เนตรเซียนทะลุสมบัติ – ตอนที่ 272

ตอนที่ 272 นายกเทศมนตรี

รถขับเข้าไปในลานจอด หยางโปผ่านแสงสลัวๆ ในที่สุดเขาก็เห็นใบหน้าของนายกเทศมนตรี อีกฝ่ายดูๆไปแล้วน่าจะอายุยี่สิบกว่าและยังหนุ่มมากๆ และสีผิวก็ขาวเช่นเดียวกับคนเจียงหนานมากกว่าชนกลุ่มน้อยที่นี่

หยางโปรีบเดินเข้าไป หยิบบุหรี่ออกมาแล้วส่งไปให้อีกฝ่าย ต้องรบกวนคุณแล้วจริงๆ

ชายคนนั้นหยิบบุหรี่ขึ้นมาและยิ้มให้หยางโป ” พวกคุณมาจากไหน ? ทำไมพวกคุณถึงอยากมาเที่ยวที่นี่ ? “

” พวกเรามาจากจินหลิง ผมมีเพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่ใน หมู่บ้านชื่อสุ่ย เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมจึงมาแจ้งข่าวร้ายนี้ ” หยางโปตอบ

ชายคนนั้นพยักหน้า พบว่าทุกคนออกมาจากรถแล้ว เขาหันกลับและเดินไปที่สำนักงานและขึ้นไปชั้นบนนายกเทศมนตรีพาไปที่ห้องประชุมและเปิดแอร์ แล้วหันมากล่าวกับทุกคน ” ต้องขอโทษด้วยจริงๆ สถานที่เรียบง่าย ทุกคนอย่าได้ถือสา ! “

 

” ไม่เป็นไรครับ ท่านนายกเทศมนตรี สามารถให้พวกเราพักพิงที่นี้ได้ พวกเรารู้สึกซาบซึ้งมากๆ ! ” หยางโปกล่าว

ทุกคนวางกระเป๋าเป้เอาไว้บนโต๊ะและหยางโปก็ถือโอกาสถาม ” นายกเทศมนตรี คุณไม่ใช่คนที่นี่ใช่ไหมครับ ? ฟังจากสำเนียงคุณเหมือนคนกรุงเลย “

นายกเทศมนตรีหัวเราะ ” ผมชื่อชุยอี้ฝาน เติบโตที่ปักกิ่ง “

หยางโปตกตะลึง ถอยหลังมาครึ่งก้าว เริ่มต้นมองฝ่ายตรงข้ามใหม่ ลักษณะเขาดูน่าจะอายุ 24-25 ปี ดูๆไปแล้วค่อนข้างคล้ายกันกับ ชุยอี้ผิง

ชุยอี้ฝาน รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาเห็นพฤติกรรมของ หยางโป ” ทำไม ? คุณรู้จักผมเหรอ ? “

หยางโปกำลังจะปฏิเสธ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าลัวย่าวหัวจะรีบกล่าว ” เอ่อ ! คุณดูคล้ายกับชุยอี้ผิงมากๆเลย ! “

 

ชุยอี้ฝานหันไปมองลัวย่าวหัวด้วยความประหลาดใจ ” นั่นคือพี่ชายของผม คุณรู้จักเขาด้วยเหรอ ? “

ลัวย่าวหัวหันไปมองหยางโป น้ำเสียงแปลกเล็กน้อย ไม่เพียงแต่ผมรู้จัก แต่ผมยังคุ้นเคยอีกด้วย !

ผมชื่อลัวย่าวหัว เขาชื่อหยางโป ตามที่คุณพูด เรารู้จักพี่ชายของคุณแน่นอน “

หยางโปหันไปมองที่ลัวย่าวหัว เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับตระกูลชุยมากเกินไป และไม่คิดเลยว่าอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้สถานที่ห่างไกลขนาดนี้ยังจะมาเจอคนในตระกูลชุยอีก

ชุยอี้ฝานหัวเราะขึ้น มีท่าทีที่กระตือรือร้น พวกคุณรอก่อนผมจะไปเอาน้ำร้อนมาให้พวกคุณ อากาศหนาวแบบนี้ดื่มน้ำร้อนๆเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นจะดีกว่า

พูดจบ ชุยอี้ฝานก็เดินออกไปข้างนอก ดูแล้วน่าจะไปสอบถามว่าพวกเขาเป็นใคร

 

หยางโปทำอะไรไม่ถูกจ้องมองไปที่ลัวย่าวหัว ” นายพูดอะไรไร้สาระจริงๆ ? “

ลัวย่าวหัวหัวเราะ ” ฉันทำสิ่งนี้เพื่อนาย ตอนนี้เขาโทรไปแล้ว มองกลับกันสถานะของพวกเราก็จะดีขึ้นมา พวกเราทุกคนทานมื้อเย็นกันแล้วรึยังล่ะ ? บางทีอาจจะสามารถทำอะไรกินได้นิดหน่อยก็ได้ ! “

ตาอ้วนหลิวพอรู้อะไรบางอย่าง ยังไงก็ตามหลูตงซิงไม่รู้เรื่องราวภายในและไม่เข้าใจ ” พวกคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีเหรอ ? หรือว่าหยางโปมีความสัมพันธ์กับพี่สาว น้องสาวคนไหนในตระกูลของพวกเขา ? “

” ควรจะพูดว่าล้วนมีความสัมพันธ์ ! “ลัวย่าวหัวกล่าวแล้วหัวเราะ

” ล้วนมีความสัมพันธ์เหรอ ? ” หลูตงซิง รู้สึกประหลาดใจและอดไม่ได้ที่จะมองหยางโป

” อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของเขาเลย ” หยางโปทำอะไรไม่ถูก

ฮ่ะฮ่ะ ลัวย่าวหัว หัวเราะขึ้น ” ไม่ได้พูดล้อเล่นนะ พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อกี้นายกเทศมนตรีคนนั้นอาจเป็นลูกพี่ลูกน้องของหยางโปก็ได้ ! “

 

หลูตงซิงมองไปที่หยางโป ไม่รู้ว่าจะถามตรงเรื่องแบบนี้

ชุยอี้ฝานรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว ที่มือของเขาไม่ได้ถือน้ำร้อนมาด้วย แต่มองไปที่หยางโปและมองดูทุกคนอีกครั้ง ” พวกคุณกินอะไรรึยัง ? “

ลัวย่าวหัวส่ายหน้า ยังไม่ได้กินเลยครับ แถวๆนี้ก็ไม่มีที่ให้กินอะไรเลย

” พวกคุณรอสักครู่ ผมจะขอให้ในครัวทำก๋วยเตี๋ยวให้พวกคุณได้อิ่มท้องสักหน่อย ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะพาพวกคุณไปทานอาหารจานเด็ดของชาวอี้ ! “

ลัวย่าวหัวเวลานั้นรู้สึกประหลาดใจแล้วกล่าว โอเค ถ้างั้นต้องขอบคุณมากจริงๆ !

” พวกคุณรอหน่อย ผมจะไปจัดการให้พวกคุณ ” พูดจบ ชุยอี้ฝานเหลือบไปมอง หยางโปแล้วเดินออกไป

ลั่วย่าวหัวมองไปที่หยางโป ” พวกเราใช้ประโยชน์จากนาย ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในใบหน้าของนาย ! “

 

พูดจบ ลัวย่าวหัวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ” พวกเขาเป็นเด็กของครอบครัวใหญ่ดังนั้นจึงกล้าที่จะถูกส่งไปยังสถานที่แบบนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยสถานการณ์ในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยทางตะวันตกเฉียงใต้มีความซับซ้อนอยู่เสมอเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่สามารถเติบโตในพื้นที่รากหญ้าแบบนี้ได้จะประสบความสำเร็จอย่างมากในอนาคต ! “

ตาอ้วนหลิวพยักหน้า ” ฉันเคยได้ยินมาก่อนแล้วว่ามีครอบครัวใหญ่ๆ ที่ส่งลูกไปเรียนในระดับรากหญ้า ในเวลานั้นรู้สึกว่าพวกเขามีทรัพยากรที่ไม่ซ้ำใครและตอนนี้ฉันเห็นสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายแบบนี้ พอลองคิดดูว่าพวกเขาสามารถสร้างความสำเร็จได้นั้นมันไม่ง่ายเลยจริงๆ “

หลูตงซิงมองดูทั้งสามคนและรู้สึกประหลาดใจ ตอนแรกเขาคิดว่าหยางโปเป็นเพียงผู้ประเมินราคาอัจฉริยะของครอบครัวธรรมดาๆในจินหลิง แต่เขาไม่คิดเลยว่าครอบครัวที่น่าทึ่งของลัวย่าวหัวจะหนุนหลังเขาอยู่ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ

 

ยังไงก็ตามเขาก็แอบดีใจ เขาเลือกที่จะร่วมมือและไม่ได้อยู่เบื้องหลัง

หยางโปไม่ได้พูดอะไรมากได้เพียงแต่นั่งรอ

ไม่นาน ชุยอี้ฝาน มาพร้อมกับถาดมีชามใหญ่สองใบบนถาด ตามด้วยลุงวัยกลางคนที่สวมใส่ผ้ากันเปื้อน

” ดึกมากแล้ว ก็มีส่วนผสมไม่มาก ผมขอให้ลุงกูจาทำก๋วยเตี๋ยวมาให้ทุกคนก็อย่าได้รังเกียจกันเลยนะครับ ” ชุยอี้ฝานกล่าว

” คุณอี้ฝานไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ แค่ได้กินอะไรร้อนๆพวกเราก็ดีใจมากแล้ว ” ลัวย่าวหัวกล่าวแล้วหัวเราะ

ตาอ้วนหลิวอยากเข้าไปพูดกับกูจาซักคำสองคำ คิดไม่ถึงเลยว่ากูจาจะเข้าใจภาษาจีน แต่เขาพูดไม่ได้ ตาอ้วนหลิวต้องยัดบุหรี่เข้าไปในกระเป๋าของเขา สิ่งนี้ทำให้กูจายิ้มขึ้นมาได้ทันที

มีไข่ลวกในก๊วยเตี๋ยวและไก่แดงกับน้ำมันรสเผ็ด ผักสีเขียว ชั่งยั่วน้ำลายเมื่อได้เห็นมัน

 

ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวกำลังร้อนๆ ทั้งสี่คนก็นั่งลงกินกันเสียงดังซูดซาด ชุยอี้ฝานนั่งดูและไม่ได้พูดอะไร

ชั่วครู่หนึ่ง ทุกคนก็กินก๋วยเตี๋ยวในชามจนหมดแล้ว ลัวย่าวหัวยืนขึ้นจัดเก็บชาม หันไปถามกับชุยอี้ฝาน

” ห้องครัวอยู่ไหน ? ผมจะไปล้างให้เอง “

” ไม่เป็นไร ผมทำเอง ! ” ชุยอี้ฝานลุกขึ้นกล่าว

ลัวย่าวหัวรีบกล่าว ” ให้ผมทำดีกว่า ! “

ชุยอี้ฝานไม่ได้บอกปัด ” อยู่ข้างหลังคุณเดินไปแล้วจะเห็นเอง จริงสิ ผมให้กูจาช่วยต้มน้ำร้อนให้ทุกคน

และยืมผ้าห่มมาสามสี่ผืน แล้วพวกคุณกลับไปนอนบนพื้นตรงนี้นะ ! “

” อย่างนั้นก็ดีเลย ! ” ลัวย่าวหัวกล่าวแล้วหัวเราะ

หยางโปลุกขึ้นเพื่อจะไปช่วย แต่ลัวย่าวหัวจับเขาเอาไว้แล้วมองไปทาง ชุยอี้ฝานอีกครั้ง หยางโปก็ต้องนั่งลง

ตาอ้วนหลิวมองดูทั้งสองคนอย่างร่าเริง

 

” หยางโป เมื่อกี้พวกคุณบอกว่า “วันนี้พวกคุณไปที่หมู่บ้านชื่อสุ่ยมาเหรอ ? ” ชุยอี้ฝานถาม

หยางโปพยักหน้า ” ใช่ “

ชุยอี้ฝานพยักหน้า ” คุณได้เจอกับซูหนีมาแล้วเหรอ ? “

หยางโปมองด้วยความประหลาดใจและพยักหน้า ได้เจอแล้ว มีปัญหาอะไรรึเปล่า ?

ชุนอี้ฝานลังเลเล็กน้อยมองไปที่หยางโป ” ผมเพิ่งได้ยินข่าวลือบางอย่าง ก่อนหน้านี้มีคนนอกบางคนอย่างพวกคุณไปที่ หมู่บ้านชื่อสุ่ย แต่แล้วพวกเขาก็ตายหลังจากนั้นได้ไม่นาน “

ทันใดนั้นใบหน้าของหยางโปและอีกสามคนก็ซีดขึ้นมาทันที

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เป็นเพราะพ่อที่ป่วยหนัก อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล จึงทำให้หยางโปเด็กฝึกงานของร้านขายวัตถุโบราณต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กดดัน เป็นเพราะจิตใจที่มีเมตตาของเขาจึงทำให้เขาได้รับหินแก้วโดยบังเอิญ จนทำให้ดวงตาของเขาสามารถประเมินสมบัติอันล้ำค่าได้ มาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถตรวจสอบสมบัติเหล่านั้นและล้มล้างชะตากรรมได้อย่างไร…….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset