ตอนที่ 923 คืนดีกัน
หยางโปรู้ดีว่าฮัวชิงหยุนกำลังหึงหวงเยว่เหยาอยู่ เธอคิดว่าไม่ว่าหยางโปไปไหนก็มักจะพาเยว่เหยาไปด้วยทุกที่ จึงรู้สึกไม่ชอบใจเอามากๆ !
แต่เมื่อต้องมาเผชิญกับปัญหานี้เข้าจริงๆ หยางโปก็สับสนไม่น้อย เขารู้ดีว่าฮัวชิงหยุน แค่ต้องการได้ยินเขาพูดว่า เยว่เหยาจะไม่มีทางกลับมาอีก แม้ว่าจะโกหกเธอ ฮัวชิงหยุนก็มีความสุขมาก ! แต่หยางโปกลับรู้สึกค่อนข้างอึดอัดใจ โดยมักจะรู้สึกเสมอว่า เขาหลอกอีกฝ่ายมาโดยตลอด
จึงทำให้เขารู้สึกลำบากใจ
ฮัวชิงหยุนหน้าถอดสีไปเล็กน้อย เธอจ้องมองหยางโปเขม็ง ” หยางโปนายคิดอะไรอยู่กันแน่ ?
นายอยากคบกับเยว่เหยาใช่ไหม ? ”
หยางโปมองไปที่ฮัวชิงหยุน จากนั้นเขาก็เหลือบไปที่ลู่เจียเฟย ” พี่เฟย ช่วยไปซื้อบุหรี่ให้ผมหน่อย ”
ลู่เจียเฟยหันมามองหยางโปด้วยความรู้สึกแปลกใจ หยางโปไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เขาเอื้อมมือไปลูบกระเป๋า ด้านในมีบุหรี่อยู่หนึ่งซอง ในขณะที่เขากำลังจะหยิบมันออกมา แต่จู่ๆเขาก็รู้ทัน
“ ได้ ฉันจะออกไปซื้อบุหรี่ ”
เมื่อเห็นหยางโปแยกพี่ชายลูกพี่ลูกน้องออกไป ฮัวชิงหยุนก็จ้องมองหยางโปเขม็ง
“ ว่ามา สรุปแล้วนายต้องการจะพูดอะไร ? ”
หยางโปมองหน้าฮัวชิงหยุน และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงหยิบกระบี่หยกออกมาจากในอกแล้วยื่นให้ “ อันที่จริง กระบี่หยกเล่มนี้คือเหตุผลที่ หยวนเฉิงเฟยไล่ฆ่าฉัน ”
ฮัวชิงหยุนรับกระบี่หยกมาวางไว้บนฝ่ามือ กระบี่หยกเล่มนี้มีความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร
มันดูใสราวน้ำแข็งและสวยงามมาก
“ ทำไม ? ” ฮัวชิงหยุนมองหน้าหยางโป
หยางโปดึงกระบี่หยกจากฝ่ามือของเธอกลับมา พลังเริ่มไหลเวียน จากนั้นพลังค่อยๆถ่ายทอดเข้าไปในกระบี่หยก เขาค่อยๆยกกระบี่หยกขึ้นและตัดตรงลงไปที่ถ้วยน้ำชากระเบื้องทันที
กระบี่หยกตัดลงตรงกลางถ้วยกระเบื้องไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาระหว่างนั้น เหมือนน้ำแข็งและหิมะที่กำลังละลาย ถ้วยชาก็ค่อยๆแบ่งครึ่งออกจากกันเป็นสองชิ้น
“ แกร๊ก ! ” เสียงดังคมชัด ถ้วยกระเบื้องร่วงหล่นลงบนโต๊ะ
ฮัวชิงหยุนถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ เธอมองไปที่กระบี่หยกในมือของหยางโปตาไม่กระพริบ
ไม่ว่ายังไง ก็คาดไม่ถึงอยู่ดีว่าจะได้มาเห็นฉากแบบนี้ !
หลังจากนั้นสักพัก ฮัวชิงหยุนถึงได้เงยหน้าขึ้นและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
” นี่คือ… นี่คือสิ่งที่นายเคยพูดมาก่อนหน้านี้ พลังที่มีอยู่เหนือโลกนี้ใช่ไหม ? ”
หยางโปได้ยินอย่างชัดเจนว่าเสียงของ ฮัวชิงหยุนค่อนข้างสั่นเทา เขายื่นมือออกไปเกาะกุมมือของฮัวชิงหยุนไว้เบาๆ “ ไม่ต้องกังวลไป ไม่มีอะไร อวี่เหวิน เธอน่าจะรู้จักอวี่เหวินดี เขาเป็นผู้ฝึก
วรยุทธ์อีกทั้งยังเป็นรุ่นพี่ของฉันด้วย เริ่มแรกเขาเป็นคนพาฉันเข้าสำนักและเรียนรู้การฝึกวรยุทธ์ ”
ฮัวชิงหยุนจ้องมองหยางโปตาเขม็ง มองขึ้นและลงอย่างพินิจพิเคราะห์ ” พวกนายบินเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยหรือเปล่า ? ”
“ จะเป็นไปได้ยังไง ? ” หยางโปยิ้มและเอ่ยออกมา “ เธอมั่นใจได้เลย พลังแบบนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากจนเกินไป มันจะปรากฏขึ้นเมื่อตอนใช้มันเท่านั้น ”
เมื่อเห็นหยางโปแบ่งปันความลับสุดยอดแบบนี้ให้ ฮัวชิงหยุนก็รู้สึกดีขึ้นมาก เธอหันไปถาม
หยางโปว่า ” แล้วนายเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ? เยว่เหยาก็เป็นคนฝึกวิทยายุทธ์ด้วยใช่ไหม ? ”
หยางโปพยักหน้า “ เธอลงมาจากภูเขาเอ๋อเหม่ย อาจารย์ของเธอเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจมาก เหตุผลที่เธอลงเขามา เป็นเพราะอาจารย์ของเธอต้องการให้เธอมาฝึกฝนอยู่ในโลกมนุษย์ปุถุชน ดังนั้นเธอจึงต้องค่อยติดตามฉันในช่วงเวลานั้น คืออยากให้ฉันช่วยสอนเธอ ”
ฮัวชิงหยุนมองหน้าเขา ” ถ้าเธอเป็นผู้ฝึกพลังเหมือนกัน พวกนายก็จะยิ่งเป็นคู่ที่เหมาะสมกันกว่านี้อีกไม่ใช่หรือไง ? ”
หยางโปส่ายหัว “ สำหรับฉันแล้ว ฉันเป็นผู้ฝึกพลังอยู่แล้ว ฉันมีความสามารถที่จะปกป้องเธอได้ พวกเราถึงจะเหมาะสมกัน ”
ฮัวชิงหยุนมีสีหน้าแอบดีใจ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร แต่ยังไงซะหยางโปก็เห็นได้ชัดว่าเธออารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว
“ ฉันอยู่ปีสามแล้ว ฉันสามารถยื่นขอออกไปฝึกงานได้ ไม่ว่านายจะไปที่ไหน ฉันก็จะตามนายไปทุกที่ ! ” ฮัวชิงหยุนกล่าว
หยางโปรู้สึกตกใจปนดีใจ “ จริงเหรอ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ ? ”
“ หรือว่านายอยากให้ฉันเปลี่ยนใจ ? ” ฮวาชิงหยุนเบะปากทำหน้าบึ้งกลับ
หยางโปอดหัวเราะไม่ได้ “ ถ้าเธอไม่เปลี่ยนใจ งั้นก็ไม่เปลี่ยนใจ ”
ไม่นาน ลู่เจียเฟยก็กลับมาพร้อมกับบุหรี่ซองหนึ่ง เมื่อเห็นหยางโปทั้งสองคุยกันอย่างมีความสุข
ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เขาจึงหันไปแอบยกนิ้วโป้งให้หยางโป
ดึกหน่อย ลู่เจียเฟยก็มีสายโทรเข้า และหันไปพูดกับทั้งสองคนว่า “ มีงานเลี้ยงสังสรรค์ นัดเจอกับกลุ่มเพื่อนน่ะ คืนนี้ต้องดื่มเหล้าแน่นอน ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เอารถไปแล้วนะ ทิ้งรถไว้ให้พวกนายก็แล้วกัน ”
หยางโปรับกุญแจมาและหันไปยิ้มให้ลู่เจียเฟย “ ตอนกลางคืนระวังตัวหน่อย ”
หยางโปขับรถพาฮัวชิงหยุนไปทานอาหารเย็นใต้แสงเทียน จากนั้นจึงพาเธอไปเดินเล่นรอบๆสวนสาธารณะใกล้ๆ
“ ฉันต้องกลับแล้ว ดึกมากแล้ว มหาลัยจะปิดประตูแล้ว ” ดูเหมือนฮัวชิงหยุนจะรู้ตัวว่าค่อนข้างดึกแล้ว จึงรีบเอ่ยออกมา
“ ไม่เป็นไร เธอไปนอนกับฉันที่โรงแรมก็ได้ ” หยางโปพูด
ฮัวชิงหยุนจ้องหน้าหยางโป “ นายมีอพาร์ทเม้นท์อยู่ไม่ใช่เหรอ ? มีบ้านและวิลล่าอยู่ ทำไมต้องพักที่โรงแรมด้วย ? ”
หยางโปหัวเราะ “ โรงแรมสะดวกกว่า ! ”
“ พักโรงแรมมันสิ้นเปลืองเงินทองน่ะสิ ! ” ฮัวชิงหยุนกล่าว
“ ตกลง งั้นคืนนี้ฉันจะย้ายกลับไปพัก ” หยางโปตอบ อันที่จริงแล้ว เขายังไม่ได้จองโรงแรมเลย อพาร์ทเม้นท์ของเขาทำความสะอาดเป็นประจำ ดังนั้น ถ้าย้ายกลับไป ก็สามารถอยู่ได้เลย
หยางโปขับรถมาส่งฮัวชิงหยุนนอกประตูมหาลัย จากนั้นเขาก็จอดรถไว้ข้างนอกแล้วไปส่ง
ฮัวชิงหยุนถึงชั้นล่างของหอพัก ฮัวชิงหยุนชี้ไปทางด้านหลัง “ เฮ้ มีผู้หญิงสวยๆ อยู่ตรงนั้น ! ”
หยางโปมองไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าถูกจูบเข้าที่แก้มครั้งหนึ่ง
อย่างนุ่มนวล เขาหันกลับไปมองฮัวชิงหยุน
ใบหน้าของฮัวชิงหยุนแดงก่ำ เธอทำตาโตจ้องมองหยางโปและพูดอย่างเสียงดุไปว่า “ หากครั้งหน้ายังมีปฏิกิริยาแบบนี้อีก งั้นก็ไม่ใช่จูบแก้มแล้วนะ ฉันจะให้รางวัลนายด้วยการตบหน้าทีหนึ่ง ! ”
หยางโปหัวเราะ “ ใครให้เธอโกหกฉันแบบนี้ ผู้คนก็มักจะหันหน้ามองตามสิ่งที่คนอื่นพูดโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะไม่หันหน้าไป นั่นก็ต้องบังคับตัวเองไม่ให้หันไป วิธีนี้ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เอาซะเลย ! ”
ฮัวชิงหยุนส่ายหน้า “ ฉันไม่สน ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องถูกลงโทษ ! ”
พอพูดจบ ฮัวชิงหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก กระโดดโลดเต้นกลับไปทันที
หยางโปเหลือบมองหอพักแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป
มหาลัยแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ต้นไม้โอเรียนเต็ลทั้งสองข้างทางนั้นต้นหนาเท่าผู้ใหญ่คนหนึ่งที่สามารถโอบรอบได้ หยางโปเดินไปตามถนน เหลือบมองดูแสงไฟริบรี่ของตึกหอพักที่อยู่ไกลออกไป อดรู้สึกทอดถอดใจไม่ได้ เวลานั้นถ้าเขาเข้าเรียนมหาลัย มันจะเป็นยังไงนะ ?
ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น ทันใดนั้น หยางโปก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าในความมืด จู่ๆก็มีคนสองคนวิ่งออกมาและพุ่งตรงเข้ามาหาเขาทันที ! หนึ่งในนั้นยังถือกระสอบอยู่ในมืออีกด้วย !
ลักพาตัว !
นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของหยางโป แต่เขาก็ปฏิเสธออกไปอย่างรวดเร็ว การลักพาตัวในโรงเรียน ไม่มีทางที่จะพาเขาออกไปได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังถือกระสอบซึ่งเห็นได้ชัดว่าอยากจะกระทืบเขาแน่นอน !
ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็พุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขา คนที่มือทั้งสองข้างว่างเปล่าอยู่นั้น วิ่งตรงเข้าหา
หยางโป แต่กลับถูกหยางโปเตะออกไป
อีกคนถือกระสอบคิดที่จะเอาคลุมหัวหยางโปไว้ แต่หยางโปกลับเอียงตัวหลบไปด้านข้างเล็กน้อย และเตะไปอย่างแรง จนเตะเข้าเอวของฝ่ายตรงข้ามทีหนึ่ง ทำเอาอีกฝ่ายหน้าถึงกับหงายลงกับพื้น !
ตอนที่ 923 คืนดีกัน
หยางโปรู้ดีว่าฮัวชิงหยุนกำลังหึงหวงเยว่เหยาอยู่ เธอคิดว่าไม่ว่าหยางโปไปไหนก็มักจะพาเยว่เหยาไปด้วยทุกที่ จึงรู้สึกไม่ชอบใจเอามากๆ !
แต่เมื่อต้องมาเผชิญกับปัญหานี้เข้าจริงๆ หยางโปก็สับสนไม่น้อย เขารู้ดีว่าฮัวชิงหยุน แค่ต้องการได้ยินเขาพูดว่า เยว่เหยาจะไม่มีทางกลับมาอีก แม้ว่าจะโกหกเธอ ฮัวชิงหยุนก็มีความสุขมาก ! แต่หยางโปกลับรู้สึกค่อนข้างอึดอัดใจ โดยมักจะรู้สึกเสมอว่า เขาหลอกอีกฝ่ายมาโดยตลอด
จึงทำให้เขารู้สึกลำบากใจ
ฮัวชิงหยุนหน้าถอดสีไปเล็กน้อย เธอจ้องมองหยางโปเขม็ง ” หยางโปนายคิดอะไรอยู่กันแน่ ?
นายอยากคบกับเยว่เหยาใช่ไหม ? ”
หยางโปมองไปที่ฮัวชิงหยุน จากนั้นเขาก็เหลือบไปที่ลู่เจียเฟย ” พี่เฟย ช่วยไปซื้อบุหรี่ให้ผมหน่อย ”
ลู่เจียเฟยหันมามองหยางโปด้วยความรู้สึกแปลกใจ หยางโปไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เขาเอื้อมมือไปลูบกระเป๋า ด้านในมีบุหรี่อยู่หนึ่งซอง ในขณะที่เขากำลังจะหยิบมันออกมา แต่จู่ๆเขาก็รู้ทัน
“ ได้ ฉันจะออกไปซื้อบุหรี่ ”
เมื่อเห็นหยางโปแยกพี่ชายลูกพี่ลูกน้องออกไป ฮัวชิงหยุนก็จ้องมองหยางโปเขม็ง
“ ว่ามา สรุปแล้วนายต้องการจะพูดอะไร ? ”
หยางโปมองหน้าฮัวชิงหยุน และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงหยิบกระบี่หยกออกมาจากในอกแล้วยื่นให้ “ อันที่จริง กระบี่หยกเล่มนี้คือเหตุผลที่ หยวนเฉิงเฟยไล่ฆ่าฉัน ”
ฮัวชิงหยุนรับกระบี่หยกมาวางไว้บนฝ่ามือ กระบี่หยกเล่มนี้มีความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร
มันดูใสราวน้ำแข็งและสวยงามมาก
“ ทำไม ? ” ฮัวชิงหยุนมองหน้าหยางโป
หยางโปดึงกระบี่หยกจากฝ่ามือของเธอกลับมา พลังเริ่มไหลเวียน จากนั้นพลังค่อยๆถ่ายทอดเข้าไปในกระบี่หยก เขาค่อยๆยกกระบี่หยกขึ้นและตัดตรงลงไปที่ถ้วยน้ำชากระเบื้องทันที
กระบี่หยกตัดลงตรงกลางถ้วยกระเบื้องไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาระหว่างนั้น เหมือนน้ำแข็งและหิมะที่กำลังละลาย ถ้วยชาก็ค่อยๆแบ่งครึ่งออกจากกันเป็นสองชิ้น
“ แกร๊ก ! ” เสียงดังคมชัด ถ้วยกระเบื้องร่วงหล่นลงบนโต๊ะ
ฮัวชิงหยุนถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ เธอมองไปที่กระบี่หยกในมือของหยางโปตาไม่กระพริบ
ไม่ว่ายังไง ก็คาดไม่ถึงอยู่ดีว่าจะได้มาเห็นฉากแบบนี้ !
หลังจากนั้นสักพัก ฮัวชิงหยุนถึงได้เงยหน้าขึ้นและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
” นี่คือ… นี่คือสิ่งที่นายเคยพูดมาก่อนหน้านี้ พลังที่มีอยู่เหนือโลกนี้ใช่ไหม ? ”
หยางโปได้ยินอย่างชัดเจนว่าเสียงของ ฮัวชิงหยุนค่อนข้างสั่นเทา เขายื่นมือออกไปเกาะกุมมือของฮัวชิงหยุนไว้เบาๆ “ ไม่ต้องกังวลไป ไม่มีอะไร อวี่เหวิน เธอน่าจะรู้จักอวี่เหวินดี เขาเป็นผู้ฝึก
วรยุทธ์อีกทั้งยังเป็นรุ่นพี่ของฉันด้วย เริ่มแรกเขาเป็นคนพาฉันเข้าสำนักและเรียนรู้การฝึกวรยุทธ์ ”
ฮัวชิงหยุนจ้องมองหยางโปตาเขม็ง มองขึ้นและลงอย่างพินิจพิเคราะห์ ” พวกนายบินเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยหรือเปล่า ? ”
“ จะเป็นไปได้ยังไง ? ” หยางโปยิ้มและเอ่ยออกมา “ เธอมั่นใจได้เลย พลังแบบนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากจนเกินไป มันจะปรากฏขึ้นเมื่อตอนใช้มันเท่านั้น ”
เมื่อเห็นหยางโปแบ่งปันความลับสุดยอดแบบนี้ให้ ฮัวชิงหยุนก็รู้สึกดีขึ้นมาก เธอหันไปถาม
หยางโปว่า ” แล้วนายเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ? เยว่เหยาก็เป็นคนฝึกวิทยายุทธ์ด้วยใช่ไหม ? ”
หยางโปพยักหน้า “ เธอลงมาจากภูเขาเอ๋อเหม่ย อาจารย์ของเธอเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจมาก เหตุผลที่เธอลงเขามา เป็นเพราะอาจารย์ของเธอต้องการให้เธอมาฝึกฝนอยู่ในโลกมนุษย์ปุถุชน ดังนั้นเธอจึงต้องค่อยติดตามฉันในช่วงเวลานั้น คืออยากให้ฉันช่วยสอนเธอ ”
ฮัวชิงหยุนมองหน้าเขา ” ถ้าเธอเป็นผู้ฝึกพลังเหมือนกัน พวกนายก็จะยิ่งเป็นคู่ที่เหมาะสมกันกว่านี้อีกไม่ใช่หรือไง ? ”
หยางโปส่ายหัว “ สำหรับฉันแล้ว ฉันเป็นผู้ฝึกพลังอยู่แล้ว ฉันมีความสามารถที่จะปกป้องเธอได้ พวกเราถึงจะเหมาะสมกัน ”
ฮัวชิงหยุนมีสีหน้าแอบดีใจ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร แต่ยังไงซะหยางโปก็เห็นได้ชัดว่าเธออารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว
“ ฉันอยู่ปีสามแล้ว ฉันสามารถยื่นขอออกไปฝึกงานได้ ไม่ว่านายจะไปที่ไหน ฉันก็จะตามนายไปทุกที่ ! ” ฮัวชิงหยุนกล่าว
หยางโปรู้สึกตกใจปนดีใจ “ จริงเหรอ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ ? ”
“ หรือว่านายอยากให้ฉันเปลี่ยนใจ ? ” ฮวาชิงหยุนเบะปากทำหน้าบึ้งกลับ
หยางโปอดหัวเราะไม่ได้ “ ถ้าเธอไม่เปลี่ยนใจ งั้นก็ไม่เปลี่ยนใจ ”
ไม่นาน ลู่เจียเฟยก็กลับมาพร้อมกับบุหรี่ซองหนึ่ง เมื่อเห็นหยางโปทั้งสองคุยกันอย่างมีความสุข
ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เขาจึงหันไปแอบยกนิ้วโป้งให้หยางโป
ดึกหน่อย ลู่เจียเฟยก็มีสายโทรเข้า และหันไปพูดกับทั้งสองคนว่า “ มีงานเลี้ยงสังสรรค์ นัดเจอกับกลุ่มเพื่อนน่ะ คืนนี้ต้องดื่มเหล้าแน่นอน ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เอารถไปแล้วนะ ทิ้งรถไว้ให้พวกนายก็แล้วกัน ”
หยางโปรับกุญแจมาและหันไปยิ้มให้ลู่เจียเฟย “ ตอนกลางคืนระวังตัวหน่อย ”
หยางโปขับรถพาฮัวชิงหยุนไปทานอาหารเย็นใต้แสงเทียน จากนั้นจึงพาเธอไปเดินเล่นรอบๆสวนสาธารณะใกล้ๆ
“ ฉันต้องกลับแล้ว ดึกมากแล้ว มหาลัยจะปิดประตูแล้ว ” ดูเหมือนฮัวชิงหยุนจะรู้ตัวว่าค่อนข้างดึกแล้ว จึงรีบเอ่ยออกมา
“ ไม่เป็นไร เธอไปนอนกับฉันที่โรงแรมก็ได้ ” หยางโปพูด
ฮัวชิงหยุนจ้องหน้าหยางโป “ นายมีอพาร์ทเม้นท์อยู่ไม่ใช่เหรอ ? มีบ้านและวิลล่าอยู่ ทำไมต้องพักที่โรงแรมด้วย ? ”
หยางโปหัวเราะ “ โรงแรมสะดวกกว่า ! ”
“ พักโรงแรมมันสิ้นเปลืองเงินทองน่ะสิ ! ” ฮัวชิงหยุนกล่าว
“ ตกลง งั้นคืนนี้ฉันจะย้ายกลับไปพัก ” หยางโปตอบ อันที่จริงแล้ว เขายังไม่ได้จองโรงแรมเลย อพาร์ทเม้นท์ของเขาทำความสะอาดเป็นประจำ ดังนั้น ถ้าย้ายกลับไป ก็สามารถอยู่ได้เลย
หยางโปขับรถมาส่งฮัวชิงหยุนนอกประตูมหาลัย จากนั้นเขาก็จอดรถไว้ข้างนอกแล้วไปส่ง
ฮัวชิงหยุนถึงชั้นล่างของหอพัก ฮัวชิงหยุนชี้ไปทางด้านหลัง “ เฮ้ มีผู้หญิงสวยๆ อยู่ตรงนั้น ! ”
หยางโปมองไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าถูกจูบเข้าที่แก้มครั้งหนึ่ง
อย่างนุ่มนวล เขาหันกลับไปมองฮัวชิงหยุน
ใบหน้าของฮัวชิงหยุนแดงก่ำ เธอทำตาโตจ้องมองหยางโปและพูดอย่างเสียงดุไปว่า “ หากครั้งหน้ายังมีปฏิกิริยาแบบนี้อีก งั้นก็ไม่ใช่จูบแก้มแล้วนะ ฉันจะให้รางวัลนายด้วยการตบหน้าทีหนึ่ง ! ”
หยางโปหัวเราะ “ ใครให้เธอโกหกฉันแบบนี้ ผู้คนก็มักจะหันหน้ามองตามสิ่งที่คนอื่นพูดโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะไม่หันหน้าไป นั่นก็ต้องบังคับตัวเองไม่ให้หันไป วิธีนี้ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เอาซะเลย ! ”
ฮัวชิงหยุนส่ายหน้า “ ฉันไม่สน ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องถูกลงโทษ ! ”
พอพูดจบ ฮัวชิงหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก กระโดดโลดเต้นกลับไปทันที
หยางโปเหลือบมองหอพักแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป
มหาลัยแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ต้นไม้โอเรียนเต็ลทั้งสองข้างทางนั้นต้นหนาเท่าผู้ใหญ่คนหนึ่งที่สามารถโอบรอบได้ หยางโปเดินไปตามถนน เหลือบมองดูแสงไฟริบรี่ของตึกหอพักที่อยู่ไกลออกไป อดรู้สึกทอดถอดใจไม่ได้ เวลานั้นถ้าเขาเข้าเรียนมหาลัย มันจะเป็นยังไงนะ ?
ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น ทันใดนั้น หยางโปก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าในความมืด จู่ๆก็มีคนสองคนวิ่งออกมาและพุ่งตรงเข้ามาหาเขาทันที ! หนึ่งในนั้นยังถือกระสอบอยู่ในมืออีกด้วย !
ลักพาตัว !
นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของหยางโป แต่เขาก็ปฏิเสธออกไปอย่างรวดเร็ว การลักพาตัวในโรงเรียน ไม่มีทางที่จะพาเขาออกไปได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังถือกระสอบซึ่งเห็นได้ชัดว่าอยากจะกระทืบเขาแน่นอน !
ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็พุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขา คนที่มือทั้งสองข้างว่างเปล่าอยู่นั้น วิ่งตรงเข้าหา
หยางโป แต่กลับถูกหยางโปเตะออกไป
อีกคนถือกระสอบคิดที่จะเอาคลุมหัวหยางโปไว้ แต่หยางโปกลับเอียงตัวหลบไปด้านข้างเล็กน้อย และเตะไปอย่างแรง จนเตะเข้าเอวของฝ่ายตรงข้ามทีหนึ่ง ทำเอาอีกฝ่ายหน้าถึงกับหงายลงกับพื้น !