บทที่ 166 จะรักษาคนอื่นก็ต้องรู้จักรักษาตัวเองก่อน!
ในใจของตู้เจียซีรู้สึกอัดอั้นตันใจยิ่งนัก หมอดีๆ ที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเช่นเฉินชางมีน้อยลงทุกวัน นี่ไม่เพียงแต่จะไม่คิดส่งเสริม แถมยังทำโทษอีกต่างหาก ชั่วร้ายมาก!
สังคมทุกวันนี้ต้องการความยุติธรรม ผู้มีอาชีพสื่อมีหน้าที่อะไร? คือผู้เผยแพร่ความยุติธรรมของสังคม ชี้นำสังคมไปสู่ความยุติธรรมไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้ล่ะ เขาจะปล่อยให้คนหนุ่มคนหนึ่งถูกทำลายได้หรือ
เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง อายุยังน้อยก็ต้องแบกรับความผิดเช่นนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกลบผลงานตลอดปีไปอีกด้วย ทั้งยังจดไว้ในประวัติซึ่งจะถูกนำไปคิดในการประเมินผลงานภายหลัง นี่เป็นการบอกเฉินชางอย่างชัดเจนว่าเขาหมดอนาคตแล้วไม่ใช่หรือ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ตู้เจียซีก็โกรธจนทนไม่ไหว
จะไม่กลัวกฎหมายกันเกินไปแล้ว!
อะไรคือการใช้อำนาจในทางที่ผิด
อะไรคือการใช้หน้าที่การงานเพื่อแก้แค้นเรื่องส่วนตัว!
……
“หัวหน้า? เป็นอะไรไปครับ?” เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เฮ่อหย่งถังก็รีบถามทันที
ตู้เจียซีพูดอย่างหนักแน่นเด็ดเดี่ยว “ผมเขียนบทความขึ้นมาบทความหนึ่ง คุณช่วยผมเผยแพร่วันนี้เลยนะครับ”
เฮ่อหย่งถังชะงักไปทันที “วันนี้…เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ พรุ่งนี้เช้าได้หรือเปล่า?”
ตู้เจียซีพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “ผมจะเล่าอะไรให้คุณฟังนะเสี่ยวเฮ่อ เมื่อวานผมเจ็บขาเลยไปรักษาที่โรงพยาบาลอันดับสอง แต่กลับเจอ…ผลคือวันนี้เช้า ตอนผมไปซื้อยาที่โรงพยาบาลอันดับสอง ผมเห็นประกาศตักเตือน…ผมไปสอบถามมาแล้วถึงได้รู้ว่า…”
ตู้เจียซีกล่าวใส่ไฟไปยกหนึ่ง ทำเอาเฮ่อหย่งถังขุ่นเคืองไปด้วย!
พูดจบตู้เจียซีก็ทอดถอนใจ “หนังสือพิมพ์ในปัจจุบันของพวกเราสู้สื่อใหม่ๆ ไม่ได้แล้ว แต่พวกเราจะต้องทำตามหน้าที่อันสมควร หากมีอะไรผิดพลาดพวกเราก็ต้องตำหนิ! ต้องเปิดเผย ต้องเรียกร้องความยุติธรรม พวกเราต้องเผยแพร่ข้อเท็จจริงออกไป ต้องปกป้องคนดี! ไม่งั้นก็จะต้องมีคนทนแบกรับสิ่งผิดอยู่เงียบๆ!”
“ดังนั้นพวกเราต้องช่วยเด็กคนนี้นะครับ และต้องช่วยปลุกเมืองที่หลับใหลเมืองนี้ด้วย!”
เฮ่อหย่งถังตบโต๊ะ “ได้! หัวหน้า คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ผมจะจัดการให้แน่นอน หนังสือพิมพ์ฉบับเย็นของคืนนี้ผมยังไม่ได้ตัดสินใจพอดี ผมจะเปลี่ยนตอนนี้เลย!”
ตู้เจียซีสูดหายใจลึก “ครับ เสี่ยวเฮ่อ เรื่องนี้รบกวนคุณแล้ว”
เฮ่อหย่งถังส่ายหน้า “หัวหน้าครับ ไม่ได้รบกวนผมเลย นี่เป็นเรื่องที่พวกเราสมควรทำ!”
หลังจากวางโทรศัพท์ ตู้เจียซีก็ถ่ายรูปบทความที่ตนเขียนส่งไปให้เฮ่อหย่งถัง คนชราที่ผ่านยุคสมัยเก่าๆ มาจะพิมพ์เป็นที่ไหนกัน ล้วนใช้มือสะบัดพู่กันกันทั้งนั้น เขียนกันอย่างทรงพลัง!
เมื่อเฮ่อหย่งถังได้รับแล้วก็อ่านอย่างละเอียด เมื่ออ่านจบเฮ่อหย่งถังก็รู้สึกทอดถอนใจ!
พลังแห่งการเขียนของหัวหน้าจะยอดเยี่ยมขึ้นทุกวันแล้ว คล้ายมีเพชรพลอยส่องประกายอยู่ท่ามกลางคำและอักษรอย่างมหัศจรรย์ แต่ละคำแต่ละประโยคทำให้ผู้คนสะเทือนใจ สร้างแรงกระเพื่อมได้มาก!
นี่คือบทความที่เขียนถึงจิตวิญญาณของหมอหนุ่มแห่งยุค! คือบทความที่เขียนเพื่อช่วยเหลือและประคองชีวิต เต็มไปด้วยความศรัทธาในความเท่าเทียมของผู้คน เขียนถึงจรรยาบรรณของแพทย์หนุ่มที่ไม่หวาดกลัวอำนาจใด! แต่คนเช่นนี้กลับต้องเผชิญอันตรายของการถูกทำโทษ!
ในบทความไม่ได้มีถ้อยคำก่นด่าซ่งเฉียงมากนัก แต่ทุกประโยคกลับชี้ให้เห็นถึงความเน่าเหม็นเสื่อมโทรมที่แฝงอยู่! เขียนถึงการแทรกคิวในโรงพยาบาล! เขียนถึงใช้อำนาจผิดๆ ของผู้นำบางคน!
ตอนนี้เป็นสังคมแบบไหนกัน เฮ่อหย่งถังจินตนาการได้เลยว่าเมื่อบทความนี้ถูกแพร่ออกไปจะส่งผลกระทบเช่นไรกับสังคม!
แม้หนังสือพิมพ์ใกล้จะประคองตัวเองไม่ไหวแล้ว แต่อาชีพนักหนังสือพิมพ์คือกลุ่มคนที่เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์จริงใจ เหล่าลูกค้าก็ล้วนเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจ!
เฮ่อหย่งถังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมให้คนนำบทความนี้ไปพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ที่เตรียมเผยแพร่ แต่เมื่อย้อนคิดดูอีกครั้ง จู่ๆ เขาก็คิดวิธีที่ดีกว่าขึ้นมาได้!
นั่นก็คือถ่ายรูปแนบไปบนหนังสือพิมพ์ตรงๆ เลย อย่างไรเสียตัวอักษรของผู้เฒ่าตู้ก็เด็ดเดี่ยวแข็งกร้าว เป็นคนที่มีลายมือทรงพลังที่สุดเพียงไม่กี่คนในยุค 90!
คราวนี้เขาจะใช้ลายมือของเฒ่าตู้โจมตีคนที่เรียกว่าซ่งเฉียงคนนี้!
ขณะที่ทุกอย่างกำลังก่อตัว ทางด้านเฉินชางกลับกำลังนอนหลับ
ในขณะที่ฉินเยว่และคนอื่นๆ โทรมาหลายครั้ง เขากลับไม่ได้ยิน เมื่อตื่นขึ้นมาก็เลยช่วงบ่ายไปแล้ว
เมื่อเฉินชางสติแจ่มชัดก็รีบเปิดมือถือขึ้นดู พบว่ามีข้อความปรากฏจำนวนมาก เมื่ออ่านให้ดีก็ต้องชะงักไป
ซ่งเฉียงคนนี้ใช้ได้จริงๆ?
ตักเตือนมาอีกแล้วหรือ สุดยอดเลยจริงๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ สิ่งที่สมควรทำก็ทำไปแล้ว ตื่นแล้วก็ลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นจึงลงไปกินข้าว
เพิ่งจะเดินลงไปก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา ทั้งสองยิ้มให้กันแล้วกล่าวทักทายเล็กน้อย
ตึกนี้ปล่อยเช่าทั้งหมดสามห้อง ล้วนมีคนเช่าเต็มหมดแล้ว ชั้นสองเป็นของเฉินชาง ชั้นแรกมีผู้เช่าสองครอบครัว แต่ปกติพบกันน้อยมาก เพราะเฉินชางต้องไปเข้าเวรแต่เช้าทุกวัน ตอนเย็นกว่าจะผ่าตัดเสร็จ กลับมาถึงก็ดึกมากแล้ว วันเสาร์ก็ต้องไปที่คลินิกของจางจื้อซินอีก ดังนั้นเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านจึงไม่ค่อยดีนัก
เฉินชางยิ้มทักก่อน “สวัสดีครับ ผมอยู่ชั้นบน เพิ่งย้ายมาไม่นาน ชื่อเฉินชางครับ”
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้ายิ้มให้ “ค่ะ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเสิ่นโม่ ปกติงานยุ่งมากเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
เธอแต่งตัวเรียบง่ายแต่ดูดี หน้าตาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ธรรมดา หากใช้คำพูดของจางจื้อซินคงบอกว่ามีอวัยวะให้ปรับแต่งมากมาย แต่ดูแล้วมีนิสัยเป็นมิตร คบง่าย เฉินชางคิดยิ้มๆ
……
……
วันต่อมาซ่งเฉียงเดินมายังห้องทำงานตามปกติ งานธุรการไม่จำเป็นต้องเข้างานแปดโมงตรง ปกติซ่งเฉียงมาถึงประมาณแปดโมงครึ่งหรือไม่เกินเก้าโมงทุกวัน เมื่อมาถึงแล้วก็พบว่ามีชาวางอยู่บนโต๊ะ รวมถึงหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุด
จริงๆ แล้วปริมาณการขายของหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบันล้วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างๆ ดังนั้นจึงมีคนสั่งจองไม่น้อย
หนังสือพิมพ์อันหยางเป็นบริษัทเก่าแก่ในงานด้านหนังสือพิมพ์ของเมืองอันหยาง ตอนนี้ยังคงหยัดยืนได้มั่นคงไม่มีล้ม ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายด้าน
หนังสือพิมพ์อันหยางมีฉบับเช้าและฉบับเย็น หนึ่งวันตีพิมพ์สองฉบับ ซึ่งตอนนี้วางเรียงอยู่บนโต๊ะแล้ว
เขาเปิดพลิกดูตามใจ หาหัวข้อที่ตนสนใจเพื่อติดตามสถานการณ์ปัจจุบันของเมืองอันหยาง จู่ๆ ก็ถูกข่าวหนึ่งดึงดูด
มันเป็นหนังสือพิมพ์หน้าที่มีภาพถ่ายขาวดำแนบมาใบหนึ่ง ในรูปคือลายมือที่เขียนได้อย่างงดงามทรงพลัง ซ่งเฉียงอดหยิบขึ้นมาอ่านไม่ได้ และชื่อบทความก็ดึงดูดเขามาก!
‘การรักษา หากคิดจะรักษาคนอื่น ก็ต้องรักษาตัวเองก่อน!’
ซ่งเฉียงส่งเสียงหัวเราะ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาหรือ ทันใดนั้นเขาก็เกิดสนใจขึ้นมา ทว่าไม่นานซ่งเฉียงกลับต้องตะลึงพรึงเพริดจนตาค้าง!
ยิ่งอ่านก็ยิ่งตาค้าง ยิ่งอ่านก็ยิ่งใจสั่น!
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เขียนเรื่องที่ตนให้แขกแซงคิวเมื่อวาน! แล้วยังมีการใช้คำกระตุ้นอารมณ์ ชักจูงผู้คนทำให้คนอ่านรู้สึกขุ่นเคืองตาม! อีกทั้งลายมือก็แข็งกร้าวทรงพลัง ยิ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาที่เดิมทีดึงดูดสายตาผู้คนอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้คนเข้าถึงอารมณ์ได้ง่าย ใครบ้างไม่เคยมาโรงพยาบาล! และการถูกคนอื่นแซงคิวเช่นนี้จะรู้สึกดีไปได้หรือ?!
ตอนที่อ่านถึงเรื่องที่เฉินชางถูกทำโทษในช่วงท้ายสุด ซ่งเฉียงก็ต้องตบโต๊ะ!
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าตนเจอปัญหาแล้ว มีคนเล่นงานตน!
หรือจะเป็นเฉินชาง?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ซ่งเฉียงก็รู้สึกสั่นสะท้านสุดเปรียบ!