“ หมอก มานั่งทำไรตรงนี้คนเดียว ” อวัศยาสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปมองผู้มาเยือน
“ หมอหนาม ! ”
“ ใช่ ผมเอง ” เขาว่าพลางเดินอ้อมมานั่งข้าง ๆ เธอที่นั่งอยู่ริมสระน้ำในวัดเพียงลำพัง
“ ก็มานั่งเล่นเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ไปนั่งสมาธิมาแล้วก็เลยอยากออกมาเหยียดแข้งเหยียดขาบ้าง เดี๋ยวนะคะ ทำไมแขนขาหมอเป็นอย่างนั้นล่ะ ถลอกไปหมด ”
“ ผมรถล้มน่ะ ไม่ได้เป็นไรมากหรอก ”
“ หมอมีธุระอะไรหรือเปล่า มาหาหมอกถึงในวัด ”
“ ไม่มีอะไรมากหรอก ผมก็แค่จะเอายาบำรุงมาฉีดให้ตอนเย็น กลางคืนหมอกจะได้หลับสบาย อยากให้หมอกดีขึ้นเร็ว ๆ ”
“ ขอบคุณมากนะคะ นี่ถ้าไม่ได้หมอ หมอกคงอิดโรยไปอีกนาน ”
“ จริง ๆ แล้วเยียวยาที่กายมันก็แค่ปลายเหตุ หมอกต้องเยียวยาที่ต้นเหตุด้วย ”
“ ยังไงเหรอคะ ” แล้วคุณหมอหนุ่มก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกระดาษใบหนึ่งส่งให้เธอ ที่ขมวดคิ้วอย่างงุนงง
“ อะไรเหรอคะหมอ ”
“ เมื่อเช้าตอนผมมาหาคุณ เจอกระดาษใบนี้วางอยู่บนโต๊ะพร้อมอาหาร ที่ผมซื้อมามีแค่น้ำเต้าหู้กับโจ๊ก นอกนั้นไม่ใช่ ” หญิงสาวคลี่กระดาษออกกวาดสายตามองคร่าว ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับหมอหนาม
“ นี่คุณโดนนายอัคคีบังคับมา แล้วที่เป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่รถล้มเองใช่ไหมคะ เขาทำร้ายและขู่บังคับคุณใช่ไหม บอกหมอกมาตรง ๆ ” หญิงสาวคลี่กระดาษออกกวาดสายตามองคร่าว ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับหมอหนาม
“ โธ่ หมอกก็ ใครที่ไหนจะมาบังคับคนอย่างผมได้ ”
“ นายนั่นไง เขาสามารถทำทุกอย่างได้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ จะด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่ เหมือนกับที่เพื่อนของหมอกก็กลายเป็นคนของเขาไปแล้ว ”
“ ผมว่าหมอกลองอ่านจดหมายให้จบก่อนดีกว่า ไป เรากลับบ้านไปฉีดยากันเถอะ นี่ก็ห้าโมงเย็นแล้ว อากาศเย็นเดี๋ยวหมอกจะไข้กลับเอาอีก นี่คุณออกมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ”
“ ก็ช่วงสาย ๆ “ แล้วคุณอยู่ในวัดทั้งวันเนี่ยนะ ”
“ ค่ะ หมอกแค่อยากอยู่เงียบ ๆ ”
“ คุณอยากอยู่เงียบ ๆ หรือคุณแค่ไม่อยากอยู่ในที่เดียวกับเพื่อนเพราะโกรธเธอ ” เธอถอนใจเสียยาว
“ บอกตรง ๆ นะคะ หมอกไม่สามารถไว้ใจใครได้ง่าย ๆ อีกต่อไปแล้ว ”
“ บางทีคุณอาจจะหวาดระแวงเกินไป ”
“ ปล่อยหมอกอยู่กับตัวเองสักพักเถอะค่ะหมอ ” เธอพูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังเดินออกไปจาก ตรงนั้นเป็นการตัดบท หมอหนามได้แต่หงุดหงิดในหัวใจ
“ บ้าชิบ อะไรนักหนาวะเนี่ยผู้หญิง เสียเวล่ำเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ แบบนี้เห็นจะต้องใช้แผนการขั้นเด็ดขาด ! ”
แล้วทั้งคู่ก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากในวัด หมอหนามอาสาพาเธอไปกินมื้อเย็นในตลาดตัวเมืองก่อนจะกลับมาส่งที่บ้าน ฉีดยาบำรุงให้เสร็จสรรพ โดยมีปรียาคอยชวนคุยและเอาอกเอาใจอยู่ใกล้ ๆ แต่อวัศยาก็ยังทำเพียงถามคำตอบคำ ต่อเมื่อหมอหนามจะกลับและเปิดประตูออกไป หญิงสาวได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่ที่หน้าบ้านจึงเดินออกไปดู พบว่า มีแขกไม่ได้รับเชิญเจ้าเดิมมาอีกแล้ว
“ มาทำไมอีก ” หมอหนามว่า อีกฝ่ายตอบเรียบ ๆ
“ เสือกอะไรด้วย ที่นี่ไม่ใช่บ้านคุณ ”
“ แต่เจ้าของบ้านเขาไม่ต้อนรับ จะหน้าด้านมาอะไรนักหนา ”
“ รู้ได้ยังไงว่าหมอกไม่ต้อนรับ ”
และเขายังทุ่มเถียงกันอีกหลายคำ โดยมีปรียายืนตรงกลางเตรียมพร้อมเป็นกรรมการ อวัศยาทำเพียงเดินกลับเข้าห้อง อาบน้ำอาบท่าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง เธอได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างนอก
“ หมอก ออกมาคุยกับเราหน่อย ได้โปรดเถอะนะ ”
เธอหลับตาลง พยายามไม่ใส่ใจ
“ ถ้าหมอกไม่ออกมา เราก็จะนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าหมอกจะใจอ่อน เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ” สักพักหนึ่งเธอได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาในห้องนอน ก่อนที่เสียงเพื่อนรักจะดังขึ้น
“ หมอก ออกไปคุยกับนายไฟหน่อยดีไหม ”
“ ฉันพึ่งฉีดยาไป อยากพัก ออกไปแล้วรบกวนช่วยปิดประตูให้ด้วย ”
ปรียาไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าทำตามที่เธอขอ เพราะกลัวใจเหลือเกินว่าหากทำอะไรบุ่มบ่ามไปตอนนี้ เพื่อนรักจะหนีหายไป
ทันทีที่เสียงประตูปิด อวัศยาลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปหยิบแผ่นกระดาษที่เธอใส่ไว้ในลิ้นชัก ก่อนจะกลับมาที่เตียงอีกครั้ง คลี่ออกแล้วอ่านมัน…