ตอนที่ 897 ไม่ต้องนอน ออกมาสนุกกัน
หยางโปจ้องมองหยวนเฉิงเฟย หลังจากรู้ว่าอีกฝ่ายขโมยกระจกแก้วเจ็ดประการไป หยางโปก็มีอคติกับเขามากขึ้น จนถึงตอนนี้ หยวนเฉิงเฟย ก็ยังไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี !
” แกอย่าทำให้ฉันสับสนไปหน่อยเลย เมื่อเทียบกับอวี่เหวินแล้ว กระจกแก้วเจ็ดประการไม่ได้คุ้มค่าให้เอ่ยถึงเลย แต่ที่แกขโมยเอากระจกแก้วเจ็ดประการของฉันไป ทำไมถึงไม่ได้รับความยินยอมจากฉันก่อนล่ะ ? แกรู้ไหม ฉันอยู่ที่บ้านของท่านประธานของสมาคมอินากาวะ และต้องเผชิญกับอันตรายในชีวิต กว่าจะแลกเปลี่ยนโสมเขียวมาได้ ! “
สีหน้าหยางโปดูโกรธมาก ” แต่ทั้งหมดนี้กลับถูกมองข้าม แกรู้ไหมว่าแกกำลังทำอะไรลงไป ? “
ถ้าเป็นในอดีต หยวนเฉิงเฟยคงจะหวาดกลัวและยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขากำลังเผชิญหน้ากับผู้ฝึกฝนตบะที่มีพลังแข็งแกร่ง สำหรับเขาแล้ว ผู้ฝึกตบะที่ทรงพลังมันยากที่จะสังหารเขาได้ด้วยมือเดียว แต่ตอนนี้เขาไม่กลัวเพราะเขามีความมั่นใจแล้ว !
หยวนเฉิงเฟยมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และพูดว่า ” อาจารย์ลุง มันก็แค่กระจกแก้วเจ็ดประการชิ้นเดียวเท่านั้นไม่ใช่หรือไง ถ้าท่านอยากได้ ผมจะส่งคนไปแย่งชิงเอากระจกแก้วเจ็ดประการมาคืนให้
คิดว่าไง ? “
หยางโปมองหน้าหยวนเฉิงเฟย เมื่อเห็นว่าไม่มีวี่แววของความเสียใจบนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ต้นจนจบเขาเห็นคำพูดของเขาเหมือนลมพัดผ่านหูเท่านั้น หยางโปตกใจและโมโหขึ้นมาไม่น้อย ! หยางโปเหลือบไปมองอวี่เหวิน ก็เห็นว่าอวี่เหวินอยู่นิ่งๆ ทำราวกับว่าไม่อยากสนใจเรื่องนี้ หยางโปก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ จึงเปล่งเสียงเย้ยหยัน ยืนตรงและหันหลังเดินออกไปทันที
ลัวย่าวหัวรู้สึกค่อนข้างตกใจ เมื่อสักครู่เขาเห็นหยางโปมีทีท่าดูเหมือนว่าจะทะเลาะกับอีกฝ่ายให้ตายกันไปข้างหนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่าหยางโปไม่สนใจอีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกค่อนข้างตกใจ
จึงรีบเดินตามหยางโปออกไป
เมื่อเดินออกมาจากวิลล่า ลัวย่าวหัวก็เหลือบมองไปที่หยางโป และพูดอย่างโกรธๆว่า
” จริงๆเลย อวี่เหวินหักหน้ากันเกินไปแล้ว จะดีจะร้ายก็เป็นพี่น้องที่ผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน ทำไมเขาถึงได้นั่งดูลูกศิษย์ทำพฤติกรรมแบบนี้ได้กันนะ ? “
หยางโปไม่ได้ตอบอะไรแต่เดินตรงออกไปข้างนอกเลย
ลัวย่าวหัวพูดออกมาอย่างไร้ศักดิ์ศรีมากว่า ” พวกเรามาอยู่ที่นี่กันแล้ว จะไม่พักอยู่ที่นี่สักหน่อยเหรอ ? “
” ถ้านายอยากพักอยู่ที่นี่ นายก็พัก ฉันไม่มีทางพักอยู่ที่นี่หรอก ” หยางโปพูดเสียงดัง
ในขณะที่พูดดูเหมือนเขาจะหันหน้าตะโกนเข้าไปในห้อง
ลัวย่าวหัวตกใจมาก นี่ไม่เหมือนสไตล์ที่หยางโปเคยเป็น เขาเป็นคนถ่อมตน ไม่มีทางที่เขาจะทำแบบนี้ !
รอจนหยางโปเดินออกไปได้ไกลแล้ว ลัวย่าวหัวถึงจะรู้ตัว ” วันนี้นายเป็นอะไร ?
กินยามาหรือเปล่า ? “
หยางโปส่ายหน้า ” ช่างมันเถอะ พวกเราอยู่อเมริกากันไปก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ พักสักวันแล้วพรุ่งนี้พวกเราก็กลับจีนกันเถอะ “
ลัวย่าวหัวตกใจมาก “ กลับจีนพรุ่งนี้ ? ทำไมเร็วขนาดนี้ล่ะ ฉันยังไม่ได้ไปเที่ยวเล่นให้สนุกเลยนะ ! ”
“ เที่ยวเล่นสนุกอะไร ? ” หยางโปถาม
ลัวย่าวหัวยิ้ม “ เรื่องส่วนตัว ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น เราไปที่ย่านแสงสีเสียงกันมารอบหนึ่ง ฉันคิดว่าในเมื่ออยู่ที่อเมริกา ก็ควรจะไปกันสักครั้ง ไปขี่ม้าฝรั่งตัวใหญ่กัน ฮี้กับๆฮี้กับๆ นี่ก็เป็นการทำเพื่อเกียรติยศให้กับประเทศของเรา ! ”
“ ประเทศญี่ปุ่นกับพวกเรามีความบาดหมางต่อกัน แถมนายจะไปสร้างเกียรติยศให้กับประเทศอยู่ที่นั่นอีก แล้วทำไมนายถึงไม่สร้างเกียรติให้กับประเทศที่นี่เลยล่ะ ? ” หยางโปถาม
ลัวย่าวหัวหัวเราะออกมา “ ฉันจะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังให้กับประเทศบ้านเกิด
และต่อไปในภายภาคหน้า มันก็จะกระจายไปทั่วทุกสารทิศ ตอนนั้น เจงกีสข่านก็ยังทำแบบนี้ไม่ใช่หรือไง ? สายเลือดของจีน ถึงได้มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกไง ! “
หยางโปถึงได้เข้าใจเรื่องนี้ เขาส่ายหัวเล็กน้อย “ ถ้านายไม่มีอะไรทำ คืนนี้นายก็สามารถไป
หว่านเมล็ดพันธุ์ของนายได้เลย แต่ฉันจะพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมก่อน ”
ลัวย่าวหัวไม่สนใจมากนัก ” ก็ดี แต่นายต้องรอฉันกลับมาก่อนนะ อย่าแอบหนีกลับไปคนเดียวล่ะ “
หยางโปโบกมือ “ นายสบายใจได้ ”
ทั้งสองคนเข้าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ลัวย่าวหัว รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออกทันที
เขาเริ่มพูดคุยอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หันมาพูดกับหยางโปคำหนึ่ง แล้วก็ออกไปทันที
หยางโปนั่งอยู่ในห้องและเงียบไปทันที
กลับมาอเมริกาครั้งนี้จุดประสงค์หลักของหยางโปคือมาพบอวี่เหวิน ตอนนี้อวี่เหวินกำลังค่อยๆฟื้นตัว เขาก็ไม่ได้มีอะไรทำมากนัก แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ หยวนเฉิงเฟย
ในเวลาเพียงแค่สิบกว่าวันสั้นๆ เขาก็รู้สึกว่าหยวนเฉิงเฟยเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
แต่ก่อนเขาเป็นคนถ่อมตัว แต่ตอนนี้กลับหยิ่งยโสอย่างไม่ลืมหูลืมตา หยวนเฉิงเฟยคิดว่าตัวเองกลายเป็นลูกศิษย์ของอวี่เหวินแล้ว ก็สามารถทำความผิดอย่างกำเริบเสิบสานได้ แต่เขากลับไม่รู้ตัวว่า นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น หยางโปถึงขั้นสัมผัสได้ว่าหยวนเฉิงเฟยไม่ทันได้ฝึกฝนพลังลมปราณอะไรเลย !
อันที่จริงสิ่งที่ทำให้หยางโปรู้สึกสงสัยมากที่สุดคือ ท่าทีของอวี่เหวิน เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ
อวี่เหวินกลับไม่แสดงความคิดเห็นอะไรเลย นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้หยางโปรู้สึกสงสัยมาก !
เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า การทำนายของอวี่เหวินนั้นถือว่าแม่นมาก แต่ครั้งนี้เขาออกไปข้างนอกเอง แต่กลับเกือบจะเอาชีวิตกลับมาไม่รอด มันจึงทำให้หยางโปแปลกใจมาก ก่อนที่จะพบกับเรื่องแบบนี้ หรือว่าอวี่เหวินไม่ได้ดูดวงชะตาเอาไว้ ?
ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่อวี่เหวินตามหาหญ้าเปลวไฟ หยวนต้าก็เป็นคนบอกที่ตั้ง ในระหว่างทางเสี่ยงภัยและอันตรายมากขนาดนั้น ถึงหยวนต้าจะไม่ได้พูดถึง แต่อวี่เหวินจะไม่สงสัยเลยหรือไง ?
ยิ่งหยางโปคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกสงสัย และมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ท่าทีของอวี่เหวินทำให้เขารู้สึกค่อนข้างไม่แน่ใจ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในระหว่างนี้ ?
ครุ่นคิดอยู่ครึ่งค่อนคืน หยางโปก็คิดไม่ออก เขาจึงนั่งขัดสมาธิและกำลังจะเริ่มฝึกพลังลมปราณ จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
” ถ้าต้องการไถ่ตัวคุณลัว ตอนนี้เชิญมาที่ถนนหมายเลข115 ถนนควีนส์โรดเดี๋ยวนี้ ! ” เสียงดังมาตามสายโทรศัพท์
หยางโปรู้สึกแปลกใจไม่น้อย “ คุณเป็นใคร ? ”
“ คุณลัวติดหนี้ผมอยู่สามแสนดอลลาร์สหรัฐ ให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมงให้รีบมา ถ้าภายในครึ่งชั่วโมงไม่รีบมา และเกินเวลาล่ะก็… ! ” พออีกฝ่ายพูดประโยคนี้จบ ก็ตัดสายไปทันที
หยางโปตกใจมากเขาคิดไม่ถึงมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้
ลัวย่าวหัวไม่มีญาติไม่มีศัตรูในสหรัฐอเมริกา ก็เป็นธรรมดาที่หยางโปไม่กล้าแจ้งเรื่องนี้ให้พ่อแม่ของเขาที่จีนทราบ เขารีบวิ่งพรวดออกไปขว้างรถแท็กซี่และรีบไปที่ถนนควีนส์โรดทันที
เดิมที หยางโปคิดว่าสถานที่แห่งนั้นอยู่ห่างไกลมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสถานที่ที่อยู่ใจกลางเมือง บนถนน หมายเลข115 ถนนควีนส์โรดเป็นไนต์คลับขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่แปลกใจเลยที่หยางโปจะเอ่ยถึงแค่หมายเลข ยังไม่ทันได้พูดถึงอย่างอื่น แต่คนขับรถก็พาเขามาส่งที่นี่แล้ว !
หยางโปลงจากรถและก้มหน้ามองดูเวลา ยี่สิบนาทีพอดี หยางโปมองไปรอบๆ เวลานี้ลูกค้ากำลังไหลเวียนเข้ามาในไนต์คลับพอดี มีรถจำนวนมากจอดอยู่รอบๆ เขาจึงหยิบโทรศัพท์ต่อสายโทรกลับไปทันที
” ลัวย่าวหัวอยู่ไหน ? ” หยางโปถามออกมาตรงๆ
อีกฝ่ายรับโทรศัพท์และหัวเราะฮ่าๆ “ มาถึงเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ? ดี เขาอยู่ในห้องวีไอพีที่ชั้นสอง คุณสามารถขึ้นไปหาเขาได้เลย ”
หยางโปรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ เมื่อได้ฟังน้ำเสียงของอีกฝ่าย ดูไม่เหมือนว่าเขาจะถูกจับตัวเอาไว้เลย แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลัวย่าวหัวอยู่ดี
เมื่อเข้าไปในไนต์คลับ มีเสียงเพลงดังกระหึ่มเข้ามาในหู หยางโปกวาดตามองไปรอบๆก็เห็นว่ามีลิฟต์อยู่ด้านข้าง เขาเดินผ่านฝูงชนที่เบียดเสียดกันเดินเข้าไปในลิฟต์
ไม่นาน หยางโปก็มาถึงชั้นสอง เห็นได้ชัดว่าที่นี่เงียบมาก จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและเห็นว่าประตูห้องวีไอพีเปิดอยู่และมีเสียงร้องตะโกนดังออกมา
หยางโป เดินเข้าไป ก็เห็นลัวย่าวหัวนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โต๊ะพนันเมื่อหันมาเห็นหยางโป เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ ดึกขนาดนี้แล้ว นายออกมาเที่ยวเล่นเหมือนกันเหรอ ! ”