ปากอวบอิ่มไหวระริก เธอพยายามกลืนก้อนสะอื้นให้เหือดหาย ก่อนเอื้อมมือลงไปประคองดุ้นลำยิ่งใหญ่เอาไว้แล้วจรดจ่อกับรูร่องแห่งกุหลาบสาวที่ปิดสนิทของตน ก่อนจะกดมันเข้าไปช้า ๆ
“ โอววว ” ชายหนุ่มครางเครือหลับตาพริ้มแม้มันจะเข้าไปได้แค่หัว เพราะร่องรักนั้นบีบรัดแน่นจนเขาแทบบ้า
‘ ทำมันซะ ทำสิ่งที่คุณถนัด ยิ่งคุณทำให้ผมพอใจได้มากเท่าไหร่ ผมก็จะจ่ายคุณมากเท่าที่คุณต้องการ ’
คำพูดนี้มันวนไปเวียนมาในหัว อวัศยาสุดจะกลั้นน้ำตาแห่งความอาดูร ที่เธอเฝ้ารักเฝ้ารอ ถนอมกายถนอมใจให้ผู้ชายที่รักคนนั้นจนถึงทุกวันนี้เพื่อคำดูถูกเช่นนี้อย่างนั้นหรือ
หญิงสาวยกสะโพกขึ้นแล้วกระแทกมันกลับลงไปเต็มแรง ให้ดุ้นลำใหญ่ทะลวงร่องรักอันคับแคบเข้าไปจนสุด อัคคีนิ่วหน้าเพราะถูกบีบรัดแน่นจนเจ็บ ก่อนลืมตาขึ้นมองตรงจุดที่เชื่อมประสานคนทั้งคู่ในเวลานี้
กลีบกุหลาบอวบอูมปลิ้นเข้าออกตามแรงขย่มที่เจ้าตัวขยับ ลำรักของเขามีบางอย่างฉาบย้อม มันไม่ใช่น้ำรักเมือกลื่นสีใสอย่างที่ควรจะเป็น ทว่ามันคือ…
“ เลือด ! ”
เขาตวัดสายตาขึ้นมองเธออย่างตกใจ ใบหน้าหวานมีน้ำตาไหลอาบเนืองนอง เธอคงเจ็บเหลือเกินเพราะมันไม่มีน้ำรักมาช่วยหล่อลื่นแม้แต่นิด กับการโดนทำลายพรหมจรรย์โดยผู้ชายที่มีเครื่องเพศยิ่งใหญ่อย่างเขา
เขารีบยึดเอวของเธอให้หยุดด้วยความเป็นห่วง
“ นี่เป็นบ้าหรือไง ยังไม่เคยทำไมไม่บอก เลือดออกเต็มไปหมดแล้ว ” ทว่าเธอยังไม่หยุดการขยับขย่มพลางหัวเราะอย่างคนวิกลจริต
“ คุณจะสนใจมันทำไม ฉันเป็นเจ้าของมันแท้ ๆ ยังไม่สนใจเลย ” ทั้งยังกระแทกกระทั้นแรงขึ้น เขาส่ายศีรษะแล้วกอดเธอเอาไว้แนบอก
“ พอแล้ว พอ ! ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วย ”
“ ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะฉันเคยสัญญากับผู้ชายคนหนึ่งไว้ว่าฉันจะรักจะรอและมอบมันให้กับเขาในวันที่เหมาะสม แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ผู้ชายคนนั้นเขาได้ตายไปจากฉันแล้ว ” เธอพูดพลางสะอื้นไห้ราวขาดใจ ร้าวรวดทั้งเรือนกายและดวงใจอย่างที่สุด อัคคีกอดรัดร่างงามไว้แนบอกแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้านวล
“ เราขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้หมอกเจ็บ ไม่เอาแล้วหมอก หยุดนะ ไม่ทำแล้วนะ ”
เธอหัวเราะออกมาทั้งที่ร่ำไห้ ยันกายออกจากแผงอกแกร่ง รู้สึกราวกับจะขาดใจ ลมหายใจเข้าได้ไม่เต็มปอด ทว่าก็ยังรวบรวมพลังกายโต้ตอบเขา
“ นายไฟไม่มีในโลก สายหมอกก็เช่นกัน ตอนนี้มีแค่ผู้หญิงร่านที่กระหายเงินจากนักธุรกิจผู้ร่ำรวยล้นฟ้า และฉันจะทำให้คุณพึงพอใจมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าลืมจ่ายฉันหนัก ๆ ด้วยล่ะ คุณอัคคี ”
เธอว่าพลางจะขยับทำทีจะขย่ม แต่กลายเป็นทรุดฮวบลงบนเรือนร่างกำยำแล้วสติก็ดับวูบไปทั้งที่กลางกายของทั้งสองยังเชื่อมประสาน โลหิตสีแดงฉานอาบเยิ้มเปรอะเปื้อน สองแก้มนวลเปียกแฉะไปด้วยน้ำตา
ดวงตาคมกริบค่อยเลือนพร่าด้วยมีน้ำใส ๆ เอ่อล้น หลั่งไหลอาบใบหน้าคมสัน ก่อนจะตะโกนออกมาจนสุดเสียง
“ หมอก ไฟขอโทษ ขอโทษ ! ”
***
“ ผู้ป่วยเคยมีประวัติเคยได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองมาก่อนจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักลงข้างทาง รักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลที่จังหวัดหนึ่งในอีสาน มีอาการความทรงจำขาดหายช่วงระยะเวลาหนึ่งจึงต้องย้ายมาบำบัดรักษาในกรุงเทพฯ ที่โรงพยาบาลหนึ่งในเครือของบริษัทครับ แต่นี่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับการที่เธอหมดสติไปง่าย ๆ สองครั้งในสัปดาห์เดียว ” แพทย์ที่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลรายงาน นั่นทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างงุนงง
“ เดี๋ยวนะครับ ความทรงจำขาดหายช่วงระยะเวลาหนึ่งนี่มันเป็นยังไงกัน ”
“ ก็คืออาการที่สมองส่วนของความทรงจำได้รับการกระทบกระเทือนนั่นแหละครับ แต่ยังโชคดีที่ไม่ได้ตลอดชีวิต มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ในเคสนี้บำบัดรักษากันอยู่หกเดือนหลังเกิดอุบัติเหตุเธอก็กลับมาเป็นปกติ ”
“ หมายถึงว่าพอหลังเกิดอุบัติเหตุ เธอก็จำอะไรไม่ได้ แบบนั้นใช่ไหมครับ ”
“ ถูกต้องครับคุณอัคคี ”
หัวใจชายหนุ่มหล่นวูบลงไปที่ปลายเท้า !