ตอนที่ 262 รถชน
หยางโปมองทุกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าอย่างประหลาดใจมาก แล้วก็ฟังลัวย่าวหัวกับตาอ้วนหลิวต่างก็เล่าเรื่องของตัวเองและอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ เขาจึงหันหน้าไปมองหลูตงซิง ” คุณก็เกิดปัญหาเหรอ ? “
” เดิมทีธุรกิจที่ตกลงกันเอาไว้แล้วก็ล้มขึ้นมาหลายชิ้น ฉันขาดทุนไปมาก ” หลูตงซิงก็ส่ายหน้าพลางเอ่ยอย่างจนปัญญา
หยางโปนั่งอยู่บนเก้าอี้ ลูบหัวเข่าของตนเอง ความเจ็บระบมตรงนี้ยังคงย้ำเตือนเขาว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ !
อย่าบอกนะว่ามีคำสาปอยู่จริงๆ ? เป็นลายแทงแผนที่ต้องคำสาป ของอื่นๆ ของแคว้นเย่หลางโบราณก็ต้องคำสาปเหมือนกันรึเปล่านั้นตอนนี้ยังไม่รู้ได้ แต่หยางโปกลับแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องแก้สถานการณ์ตอนนี้ให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบต่องานการธุรกิจของพวกเขาอย่างใหญ่หลวงแน่ !
” พวกนายมีใครรู้จักหมอผีไหม เป็นของจริงจะดีที่สุด เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ โชคร้ายขนาดนี้ เรียกว่าไม่มีโชคเลยต่างหาก ! ” ลัวย่าวหัวอดที่จะโอนครวญไม่ได้ กระเป๋าเงินของเขาถูกขโมย เมื่อครู่เพิ่งจะแจ้งตำรวจ ทางนั้นก็กำลังจัดการ แต่เอกสารที่จำเป็นต้องทำก็เยอะมาก เรื่องนี้ทำให้เขารำคาญใจมากที่สุด !
หยางโปเงยหน้ามอง เห็นตาอ้วนหลิวลังเล หลูตงซิงกลับเอ่ยว่า ” ฉันรู้จักอาจารย์ท่านหนึ่ง บางทีอาจจะช่วยได้ “
ทุกคนหันหน้าไปมอง หลูตงซิงเอ่ยอธิบายว่า ” ทุกครั้งที่จะซื้อที่ดินใหม่ ฉันก็จะเชิญอาจารย์ท่านนั้นไปคำนวณฟ้าดินสักครั้ง ดังนั้นก็เลยคุ้นเคยกับเขามาก “
ตาอ้วนหลิวเอ่ยปากถาม ” เถ้าแก่หลู คุณพูดถึงอาจารย์ท่านไหนเหรอ ? “
” อาจารย์เซวียน วัดติ้งเจว๋ของจิงเฉิง ” หลูตงซิงกล่าว
ตาอ้วนหลิวพลันเข้าใจ ” พระอาจารย์ท่านนั้นล้ำลึก ทั้งยังเชี่ยวชาญในการศึกษาพระคัมภีร์ ดูไม่ธรรมดาเลยจริงๆ “
” ต้องนัดหมายไหม ? ” ลัวย่าวหัวพลันเอ่ยถาม
หลูตงซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ” ฉันจะติดต่อท่านตอนนี้เลย ! “
กล่าวจบ เขาก็ชี้ไปที่ด้านนอก ” ดูจากสถานการณ์ของฉันแล้ว จะให้ดีอย่าแยกกันขับรถเลยนะ เตรียมรถเอาไว้เผื่อสักสองคันก็แล้วกัน “
” ได้ ผมจะติดต่อเอาไว้ ” ลัวย่าวหัวกล่าว
ไม่นานทุกคนก็เตรียมตัวเรียบร้อย ขึ้นรถแล้วหยางโปก็มองไปนอกหน้าต่าง ในใจหวาดหวั่น ตั้งแต่ที่ได้พลังพิเศษมา เขาก็เชื่อมั่นในอนาคตของตนเอง แต่เมื่อเจอกับเรื่องพรรค์นี้จริงๆ แล้วเขาถึงได้พบว่า โลกใบนี้มีเรื่องเกินกว่าการควบคุมอยู่มากมาย
รถยนต์เดินทางไปอย่างเชื่องช้า ลัวย่าวหัวกำชับกับคนขับใช้ช้าลงหน่อยไม่ต้องรีบ ให้ระวังความปลอดภัย
ระหว่างทางที่รถติด คนขับก็ขับช้ามาก ตอนที่ขับรถมาถึงทางชัน ข้างหน้าก็ติดนิ่งแล้ว คนขับจำต้องหยุดรถดึงเบรกมือ รอจนกังวลใจเล็กน้อย หยางโปเงยหน้าขึ้นไปมองด้านหน้า ทันใดนั้นก็ตกใจมาก รถคันด้านหน้าไถลมาแล้ว !
” ระวัง ! ” หยางโปเอ่ยอย่างตกใจ
ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นเห็นรถคันข้างหน้าถึงกับค่อยๆ ไถลลงมา เสียง ” เพล้ง ” ดังขึ้น รถทั้งสองคันชนกันแล้ว !
รถยนต์คันนี้เป็นรถที่หลูตงซิงซื้อมาจากต่างประเทศ เป็นรถที่กันกระสุนได้โดยเฉพาะ แต่ว่าพอชนกับรถคันข้างหน้าแล้วกลับไม่สามารถชะงักนิ่งอยู่บนทางลาดได้ รถยนต์จึงไถลลงไปด้านล่าง
” เพล้ง ! “
เสียงดังขึ้นอีกครั้ง รถชนเข้ากับรถคันข้างหลัง หยางโปเห็นสีหน้าของลัวย่าวหัวซีดขาว ตาอ้วนหลิวก็ทาบหน้าอกพูดไม่ออก มีแค่หลูตงซิงที่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของรถมากกว่าหน่อย สีหน้ากลับยังคงแตกตื่น
หยางโปจับไปที่จับบนประตูรถแน่นมาก เขารู้สึกถึงเสียง ” เพล้งเพล้ง ” ของการชนรถด้านหลัง ยังมีเสียงกระจกแตก ” เพล้ง ” ดังขึ้น ทำให้รู้สึกตึงเครียดมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
รถไถลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็หยุดชะงักลง พวกหยางโปสี่คนก็รีบลงจากรถ หันกลับไปมอง ด้านหลังรถยนต์สิบกว่าคันชนประสานแน่นอยู่ด้วยกันแล้ว ในนั้นยังมีรถที่ลัวย่าวหัวเตรียมมาอยู่ด้วยคันหนึ่ง
โชคดีที่ทุกคนยังมีรถสำรอง เผชิญหน้ากับรถกันกระสุนนำเข้าที่หลูตงซิงเตรียมเอาไว้กับรถธรรมดาที่ลัวย่าวหัวจัดเตรียม ทุกคนก็เลือกคันหน้า ตอนที่รถยนต์เมื่อครู่ รถกันกระสุนได้รับผลกระทบไม่ร้ายแรง ทำให้ทุกคนเชื่อมั่นในความปลอดภัยของรถกันกระสุน
นั่งอยู่บนรถ วนไปอยู่รอบหนึ่ง ในที่สุดก็เดินทางเข้าสู่ถนนเส้นตรงข้ามที่รถไม่ติด ทุกคนถึงค่อยถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
รถยนต์เดินทางมาถึงทางแยกไฟจราจรแล้วอยู่บริเวณรอเลี้ยวซ้าย ลัวย่าวหัวเอ่ยปากกล่าว ” หวังว่าพวกเราจะไปถึงวัดติ้งเจว๋ได้อย่างปลอดภัยนะ “
” อย่าพูดเป็นลาง ! ” หยางโปรีบเอ่ยดุ
ลัวย่าวหัวกระตุกยิ้ม ” ไม่เป็นไรหรอกน่า “
พูดยังไม่ทันจบพวกเขาก็ได้ยินเสียงเบรก ” เคร้ง ” ดังแสบแก้วหู จากนั้นก็มีเสียง ” เพล้ง ” ดังลั่นอยู่ข้างใบหู ทุกคนมองออกไปก็เห็นรถสีขาวที่พุ่งตรงมาปกติคันหนึ่งถูกรถคันสีแดงที่ผ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนอย่างจัง !
เสียง ” ปัง ” ดังขั้น รถคันสีขาวแยกเป็นส่วนๆ ส่วนด้านหน้ารถลอยมาตกลงบนกระจกหน้ารถของพวก
หยางโป !
หยางโปมองไปตาถลน เห็นได้เลยว่าด้านบนกระจกที่ถูกชน มีเลือดสีแดงไหลออกมา !
” อุแหว่ะ ! ” ตาอ้วนหลิวอาเจียนออกมาอย่างทนไม่ไหว
ภายในรถพลันเหม็นเปรี้ยว เดิมทีทุกคนตกใจกลัวจนหน้าถอดสี ชะงักนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อน เวลานี้ราวกับติดเชื้อ ทุกคนอ้าปากแล้วรีบผลักประตูลงจากรถกันทันที
ลัวย่าวหัวยืนอยู่นอกรถ ขวางทางลงรถของหยางโป หยางโปอดยุ่งยากใจไม่ได้จึงเอ่ยปากว่า ” นายเดินออกไปหน่อย “
” ฉันขาอ่อน ” ลัวย่าวหัวจับประตูรถ เอ่ยเสียงสั่น
หยางโปก็ขาอ่อนเล็กน้อย เขาก็ยังลงมาจากรถ หาพื้นที่ข้างทางที่ปลอดภัยแล้วนั่งยองๆ ลงไป เห็นด้านข้างมีโรงแรมอยู่ร้านหนึ่ง หยางโปดึงหลูตงซิง ” ไปเชิญอาจารย์มาที่นี่ได้ไหมครับ พวกเรายังไม่ต้องไปหรอก “
หลูตงซิงพยักหน้า ทุกคนรีบเดินทางไปที่นั่นก็เพื่อแสดงความเคารพ แต่ว่าการเดินทางมาได้ช่วงหนึ่งก็เจอกับเรื่องแบบนี้ แม้เขาจะมีประสบการณ์ผ่านลมผ่านฝนมาก็รับไม่ไหว
” ฉันจะโทรศัพท์ไปหาอาจารย์ ” หลูตงซิงกล่าว
กล่าวจบหลูตงซิงก็เดินไปไม่ไกล โทรศัพท์แล้วก็เดินกลับมาอย่างรวดเร็ว ” พระอาจารย์เซวียนตอบรับแล้ว ตอนนี้ฉันเตรียมรถอีกคันหนึ่งไปรับท่านแล้ว “
เดินเข้าไปในโรงแรม ทั้งสี่คนเปิดห้องธรรมดาสองห้อง หยางโปอยู่กับลัวย่าวหัว หลูตงซิงก็อยู่กับตาอ้วนหลิว เดินเข้าไปในห้อง หยางโปก็ทนต่อไปไม่ไหว เอนตัวนอนบนเตียง
ลัวย่าวหัวนั่งอยู่บนเตียง เขามองหยางโปแล้วทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่พูด
” นายอยากจะพูดอะไร ? ” หยางโปเงยหน้าขึ้นมองแล้วเอ่ยถาม
ลัวย่าวหัวกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ” ถ้ายังไงพวกเราทิ้งลายแทงแผ่นนั้นไปไหม ? “
” ไม่แน่ว่าสาเหตุจะมาจากลายแทงก็ได้ บางทีอาจจะเป็นเหตุผลอื่น รออีกหน่อยเถอะ ” หยางโปเอ่ย เขาไม่คิดจะปล่อยลายแทงไปง่ายๆ ลายแทงนั้นเขาก็เอามาแล้ว แต่ว่าถ้าหากสาเหตุเป็นลายแทงจริงๆ เขาก็จะไม่ลังเลที่จะทิ้งมัน !
” เมื่อคืนวาน เด็กหนุ่มเผ่าอี๋คนนั้นพูดว่าหยิบลายแทงออกมาจากน้ำเลือด ฉันก็รู้สึกผิดปกติอยู่บ้าง ลายแทงนี้มีปัญหาแน่ๆ ” ลัวย่าวหัวเอ่ยขึ้นอีก
หยางโปก็รู้ว่าลัวย่าวหัวนั้นตกใจกลัวจนขวัญเสียแล้ว เขาจำต้องเอ่ยปลอบ ” นายสบายใจเถอะ เข้ามาอยู่ในโรงแรมแล้ว น่าจะปลอดภัยขึ้นมากแล้ว พวกเรารอจนอาจารย์เซวียนมาแล้วค่อยดูท่านจะว่ายังไงดีกว่า “
ลัวย่าวหัวเองก็จนปัญญา จำเป็นต้องพยักหน้าตอบรับไป
หยางโปลุกขึ้น เปิดสวิตซ์เครื่องทำน้ำอุ่น ต้มน้ำแล้วถึงได้นอนลงไปใหม่อีกครั้ง
แต่ว่าไม่นานหยางโปก็ชะงักไป เพราะว่าน้ำร้อนเครื่องทำน้ำอุ่นเปิดอยู่ตลอดไม่ได้ปิดเลย ราวกับต้มน้ำไม่ได้อย่างนั้น…