เปลวไฟในม่านหมอก – ตอนที่ 37 เรียงความน้ำเน่า

อรุณรุ่งแห่งวันใหม่

นายไฟมาถึงบ้านพักสองสาวแต่เช้าตรู่พร้อมอาหารเช้าที่ขับรถไปซื้อมาจากตลาด แต่ไม่พบปรียาเพราะเธอออกไปวิ่งออกกำลังกาย

ปรียาบอกเขาว่าหมอกหลับไปทั้งคืน อาจจะเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่พ่อยังไม่เสีย เลยส่งผลกระทบทั้งทางจิตใจและร่างกายมาถึงตอนนี้

สรุปว่าเธอคงไม่ได้ฟังสิ่งที่ปรียาอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีการเขียนทุกสิ่งอย่างลงในกระดาษสมุดติดมาด้วย

วิธีนี้ที่ทั้งสองเคยใช้มันมาแล้วครั้งหนึ่ง…

ชายหนุ่มจอดรถและยืนละล้าละลังอยู่ที่หน้าประตู ตอนนี้เจ็ดโมงเช้า อวัศยาอาจจะยังหลับอยู่ เขาจะเคาะประตูปลุกดีไหมนะ เธอไม่สบาย จริง ๆ แล้วควรให้เธอได้พักผ่อนมาก ๆ

จริง ๆ แล้วเขาควรจะมาตอนที่เธอตื่น แต่หัวใจมันโหยหา คิดถึง เป็นห่วงเธอแทบบ้า ได้มาเห็นแค่หน้าบ้านก็พอ

แต่ที่สุดแล้วเขาก็ตัดสินใจไม่ปลุก แต่ใช้วิธีวางกระดาษที่เขียนไว้บนโต๊ะหน้าบ้านแล้ววางข้าวของที่ซื้อมาทับไว้ ก่อนจะออกมาจากที่นั่น

เขากลัว กลัวเหลือเกินว่าเธอจะทำอย่างที่พูด เขาไม่อยากเสียเธอไป เขาไม่อาจทนได้แม้วินาทีเดียว

ทันทีที่ชายหนุ่มออกรถไป จักรยานยนต์ดูคาติสีดำก็มาจอดไล่เลี่ยกัน ทันได้เห็นท้ายรถอยู่ไว ๆ

“ ไอ้อัปรีย์นี่หว่า มาทำห่าอะไรแต่เช้า ” เขาบ่นพึมพำ พลางเดินเข้าไปพร้อมน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก่และโจ๊กในมือ พบถุงของกินวางอยู่ที่โต๊ะแถมมีกระดาษใบหนึ่งพับและวางไว้ เขาถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมากวาดตาอ่านคร่าว ๆ ก่อนจะยัดใส่กระเป๋าเสื้อ

“ มาเขียนเรียงความน้ำเน่าอะไรวะ ไร้สาระ ” ก่อนจะหยิบของกินที่อยู่บนโต๊ะมารวมกับของตนแล้วเดินไปเคาะประตูบ้านร้องเรียก

“ หมอกครับ ตื่นหรือยัง นี่ผมหมอหนามเอง เอามื้อเช้ามาให้ ” ครู่หนึ่งก็มีเสียงตอบมาจากในบ้าน

“ แป๊บนึงนะคะ หมอกพึ่งตื่น ” สักครู่หนึ่งประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมรอยยิ้มของหญิงสาว

“ ไม่เห็นต้องลำบากไปซื้อเลย เดี๋ยวหมอกเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวก็ได้ เดินไปอีกนิดเดียวเองค่ะ ดูสิ ซื้ออะไรมาเยอะแยะเชียว ” เธอว่าทันทีที่เห็นข้าวของในมือ  ก็เห็นว่าเพื่อนหมอกอยู่ด้วย อีกอย่างผมก็ไม่ได้ซื้อมาฝากอย่างเดียว แต่ตัวเองจะมากินด้วยไง ”

“ ได้เลยค่า ”

“ แล้วนี่เพื่อนหมอกไปไหนครับ ”

“ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ตื่นมาก็ไม่เจอแล้ว ”

“ ลืมไปว่าเขามีพรรคพวก อาจจะออกไปคุยกันล่ะมั้ง”

“ ช่างเขาเถอะค่ะ เรามาทานกันก่อนเลย ”

“ ดีครับ ผมหิวเป็นบ้า ทานแล้วหมอกจะได้ทานยา แล้วนี่เป็นไง ดีขึ้นหรือเปล่า ”

แล้วทั้งคู่ก็รับประทานมื้อเช้าและสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ โดยไม่มีการกล่าวถึงอาหารหรือข้อความบนกระดาษใด ๆ ทั้งสิ้น เสมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น

“ วันนี้ผมต้องไปอีกหมู่บ้านหนึ่งบนดอย ห่างจากที่นี่ร้อยกว่าโล ผมจะแวะเอายาบำรุงมาฉีดให้ก่อน แล้วพอค่ำ ๆ ผมกลับมาถึงจะรีบมาหาหมอกนะครับ ”

หมอหนามว่าเมื่อรับประทานอาหารเสร็จ อวัศยาส่งยิ้มให้เช่นเคย แม้มันจะยิ้มตามมารยาทที่ว่างเปล่าอย่างที่คนเชี่ยวชาญด้านผู้หญิงอย่างเขารู้สึก นั่นล่ะยิ่งทำให้รู้สึกท้าทาย

อยากได้ก็ต้องได้สิวะ คนอย่างหมอหนาม แพ้ไม่เป็น !

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ กลับที่พักไปเตรียมตัวออกพื้นที่กับทีมแพทย์และพยาบาล เขาก็รีบย้อนกลับมาฉีดยาบำรุงให้เธอแล้วออกปฏิบัติงานทันที

และหมอหนามก็ไม่เคยทิ้งลาย เขาเป็นคนดี เป็นแพทย์ผู้ทุ่มเทและเสียสละทุกอย่างเพื่อปวงชน แต่ด้านมืดของหมอหนามก็คือ เพลย์บอยตัวพ่อ แน่นอนว่าถ้าไปที่ไหนแล้วมีหญิงสาวขาวอวบ หมอหนามก็จะอาศัยลุคส์แบด ๆ กับความปากหวานเข้ารุก เพียงเท่านี้ เขาก็จะได้สนุกตามที่ใจต้องการแล้ว

วันนี้ก็เช่นกัน กลอยใจ สาววัยยี่สิบเอ็ดที่มาตรวจเช็คมะเร็งเต้านมและปากมดลูกก็นึกติดอกติดใจ อยากให้หมอใช้เข็มส่วนตัวตรวจให้หนักให้ลึกขึ้น

หญิงสาวใจกล้าหน้าด้านถึงขั้นรอให้หมอปฏิบัติงานจนเสร็จในเวลาบ่ายสาม แล้วซ้อนท้ายหมอกลับมาให้ ‘ ตรวจภายใน ’ ถึงที่เลยทีเดียว

หมอหนามมีหรือจะปฏิเสธ ทันทีที่ปฏิบัติงานเสร็จเขาก็บึ่งรถพาคนไข้พิเศษหมายจะกลับไปตรวจที่พักของตนทันที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset