ตอนที่ 899 งานเลี้ยงการกุศล
หยางโปไม่เคยรู้สึกว่า อวี่เหวินควรจะสอนทักษะความสามารถให้เขาเลย แต่เขากลับรู้สึกว่าเขาเป็นหนี้อวี่เหวินมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลานี้ที่เมื่ออวี่เหวินประสบพบเจอกับภัยพิบัติใหญ่แบบนี้ เขารู้สึกว่าถ้าไม่สามารถทำบางอย่างให้อวี่เหวินได้เขาก็มักจะรู้สึกไม่สบายใจ
แต่สำหรับหยวนเฉิงเฟยมันเป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง หยางโปไม่ไว้ใจหยวนเฉิงเฟย ก็เหมือนกับที่ หยวนเฉิงเฟยไม่ไว้ใจเขา ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันนี้ เริ่มมาตั้งแต่หยวนเฉิงเฟยขโมยกระจกแก้วเจ็ดประการของเขาไป
ในขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น หยางโปก็ดื่มเหล้ารวดเดียวจนหมดเกลี้ยง เขาเหลือบไปมองลัวย่าวหัวและพูดว่า ” มันดึกมากแล้วเรากลับโรงแรมกันเถอะ “
ลัวย่าวหัวรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ในเมื่อหยางโปไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เขาพูดขึ้นมามันก็ไร้ประโยชน์
หลังจากออกจากบาร์มา ทั้งสองก็เรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง หยางโปวางมือข้างหนึ่งไว้ที่มือจับประตูและกำลังจะเปิดประตู แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากทางด้านหลัง
เขาจึงหันกลับไปมองและเห็นคนกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูกันเข้ามา ปากของพวกเขาก็ร้องตะโกนไปด้วยว่า
” อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ ! “
กลุ่มคนที่วิ่งพุ่งเข้ามาคือกลุ่มคนดำ พวกเขาถือมีดพร้าอยู่ในมือและวิ่งกรูเข้าหาพวกเขา
หยางโปที่กำลังจะก้าวเข้าไปในรถ ก็สังเกตเห็นว่ามือของเขาแน่น ที่แท้แท็กซี่ไม่ยอมให้เขาเปิดประตูนี่เอง และขับตรงออกไปเลย คงน่าจะกลัวมีปัญหา !
” นายวิ่งหนีไปก่อน ! ” หยางโปกล่าว
ลัวย่าวหัวปัดมือ ” ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่กับนาย ! “
” นายออกจากที่นี่ไปก่อน ฉันสวมชุดเกราะล้ำค่าอยู่ พวกเขาไม่สามารถทำร้ายฉันได้ นายสบายใจได้ ! ” หยางโปกล่าว ” ถ้านายยังอยู่มันจะเป็นภาระซะเปล่าๆ ! “
ลัวย่าวหัวครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไปทันที แต่เขาวิ่งไปได้แค่ระยะทางหนึ่งก็หยุดลงอีกครั้ง
ทางด้านหยางโปก็วิ่งตรงเข้าไปท่ามกลางฝูงชน
ก่อนหน้านี้หยางโปต่อสู้ไม่เป็น จนกระทั่งได้มาเรียนรู้มวยตระกูลเยว่ เขาก็ไม่ได้มีประสบการณ์ในการต่อสู้ที่แท้จริงมามากนัก แต่ตอนนี้เขาได้สัมผัสกับการต่อสู้มาทุกรูปแบบแล้ว ท่ามกลางการหลบเลี่ยงคมดาบ ก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าเขาจะรับมือไม่ได้
แต่แค่ครู่เดียว หยางโปก็ทำเอาทุกคนกลิ้งกระจายลงไปอยู่บนพื้น !
หยางโปสังเกตเห็นว่ากลุ่มคนที่ออกมา พวกเขาเป็นคนผิวดำทั้งหมด เขาเหยียบแขนของคนๆหนึ่งแล้วถามด้วยเสียงอันดังว่า ” บอกมา ว่าใครส่งพวกแกมาที่นี่ ? “
ชายคนนั้นหยิ่งยโสมาก ส่ายหัวไม่ยอมปริปากพูดอะไร
หยางโปจ้องหน้าอีกฝ่าย กดเท้าลงอีก ทันใดนั้นชายผิวดำคนนี้ก็เหงื่อแตก ” ฉันบอกแล้ว ฉันบอกแล้ว หัวหน้าของเราสั่งให้เรามาที่นี่ ฉันก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่เฉพาะเจาะจงหรอก ! “
หยางโปขมวดคิ้ว “ คนที่มอบหมายงานนี้ให้พวกแก เป็นคนเอเชียหรือคนยุโรป ”
” เป็นคนเอเชีย ” ชายผิวดำตอบ
หยางโปหันหลังและเดินไปข้างหน้า แต่เขาเดินเร็วกว่าเดิม มีคนผิวดำบางคนที่ตอบสนอง
คิดที่จะหยิบปืนออกมายิง แต่เมื่อเห็นเขาเคลื่อนไหวได้เร็วมาก เร็วจนเกินระยะการยิง จึงทำได้แต่หยุดอยู่เท่านั้น
ทั้งสองเรียกรถแท็กซี่อีกครั้งและกลับไปที่โรงแรม เมื่อลัวย่าวหัวเห็นว่าหยางโปไม่พูดไม่จา
เขาก็ไม่ได้พูดถึงมันอีก จนกระทั่งมาถึงโรงแรม ลัวย่าวหัวถึงได้เอ่ยปากถามไปว่า ” ใครส่งมา ? “
” เป็นเขา ” หยางโปตอบ
ลัวย่าวหัวตบโต๊ะ ” กลั่นแกล้งกันมากเกินไปแล้ว ! “
” หยวนเฉิงเฟยมันไม่ใช่คนจริงๆ เราต้องให้บทเรียนกับมันซะหน่อยแล้ว ! ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปนั่งอยู่ด้านข้าง เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อน แต่ตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าคนที่ทำเป็นหยวนเฉิงเฟย แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน !
” นายคิดจะทำยังไงต่อ ? ” ลัวย่าวหัวถาม
หยางโปลังเลอยู่สักพัก ” พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันอีกที ! “
ลัวย่าวหัวค่อนข้างเป็นกังวล แต่เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่สามารถคิดออกได้ชัดเจนในช่วงเวลาสั้นๆ
เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า “ อืมงั้นก็ได้ นายคิดไปก่อน ฉันจะไปนอนแล้ว ”
ในความเป็นจริงตอนนี้ตีสามแล้ว ต่อให้นอนหลับ ก็คงนอนได้ไม่นาน แต่ลัวย่าวหัวก็ยังคงเลือกกลับไปที่ห้อง
ค่ำคืนที่เงียบสงัด
เช้าวันที่สอง ลัวย่าวหัวเห็นหยางโปมีขอบตาคล้ำ แต่กลับเห็นเขาสวมสูทสีดำ ที่ดูใหม่หมดจด
“ นี่คิดจะทำอะไร ? ” ลัวย่าวหัวมองหยางโปขึ้นลงอย่างสงสัย
” พวกเราไม่กลับแล้ว ฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่ง วันนี้จะมีงานเลี้ยงการกุศลดังนั้นฉันจึงเลื่อนตั๋วออกไปอีกหนึ่งวัน ” หยางโปกล่าว
ลัวย่าวหัวรู้สึกแปลกใจไม่น้อย “ งานเลี้ยงอะไรสำคัญขนาดนั้น ? ”
“ งานเลี้ยงการกุศลของฮอลลีวูด ” หยางโปตอบ
” ใช่เหรอ เข้าร่วมงานเลี้ยงการกุศลของฮอลลีวูด หรือนายคิดออกแล้ว คิดที่จะใช้ทางลัดใช่หรือเปล่า ? ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปจ้องมองมา “ สัจจะวาจาก็หาไม่ได้จากพวก ชาติหมา ! ”
ลัวย่าวหัวยิ้มและโบกมือ “ ในเมื่อเป็นงานเลี้ยง ถ้างั้นฉันไม่รีบฉันจะกลับไปนอนพักเอาแรงสักหน่อย จริงๆเลยนะ ฉันโทรหาแม่แล้วนะเนี้ยะ ตอนนี้ต้องโทรหาอีกครั้งซะแล้ว ! “
พอพูดจบ ลัวย่าวหัวก็เดินกลับไปที่ห้องอีกครั้ง
หยางโปมองออกไปข้างนอกแต่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่นานก็มาถึงยามค่ำคืน ทั้งสองสวมชุดใหม่เข้าไปในรถ
หยางโปหยิบการ์ดเชิญออกมาและส่งให้ลัวย่าวหัว “ นี่ หยางเต๋อเชิงส่งมาให้ งานเลี้ยงการกุศล ”
ลัวย่าวหัวมองไปที่บัตรเชิญ ” งานเลี้ยงการกุศล ยังมีอะไรอีกบ้างนอกจากดาราผู้หญิง ?
นายไม่ควรไปงานเลี้ยงการกุศลเพื่อนักแสดงหญิง ! “
หยางโปพยักหน้า “ เพราะอาจมีบางอย่างปรากฏขึ้นในงานเลี้ยงการกุศล ”
“ มันคืออะไร ? ” ลัวย่าวหัวมองข้ามมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หยางโปพยักหน้า “ เหยือกสี่เหลี่ยมทองสัมฤทธิ์ที่มีดอกบัวและนกกระเรียนจากราชวงศ์ฮั่น ”
ลัวย่าวหัวขมวดคิ้ว “ เหยือกสี่เหลี่ยมทองสัมฤทธิ์ที่มีดอกบัวและนกกระเรียน ? มันล้ำค่ามากเลยเหรอ ? ”
หยางโปพยักหน้า “ จะพูดว่ายังไงดีนะ มันค่อนข้างมีค่ามาก แต่มันก็ไม่ใช่สมบัติของชาติ ”
ลัวย่าวหัวอดไม่ได้ที่จะชายตามองมา เขาพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะเขารู้ดีว่า
หยางโปน่าจะยังมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจ เพราะพวกเขารู้สึกไม่ค่อยสู้ดีนักกับเรื่องของ
หยวนเฉิงเฟย ลัวย่าวหัวถึงกับคิดว่าควรจะกำจัดออกไปให้โดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาตามมาภายหลัง !
หยางโปไม่ได้พูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีแผนการเอาไว้แล้ว การลอบสังหารที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อคืน ทำให้เขาค่อนข้างที่จะสงสัย แต่ยังมีหลักฐานที่ไม่เพียงพอ
งานเลี้ยงการกุศลจัดขึ้นที่โรงแรมเวนิส นี่ไม่ใช่โรงแรมที่ดีที่สุดในย่านนี้ แต่เป็นสถานที่ยอดนิยมของดาราฮอลลีวูด ดาราฮอลลีวูดหลายคนชอบพักอยู่ที่นี่
เมื่อตอนที่หยางโปทั้งสองมาถึงก็มีคนจำนวนมากมาถึงในงานแล้ว หลังจากแสดงบัตรเชิญทั้งสองคนก็เดินเข้าไปข้างใน
หยางเต๋อเชิงรออยู่ข้างในแล้ว เมื่อเห็นหยางโป เขาก็พารูปร่างอ้วนท้วมวิ่งออกมาอย่างว่องไว“ อาจารย์ลุง อาจารย์ลุงต้องขอบคุณมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของท่าน
ตอนนี้ผมยังคงถูกขังอยู่ในสมาคมอินางาวะแน่ๆ ! ”
หยางโปโบกมือ “ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ”
หยางเต๋อเชิงยิ้มและพูดว่า ” อาจารย์ลุง ท่านไม่ต้องกังวลไป ผมคุ้นเคยกับที่นี่ถ้าวันนี้ท่านชอบใครคนไหน เดี๋ยวผมจะแนะนำให้รู้จักเอง ! “
หยางโปยิ้มและชี้ไปที่ลัวย่าวหัว ” ไม่ต้องแนะนำให้ฉันหรอก ช่วยแนะนำให้เขารู้จักก็พอแล้ว “
ลัวย่าวหัวตอบกลับมา ” นี่… ไม่ดีมั้ง ! “
” นายคิดมากเกินไปจริงๆ ดาราชั้นนำทำเงินได้มากมาย พวกเธอไม่มีทางคิดถึงเรื่องอย่างว่าพวกนี้ แน่ มีเพียงดาราระดับสามเท่านั้นที่พอจะมีโอกาส ! ” หยางโปกล่าว