บทที่ 259 กู้สถานการณ์? ไม่กู้สถานการณ์!
เมื่อทุกคนในห้องประชุมเห็นว่าสถานการณ์ในห้องผ่าตัดอยู่ๆ ก็หยุดนิ่งชั่วขณะ ทุกคนต่างก็ชะงักงัน!
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้สิ!”
“ทำไมหยุดผ่าตัด!”
“ผมไม่แน่ใจ แต่…จากสิ่งที่เห็นก็ไม่มีอะไรผิดปกตินะ?”
“เกิดเรื่องอะไรกันแน่”
“จะต้องเกิดเรื่องแน่…”
…
ในตอนนี้สีหน้าของทั้งสามคนในห้องผ่าตัดดูวิตกกังวลอย่างหนัก หวังอวี้ซานขมวดคิ้วมุ่น ถานจงหลินจ้องหาตำแหน่งที่ปริแตกไม่ไม่ละสายตา ส่วนฉางหงเหล่ยเหงื่อท่วมทั้งตัว!
เพราะเธอเป็นคนที่บอกให้ดึงปลายไหมจนทำให้รอยแผลที่เย็บไว้แล้วปริ!
เธอเกิดเสียใจในภายหลัง!
แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาบ่นว่า ทั้งสามคนจำเป็นต้องช่วยกันค้นหาต้นตอของปัญหา จากนั้นก็คิดวิธีแก้
หมอสามคนไม่พอแล้ว หวังอวี้ซานเงยหน้าขึ้น “เสี่ยวเฉิน คุณมาช่วยทางนี้หน่อยครับ”
พยาบาลรีบเปลี่ยนสวมชุดผ่าตัดให้เฉินชางทันที หลังจากที่เฉินชางเดินเข้ามาแล้ว
ในแววตาของเฉินชางก็ปรากฏสัญลักษณ์สีแดง [เส้นเอ็น] บาดแผลปริแตก
เฉินชางชะงัก!
บาดเจ็บระดับสอง?
อุบัติเหตุในห้องผ่าตัด?
หรือว่า…
แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร ที่แน่ๆ คือการผ่าตัดในตอนนี้เข้าสู่สถานการณ์เลวร้ายแล้ว
โชคดีที่หวังอวี้ซานเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ ไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกลนลาน แต่พยายามหาแผนรับมือ
แต่หวังอวี้ซานตรึกตรองอยู่นานมากๆ เขาไม่อาจรับประกันอัตราความสำเร็จในการผ่าตัดเคสนี้ได้แล้ว
รักษาหาย…กลายเป็นเรื่องเพ้อฝัน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หวังอวี้ซานมองสิงอวี่ กล่าวตามความจริง “คุณสิงครับ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ เส้นเอ็นของคุณเสียหายในระดับที่สาหัสมาก อัตราการรักษาหายอาจลดลงเหลือไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ผมรับประกันว่าจะไม่กระทบกับการใช้ชีวิตของคุณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่นอน แต่สำหรับการเล่นเปียโน อาจส่งผลกระทบอยู่บ้าง…”
คำพูดของหวังอวี้ซานทำเอาสิงอวี่ถึงกับหน้าเจื่อน!
ทำยังไงดี
จะทำยังไงได้
การผ่าตัดดำเนินมาครึ่งทางแล้ว ไม่มีใครมีวิธีเลย
และในตอนนี้เอง ทันใดนั้นเฉินชางก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนภารกิจจากระบบ
[ติ๊ง! พบภารกิจกู้สถานการณ์ การผ่าตัดเข้าสู่สถานการณ์คับขัน กรุณากู้สถานการณ์อย่างเต็มความสามารถ
หลังภารกิจเสร็จสิ้น ได้รับ:
1. ถุงของขวัญแทนคำขอบคุณจากฉางหงเหล่ย
2. ถุงของขวัญแทนคำขอบคุณจากสิงอวี่
3. ถุงของขวัญแทนคำขอบคุณจากหวังอวี้ซาน]
เฉินชางชะงัก
ว้อท?
ถุงของขวัญแทนคำขอบคุณคืออะไรกัน
[ถุงของขวัญแทนคำขอบคุณ: วัดจากระดับความซาบซึ้งใจของฝ่ายตรงข้าม ได้รับทักษะสุ่มหนึ่งทักษะ ยิ่งซาบซึ้งมากก็ยิ่งได้ทักษะที่ระดับความหายากสูงยิ่งขึ้น]
เฉินชางตกตะลึงในทันใด…
นี่หมายความว่าอีกเดี๋ยวตนจะได้รับทักษะถึงสามทักษะอย่างนั้นหรือ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ลังเลใจแล้วว่าจะรับภารกิจกู้สถานการณ์หรือไม่รับ
ตอนนี้ตนมีความมั่นใจมากขนาดไหน!
การผ่าตัดประเภทนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ถ้าไม่ได้มีความั่นใจมากพอ แล้วกระโจนเข้าไปจะเป็นการเสี่ยงอันตราย…
เฉินชางสูดลมหายใจลึกๆ หนึ่งเฮือก เลือกใช้ไอเทม [หินจำลองการผ่าตัด]
หนึ่งก้อนไม่ขาดทุนจริงๆ!
หินจำลองการผ่าตัดหนึ่งก้อน แลกกับความซาบซึ้งใจจากสามคนนั้น
ถ้าผ้าตัดสำเร็จจะต้องได้ผลกำไรก้อนโตแน่ๆ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางกระตุ้น [หินจำลองการผ่าตัด]
[ติ๊ง! กระตุ้นหินจำลองการผ่าตัด
เริ่มจำลองห้องผ่าตัด อยู่ระหว่างดาวน์โหลด 10%…30%…100% ดาวน์โหลดสำเร็จ
เริ่มจำลองการผ่าตัดหรือไม่]
เฉินชางพยักหน้า แล้วรีบเลือกเริ่มจำลองการผ่าตัดทันที!
เพียงชั่วพริบตา ภาพตรงหน้าเฉินชางก็เปลี่ยนไป เขาปรากฏตัวในห้องผ่าตัดจำลอง แต่บรรยากาศยังคงเหมือนเดิม
เฉินชางเริ่มผ่าตัด โดยมีทั้งสามคนร่วมทีมด้วย เฉินชางเริ่มลงมือเย็บเส้นเอ็น
การผ่าตัดครั้งที่หนึ่ง หลังเสร็จสิ้นการผ่าตัด เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น
[ความเร็วของระยะเวลาที่บาดแผลหายสนิท: 80 คะแนน พังผืด: 60 คะแนน แรงดึง: 80 คะแนน…]
เฉินชางส่ายหน้าแล้วเริ่มฝึกต่อ
ทุกครั้งหลังการผ่าตัดจะมีคะแนนให้!
เฉินชางไม่พอใจกับผลคะแนน เขายังคงฝึกฝนซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เขาต้องการคือเพิ่มคะแนนในส่วนของพังผืดให้สูงขึ้นถึงหนึ่งร้อยคะแนน พยายามทำให้ถึงจุดที่ไม่มีพังผืด นี่เป็นความพยายามในการพัฒนาปรับปรุงสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นอีก
ครั้งที่สิบ ครั้งที่ยี่สิบ เฉินชางเริ่มเห็นคะแนนผังผืดหนึ่งร้อยคะแนนแล้ว แต่ผ่าตัดไปสิบครั้ง มีเพียงสามครั้งที่ได้หนึ่งร้อยคะแนน
หลังจากที่ผ่าตัดไปหนึ่งร้อยครั้ง ทุกสิบครั้งจะมีคะแนนพังผืดหนึ่งร้อยคะแนนห้าครั้ง
เฉินชางยังไม่พอใจ!
การผ่าตัดประเภทนี้ ถ้าตนจะเข้าไปมีส่วนร่วม ตนก็ต้องทำให้อยู่ในระดับที่ประสบความสำเร็จให้ได้!
มิฉะนั้นแล้ว เฉินชางก็จะไม่ยอมให้ตนเองก่อเรื่องวุ่นวาย
แต่อัตราความสำเร็จหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์มันง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน!
หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จเป็นครั้งที่สองร้อย อัตราความสำเร็จก็สูงขึ้นถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์
ครั้งที่สามร้อย…
ครั้งที่สี่ร้อย….
จนกระทั่งถึงครั้งที่ห้าร้อย อัตราความสำเร็จก็สูงขึ้นช้าลงเรื่อยๆ
เฉินชางตกตะลึง
ถึงขั้นที่มีบางครั้งที่ขึ้นแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ บางครั้งก็เพิ่มขึ้นแค่สองเปอร์เซ็นต์ ฉินชางถึงกับงงงวย
ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดกังวลไม่ได้
เวลาที่อยู่ในห้องจำลองการผ่าตัดจะไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปเลยสักนิด ถึงขั้นที่ไม่รู้สึกหมดแรง ทุกครั้งที่เริ่มต้นการผ่าตัด ความรู้สึกราวกับเป็นการเริ่มต้นครั้งแรก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือไม่รู้สึกแม้กระทั่งความกระวนกระวาย ความร้อนใจ
นี่เป็นเรื่องที่เฉินชางหวาดกลัว เพราะราวกับว่าเป็นการหมุนวนที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่รู้ว่าเฉินชางผ่าตัดไปกี่ครั้งแล้ว ในที่สุดอัตราความสำเร็จก็สูงขึ้นถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์!
เฉินชางใช้วิธีการต่างๆ นับไม่ถ้วน ผสมผสานกับแนวต่างๆ หลังจากที่ได้ทดลองหลากหลายเทคนิคนับไม่ถ้วน ในที่สุดก็ค้นพบวิธการรักษาที่เหมาะกับสิงอวี่แล้ว
ในเวลานี้ เฉินชางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจในที่สุด ในแววตาของเขามีแสงแห่งความมั่นใจเปล่งประกายออกมา!
หลังจากที่ถอยออกมาจากห้องจำลองการผ่าตัดแล้ว เวลาเพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวินาที
จู่ๆ ถานจงหลินก็ถามขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน คุณมีไอเดียดีๆ มั้ยครับ”
ในตอนนี้ หวังอวี้ซานก็มองมาที่เฉินชางด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไรเสียหมอหนุ่มคนนี้ก็เคยสร้างแรงกระตุ้นให้เขาได้มาก เขาก็เลยมองเฉินชางด้วยความอยากรู้
เฉินชางลังเลเล็กน้อย กล่าวอย่างช้าๆ “ผมไม่รู้ไอเดียที่ดีๆ แต่ผมมีข้อเสนอแนะหนึ่งข้อ อาจารย์ทั้งสามลองฟังดูได้ครับ”
กล่าวตามความจริงว่าในเวลานี้ฉางหงเหล่ยค่อนข้างวิตกกังวลจริงๆ
ข้อแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายที่ใหญ่มากที่สุดคือตรงไหน ไม่ใช่ในช่วงเวลาปกติทั่วไป แต่เป็นช่วงที่เผชิญกับสถานการณ์เฉพาะ ซึ่งความแตกต่างนั้นก็คือความสามารถในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อันตราย
แน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ถนัดในเรื่องนี้ และเมื่อวัดจากจำนวนส่วนใหญ่แล้ว หมอผู้ชายมีความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อันตรายค่อนข้างมากกว่าหมอผู้หญิง
เฉินชางกล่าว “ผมคิดเช่นนี้ครับ หลังจากที่เส้นเอ็นที่ทำหน้าที่ในการงอนิ้วบาดเจ็บระดับสองแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพังผืด เรื่องแรงดึงล้วนเกิดผลกระทบทั้งสิ้น แต่ถ้าใช้วิธีเย็บดั้งเดิมก็ค่อนข้างล้าหลัง การเย็บเส้นเอ็นสองครั้งติดต่อกันก็ไม่ส่งผลดีต่อการฟื้นฟูของบาดแผล ในตอนนี้ไหมที่ใช้เย็บเส้นเอ็นยังไม่ได้ตัดออก ผมคิดว่าเราใช้วิธีเย็บเส้นของบันเนลล์เหมือนเดิมได้ และประยุกต์เข้ากับวิธีเย็บเส้นเอ็นแบบพิเศษของเคสเลอร์เพื่อเย็บด้านในเส้นเอ็นโดยเลือกวิธีมัดปมแบบสองปม ปกติแรงดึงค่อนข้างอ่อนแรง แต่เมื่อใช้วิธีนี้ แต่เราอาศัยข้อดีของวิธีเย็บเส้นเอ็นของบันเนลล์ช่วยชดเชยส่วนที่บกพร่องไปได้…”
หลังจากเฉินชางกล่าวออกไปชุดใหญ่ ทั้งสามต่างก็ตกตะลึง!
เพราะแนวคิดนี้มีความประดิษฐ์สรรสร้างอยู่มาก ผสมผสานวิธีการเย็บเอ็นแบบต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อเย็บเส้นเอ็นที่บาดเจ็บระดับสอง ชดเชยส่วนที่บกพร่องด้วยการเลือกวิธีใช้ข้อดีของแต่ละวิธี นี่…คือแนวคิด!
หวังอวี้ซานคิดไม่ถึงว่าเฉินชางหมอหนุ่มคนนี้จะสร้างความประหลาดใจให้เขาอีกครั้ง!
เขาเก่งขนาดไหนกันแน่เนี่ย
เมื่อครั้งนั้นคิดค้นแผนการปลูกถ่ายผิวหนัง มาวันนี้ขณะที่หัวหน้าทั้งสามคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ถูก เฉินชางก็คิดแนวคิดที่อัจฉริยะนี้ออกมาได้อีก!
ฉางหงเหล่ยหลับตาครุ่นคิดอยูสามวินาที ความรู้สึกว่าเป็นไปได้ผุดขึ้นให้หัวนับไม่ถ้วน เธอลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วมองไปหวังอวี้ซาน แววตาของแฝงไว้ด้วยความตื่นเต้น “ผู้อำนวยการหวังคะ เป็นไปได้ค่ะ! ฉันคิดว่าเป็นไปได้!”
ถานจงหลินพยักหน้าเล็กน้อย “ผมก็คิดว่าเป็นไปได้”
หวังอวี้ซานถอนหายใจออกมา ผมอาจจะไม่รู้ว่าแนวคิดนี้ดีหรือเปล่า แต่…ผมต้องทำออกมาให้ดี!
ใครๆ ก็รู้ว่าวิธีนี้ดี แต่วิธีที่ดีก็ต้องให้คนที่เก่งทำ!
หวังอวี้ซานกลัดกลุ้มใจ…