บทที่ 290 เห็นแก่หน้า
ช่วงนี้ถานจงหลินอารมณ์ดีเป็นพิเศษ!
สองสามวันมานี้เขามานะบากบั่นมุ่งมั่นในการฝึกฝนวิธีของเฉินด้วยความตั้งใจ แต่ละวันแหวกว่ายอยู่ในห้วงมหาสมุทรตีนหมู (สำหรับฝึกเย็บเส้นเอ็น) จนไม่อาจดึงตัวเองออกมาได้ ไม่มีใครรู้ว่าในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อะไรได้บ้าง
กระบี่กายสิทธิ์ได้มาจากการฝึกฝนอย่างหนัก เคล็ดวิชาเย็บเส้นเอ็นได้มาจากการฝึกฝนจากตีนหมู!
ผู้ที่ทนต่อความยากลำบากในการฝึกฝนได้ย่อมเป็นผู้คว้าชัย!เขารับประทานตีนหมูไปเยอะมาก
เขามีความเข้าใจในโครงสร้างของเส้นเอ็นอย่างลึกซึ้ง
สิ่งเดียวที่ถานจงหลินรู้สึกตำหนิอยู่ในใจคือ ต้นทุนในการฝึกฝนค่อนข้างสูง ราคาตีนหมูในท้องตลาดพุ่งสูงขึ้นไม่หยุด เงินในกระเป๋าจึงลดฮวบลงเรื่อยๆ
กว่าจะจัดการกับเรื่องภายในแผนกให้เรียบร้อยได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลังจากจัดการเรื่องภายในแผนกเสร็จ ถานจงหลินตัดสินใจไปหาหัวหน้าอันที่โรงพยาบาลอันดับสองเพื่อโชว์พัฒนาการหลังจากที่ได้เก็บตัวฝึกฝนวิธีเย็บของเฉินมาแล้ว!
วัดฝีมือกับเมียหลวงอย่างอันเยี่ยนจวินกันไปเลย ช่วงชิงตำแหน่งผู้ช่วยของเฉินชางมาให้ได้
เมื่อคิดถึงสีหน้าของตกตะลึงของอันเยี่ยนจวินที่ได้เห็นฝีมือเย็บเส้นเอ็นด้วยวิธีของเฉินของเขาแล้ว ถานจงหลินก็แอบลำพองอยู่ในใจ
ขณะที่คิดอยู่นั้น เขาก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาลอันดับสองพอดี
ดีที่ช่วงนี้เหล่าพยาบาลในโรงพยาบาลอันดับสองคุ้นชินกับการมาเยือนของถานจงหลินจากโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลแล้ว
ถานจงหลินไปดูที่ห้องทำงานก่อนหนึ่งรอบ เมื่อเห็นว่าเฉินชางรวมทั้งอันเยี่ยนจวินไม่อยู่ ถานจงหลินจึงทำเสียงจิ๊ปากไม่พอใจแล้วถอนหายใจออกมา อาศัยความใกล้ใกล้ชิด ทำให้ได้รับผลประโยชน์ก่อนคนอื่น
สองคนนี้จะต้องไปผ่าตัดแน่
เมื่อเห็นเป็นดังนี้ ถานจงหลินตัดสินใจเดินไปดูที่ห้องผ่าตัด
ทว่าตอนที่กำลังจะเดินพ้นประตูห้องทำงาน ก็เจออันเยี่ยนจวินที่เพิ่งกลับจากการร่วมวินิจฉัยโรคเดินเข้ามากะทันหัน
ถานจงหลินยิ้ม “หัวหน้าอัน สบายดีมั้ยครับ!”
อันเยี่ยนจวินยิ้มอย่างสนิทสนม “สบายดีครับ หัวหน้าถานดูสีหน้าสดใสดีนะครับ ดูท่าแล้วช่วงวันชาติจะได้พักผ่อนเต็มที่”
ถานจงหลินพยักหน้าหัวเราะ “ช่วงนี้ผิวพรรณของหัวหน้าอันดูผิวพรรณเปล่งปลั่งสุขภาพดีขึ้นนะครับ!”
อันเยี่ยนจวินชะงัก “เอ๊ะ? คุณก็ว่าไป หัวหน้าถาน ช่วงนี้ผิวพรรณของคุณก็ดูเปล่งปลั่งสุขภาพดีขึ้นเหมือนกันนะครับ”
ทั้งสองต่างสะอึกอยู่ในใจ!
ช่วงนี้กินขาหมูกินตีนหมูเยอะไปแล้ว?
ร่างกายก็เลยได้คอลลาเจนค่อนข้างเยอะ?
แต่นี่เป็นอาวุธลับ อีกเดี๋ยวจะต้องโชว์ฝีมือ ฉะนั้นจะเผยเคล็ดลับไม่ได้เด็ดขาด
หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันพอเป็นพิธีแล้ว จู่ๆ ถานจงหลินก็ถามขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน?”
อันเยี่ยนจวินส่ายหน้า ถามพยาบาลเสี่ยวหลินว่า “เสี่ยวหลิน เสี่ยวเฉินไปไหนครับ”
เสี่ยวหลิน “เมื่อกี้นี้แผนกศัลยกรรมมือมีผู้ป่วยหนึ่งรายค่ะ หมอเสี่ยวเฉินไปรับผู้ป่วยแล้ว ตอนนี้…น่าจะไปห้องผ่าตัดแล้วค่ะ”
ทั้งสองนัยน์ตาเปล่งประกาย โอกาสโชว์ฝีมือมาแล้ว!
ต่างสบตากันด้วยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ดูสนิทใจมาก
ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกของการเกมการแข่งขัน!
อันเยี่ยนจวินเพิ่งจะบุกทะลวงทักษะการเย็บเส้นเอ็นไป จึงดูเปล่งประกายไปด้วยสง่าราศี
ส่วนถานจงหลินก็เข้าใจการเย็บเส้นเอ็นในระดับลึกซึ้ง ถึงจะอายุมากแต่กลับรู้สึกมีกำลังวังชายิ่งกว่าเดิม
ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกันก็เดินมาถึงห้องผ่าตัดแล้ว ซึ่งก็คือห้องผ่าตัดแผนกศัลยกรรมที่อยู่ในแผนกฉุกเฉิน
ในตอนที่เดินเข้าไปในห้องผ่าตัด พบว่าเฉินชางกับฉินเยว่กำลังจดจ่ออยู่กับการผ่าตัด ทั้งสองเกรงว่าจะรบกวนสมาธิของเฉินชาง จึงเดินเข้าไปดูอย่างระมัดระวัง
หลังจากที่เดินไปถึงด้านหลังเฉินชางแล้ว ทันใดนั้นก็พบว่ามือของผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งกระดูกนิ้วหักอีกด้วย
จำเป็นต้องดามกระดูกนิ้วมือ
เฉินชางทำขั้นตอนนี้ไม่เป็นไม่ใช่หรือ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถานจงหลินก็มองอันเยี่ยนจวินด้วยความสงสัยทีหนึ่ง สิ่งที่เห็นคืออันเยี่ยนจวินส่ายหน้า ดูคล้ายไม่แน่ใจว่าเฉินชางจะทำได้หรือเปล่า
เมื่อครั้งที่แล้วเฉินชางยังบอกอยู่เลยว่าดามกระดูกไม่เป็น แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาทำเคสนี้กับฉินเยว่ได้
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทั้งสองต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ
ทั้งสองตั้งอกตั้งใจมองเฉินชางผ่าตัดเงียบๆ ไม่ส่งเสียงรบกวนใดๆ
เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดรักษากระดูกนิ้วมือที่หักสำคัญมาก เพราะโดยรอบกระดูกนิ้วมือรายล้อมไปด้วยเส้นประสาท หลอดเลือด เส้นเอ็น ถ้ารักษาไม่ดีพอก็ง่ายมากที่จะทำให้เส้นประสาทกับหลอดเลือดรวมถึงเส้นเอ็นเสียเหล่านี้เสียหายได้
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูลังการผ่าตัดอย่างมาก สิ่งสำคัญคือหากเกิดข้อผิดพลาดแล้วเส้นเอ็นได้รับความเสียหาย จะทำให้เกิดพังผืดยึดเกาะอย่างรุนแรงในภายหลัง ทำให้การฟื้นฟูประสิทธิภาพการใช้งานของนิ้วมือฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่
ด้วยเหตุนี้ เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดรักษากระดูกนิ้วมือที่หักจึงสำคัญมาก!
และสิ่งที่พวกเขาเห็นคือ เฉินชางทำสัญลักษณ์ตัวเอสที่ช่องหว่างระหว่างกระดูกข้อต่อที่อยู่เหนือกระดูกที่หัก ในเวลานี้จำเป็นต้องเปิดผิวหนังรอบๆ ออก จากนั้นจึงดึงปลอกหุ้มเอ็นนิ้วมือมาอยู่ที่ตำแหน่งเดียวกับกระดูกมือที่หัก
กระบวนการนี้ถ้าไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมาเป็นเวลายาวนาน ก็ยากที่จะทำได้อย่างช่ำชอง
แต่…ความประหลาดใจที่ถานจงหลินพบคือเฉินชางทำขั้นตอนเหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวสง่างาม
ในเวลานี้ ทั้งสองคนตกตะลึงจนตาค้างไปแล้ว
เฉินชางดามกระดูกนิ้วมือไม่เป็นไม่ใช่หรือ
ถานจงหลินรู้สึกสะอึกในใจ เขาหวนคิดถึงเหตุการณ์ผ่าตัดเมื่อครั้งนั้นอย่างละเอียด การที่ตอนนั้นเฉินชางให้ตนรับหน้าที่ดามกระดูก…จู่ๆ ถานจงหลินก็นึกถึงเรื่องน่ากลัวขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
เฉินชางคงจะไม่ได้ถ่อมเนื้อถ่อมตัวเพราะเห็นแก่หน้าเขาหรอกนะ
ตั้งใจให้ตนได้มีโอกาสแสดงฝีมือ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของถานจงหลินก็แดงทันใด!
เสี่ยวเฉินดูเป็นคนที่คิดอะไรลึกซึ้งรอบด้าน เปี่ยมด้วยคุณธรรมอันดี
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะคิดจริงๆ ว่าเสี่ยวเฉินทำไม่เป็น!
ถานจงหลินเอ๋ยถานจงหลิน คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะสู้เด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าไม่ได้!
ยิ่งคิดถานจงหลินก็ยิ่งรู้สึกอับอาย
และอยู่ดีๆ ในจังหวะนี้ อันเยี่ยนจวินก็หันมามองถานจงหลินทีหนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
สายตาที่มองมา ทำให้เหล่าถานหน้าแดงไปถึงหูในทันใด
ทว่าเมื่อเขาดูอย่างละเอียดแล้ว ก็ตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วการผ่าตัดรักษากระดูกนิ้วมือที่หักเป็นกระบวนที่ค่อนข้างยาก
เพราะถึงอย่างไรก็ตาม การเจาะเข้าไประหว่างกระดูกข้อต่อเป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น!
ความยากและสิ่งสำคัญในการรักษากระดูกนิ้วมือที่หักคือ…ต้องจัดกระดูกให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีความมั่นคงแข็งแรง ทั้งยังต้องรีบเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพให้เร็วที่สุด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของนิ้วมือให้เป็นปกติ
สำหรับภาวะกระดูกหักแบบแผลเปิด ควรรักษาด้วยวิธีเชื่อมกระดูกด้วยโลหะและนอต
การทำให้กระดูกกลับเข้าตำแหน่งเดิมเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ถานจงหลินตั้งใจเฝ้าสังเกตอย่างละเอียด
สิ่งที่เห็นคือหลังจากที่เฉินชางจัดกระดูกกลับเข้าตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็วและแม่นยำแล้ว ก็นำแท่งเหล็กดามสำหรับกระดูกมายึดตรึงกระดูกนิ้วมือที่หัก!
ในขั้นตอนนี้ดำเนินไปอย่างไหลลื่น!
นี่ดูเหมือนฝีมือของหมอหนุ่มที่ไหนกัน
ดูสง่า!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถานจงหลินก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
เกิดเป็นคนต้องรู้จักถ่อมตัว!
ถานจงหลินที่เมื่อครู่นี้คิดจะอาสาเข้ามาช่วยอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เขาได้เรียนรู้เรื่องหนึ่งจากเหตุการณ์นี้
นั่นก็คือต่อไปเวลาที่เฉินชางบอกว่าทำไม่เป็น จะต้องยิ้มถ่อมตัวไว้ก่อน
หลังจากที่จัดกระดูกเข้าตำแหน่งเดิมแล้ว เฉินชางก็เริ่งลงมือเย็บเส้นเอ็น หลอดเลือด ทุกขั้นทุกตอนเป็นระเบียบแบบแผน
ฉินเย่วเองก็นับว่าทำงานเข้าขากับเฉินชางเป็นอย่างดี
ไม่นานการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น!
เฉินชางบิดขี้เกียจทีหนึ่ง มองนัยน์ตากลมโตของฉินเยว่ที่เต็มไปด้วยคำว่า ยอดเยี่ยม
เฉินชางพึงพอใจเป็นที่สุด
และในจังหวะที่เฉินชางกำลังหันหลังไป ทันใดนั้นเขาก็พบว่าถานจงหลินกับอันเยี่ยนจวินยืนอยู่ด้านหลัง เขาถึงกับชะงักในทันใด “พวกคุณ…มาได้ยังไงครับเนี่ย”
ถานจงหลินหัวหัวกระอักกระอ่วน “มาเรียนวิธีเย็บเส้นเอ็นของเสี่ยวเฉินสักหน่อยน่ะครับ”
อันเยี่ยนจวินพยักหน้าอย่างเงียบๆ!
เขาจะตะลึงได้อย่างไรกัน เขาคิดอยู่แท้ๆ ว่าเฉินชางเชี่ยวชาญด้านการเย็บซ่อมแซม คิดไม่ถึงว่าจะดามกระดูกนิ้วมือเป็นด้วย
ดาเมจแรงเกินไปแล้ว…
ถานจงหลินหัวเราะเก้อเขินพร้อมกล่าวขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน ฝีมือดามกระดูกนิ้วมือของคุณนี่ไม่เลวเลยจริงๆ นะครับ!”
เฉินชางมองถานจงหลินด้วยความรู้สึกค่อนข้างเขินอาย ถึงอย่างไรเสียการใช้ทักษะขโมยท่าไม้ตายก็ยังชวนให้ค่อนข้างรู้สึกละอายอยู่ดี
“พอได้ครับ หัวหน้าถานสอนไว้ดี ได้เห็นหัวหน้าถานดามให้ผู้ป่วยเมื่อครั้งนั้น เลยเก็บเกี่ยวเทคนิคได้ไม่น้อย วันนี้ผมก็เลยผ่าตัดเคสนี้ได้ครับ”
เฉินชางกล่าวตามความจริง แต่สิ่งที่หัวหน้าทั้งสองได้ยินกลับเป็นอีกแบบหนึ่ง!
อันเยี่ยนจวินนึกถึงเมื่อครั้งนั้นที่ถานจงหลินดามกระดูกให้ผู้ป่วยขึ้นมาได้ในทันใด เขาพบว่าเฉินชางทำได้เหมือนถานจงหลินมากจริงๆ!
แม้แต่ถานจงหลินเองก็ยังอึ้ง…
นี่คุณกำลังล้อผมเล่นใช่มั้ย
ผมเรียนวิธีเย็บเส้นเอ็นแบบฉบับคุณ ผมใช้เวลาเรียนรู้และฝึกฝนอยู่ตั้งนาน วิ่งหน้าตั้งมาเรียนรู้เทคนิคเย็บเส้นเอ็นแบบฉบับคุณที่โรงพยาบาลอันดับสอง ซื้อตีนหมูมาเยอะแยะเพื่อฝึกเย็บเส้นเอ็น เพิ่งจะทำได้แค่ผิวเผิน…
เด็กหนุ่มอย่างคุณเห็นวิธีดามกระดูกนิ้วมือของผมแค่เคสเดียวก็เก็บเกี่ยวความรู้และเทคนิคดามกระดูกนิ้วมือของผมไปหมดแล้ว?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถานจงหลินรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ได้รู้จักเฉินชาง
แต่ก็รู้สึกจำใจยอมรับในศักยภาพในการเรียนรู้ของตน ถึงอย่างไรการเรียนรู้ก็ต้องอาศัยศักยภาพเฉพาะบุคคล คุณจะพูดอะไรได้
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกทุกข์ระทมขึ้นในหัวใจทันใด