บทที่ 176 ผมอยู่ในเวลางานครับ…ไม่สะดวก?
ทันทีที่ทุกคนได้ยินคำว่า ‘เฉินชาง’ สองคำนี้ บรรยากาศภายในห้องก็ตลบไปด้วยความประหลาดใจ!
มีเพียงคนไม่กี่คนที่รู้จักกับเฉินชาง พวกเขาต่างก็กลั้นหายใจและสบตากันไปมา!
แววตาเปี่ยมไปด้วยความเคร่งขรึม
เพราะถ้าวิธีการแยกหลอดเลือดแดงตับเป็นวิธีที่ออกมาจากความคิดของแพทย์อาวุโส ทุกคนยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้านี่เป็นความคิดของเฉินชาง…เขายังอายุน้อยอยู่เลยนะ!
อายุน้อยเสียจนทำให้ทุกคนรู้สึกกดดัน!
เป็นความกดดันที่รู้สึกว่าคลื่นลูกใหม่กำลังจะซัดกลบคลื่นลูกเก่าอย่างพวกเขา เป็นความกดดันที่รู้สึกว่าศิษย์จะเก่งกว่าครูเสียแล้ว
หลิวซือฉีกับเฉียนเลี่ยงเป็นผู้คุมสอบเฉินชางในการสอบครั้งนั้น ในตอนนั้นเป็นการผ่าตัดไส้ติ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะทำได้ดีมาก ฝีมือในการผ่าตัดครั้งเป็นที่สะดุดตามาก แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่การผ่าตัดไส้ติ่งเคสหนึ่งเท่านั้น ถึงจะน่าชื่นชมอย่างไรก็บ่งบอกได้แค่ว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการผ่าตัดมาก เป็นคนที่มีความรู้และความเข้าใจในด้านนี้ดี
แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนกันแม้แต่นิด
เคสการผ่าตัดในคลิปวิดีโอเมื่อครู่นี้ ไม่ได้ใช้แค่พรสวรรค์กับโชคช่วยแล้ว
ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆ ก็คงกล้าผ่าตัดด้วยวิธีนี้ไปแล้ว
นี่เป็นศักยภาพที่มีอยู่ในตัวจริง!
อีกทั้งยังเป็นศักยภาพที่แข็งแกร่ง!
ถึงแม้จะมีคำกล่าวที่ว่า ‘ไม่เจอหน้าเพียงสามวัน อีกฝ่ายก็พัฒนาอีกขั้นแล้ว เราไม่อาจมองฝ่ายนั้นด้วยมุมมองเดิมได้อีก’ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่ไม่เจอหน้าเพียงสามวัน ในวันนี้ถึงขั้นต้องมองอีกฝ่ายด้วยกล้องสโคป X8[1] กันเลยทีเดียว
แตกต่างจากเมื่อครั้งนั้นคนละขั้นเลย…
คนอื่นๆ ในห้องในห้องส่วนใหญ่ไม่ได้รู้จักเฉินชาง คนที่รู้จักเฉินชางก็มีแค่เพียงไม่กี่คน
“ใครคือเฉินชาง”
“ผมไม่รู้จัก!”
“ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน!”
“หัวหน้าจางครับ เฉินชาง…เฉินชางคือใคร อยู่โรงพยาบาลไหนครับ”
สุดท้ายก็มีถามขึ้น!
จางโหย่วฝูหัวเราะแล้วตอบว่า “เขาเป็นหมอหนุ่มของโรงพยาบาลเรา”
หลังจากที่ทุกคนได้ฟังคำตอบ ทุกคนต่างก็ตำหนิอยู่ในใจ จางโหย่วฝู คุณไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบสิ ยังจะบอกด้วยนะว่าเป็นหมอหนุ่ม ฝีมือผ่าตัดของหมอหนุ่มยังเหนือชั้นกว่าคุณอีก!
หลังจากที่บรรดาแพทย์ศัลยกรรมได้ชมคลิปวิดีโอจนจบแล้ว พวกเขาต่างก็รู้สึกยังไม่จุใจ ก็เลยคิดแค่ว่าอยากจะกลับไปที่โรงพยาบาลลงมือผ่าตัดสักหน่อย ถึงอย่างไรเสียตอนนี้ก็คันไม้คันมือไม่ไหวแล้ว
เป็นเรื่องยากหัวหน้าแผนกพวกนี้จะออกมานอกโรงพยาบาลสักครั้ง งานในโรงพยาบาลค่อนข้างยุ่ง ทุกคนไม่ได้อยู่ต่อนานนักก็ทยอยกันกลับไป
แต่ก็มีบางคนที่ยังอยู่ต่อ ซึ่งคือเฉียนเลี่ยงกับหลิวซือฉีที่รู้จักกับเฉินชาง
เฉียนเลี่ยงอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “หัวหน้าจางครับ การผ่าตัดเคสนี้…เฉินชางเป็นคนผ่าตัดจริงๆ หรือครับ”
จางโหย่วฝูพยักหน้าจริงจัง เมื่อเขาหวนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เขาก็ยังรู้สึกหวาดผวาไม่หาย “ครับ! บอกตามตรงนะครับ ตอนผ่าผมไม่ทันระวัง ทำให้ตอนที่แยกลำไส้เจอปัญหาพังผืดเข้าจนทำอะไรต่อไม่ได้ ในตอนนั้นพวกเราติดต่อหัวหน้าหลี่เป่าซานแล้ว แต่เวลากระชั้นชิดมาก หัวหน้าหลี่ไม่มีทางมาทัน แต่เขาบอกพวกเราว่าเรียกเฉินชางมาได้!…”
“…ตอนนั้นหลังจากที่เฉินชางมาถึงแล้ว มือทั้งสองข้างของผมล้าจนค่อนข้างสั่น เพราะผมพยายามอย่างหนักที่จะไม่ให้ลำไส้รั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินชาง วันนั้น…มีแนวโน้มสูงเลยทีเดียวว่าผลจะออกมาเลวร้าย ทุกวันนี้ผมยังเก็บเรื่องนี้ไปฝันร้ายจนสะดุ้งตื่นอยู่เลย!”
หลังจากที่จางโหย่วฝูพูดจบ เขาก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
เมื่อเห็นจางโหย่วฝูแสดงออกเช่นนั้น พวกเขาต่างก็เริ่มเชื่อแล้ว จางโหย่วฝูไม่มีความจำเป็นต้องเอาเรื่องนี้มาพูดเล่น
หลังจากที่ทั้งสองได้คุยรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดสองสามประโยคแล้ว ก็เตรียมแยกย้ายกลับ ก่อนกลับ จู่ๆ หลิวซือฉีก็หันกลับมา “หัวหน้าจางครับ คลิป…คลิปผ่าตัดนี้สะดวกให้ก็อปปี้ได้มั้ยครับ”
จางโหย่วฝูยิ้มขอโทษ “ตอนนี้ยังไม่ได้ครับ รออีกสักระยะ ผมจะส่งให้หัวหน้าหลิวหนึ่งชุดครับ”
หลิวฉือฉีพยักหน้า คลิปวิดีโอการผ่าตัดพวกนี้ล้วนเป็นภาพข้อมูลที่ล้ำค่ามาก ล้ำเลิศถึงขั้นที่สมควรได้รับรางวัล ดังนั้นเขาก็เลยไม่ได้รบเร้าจางโหย่วฝูอีก
…
ฉินเสี้ยวยวนกลับเข้ามาในห้องทำงานในตอนบ่าย เขาได้รับโทรศัพท์จากกวนเหว่ยหัวหน้าสำนักงานมหาบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง
“สวัสดีครับผู้อำนวยการฉิน ผมกวนเหว่ยนะครับ”
ฉินเสี้ยวยวนหัวเราะพร้อมกล่าวทักทาย “สวัสดีครับหัวหน้ากวน”
กวนเหว่ยพูดเข้าประเด็นเลย “คืออย่างงี้ครับ ผมยื่นคำร้องไปว่าตอนนี้นักศึกษาปริญญาโทมีจำนวนลดลง…”
เมื่อฉินเสี้ยวยวนได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาของเขาก็เป็นประกายในทันใด!
นี่เป็นข่าวดี
“เอ๋? งั้น…แบบนี้จะไม่ส่งผลกระทบเหรอครับ แล้วจะตามนักศึกษาปริญญาโทสิบเก้าคนนั้นทันมั้ยครับ”
กวนเหว่ยหัวเราะ “ไม่กระทบครับ เพราะสถานการณ์ในโลกของการแพทย์ค่อนข้างพิเศษ แพทย์ที่จบการศึกษาแบบเทียบเท่าค่อนข้างมากกว่าระบบถ่ายทอดวิชาความรู้ระหว่างครูกับลูกศิษย์ หลายปีมานี้ประเทศของเราก็พยายามส่งเสริมในมีการอบรมบุคลากรที่มีความสามารถ ดังนั้นก็เลยมีคำอนุมัติออกมา คุณบอกให้เฉินชางรีบมาหาผม เตรียมทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรเตรียมให้พร้อม รอเขามาหาผมแล้วผมจะอธิบายรายละเอียดให้เขาฟัง”
เมื่อฉินเสี้ยวยวนทราบข่าวนี้ เขาก็พลันรู้สึกดีใจขึ้นมาทันใด
กล่าวกันตามความจริง ตอนนั้นหลังจากที่ชื่นชมเฉินชางมาให้คนอื่นฟังแล้ว ฉินเสี้ยวยวนก็ไปที่มหาวิทยาลัยแพทย์ตงหยางมารอบหนึ่ง และได้ทราบมาว่าหลังจากที่การสอบสัมภาษณ์ประจำปีสิ้นสุดลง และประกาศรายชื่อแล้ว ก็จะมีการบันทึกข้อมูลรายชื่อลงในระบบ
สิ่งที่ฉินเสี้ยวยวนคิดคือหนทางในการเรียนต่อปริญญาโทโดยที่ไม่ต้องสอบสำหรับนักศึกษาที่เรียนจบปริญญาตรีที่มีความสามารถโดดเด่น แบบนี้ค่อยง่ายหน่อย คงจะไม่สายเกินไป ต่อมาภายหลังฉินเสี้ยวยวนเที่ยวไปหาคนโน้นทีคนนี้ทีอยู่ช่วงหนึ่ง ในที่สุดวันนี้ก็สำเร็จแล้ว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวยวนอดรู้สึกดีใจไม่ได้
“เรื่องเฉินชาง…ต้องขอบคุณหัวหน้ากวนมากๆ เลยนะครับ ถ้ามีโอกาสมาแวะมาคุยกันที่โรงพยาบาลอันดับสองของจังหวัดได้นะครับ” ฉินเสี้ยวยวนกล่าว
หลังจากที่วางสายไปแล้ว ฉินเสี้ยวยวนก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาในทันใด
คิดไปคิดมาเขาก็กดโทรศัพท์โทรไปแจ้งข่าวให้เฉินชางทราบสักหน่อย กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ “เฉินชาง คุณมาที่ห้องทำงานผมหน่อย”
เฉินชางชะงักงัน “ผู้อำนวยการฉิน…ผม…อยู่ในเวลางาน ออกจากพื้นที่เวลางานไม่น่าจะดีสักเท่าไหร่นะครับ เอ่อ…เหมาะสมหรือครับ ถ้า ถ้า ผมหมายถึงถ้าฝ่ายกิจการแพทย์เพ่งเล็งขึ้นมาจะไม่ดีหรือเปล่าครับ ผมเพิ่งจะโดนลงโทษทางวินัยไป…หรือว่ารอผมเลิกงานก่อนแล้วผมค่อยขึ้นไป แบบนี้ดีมั้ยครับ”
ทันทีที่เฉินชางพูดคำนี้ออกมา ฉินเสี้ยวยวนรู้สึกราวกับโดนตบหน้าซ้ายทีขวาทีอย่างสโลว์โมชั่นซ้ำๆ…
เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้กำลังตบหน้ากันชัดๆ
ไม่ใช่เพราะผมหรือไงที่ไม่ใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน
เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ทำไมถึงได้ใจแคบขนาดนี้นะ
เมื่อฉินเสี้ยวยวนคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดโมโหไม่ได้ “ได้ หรือคุณจะไม่ขึ้นมาหาผมก็ได้ ถ้าคุณพลาดโอกาสที่จะได้เป็นนักศึกษาปริญญาโทขึ้นมา ผมไม่รับผิดชอบด้วย”
หลังจากพูดจบฉินเสี้ยวยวนก็วางสายไปเลย เมื่อนึกคำพูดคำจาของเฉินชางเมื่อครู่นี้ที่ฟังดูปลิ้นปล้อนไม่จริงใจขึ้นมา เขาก็อดโกรธจนกัดฟันกรอดไม่ได้
เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ ความคิด…ความคิดเหมือนเด็กๆ จริงๆ เลย
ถูกต้อง!
ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลยสักนิด
ทันทีที่เฉินชางได้ยินเรื่องเรียนปริญญาโทนี้ เขาก็พลันตกตะลึงจนตาค้าง โอ้แม่เจ้า ฉินเสี้ยวยวนช่วยเขาจริงๆ ด้วย?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็บอกคนที่อยู่กะเดียวกันไว้ แล้วรีบตรงไปที่ตึกธุรการ
เมื่อไปตึกธุรการแล้ว เขาพบว่าเขาไม่รู้ว่าสำนักงานของผู้อำนวยการอยู่ตรงไหน…
ขึ้นไปถามดูก็แล้วกัน!
ทว่าในหลังจากที่เฉินชางขึ้นไปถึงชั้นยี่สิบแล้ว เขาถึงพบกับปัญหาที่ข้อหนึ่ง ประตูห้องทุกห้องทำงานเป็นประตูแบบดิจิตอลล็อก ต้องสแกนบัตรเท่านั้นถึงเข้าไปได้ เฉินชางพลันรู้สึกอับจนหนทาง
เคาะประตู?
วางใจได้ ไม่มีใครเขาสนใจคุณหรอก
โอ้ นี่มันห้องทำงานของคนตำแหน่งสูงจริงๆ ประตูทุกห้องในตึกแห่งนี้เป็นประตูดิจิตอลล็อกทั้งหมด คนที่อยู่ในตึกนี้จะต้องมีกุญแจถึงเข้าได้ คนนอกหรือคนที่คิดจะมาก่อเรื่องเข้าไม่ได้ ส่วนประตูใหญ่ของแผนกฉุกเฉินที่เขาอยู่นั้นเปิดไว้เสมอ
สุขภาพกายสุขภาพใจกับคุณภาพชีวิตของฝ่ายงานบริหารสำคัญมากจริงๆ เมื่อเทียบกับแผนกฉุกเฉินแล้ว…
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดวิพากษ์วิจารณ์ในใจสักสองสามประโยคไม่ได้
เฉินชางเดินเข้าไปไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้รอใครมาเปิดประตูให้ เขาทำได้แค่โทรหาฉินเสี้ยวยวน “ผู้อำนวยการฉินครับ ผมอยู่หน้าประตูแล้วครับ…ผมเข้าไปไม่ได้ครับ”
[1] สโคป X8 (Scope X8) เป็นตัวช่วยในการเล็งเป้าในการยิงระยะไกลในเกม PUBG