p>บทที่ 198 อาชีพลับหอมหวานสุดๆ
นักศึกษาปริญญาโทไม่กี่คนที่ยืนอยู่มุมผนังกำแพงอดเอามือยันกำแพงเอาไว้ไม่ได้ สายตาจับจ้องมองเฉินชางอย่างไม่ละสายตา อยากจะปล่อยมือจากกำแพง!
ไม่เอามือยันกำแพงแล้ว ผมขอคารวะคุณ!
คุณอวดภูมิความรู้ไม่พอ คุณยังเรียกคำชมจากหัวหน้าได้อีกด้วย!
ทว่าเฉียนหลิน พ่อหนุ่มร้อยโลที่ยืนอยู่ด้านหลังประตูห้องผู้ป่วย กลับยืนครุ่นคิดตัดสินใจอยู่นานว่าอยากจะเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยดีหรือไม่ แต่เขาก็ยังไม่กล้าอยู่ดี เขาเงี่ยหูฟังบทสนทาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องผู้ป่วย บทสนทนาที่สร้างความรู้สึกตื่นเต้นฮึกเหิมใจให้เขาอยู่นานมาก!
น้องชายคนนี้สุดยอดมาก!
เชี่ยวชาญรอบด้าน ภาษาอังกฤษ ตัวเลขทางฟิสิกส์ ตัวเลขทางเคมี ทักษะการผ่าตัด
ร้ายกาจๆ!
ในที่สุดผมคนแซ่เฉียนคนนี้ก็ไม่อยู่ในห่วงแห่งความโหยหาของนางปีศาจสาวตนนี้แล้ว เฉียนหลินมองหน้าที่ขี้ขลาดของเก่อฮว๋ายผ่านช่องประตู เขาอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ มีนางปีศาจสาวเป็นหัวหน้า ถ้าคุณไม่หวาดกลัวนาง ใครจะกลัวล่ะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉียนหลินก็มองเฉินด้วยความรู้สึกรักและสงสารอย่างเลี่ยงไม่ได้
ถึงอย่างไรเสียเฉินชางก็หนุ่มอนาคตไกล ทว่าดันสิ้นคิดอยากจะติดตามนางปีศาจสาว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉียนหลินก็ถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก รอข้อสรุปอีกทีก่อน!
รอนางปีศาจสาวเซ็นชื่อก่อนค่อยไป ไปบอกกลับคุณลุงว่าหัวหน้าเมิ่งมีลูกศิษย์แล้ว อีกทั้งลูกศิษย์ของหัวหน้าเมิ่งยังเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากด้วย เก่งกาจกว่าตนมาก
ในตอนนี้เมิ่งซีประทับใจเฉินชางแล้ว ความสามารถของนักศึกษาปริญญาโทคนนี้ล้ำเลิศเกินกว่าที่ตนคาดการณ์ไว้!
ถึงขั้นที่เมิ่งซีรู้สึกสงสัยว่าสมัยตนอายุเท่าเฉินชาง ตนมีความสามารถแบบเดียวกันกับเฉินชางหรือเปล่า
ในตอนนี้เอง ซย่าเกาเฟิงอดกล่าวขึ้นไม่ได้ว่า “เสี่ยวเมิ่ง ถ้าคุณไม่อยากรับนักศึกษาปริญญาโทคนนี้เป็นศิษย์ล่ะก็ พ่อหนุ่มคนนี้ให้ผมแล้วกันนะ!…”
“…ผมจะทำตัวหน้าหนาโทรไปที่สำนักงานบัญฑิตวิทยาลัยให้ทางนั้นให้โควตาผม! บอกตามตรงนะครับว่าผมไม่เจอหนุ่มสาวที่มีความสามารถโดดเด่นขนาดนี้มานานมากแล้ว อนาคตรุ่ง อ้อ จริงสิ พ่อหนุ่มคุณชื่ออะไรนะ”
เฉินชาง “เฉินชางครับ ชางที่มาจากคำว่าชางไห่ซางเถียน[1] น่ะครับ”
ทันทีที่ซย่าเกาเฟิงได้ยิน “เยี่ยม! เป็นชื่อที่ดี!”
บรรดาแพทย์ที่เข้ามาฝึกอบรมที่โรงพยาบาล ตรงไหนที่เรียกว่าดี!
ซย่าเกาเฟิงกล่าวต่อ “คุณทำงานแล้วใช่มั้ยครับ ทำอยู่ที่โรงพยาบาลไหนครับ แผนกอะไร”
เฉินชาง “ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลอับดับสอง อยู่แผนกฉุกเฉินครับ”
ซย่าเกาเฟิงชะงัก “เอ๊ะ? หัวหน้าหลี่เป่าซานอยู่ที่นั่น?”
เฉินชางพยักหน้า ดูแล้วหัวหน้าหลี่มีชื่อเสียงในมลฑลอยู่นะ
ซย่าเกาเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย “ไม่เลว ไม่เลว!”
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของซย่าเกาเฟิง +10]
…
อาการของผู้ป่วยคงที่แล้ว ทุกคนต่างก็เดินกลับไปที่ห้องทำงาน
เมิ่งซีมองเฉินชาง ถึงแม้ว่าในใจจะดีใจมาก แต่สีหน้ากลับเรียบเฉย “ทำไมคุณถึงอยากได้ฉัน”
เฉินชาง “…”
นี่มันกลางวันแสกๆ คุณเป็นถึงอาจารย์ ทำไมพูดจาเลอะเทอะแบบนี้
ผมมีสิทธ์นั้นด้วยหรือ
ถึงจะอยากแต่ก็ไม่กล้า!
เมื่อเมิ่งซีเห็นว่าเฉินชางไม่ตอบ เธอก็ถามต่อ “ทำไมคุณถึงอยากได้ฉันเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา”
เฉินชางถึงเพิ่งจะเข้าใจในคำถาม เขายิ้มเก้อเขิน “ความรู้ด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของผมไม่พอ ผมคิดว่าหนึ่งในความแตกต่างระหว่างนักศึกษาปริญญาโทกับนักศึกษาปริญญาตรีคือความรู้ด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ นักศึกษาปริญญาโทต้องทำวิจัยเป็น ต้องทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ แล้วผมก็เคยอ่านบทความวิจัยทั้งหมดของอาจารย์เมิ่งมาก่อน คุณมีความสามารถโดดเด่นในแวดวงนี้มาก ผมคิดว่าผมจะได้เรียนรู้อะไรจากคุณเยอะมาก”
ทันทีที่ได้ยินคำตอบเหล่านี้ เมิ่งซีก็พยักหน้าเล็กน้อย “เอาแบบฟอร์มมาให้ฉัน”
เฉินชางรีบยื่นแบบฟอร์มสำหรับเซ็นรับศิษย์ให้เมิ่งซีทันที
เมิ่งซีขีดๆ เขียนๆ ชื่อของตนเองลงบนแบบฟอร์ม
เฉินชางปลื้มปริ่ม “ขอบคุณครับอาจารย์!”
[ติ๊ง! ภารกิจลับ ภารกิจกราบอาจารย์เมิ่งซีเสร็จสิ้น!]
[ติ๊ง! ยินดีด้วย ได้รับการถ่ายทอด: ลูกศิษย์ของเมิ่งซี]
[เปิดคลังทักษะของเมิ่งซี…]
[คลังทักษะของเมิ่งซี เสียค่าความรู้สึกดี สามารถปลดล็อกทักษะใหม่ได้
อธิบายเพิ่มเติม ทักษะที่ไม่เหมือนกันต้องแลกกับค่าความรู้สึกดีที่ไม่เหมือนกันเท่านั้นถึงจะแลกได้ เสร็จสิ้นภารกิจศิษย์ในสำนักจะได้รับค่าความรู้สึกดี]
เฉินชางถึงกับตกตะลึงจนตาค้าง…
ผม…
ผมเหนื่อยมาทั้งวัน และนี่คือรางวัลที่คุณมอบให้ผม?
เสียค่าความรู้สึกดีสามารถแลกทักษะได้?
ซึ่งนั่นก็คือภารกิจลับทั้งหมด?
และซึ่งนั่นก็คืออาชีพลับทั้งหมด?
เมิ่งซีอายุสามสิบ ต่อให้เธอเก่งสักแค่ไหน เธอจะมีทักษะหลากหลายแค่ไหนกันเชียว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ค่อนข้างอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก คิดไม่ถึงว่าผมจะโง่เง่าทำลายโอกาสเฟ้นหาอาจารย์ปรึกษาของตนเองไป
ผม…ผมคืนสินค้าได้มั้ย
ผมไม่ต้องการเธอแล้ว!
ผมเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาได้มั้ย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าพวกผู้หญิงเป็นพวกจอมหลอกลวง จะเชื่อถือในสิ่งที่เห็นจากภายนอกไม่ได้ ยิ่งผู้หญิงสวยๆ ยิ่งทำร้ายคนอื่นได้อย่างอำมหิตมาก!
หลังจากที่ทอดถอนใจร้อยแปดพันเก้าแล้ว…
เฉินชางก็ข่มใจตนเองให้สงบลง เขาเกิดกลัวว่าความไร้เหตุผลของตนเองจะทำให้ค่าความรู้สึกดี 5 แต้ม ของอาจารย์เมิ่งที่เขามีอยู่จะลดฮวบลงไปจนไม่เหลือ
นี่มันต่างอะไรกับขายตนเองเพื่อแลกกับความรุ่งโรจน์งั้นหรือ
เสียค่าความรู้สึกดีได้รับทักษะ ระบบ คุณนี่ก็คิดได้นะ
นี่ผมมากราบอาจารย์เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ไม่ได้มาขายส่ง!
ผมเฉินชางคนนี้ขอสาบาน ณ ตรงนี้ ต่อให้ต้องโดนเฆี่ยนจนตายก็ไม่ยอมเป็นกลายเป็นคนขี้ประจบ!
เมิ่งซีมองเฉินชาง กล่าวว่า “วันนี้ฉันยังมีงานต้องทำอีก คุณกลับก่อนเถอะค่ะ อ้อ จริงสิ ขอวีแชทกับเบอร์ติดต่อของคุณด้วยค่ะ”
เฉินชางพยักหน้า หลังจากที่แลกช่องทางติดต่อกันแล้ว เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป
ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเมล์ เฉินชางยังคงรู้สึกนิดๆ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
คิดไปคิดมา เฉินชางตัดสินว่าจะลองดูว่าคลังทักษะของเมิ่งซีมีอะไร
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็กดเปิดคลังทักษะเลย
แล้วเขาก็ต้องถึงกับตกตะลึงจนตาค้างในทันใด!
เฉินชางคาดไม่ถึงว่าจะพบว่าคลังทักษะของเมิ่งซีจะมีแผนผังทักษะถึงสามด้าน
[แผนผังทักษะด้านศัลยกรรมหัวใจ]
[แผนผังทักษะด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ]
[แผนผังทักษะด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์]
เฉินชางอดกลืนน้ำลายไม่ได้ เขาเปิดแผนผังทักษะด้านศัลยกรรมหัวใจดูอย่างระมัดระวัง แล้วก็เขาก็ถึงตกตะลึงจนอ้าปากค้างในทันใด เขาพบว่ากิ่งก้านของแผนผังทักษะรูปต้นไม้ผลิดอกออกผล ผลแต่ละผลบนต้นส่องแสงสีม่วงเปล่งประกาย เห็นได้ชัดว่านี่เป็นทักษะสีม่วง!
เฉินชางเคยเห็นผลที่มีสีทองประกายอยู่บ้าง!
นี่…จะต้องเป็นทักษะระดับสมบูรณ์!
นี่มันยอดเยี่ยมมากไปหรือเปล่า
เฉินชางค่อนข้างตกตะลึง
คิดไม่ถึงว่าเมิ่งซีคนนี้จะเก่งขนาดนี้เลย?
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีทักษะเยอะขนาดนี้!
[ติ๊ง! เมิ่งซีเป็นตัวนำของอาชีพ ผ่านการกราบอาจารย์เมิ่งซีจะได้รับอาชีพลับ ทักษะไม่เกี่ยวอะไรกับเมิ่งซี]
เฉินชางเข้าใจในสถานการณ์แล้ว
ถึงจะตนการกราบอาจารย์เมิ่งซี แต่ทักษะเหล่านี้ไม่ใช่ของเมิ่งซี
ตนแค่จะได้รับทักษะเหล่านี้ผ่านเมิ่งซีก็เท่านั้นเอง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็เลี่ยงที่จะรู้สึกฮึกเหิมไม่ได้
แต่…
เสียค่าความรู้สึกดีได้รับทักษะคือยังไงกัน
[ติ๊ง! ทักษะระดับหนึ่งต้องปลดล็อกด้วยค่าความรู้สึกดี 20 แต้ม ทุกครั้งที่แลกทักษะต้องเสียค่าความรู้สึกดี 10 แต้ม หลังจากที่ได้รับทักษะสำเร็จแล้ว ทักษะที่ได้รับจะเป็นทักษะสีม่วงโดยอัตโนมัติ
ทักษะระดับสองต้องใช้ค่าความรู้สึกดี 40 แต้มในการปลดล็อก ทุกครั้งที่แลกเปลี่ยนจะต้องเสียค่าความรู้สึกดี 20 แต้ม
ทักษะระดับสามต้องใช้ค่าความรู้สึกดี 60 แต้มในการปลดล็อก ทุกครั้งที่แลกเปลี่ยนจะต้องเสียค่าความรู้สึกดี 30 แต้ม
ทักษะระดับสี่ต้องใช้ค่าความรู้สึกดี 80 แต้มในการปลดล็อก ทุกครั้งที่แลกเปลี่ยนจะต้องเสียค่าความรู้สึกดี 40 แต้ม]
เฉินชางถึงกับตกตะลึงจนตาค้าง
นี่หมายถึงตนไม่ต้องเลื่อนระดับทักษะอีกต่อไป?
การแลกเปลี่ยนสำเร็จก็ได้ทักษะสีม่วงได้เลย?
นี่มันยอดเยี่ยมไปหรือเปล่า
นี่เป็นข้อดีที่แฝงมากับอาชีพลับใช้ไหมเนี่ย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกว่าทั้งหมดนี้ดูจะปลอมเกินไป ไม่ใช่ความจริง คิดไม่ถึงว่าอาชีพลับจะได้รับทักษะสีม่วงเลย!
รู้สึกฟินสุดๆ!
แล้วอีกอย่าง เฉินชางก็ดูอย่างละเอียดแล้ว
อยากได้ทักษะ!
ก็ต้องได้ค่าความรู้สึกดีจากอาจารย์เมิ่ง!
ต้องประจบอาจารย์ซะแล้ว!
ยิ่งประจบได้ถูกใจมากเท่าไหร่ ผลตอบแทนยิ่งสูง!
เฉินชางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
คิดอะไรเยอะมาก
คิดอะไรไปไกลมาก…
คิดว่าจะให้ลูกเรียนที่โรงเรียนประถมอัลลิสตัน หรือว่าจะฝากเนอสเซอรีในหมู่บ้านดี
อาชีพนี้เหมาะกับคนขี้ประจบอย่างฉินเยว่มาก ถ้าเธอทำภารกิจกราบอาจารย์ เธอจะต้องขนทักษะไปเกลี้ยงคลังแน่!
แต่เมื่อคิดถึงเหล่าเศรษฐินีพวกนั้น ดูเหมือนว่าค่าความรู้สึกดีจะสูงๆ กันทั้งนั้น
งั้น…
ควรจะเพิ่มค่าความรู้สึกดีของบรรดาเศรษฐินีให้มากขึ้น ดูจะทางที่ได้เปรียบมาก!?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าอาชีพลับช่างหอมหวาน!
เฆี่ยนให้ตายก็ไม่ยอมเป็นคนขี้ประจบงั้นหรือ
เหอ เหอ!
โอ๊ย…หอมหวานจริงๆ!
[1] ชางไห่ซางเถียน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของโลก