เปลวไฟในม่านหมอก – ตอนที่ 29 หนี

“ แม่งเอ๊ย ! ” เสียงสบถโวยวายตามมาด้วยการขว้างปาข้าวของโพล้งเพล้ง เหล่าลูกน้องบริวารเงียบกริบ

“ มีหูมีตาไว้ทำเหี้ยอะไรกันวะ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวทำไมปล่อยให้หลุดออกไปได้ แล้วคุณ ส้ม ! ”

เขาหันไปตะคอกใส่สาวใช้ร่างท้วมตุ้ยนุ้ยที่สนิทกับอวัศยา ทำให้ส้มสะดุ้งเฮือก หัวใจตกไปที่ตาตุ่ม

“ ผมบอกให้คุณนอนเฝ้าและดูแลคุณหนูเป็นอย่างดี แล้วนี่มันอะไรกัน เธอหายไปได้ยังไง ! ” ส้มปากคอสั่น น้ำตาไหลพราก

“ ส้มก็เฝ้าดีแล้วนะคะคุณอัคคี ปูที่นอนนอนข้างล่างเตียงของคุณหนูเลย ส้มไม่คิดว่าคุณหนูจะหนีไป ทั้งที่ตอนเช้าต้องไปเก็บกระดูกของคุณพ่อ ไม่คิดว่าจะใจเด็ดทิ้งพิธีสำคัญ ”

อัคคีหันไปคว้าขวดเตกีร่าบนโต๊ะขึ้นมาสาดเข้าคอ หวังจะดับไฟร้อนในกาย ก่อนจะเดินหนีเหล่าบริวารทั้งหลายที่เขาฟาดงวงฟาดงาใส่เพื่อระบายอารมณ์โกรธ

“ หมอกไปไหนของหมอกนะ จะบ้าหรือไง ร่างกายยิ่งไม่ค่อยแข็งแรง จะหนีไปทำไมนะ ”

เขาบ่นพึมพำหลังจากทรุดตัวลงที่ข้างสระว่ายน้ำ หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน

หลังจากที่นายอิทธิตาย เขาเองรับเป็นธุระเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งในโรงพยาบาลและพิธีศพทุกสิ่งอย่าง ด้วยเขาไม่มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่เคยคบค้าก็มีแต่ประเภทคบเอาผลประโยชน์ พอรู้ว่าเขาล้มละลายก็หลบลี้หนีหน้า ดังนั้น งานศพของเขาจึงเงียบเชียบ มีผู้มาร่วมงานประปราย ที่มาทุกวันก็เห็นจะมีก็แต่เพื่อนของอวัศยาเท่านั้น

หล่อนไม่พูดจากับเขาสักคำ ไม่มองหน้า ทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ ชายหนุ่มเลยตัดสินใจที่จะรอให้งานศพเรียบร้อย เขาจะจับเข่าคุยกัน อธิบายให้เธอทราบความจริงทั้งหมด

แต่แล้วเธอก็มาหนีหายไปเมื่อคืน ทั้งที่รุ่งเช้าต้องทำพิธีเก็บอัฐิของพ่อ

เธอคงเกลียดเขามากสินะ !

ใช่สิ มันก็สมควรเกลียดอยู่หรอกกับไอ้สิ่งที่เขาทำกับเธอ แล้วสิ่งที่พ่อของเธอทำกับเขา กับยาย กับครอบครัว กับพี่น้องที่หมู่บ้านเขาล่ะ มันเลวร้ายกว่านี้หลายร้อยพันเท่า

เธอรู้บ้างหรือเปล่า !

หลอกเขาออกไปจากหมู่บ้านเพื่อไม่ให้อยู่ขัดขวาง ก่อนจะกลับมาเผาบ้านเรือนของคนในหมู่บ้านจนวอดวาย ตายกันในกองเพลิงจนเกือบหมด ที่เหลือก็เจ็บหนักจนมาตายทีหลัง

ทั้งหมู่บ้านเหลือเขาคนเดียว !

เขาเสียใจ เสียใจอย่างที่สุด ทุกสิ่งอย่างมันหลอมรวมเป็นความแค้น เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปหาแม่ที่เป็นหญิงขายบริการอยู่ที่เมืองแห่งหนึ่งในภูเก็ต จำได้ว่าแม่เคยบอกเขาว่าพ่อรวยมากและยินดีที่จะรับเขาไปเลี้ยง แต่เขาเลือกที่จะอยู่กับยายที่เขารัก และรักเขาที่สุด

มาวันนี้ยายไม่อยู่ให้เขารักแล้ว เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน ได้อำนาจ และได้โอกาสมาชำระสะสางแค้น ยิ่งเขามารู้ทีหลังว่าแท้จริงแล้วเสี่ยอิทธิไม่ได้จะเอาที่เอาทางไปทำบ้านจัดสรรอย่างที่กล่าวอ้าง แต่เขาทราบมาจากวงในว่าการไฟฟ้าจะเดินสายไฟฟ้าแรงสูงผ่านและให้ค่าเวนคืนสูงถึงไร่ละแปดแสน นั่นทำให้เขาถึงบางอ้อ

เอาเงินฟาดหัวขับไล่ชาวบ้านไร่ละเพียงหลักหมื่นแต่ผลกำไรได้มากกว่านั้นไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเท่า ถึงว่าสิ มันถึงได้ทำทุกอย่างโดยไม่สนว่าใครจะเดือดร้อน ใครจะตาย

ผลที่ได้มันเกินคาด นายเจมส์ โอลิเวอร์ เฟดเดอร์ริก พ่อของเขานั้นไม่เพียงแต่รวยธรรมดา แต่อยู่ในระดับมหาเศรษฐีแถมยังมีอิทธิพล ไฟถือใบสูติบัตรที่อีกฝ่ายเคยเซ็นรับรองว่าเป็นพ่อ และยินดีที่จะให้เขาตรวจดีเอ็นเอเพื่อความมั่นใจ แม้นายเจมส์จะบอกว่าไม่ต้องเพราะทุกดีเอ็นเอของตนฉายชัดอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มอยู่แล้ว

ทันทีที่ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาว่าไฟเป็นลูกชายแท้ ๆ นั่นยิ่งทำให้เขาวางใจที่จะมอบความรักให้ ไฟตั้งใจเรียน ตั้งใจศึกษางาน ตั้งใจทำทุกอย่างจนเป็นลูกรักลูกโปรดคนหนึ่งของพ่อ และสุดท้ายเขาก็ใช้อำนาจและอิทธิพลในมือจัดการกับเสี่ยอิทธิได้สำเร็จ เขาหมดเงิน หมดทอง ล้มละลาย ไม่มีแม้แต่มิตรสหายข้างกายและที่คุ้มกะลาหัว

และเขาก็ยังปักใจเชื่อว่าอวัศยาก็เป็นหนึ่งในตัวเดินหมากที่รู้เห็นเป็นใจกับพ่อของหล่อนเพื่อล่อให้เขาออกไปจากหมู่บ้าน เพราะรู้ว่าถ้าเขายังอยู่ ทุกอย่างไม่ง่ายแน่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset