บทที่ 266 ช่วยอันเยี่ยนจวินบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็น!
เมื่อใกล้ถึงวันชาติแล้ว
เป็นธรรมดาที่แผนกฉุกเฉินจะลาหยุดกันยกแผนกไม่ได้ จำนวนคนที่เข้าเวรยังต้องมีตามจำนวนที่ตั้งไว้ หลังจากที่กำหนดตารางงานที่ระบุวันหยุดได้กับวันห้ามหยุดเรียบร้อยแล้ว เฉินชางได้สัญลักษณ์หนึ่งขีดสองวัน สัญลักษณ์สองขีดสองวัน
สัญลักษณ์หนึ่งขีด หมายถึงวันเข้างานตามปกติ สัญลักษณ์สองขีด หมายถึงหยุดพักผ่อนอยู่บ้านได้ แต่เรียกเมื่อไหร่ต้องมา
วันนี้หลังจากที่เฉินชางเข้าไปในโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ได้รับแจ้งเตือนภารกิจประจำวันจากระบบ
[ติ๊ง! ภารกิจประจำวัน: เดินตรวจผู้ป่วย 10 รายในวอร์ด
ได้รับรางวัล: วินิจฉัย +30, เงิน +30 หยวน]
หลังจากที่เห็นภารกิจแล้ว เฉินชางก็รู้ว่าวันเวลาแสนพิเศษจบลงแล้ว
แต่เฉินชางก็พบว่าภารกิจพิเศษอาจจำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนในการกระตุ้นหนึ่งครั้ง แต่จะต้องใช้เวลาทำภารกิจแต่ละครั้งนานแค่ไหนไม่อาจรู้ได้
ภารกิจเย็บเส้นเอ็นครั้งที่แล้วใช้เวลาต่อเนื่องถึงหนึ่งเดือน จึงทำให้ทักษะการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางพัฒนาไปถึงระดังสมบูรณ์ได้
ไม่ว่าจะเป็นทักษะใดก็ตาม ระดับสมบูรณ์กับระดับปรมาจารย์ก็ห่างชั้นกันมาก!
…
ข่าวสิงอวี่เมื่อวานนี้กระจายไปทั่วทั้งแผนกแล้ว ทุกคนต่างก็ออกความคิดเห็นกันออกรส ถึงขั้นที่ติดสิบอันดับรายการข่าวฮิตบนเวยปั๋ว การเป็นซุปเปอร์สตาร์มีข่าวซุบซิบเยอะมาก แค่ผายลมก็เป็นที่สนใจถึงขั้นอาจมีคนเก็บใส่กระป๋องไปวางขายในเถาเป่า และไม่แน่ว่ามูลค่าอาจสูงลิ่ว!
เฉินชางรู้สึกว่าตนยังไม่เหมาะกับชีวิตรูปแบบนี้
เฮ้อ…
เขาหลงใหลอยู่กับการผ่าตัดจนดึงตนเองออกมาจากความหลงใหลนี้ไม่ได้
อยู่ที่โรงพยาบาล ภารกิจประจำวันคือผ่าตัด รับเคส เดินตรวจผู้ป่วยในวอร์ด
จืดชืดแต่ไม่ขาดรสชาติ
ทุกครั้งที่รักษาผู้ป่วยหาย เฉินชางก็ดีใจไปกับผู้ป่วยด้วย
ความสำเร็จจากการรักษาผู้ป่วยอาจเป็นความอิ่มเอมใจที่สุดในชีวิตแพทย์แล้ว
ปกติแล้วผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลก่อนสามวันแล้วจึงจะกลับได้ แต่แผนกฉุกเฉินก็ไม่มีพื้นว่างมากพอให้คุณอยู่พักฟื้น แน่นอนว่าประเด็นสำคัญที่สุดคือแผนกฉุกเฉินไม่มีห้องสำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพมือของผู้ป่วยหลังผ่าตัด
กว่าเส้นเอ็นจะหายเป็นปกติ ไม่ใช่แค่ว่าผ่าตัดเสร็จก็รอชัยชนะได้เลย
ยังจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟู ซึ่งเรียกว่าการฟื้นฟูสมรรถภาพ
แต่น่าเสียดายมากที่โรงพยาบาลอันดับสองไม่ได้มีแผนกศัลยกรรมมืออย่างเป็นทางการ มีแต่แผนกศัลยกรรมมือที่รวมอยู่ในแผนกฉุกเฉิน จึงไม่มีห้องฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัด
เมื่อเปิดดูตารางคุณลักษณะของตนเอง เฉินชางเห็นภารกิจเย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคส จนถึงวันนี้ระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือน ตนเย็บเส้นเอ็นไปแล้วสี่ร้อยห้าสิบเคส ขาดอีกห้าสิบเคสก็จะทำภารกิจสำเร็จแล้ว
อาศัยจังหวะนี้ทำให้สำเร็จเสียเลย เพราะรอถึงวันชาติอาจทำไม่ได้ตามเป้า
เดิมทีสังหารมอนสเตอร์ตัวลูกพวกนี้ก็อัปเลเวลกับดรอปไอเทมได้แล้ว
หลังจากที่เฉินชางผ่าตัดเสร็จหนึ่งเคสโดยมีฉินเยว่เป็นลูกมือแล้ว หลังจากที่เขาเห็นข้อความแจ้งเตือนจากระบบ เขาก็ค่อนข้างจนปัญญา
[ติ๊ง! สังหารมอนสเตอร์เส้นเอ็น lv.20 ได้รับ:
ประสบการณ์ +1, เงิน +10 หยวน, ประสบการณ์เย็บเส้นเอ็น +0]
การสังหารมอนสเตอร์เส้นเอ็นไม่เพิ่มคะแนนประสบการณ์ให้เฉินชางได้อีกแล้ว แม้แต่เงินก็ยังได้มาแค่สิบหยวน ช่างน่าสงสารนัก
เฉินชางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที เดิมทีคิดว่าเย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคสจะเพิ่มระดับให้ตนเองได้เจ็ดถึงแปดระดับ ตอนนี้ดูแล้วหนึ่งถึงสองระดับก็ยังไม่ถึง
ถ้าไม่ใช่เพราะตนต้องการทำภารกิจเย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคสให้สำเร็จ คงถอดใจไปตั้งนานแล้ว
ดูแล้วตนคงต้องมองหาเป้าหมายใหม่แล้ว
หลังจากที่กลับมาถึงห้องทำงานแล้ว เฉินชางพบว่าหัวหน้าอันกำลังนั่งคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
เฉินชางอดถามไม่ได้ว่า “หัวหน้าอันครับ ไม่มีผู้ป่วยหรือครับ”
อันเยี่ยนจวินขมวดคิ้ว “ผมก็คิดอยู่หมือนกัน แปลกจัง…ทำไมวันนี้ไม่มีผู้ป่วย”
ฉินเยว่หัวเราะ “ไม่มีผู้ป่วยไม่ดีหรือไงคะ ไม่มีผู้ป่วยหมายความว่าประชาชนสุขภาพแข็งแรงดีไงคะ ส่วนพวกเราก็ได้พักผ่อน”
ช่วงนี้ฉินเยว่เหนื่อยมากแล้วจริงๆ…
อันเยี่ยนจวินหัวเราะ เขามองเฉินชางพร้อมกล่าวว่า “เสี่ยวเฉิน วันนั้นหลังจากที่ผมเห็นฝีมือผ่าตัดของคุณ เป็นอะไรที่เปิดมุมมองให้ผมได้มาก ผมว่าคุณมีความเข้าใจเกี่ยวการเย็บเส้นเอ็นมากกว่าผม เดี๋ยวตอนผ่าตัด ผมเป็นผู้ช่วยให้คุณ?”
[ติ๊ง! พบภารกิจ ช่วยอันเยี่ยนจวินบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็นไปสู่ระดับที่เหนือกว่า
คำอธิบายภารกิจ: อันเยี่ยนจวินเย็บเส้นเอ็นมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้วยังติดอยู่ที่ระดับสูง ไม่สามารถผ่านระดับนี้ไปได้เสียที ช่วยอันเยี่ยนจวินบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็นระดับสูงเพื่อไปสู่ระดับที่เหนือกว่า
รางวัลหลังภารกิจเสร็จสิ้น: คะแนนทักษะ +3]
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบแล้ว เฉินชางก็เลือกรับภารกิจ
ทักษะการเย็บเส้นเอ็นของตนได้มาตั้งแต่ตอนที่ตนเพิ่งเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ อันเยี่ยนจวินเป็นคนสอนตนเอง เฉินชางยังคงรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของหัวหน้าจวินท่านนี้
ต่อให้ไม่มีภารกิจ เฉินชางก็ยังรู้จักสำนึกในบุญคุณ
เฉินชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีปัญหาครับอาจารย์อัน!”
ทว่ารอผู้ป่วยมานานมากแล้ว ผู้ป่วยสักคนก็ไม่มี เหตุการณ์เช่นนี้ทำเอาอันเยี่ยนจวินถึงกับมึนงง…
เฉินชางเองก็พูดอะไรไม่ออก สวรรค์ไม่อยากให้หัวหน้าอันบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็นระดับสูงมากขนาดนั้นเลยหรือไง
จำนวนผู้ป่วยเมื่อเดือนที่แล้วเรียกได้ว่ามืดฟ้ามัวดิน ถึงอย่างไรเสียทุกโรงพยาบาลในละแวกนี้ก็ต้องส่งตัวผู้ป่วยจำนวนหนึ่งมาที่นี่อยู่แล้ว ทำไมวันนี้เงียบผิดวิสัยแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่
…
…
ภายในแผนกศัลยกรรมมือของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลตงหยาง หลังจากที่เปลี่ยนเวรในรอบเช้าแล้ว ถานจงหลินให้หมอทุกคนอยู่ต่อ
เมื่อคืนนี้ถานจงหลินครุ่นคิดตลอดทั้งคืนจนนอนไม่หลับ ได้แต่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนอน
ในหัวยังคงวนเวียนคิดถึงการผ่าตัดเย็บเส้นเอ็นที่เฉินชางทำให้สิงอวี่ เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เฉินชางไม่ได้เย็บเส้นเอ็นได้ยอดเยี่ยมถึงขั้นนี้ ทำไมแค่ระยะเวลาสั้นๆ ถึงพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดขนาดนี้
ถานจงหลินยังคงคิดหาสาเหตุไม่หยุด จนกระทั่งหลี่เป่าซานโทรมาหาเขา เขาถึงเข้าใจในฉับพลัน!
อ๋อ! ตาเฒ่าหลี่!
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!
ทันใดนั้นถานจงหลินก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ หลี่เป่าซานให้ตนส่งผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นมาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสอง
มิน่าเล่า!
ที่แท้ที่เฉินชางเย็บเส้นเอ็นได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ก็เพราะอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจากผู้ป่วยที่ตนส่งไปนั่นเอง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถานจงหลินก็รู้สึกเสียดาย
แม้แต่ตอนที่เปลี่ยนเวร สายตาที่เขามองหมอแต่ละคนก็ยังค่อนข้างเข้มงวด
พวกคุณแต่ละคน ไม่สนใจเคสเย็บเส้นเอ็น ตอนนี้เห็นความห่างชั้นหรือยัง
หลังจากที่หมอแผนกศัลกรรมมือทั้งกลุ่มได้เห็นคลิปผ่าตัดเย็บเส้นเอ็นแล้ว ทุกคนต่างก็ตกตะลึงตาค้าง จนพูดอะไรไม่ออกสักคำ!
คิดไม่ถึงว่าจะมีทักษะการเย็บเส้นเอ็นขั้นสูงแบบนี้ด้วย
หรือควรจะกล่าวว่า คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะผสมผสานแต่ละวิธีได้อย่างล้ำเลิศขนาดนี้!
หลังจากที่ดูคลิปวิดีโอจบแล้ว ถานจงหลินมองทุกคน
“ทุกคนดูคลิปจบแล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ”
ทุกคนเงียบขรึมไม่พูดจา จะรู้สึกอะไรได้ คุณให้ศัลยแพทย์ด้านมืออย่างพวกเราชมเทคนิคการเย็บเส้นเอ็นขั้นเทพ นอกจากความรู้สึกอยากตะโกนว่า เยี่ยมๆๆๆ ยังจะมีความรู้สึกอื่นอีกหรือ
เมื่อถาจงหลินเห็นว่าทุกไม่ตอบ เขาก็กล่าวอย่างฮึกเหิมว่า “ผมจะบอกให้ทุกคนฟัง ว่าพวกเรารู้สึกยังไง…
…การเย็บเส้นเอ็นเป็นสิ่งที่หมอทุกคนในแผนกศัลยกรรมมือของเราจำเป็นเรียนรู้และฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ การเย็บเส้นเอ็นเป็นทักษะขั้นพื้นฐานที่สุดที่พวกที่เราต้องมี แล้วทุกวันนี้ล่ะ? กลายเป็นทักษะที่พวกเราทุกคนมองข้ามไป!…
…ตอนนี้เห็นความห่างชั้นแล้วหรือยัง หมอในคลิปเย็บเส้นเอ็นได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น แน่นอนว่าไม่ได้อาศัยพรสวรรค์ แต่เป็นความขยัน!…
…ผมรู้ว่าพวกคุณทุกคนมีอีโก้สูงมาก ไม่เห็นการเย็บเส้นเอ็นอยู่ในสายตา แต่ผมจะบอกพวกคุณว่า การเย็บเส้นเอ็นเป็นจิตวิญญาณของแผนกศัลยกรรมมือ!…
…วันนี้ผมจะบอกกับทุกคนเรื่องหนึ่งว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นทุกราย ไม่อนุญาตให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลอื่นแม้แต่รายเดียว ในทุกเดือนหมอทุกคนต้องเย็บเส้นเอ็นให้ได้ยี่สิบเคสขึ้นไป ช่วงปลายเดือนผมจะประเมินผลหนึ่งครั้ง ใครไม่ถึงเป้า หักโบนัส!”
ถานจงหลินมองบรรดาหมอเหล่านั้น แล้วก็มองภาพมือคู่นั้นในคลิปวิดีโอ
กล่าวพึมพำกับตนเองในใจ: พี่เป่าซาน อย่าหาว่าน้องไม่รักษาสัจจะเลยนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเฉินชางที่ระเบิดพลังศักยภาพออกมา!
…
…
เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลตงต้าสาขาหนึ่ง โรงพยาบาลตงต้าสาขาสอง โรงพยาบาลเทศบาล โรงพยาบาลเบธูนแห่งมณฑลตงหยางด้วยเช่นกัน…
หัวหน้าแผนกศัลยกรรมทุกโรงพยาบาลต่างก็ตาสว่างนอนไม่ตลอดทั้งคืน ออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดกับหมอในแผนกว่า ‘ห้ามปล่อยผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นหลุดมือไปแม้แต่รายเดียวเด็ดขาด! ถ้าผู้ป่วยวิ่งหนีก็ตามผู้ป่วยกลับมาให้ได้ เย็บเส้นเอ็นเสร็จแล้วค่อยปล่อยผู้ป่วยกลับ!’
เมื่ออันเยี่ยนจวินเห็นเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว ยังไม่มีผู้ป่วยเคสเย็บเส้นเอ็นเข้ามาสักราย อันเยี่ยนจวินก็รู้สึกว่าใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำด้วยความกระอักกระอ่วนใจ
เฉินชางเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนมากเช่นกัน นี่…นี่ดูจะบังเอิญเกินไปแล้ว