจ้องมองขวดเล็กๆในมือของนามิ แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่เขาก็รู้ดีว่า สิ่งของที่อยู่ข้างในนั้นร้ายแรงถึงชีวิต !
หยางโปขมวดคิ้วและพูดว่า ” ถ้าเขาตายไป มันจะทำให้ชื่อเสียงของผมเสียหายได้ “
นามิยิ้ม “ คุณหยางอย่าโลภมากเกินไป 100 ล้านยูโรมันจะซื้อชื่อเสียงของคุณมาไม่ได้เชียวเหรอ ?มีเงินก้อนนี้ ต่อไปในอนาคตคุณก็ไม่จำเป็นต้องรักษาชีวิตให้ใครแล้ว ถึงกระทั่งที่ว่า ฉันสามารถช่วยคุณจัดหานางแบบระดับนานาชาติให้ได้ แค่คุณชอบ ! ”
หยางโปชำเลืองมองนามิ และยิ้ม ” ถ้าผมไม่ตอบตกลงล่ะ ? “
นามิก็หัวเราะตามด้วยเช่นกัน รอยยิ้มของเธอดูชวนให้น่าหลงใหลมาก และค่อนข้างมีเสน่ห์
เธอค่อยๆยัดขวดเล็กๆกลับเข้าไปที่เดิม ผ้าโปร่งสีขาวบนตัว เคลื่อนไหวตามมือที่ขยับ ค่อยๆร่วงหล่นลงจากเรือนร่าง ท่วงท่านี้ดูช่างงดงาม !
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวพรรณที่ขาวนวลไปทั้งตัวของเธอ ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น !
นามิถอดเสื้อผ้าลงไปกองไว้กลางเอว จากนั้นก็หันไปถามหยางโปว่า ” คุณจะไม่ทำตามจริงๆใช่ไหม ? แค่ฉันตะโกนออกมาในเวลานี้แค่คำเดียว ชีวิตนี้ของคุณก็จบเห่แน่ ! “
หยางโปจ้องหน้านามิ ” คุณจะทำแบบนี้จริงๆใช่ไหม ? “
นามิยิ้มจางๆ ” คุณคิดว่าฉันไม่กล้าใช่ไหม ? “
หยางโปก้าวไปข้างหน้า ทางด้านนามิก็ไม่อายแม้แต่น้อย ก้าวเท้าเดินมาด้านหน้าครึ่งก้าวจากนั้นทั้งสองก็ยืนประจันหน้ากัน
“ แล้วคุณจะเสียใจ ! ” หยางโปกล่าว
” คุณวางใจได้ ฉันไม่มีทางเสียใจอย่างแน่นอน ! ” นามิพูด
หยางโปไม่ยอมให้เธอพูดมากไปกว่านี้ เขาใช้มือทุบเธอจนสลบ จากนั้นก็โอบเอวของนามิด้วยมือข้างหนึ่ง วางเธอลงบนโซฟาที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นก็โทรเรียกอู่อีอีกครั้ง
ไม่นานอู่อีก็รีบวิ่งเข้ามา
เมื่ออู่อีเข้ามาในห้อง และเห็นนามินอนอยู่ในห้องกับหยางโป เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ
ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ นายคิดที่จะทำอะไร ? ”
สีหน้าหยางโปเต็มไปด้วยความไม่เฉยชา ” เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรได้ ? “
อู่อีจ้องหน้าหยางโป สีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจและโมโห “ นายทำแบบนี้ได้ยังไง ?
เธออายุมากขนาดนี้แล้ว นายยังทำเธอลงได้ยังไง ? วันนั้นฉันไม่ใช่หาคานะและเคโกะให้แล้วไม่ใช่หรือไง ? ต่อให้นายต้องการแค่ไหน ไปหาพวกเธอมันก็ยังดีกว่าเข้าหาหญิงแก่คนนี้ด้วยซ้ำ ! ”
” ต่อให้นายไม่อยากไปหาคานะ ถ้างั้นนาย… นายมาหาฉันก็ได้ ! “
หยางโปฟังที่อู่อีพูด ก็ตกตะลึงอ้าปากค้างไปทันใด เขาจ้องมองอู่อีตาถมึงทึง ” หาเธอ ? “
หน้าอู่อีแดงก่ำ “ นายกำลังพูดบ้าอะไร ? ฉันหมายความว่า นายโทรหาฉันได้ ฉันจะช่วยนายหาสาวขายบริการให้ ! ”
หยางโปมองหน้าอู่อี เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม มันยิ่งทำให้อู่อีเขินอาย และถึงกับทำให้เธอลืมปัญหาของนามิไปชั่วขณะ
ผ่านไปสักพัก หยางโปถึงได้เล่าเรื่องของนามิให้ฟัง
อู่อีถึงกับตกใจผงะไป เธอจ้องไปที่หยางโป “ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะทำเรื่องแบบนี้ ?
ต้องหยุดพวกเขาเอาไว้ ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด ! ”
หยางโปพยักหน้า ” ไม่ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม เราจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้ไม่มีมลทินเดี๋ยวนี้ ฉันอยากให้เธอไปส่งเธอกลับห้องหน่อยนะ “
” ไปส่งเธอกลับ ? ไม่ค้นตัวหรือไง ? จะไม่หาหลักฐานสักหน่อยเหรอ ? ” อู่อีถาม
หยางโปส่ายหัว ” เรื่องนี้ไม่ต้องการหลักฐาน เธอแค่ช่วยไปส่งเธอให้ฉันหน่อย จากนั้นก็ไปบอกเรื่องนี้กับทานิกาวะให้รู้ซะ “
อู่อีหันไปมองหน้าหยางโป ” นายไม่ได้ทำอะไรลงไปจริงๆใช่ไหม ? “
หยางโปส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ” เธอไม่เชื่อเหรอ ? “
อู่อีให้คนพานามิออกไปอย่างรวดเร็ว
หยางโปมองไปยังทิศทางที่อู่อีเดินจากไป เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น นิสัยของอู่อียังคงใจอ่อนเกินไป ในสภาพแวดล้อมที่กินเนื้อคนแบบนี้ กลัวว่าเธอจะต้องทนทุกข์และเสียเปรียบเป็นอย่างมาก หวังเพียงว่าเธอจะประสบความสำเร็จและราบรื่นในอนาคต
หยางโปต่อสายโทรหาลัวย่าวหัว และสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของ แก๊งฮง
ข่าวจากทางด้านลัวย่าวหัวกลับไม่ค่อยดีนัก หลังจากอวี่เหวินกินโสมเขียวแล้ว อาการของเขาก็ดีขึ้นมาก ผมก็เริ่มกลับมามีสีดำ แต่ก็ยังดูแก่ชราอยู่
“ อวี่เหวินรับลูกศิษย์อย่างเป็นทางการแล้ว ” จู่ๆ ลัวย่าวหัวก็พูดขึ้นมา
ถึงแม้หยางโปจะแปลกใจ แต่ก็เตรียมใจเอาไว้นานแล้วและก็ไม่ได้แปลกใจมากนัก
“ เขาเริ่มถ่ายทอดวิชาให้แล้วใช่ไหม ? ”
“ เรื่องนี้ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ พิธีคารวะอาจารย์รับศิษย์เป็นเรื่องของเมื่อวาน ตอนนี้ฉันก็ว่างอย่างสมบูรณ์แล้ว อวี่เหวินก็ไม่ต้องการให้ฉันดูแลอีกต่อไปแล้ว สถานการณ์ทางนายเป็นยังไงบ้าง ? อยากให้ฉันไปหาไหม ? ” ลัวย่าวหัวถาม
หยางโปเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ให้ฟัง และแม้แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ก็พูดออกมา
ลัวย่าวหัวเบิกตากว้าง “ ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอ ! คาบุกิโจนั่นเป็นสถานที่ดีแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ฉันอยากจะไปนานแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสเลย ไม่ไม่ฉันรอไม่ไหวแล้ว ฉันจะรีบไปประเทศญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้ นายพาฉันไปได้ไหม ? ”
หยางโปยิ้มและกล่าวว่า ” นายใจร้อนอะไรขนาดนั้น ? “
“ แน่นอน ฉันรักชาติมาก ถ้าฉันไปถึงประเทศญี่ปุ่นฉันจะต้องนำความรุ่งโรจน์มาให้กับประเทศอย่างแน่นอน สำหรับเรื่องที่นายพูดเกี่ยวกับผู้หญิงอะไรนั้น ฉันก็ไม่ไปเป็นชู้กับใคร เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน ! ” ลัวย่าวหัวตอบ
หยางโปหัวเราะและส่ายหน้า “ มันไม่ใช่อย่างที่นายว่า นายก็รู้ ถ้านายมาจริงๆ บางทีอาจจะเจอกับเรื่องอย่างว่าก็ได้ ! ”
ลัวย่าวหัวหัวเราะ “ นายคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนนายหรือไง ? นายนี่มันโง่จริงๆ ส่งมาหาถึงที่
ทำไมถึงไม่กล้ากินนะ ? ”
เมื่อลัวย่าวหัวพูดถึงเรื่องพวกนี้ ก็ปะปนกันไปหมด หยางโปอยู่พูดคุยกับเขาสักพักแต่ไม่ตอบตกลงคำขอของเขาที่จะมาหา จากนั้นก็วางสายไป แต่หยางโปคิดว่าลัวย่าวหัวไม่มีทางฟังคำของเขา
คงจะรีบมาหาในไม่ช้านี่แน่ !
เมื่อนึกถึงตรงนี้ หยางโปก็นึกถึงอวี่เหวินขึ้นมาอีกครั้ง เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยอมรับหยวนเฉิงเฟยเป็นศิษย์ !
หลังจากพักผ่อนไปสองวัน หยางโปก็ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง ลัวย่าวหัวที่รีบมาหา เมื่อได้ยินว่า
หยางโปกำลังจะฝังเข็มให้ทานิกาวะ แทนที่จะดึงหยางโปออกเขากลับรออย่างอดทน
เมื่อทำหลายครั้งติดต่อกัน หยางโปจึงชำนาญลู่ทางแล้ว ยิ่งฝังเข็มเข้าไปได้เร็ว พลังลมปราณที่ถ่ายทอดเข้าไปทุกครั้งล้วนถูกต้องทุกครั้งเพื่อให้พลังลมปราณสามารถกำจัดเนื้องอกได้เพียงพอ !
ทานิกาวะอดทนต่อความเจ็บปวดจากการกำจัดเนื้องอก ครั้งนี้ไม่ให้ใครอยู่ในที่เกิดเหตุดังนั้น
ทานิกาวะจึงทนต่อความเจ็บปวดและเอ่ยปากถามว่า ” คุณหยางครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์หรือเปล่า ? “
หยางโปพยักหน้า “ ใกล้เสร็จแล้ว วันนี้น่าจะประสบความสำเร็จแล้ว ! ”
หลังจากนั้นไม่นาน ทานิกาวะก็เงียบไปครู่หนึ่ง เขาเงยหน้าขึ้นมองหยางโป “ อีกสองวันหลังจากนี้ จะมีงานเลี้ยงเต้นรำจัดขึ้นหวังว่าคุณหยางจะเก็บเรี่ยวแรงไว้จนถึงเวลานั้น ผมมีของรางวัลชิ้นหนึ่งมามอบให้คุณ ! ”
หยางโปรู้สึกดีใจเล็กน้อย ” ยังมีของขวัญให้ผมอีกเหรอ ? “
ทานิกาวะยิ้ม “ มีแน่นอน หลายวันมานี้ต้องขอบคุณคุณที่ฝังเข็มให้ ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่สามารถมีชีวิตรอดมาได้ ! ”
หยางโปยิ้มแล้วฝังเข็มในมือลงไปโดยไม่พูดอะไรอีก
ไม่นานทานิคาวะก็ร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง
หลังจากการฝังเข็มครั้งนี้ผ่านพ้นไป หยางโปก็มองเห็นเนื้องอกที่ค่อยๆสลายตัวไป และในที่สุดก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและนั่งลงบนโซฟาข้างๆ เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะทำสำเร็จจริงๆ !
ทานิกาวะนอนอยู่บนเตียงโดยไม่พูดอะไร ในห้องจึงตกอยู่ในความเงียบทันที