บทที่ 256 คนเก่งจำนวนมามารวมตัวกัน!
ข่าวบาดเจ็บของสิงอวี่ได้รับความสนใจจากคนวงในไม่น้อย เพียงไม่นาน บรรดาสื่อมวลชนข่าวซุบซิบก็แห่แหนกันมายังเมืองอันหยาง เมืองที่ไม่ค่อยรับความสนใจจากผู้คน ราวกับแมวที่ได้กลิ่นเนื้อปลา
รัฐบาลของเมืองอันหยางจัดตำรวจมาควบคุณสถานการณ์ที่แผนกศัลยกรรมมือโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลเพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวรั่วไหล
ถึงอย่างไรเสีย อุบัติเหตุครั้งนี้ของสิงอวี่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ไม่ว่าผู้รับผิดชอบในการจัดการแสดงจะพยายามหาสาเหตุแค่ไหน แต่บรรดาผู้นำต่างไม่ต้องการให้ข่าวที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของเมืองอันหยางปรากฏออกไป
นับตั้งแต่สิงอวี่ได้รับบาดเจ็บก็ผ่านมาสี่ชั่วโมงแล้ว ในช่วงระยะเวลาสี่ชั่วโมงนี้ สิงอวี่ล้างแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว การตรวจต่างๆ ก็ตรวจเสร็จหมดแล้ว
ถานจงหลินเย็บหลอดเลือดกับเส้นประสาทเสร็จเรียบร้อย รอให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญมาถึง!
รองประธานของบริษัทสิงอวี่มาที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลด้วยตัวเองเลย ผู้จัดการบริษัทประกันภัยก็มาด้วยเช่นกัน
มือคู่นี้ของสิงอวี่มีมูลค่าเบี้ยประกันถึงหลักสิบล้าน ในตอนนี้มีสภาพเช่นนี้ บริษัทประกันภัยจะต้องปวดใจมากแน่!
ดังนั้นผู้จัดการบริษัทประกันภัยที่เป็นผู้ดูแลสิงอวี่ก็เลยตามมาที่โรงพยาบาลด้วย
กรณีที่มือของสิงอวี่ผิดปกติขึ้นมา อาจต้องจ่ายค่าชดเชยมูลค่าสูงถึงหลักร้อยล้าน!
ตัวเลขจำนวนนี้ แม้แต่บริษัทประกันภัยเองก็ยังเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ!
…
…
ตอนบ่ายสามโมง ศัลยแพทย์ผู้โด่งดังในแวดวงศัลยกรรมมือต่างก็ทยอยกันมาแล้ว ห้องทำงานของแผนกศัลยกรรมมือโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลดูมีระดับมากยิ่งขึ้น ตอนนี้คนที่มีตำแหน่งต่ำกว่าระดับหัวหน้าไม่มีสิทธิ์เข้าไปในห้องทำงานของแผนกศัลยกรรมมือแล้ว
บริเวณหน้าประตูลิฟต์ หน้าบันไดเลื่อนตึกผู้ป่วยมีเจ้าหน้าที่ยืนเฝ้าอยู่ คนที่จะผ่านเข้าไปได้จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนถึงจะผ่านเข้าไปได้ มิฉะนั้นจะห้ามผ่านเข้าไปโดยไม่มีข้อยกเว้น
ห้องเปลี่ยนเวรที่ปกติบรรจุหมอและพยาบาลทั้งแผนกได้ ขณะนี้มีศัลยแพทย์ผู้โด่งดังในแวดวงศัลยกรรมมือนั่งกันอยู่เต็มห้องราวยี่สิบกว่าคน ทุกคนต่างหารือกันเกี่ยวอาการของผู้ป่วยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ภรรยากับลูกชายของสิงอวี่นั่งรออยู่ในห้องทำงานของหัวหน้า แต่รองประธานบริษัทของสิงอวี่รวมทั้งผู้จัดการบริษัทประกันภัยต่างก็นั่งอยู่ข้างๆ สิงอวี่ ตั้งใจฟังความคิดเห็นของเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้วยความอดทน
ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกเชิญให้มาช่วยรักษาในครั้งนี้มีหวังอวี้ซาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่ว ฉางหงเหล่ยหัวหน้าแผนกศัลยกรรมมือประจำโรงพยาบาลจีสุ่ยถานแห่งเมืองหลวง ศาสตราจารย์อวี๋เจี้ยนไป๋รองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมมือประจำโรงพยาบาลหนานทงแห่งมณฑลเจียงซู…
กล่าวได้ว่าเพื่อจะรักษามือของสิงอวี่ในครั้งนี้ ศัลยแพทย์ผู้โด่งดังในแวดวงศัลยกรรมมือทั่วประเทศถูกเชิญมาทั้งหมด!
ศาสตราจารย์ทังผู้คิดค้นวิธีเย็บเส้นเอ็นติดประชุมอยู่ที่ยุโรปจึงกลับมาไม่ทันแน่นอน ศาสตราจารย์อวี๋เจี้ยนไป๋ รองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมมือจึงมาแทน…
ส่วนเฉินชางเป็นหมอที่อายุน้อยที่สุดในห้องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอของถานจงหลิน เฉินชางคงยังอยู่ในที่นี้ไม่ได้
ภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่เป็นภาพบาดแผลของสิงอวี่ ทุกคนจำเป็นต้องร่วมกันหาวิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเย็บบาดแผล และหาแนวทางรักษากับแบบแผนการรักษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดออกมา
ทว่าในตอนนี้กลับไม่ใครเสนอความคิดอะไร
อาการบาดเจ็บที่เกี่ยวกับจุดเชื่อมต่อการเคลื่อนไหวของมือเป็นตำแหน่งที่รักษายากมากที่สุด บวกกับอาการบาดเจ็บสาหัสบริเวณหลังมือ การฟื้นตัวภายหลังการรักษาจะมีปัญหาแน่
เมื่อหวังอวี้ซานเห็นว่าคนอื่นๆ โดยรอบต่างก็เงียบขรึมไม่พูดจา เขารู้ว่าถ้าตนไม่เป็นฝ่ายพูด ก็เป็นไปได้ว่าบรรยากาศเงียบขรึมเช่นนี้จะคงอยู่อีกนาน ก็เลยกระแอมออกมา กล่าวเสียงดังฟังชัดว่า “ทุกท่านครับ…เพื่อนร่วมงานทุกคน ผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ ผมจะพูดมุมมองของผม นำความคิดที่ตื้นเขินของผม ดึงดูดความคิดที่เหนือชั้นจากทุกคน เราทุกคนมาร่วมออกความคิดเห็นกันครับ”
ทุกคนต่างพยักหน้า ปกติทุกคนต่างมีการติดต่อสื่อสารกันอยู่บ่อยๆ ส่วนใหญ่แล้วในทุกปีจะต้องได้เจอหน้ากันสักหนึ่งครั้งในฐานะสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งชนชาติจีน ทุกคนต่างรู้จักคุ้นเคยจนจำชื่อได้
หวังอวี้ซาน ฉางหงเหล่ย ต่างก็เป็นกรรมการสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งชนชาติจีน รองประธานอยู่ในระดับเดียวกันกับศาสตราจารย์ทังแห่งโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยหนานชาง
หวังอวี้ซานมองทุกคนทีหนึ่ง กล่าวอย่างจริงจัง “ตอนนี้ทุกคนต่างก็ทราบอาการของคุณสิงแล้ว ผมจะไม่พูดถึงเรื่องระดับความยากในการรักษาว่ายากขนาดไหน ผมจะจะพูดเรื่องแนวคิดในการรักษากับแผนรับมือก็แล้วกันนะครับ…
…ว่ากันตามสถานการณ์ปัจจุบันนะครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเย็บเส้นเอ็นบริเวณมือทั้งสามเส้นก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดพังผืด แต่ถ้าป้องไม่ให้เกิดพังผืดเพียงอย่างเดียว วิธีของบันเนลล์ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดี ทว่าระดับความยากในการผ่าตัดค่อนข้างสูง และหลังมือของผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บสาหัสจึงไม่เหมาะกับวิธีนี้ วิธีเย็บเส้นเอ็นแบบมัดหกปมของทังเห็นได้ชัดเจนว่าไม่เหมาะกับการเย็บเส้นเอ็นยืดเหยียดของผู้ป่วยสักเท่าไหร่…” หลังจากที่หวังอวี้ซานวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว “ผมคิดว่าความเป็นไปได้ในการป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดมีไม่ถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์!…
…นี่ยังไม่ได้คำนึงถึงอาการอักเสบหลังการรักษา อีกทั้งผู้ป่วยมีอาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบเรื้อรังอยู่แล้วด้วย…”
ทุกคนพยักหน้า
ทุกอาชีพย่อมมีโรคประจำตัวที่เกิดจากอาชีพที่ทำ!
นักเล่นเปียโนที่ดูสง่าผ่าเผยทุกคนจำเป็นต้องกำหนดวันเวลาไปศูนย์บำบัดเพื่อรักษามือกับฟื้นฟูสุขภาพมือ
แต่ถึงจะทำเช่นนี้แล้ว อาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบก็ยังเป็นปัญหาที่ยากจะหลีกเลี่ยงอยู่ดี!
แล้วอาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบของสิงอวี่ก็ไม่เคยหายขาด มักจะมีอาการกำเริบบ่อยๆ
มือที่มีไว้สำหรับเล่นเปียโนคู่นี้ เวลาเกิดอาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบก็ไม่กล้าฉีดยาเพื่อรักษา การผ่าตัดยิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่
ตอนนี้อาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบกลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราความสำเร็จในการผ่าตัด!
หลังจากที่สิงอวี่ได้ฟังเช่นนั้น เขาก็อดถอนหายใจไม่ได้
ฉางหงเหล่ยพยักหน้า “ค่ะ สิ่งที่ผู้อำนวยการหวังกล่าวสมเหตุสมผลมาก ฉันก็คิดเช่นเดียวกัน แต่ฉันมีข้อเสนอเล็กๆ เราลองใช้วิธีเอ็ม-ทังดูได้นะคะ ฉันจำได้ว่าผลวิจัยล่าสุดของศาสตราจารย์ทั้งหลายต่างก็บอกว่าวิธีเอ็ม-ทังเหมาะกับเคสที่ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดพังผืดง่าย…”
หลังจากที่หวังอวี้ซานเปิดประเด็นแล้ว ทุกคนต่างก็เริ่มอภิปราย เฉินชางนิ่งเงียบไม่พูดจา ตั้งใจฟังอย่างเดียว คนเหล่านี้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเย็บเส้นเอ็นค่อนข้างลึกซึ้ง
แต่ตอนนี้เฉินชางไม่เหมือนแต่ก่อน ถึงเขาจะเห็นข้อบกพร่องในแนวคิดผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น แต่เฉินชางก็ไม่พูดอะไรออกไป เพราะเขาไม่ใช่คนโง่
เวลาแต่ละนาที แต่ละวินาทีผ่านไปเร็วดุจสายน้ำ
แนวคิดของทุกคนยังไม่เป็นเอกฉันท์
แต่ถึงแนวคิดจะไม่เป็นไปในทางเดียวกัน แต่ก็ไม่ใครคัดค้านแนวคิดใคร!
กลายเป็นเหตุการณ์ที่กระอักกระอ่วนที่สุด ทั้งยังน่ากลัวมากที่สุดด้วย
เมื่อมองไปที่สิงอวี่ที่นั่งประหม่าอยู่ข้างๆ
รองประธานบริษัทก็กล่าวขึ้นเลยว่า “ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ทางเราไม่รู้ว่ารักษาด้วยวิธีไหนถึงได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่เรารู้ว่าสถานการณ์เช่นใครก็ไม่อยากแบกรับความรับผิดชอบ แต่เราก็หวังว่าทุกท่านจะมีแผนการรักษาที่เชื่อถือได้ สำหรับจะประสบความสำเร็จในการรักษาหรือไม่ บาดแผลจะหายสนิทจนกลับมากเป็นมาปกติหรือเปล่านั้น ในส่วนนี้พวกคุณทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แค่นั้นพอ”
สิงอวี่พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน กล่าวอย่างจริงจังว่า “ใช่ครับทุกคน พวกคุณทำให้เต็มความสามารถก็พอแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันครับ ผมรู้สถานการณ์ของผมดีครับ ดังนั้นทุกท่านเสนอแผนการรักษาของตนเองออกมาได้เลยครับ แค่มีความมั่นใจมากพอก็โอเคแล้วครับ ผมจะเป็นคนเลือกเองว่าจะรักษาด้วยแผนไหน ผมรับรองว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้พวกคุณ ผมรับประกัน!”
หวังอวี้ซานกับคนอื่นต่างสบกันและกัน หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หวังอวี้ซานก็กล่าวขึ้นว่า “ผมรับประกันอัตราในการรักษาหายอยู่ที่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราของประสิทธิผลที่เด่นชัดอยู่ที่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ครับ”อัตราในการรักษาหาย กับอัตราในการการรักษา มีความหมายโดยรวมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วงการแพทย์มีมาตรฐานการรักษาหลายระดับ เพื่อความสะดวกในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในวันข้างหน้า จึงวัดผลการรักษาจากตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ ซึ่งแบ่งออกเป็น ได้แก่ การรักษา ประสิทธิผลที่เด่นชัด มีประสิทธิผล และไม่ได้ผล
การรักษาหายที่กล่าวถึงหมายถึงบาดแผลที่หายสนิท ส่วนประสิทธิผลที่เด่นชัดกับมีประสิทธิภาพล้วนแฝงไว้ด้วยข้อบกพร่องบางประการ ตัวชี้วัดต่างๆ ยังไม่เพียงพอ
ทันทีที่หวังอวี้ซานกล่าวออกไป ทุกคนต่างตกตะลึกเล็กน้อย!
ฉางหงเหล่ยค่อนประหลาดใจ ทำไมถึงตั้งเปอร์เซ็นต์ไว้สูงขนาดนั้นได้
เธอรับประกันอัตราในการรักษาหายอยู่ที่สามสิบสี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น สถานการณ์เช่นนี้ถ้าจะไม่เกิดพังผืดเลย ปัจจัยเสี่ยงก็จะมากเกินไป
สิ่งนี้ยากมากที่จะประมาณการผลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์!
การประมาณการเช่นนี้อาศัยพื้นฐานการความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่รักษามากพอของพวกเขา
คือประสบการณ์ คือความสามารถ!