คำพูดเดียวปลุกให้ทุกคนตื่นจากฝัน!
ทันใดนั้นจางต้าหลงพบว่าคนเลี้ยงวัวคนหนึ่งพูดไว้ถูกต้องจริงๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดคืออะไร?
บุคคลผู้มีความสามารถ!
เขามองไปที่ลูกน้องของตัวเองด้วยหัวใจอบอุ่น จางต้าหลงถึงกับรู้สึกดีใจ
จางต้าหลงยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปตัวเองในกระจกไปหลายรูป แล้วส่งไปในกลุ่มเพื่อน เขียนว่า “ผลงานของปรมาจารย์ มังกรของโมนาลิซ่า!” ด้านล่างยังแนบรูปในมุมที่แตกต่างกันไปอีกหลายรูป!จากนั้นเขาค่อยชมเชยอย่างพออกพอใจ
เฉินชางทอดถอนใจ “คุณต้องพันแผลก่อน ไม่งั้นจะติดเชื้อ”
จางต้าหลงส่ายหน้า “ปรมาจารย์ครับ ผมไม่กลัว ติดเชื้อจะนับเป็นอะไรได้! เป็นหวัดผมยังไม่กลัวเลย!”
เฉินชาง “…”
คุณนี่เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ!
แทบอยากจะจุดพลุฉลองให้คุณเลยทีเดียว
จัดระดับการติดเชื้อและการเป็นหวัดให้อยู่ระดับเดียวกันได้ สมองคุณนี่ชั้นเลิศจริงๆ ต้องซาบซึ้งยินดีกับคุณหรือเปล่า?
“ถ้าไม่พันแผลและติดเชื้อขึ้นมา มังกรตัวนี้ก็คงจบเห่แน่! ถึงตอนนั้นเกิดเน่าขึ้นมาจะยุ่งยาก ไม่แน่ว่าอาจต้องควักเนื้อออกก็ได้”
ร่างกายของจางต้าหลงสั่นไปหมด รีบนั่งลงอย่างเชื่อฟัง “มาครับ ปรมาจารย์ พันแผลเถอะ”
เฉินชาง “…”
หลังจากพันแผลเสร็จเฉินชางก็พูดขึ้นว่า “อีกหลายวันมาตัดไหมออกนะครับ จำไว้ สองวันนี้ห้ามถูกน้ำ ระวังจะติดเชื้อ!”
จางต้าหลงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เพราะในใจของเขาสร้างสมการขึ้นมาอย่างหนึ่งแล้วติดเชื้อ = มังกรเจ๊ง
มังกรเจ๊ง > เป็นหวัด
ดังนั้น
ติดเชื้อ > เป็นหวัด
หลังจากพันแผลเรียบร้อย เฉินชางก็ได้รับแจ้งเตือน
[ภารกิจจาก NPC จางต้าหลง: ภารกิจทำแผลเย็บแผลสำเร็จ ระดับความพึงพอใจ: พึงพอใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
รางวัลภารกิจ:
1. จางต้าหลงรู้สึกดี +10
2. เงิน +200 หยวน
3. ประสบการณ์การเย็บผิวหนัง +200 แต้ม
4. รางวัลพิเศษ 1 รายการ เมื่อเปิดจะได้รับถุงเสี่ยงโชค]
เฉินชางตกตะลึงไปแล้ว!
ได้ของมากขนาดนี้เลยหรือ?
เรียกได้ว่าหรูหราเลยทีเดียว!
ภารกิจง่ายๆ หนึ่งภารกิจ เมื่อทำเสร็จแล้วถึงกับได้รางวัลมากมายขนาดนี้ เมื่อเทียบรางวัลของภารกิจเย็บแผลในคราวนี้กับการผ่าตัดไส้ติ่งในตอนแรกยังได้รางวัลมากกว่าอีก!
ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำคัญก็คือถุงเสี่ยงโชค
ถุงเสี่ยงโชคเป็นของดี!
ครั้งที่แล้วเฉินชางเปิดได้ทักษะพิเศษจากถุงเสี่ยงโชค นั่นก็คือดวงตาแห่งความงาม
สำหรับศัลยกรรมความงามแล้ว นี่ก็เป็นเหมือนบัค
ถุงเสี่ยงโชคในคราวนี้จะมีอะไรอยู่?
เขาแทบอดทนไม่ไหว อยากจะเปิดดูเร็วๆ พวกลูกน้องกลุ่มนั้นพากันล้อมเข้ามา!
“ท่านปรมาจารย์! ปลามังกรของผมก็ถูกฟัน คุณดูหน่อยว่าจะเย็บยังไง?”
“ท่านปรมาจารย์! กวนอูที่หลังของผมก็ถูกฟันเสียหาย คุณดูหน่อยว่าจะแก้ไขได้หรือเปล่า…”
……
เมื่อเห็นชายฉกรรจ์หยาบกร้านกลุ่มหนึ่งเรียกตนว่าปรมาจารย์ เฉินชางก็อดถอนใจไม่ได้
เริ่มภารกิจเย็บแผลอีกครั้ง
เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงคืน ถึงตีหนึ่งครึ่งกว่าจะเย็บเสร็จ
ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ได้รับผลตอบแทนดีเยี่ยม!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าประสบการณ์การเย็บผิวหนังที่เพิ่มขึ้นถึงหกร้อยกว่าแต้ม
[ทักษะการเย็บผิวหนัง: ระดับสูง: 1200/4000]
ทุกคนมองไปที่รอยสักของตัวเองด้วยความพึงพอใจ พากันถ่ายรูปส่งไปในกลุ่ม
ก่อนจะไป แต่ละคนยังพากันเพิ่มเฉินชางเป็นเพื่อนในวีแชท
จางต้าหลงยิ้มอย่างเป็นมิตร “ปรมาจารย์ครับ ต่อไปในเขตต้าหม่า ถ้าคุณมีปัญหาอะไรแก้ไขไม่ได้โทรหาผมก็พอ ในถิ่นนี้ผมจางต้าหลงพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง”
ลูกน้องคนอื่นๆ พยักหน้า “ใช่แล้วครับปรมาจารย์ มีอะไรก็พูดตรงๆ ได้เลย!”
เฉินชางยิ้มบาง “รีบกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
จางต้าหลงพยักหน้า “โอเคเลย ถ้างั้น…ปรมาจารย์ครับ ต่อไปถ้าพวกเราถูกฟันเป็นแผลมาอีก พวกเราจะมาหาแค่คุณเท่านั้น ต่อไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
เฉินชาง “…”
จนกระทั่งทุกคนจากไป น้องพยาบาลหลายคนก็เดินเข้ามา
“หมอเฉิน คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”
เฉินชางส่ายหน้า ไม่เป็นไร!
พยาบาลน้อยคนนั้นพูดขึ้นว่า “จางต้าหลงคนนี้ฉันรู้จักนะคะ เป็นอันธพาลในเขตต้าหม่า…”
พยาบาลยังพูดไม่จบ จู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งย้อนกลับมา น้องพยาบาลเงยหน้าขึ้นมอง ตกใจจนวิ่งหนีไปทันที…
จางต้าหลงชะงัก ลูบศีรษะโล้นๆ ของตน มองไปยังเฉินชางอย่างไม่เข้าใจ “ปรมาจารย์ครับ ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เฉินชางส่ายหน้า “เปล่าหรอกครับ พยาบาลเธอกลัวมังกร พอเห็นหัวมังกรเลยรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ใช่แล้ว คุณกลับมาอีกทำไมหรือ?”
จางต้าหลงถอดแหวนทองวงหนึ่งออกมา “ปรมาจารย์ครับ วันนี้ลำบากคุณแล้ว ในกลุ่มเพื่อนของผมบอกว่า เขาได้ยินมาจากเถ้าแก่ร้านสักว่าจะแก้ลายสักได้แบบนี้ ถ้าไม่มีเงินหลายร้อยหยวนคงทำไม่ได้ หรือจะหาคนเก่งๆ มาทำก็ยังแพงกว่านี้อีก ผมไม่มีเงินสดมากขนาดนั้น แหวนนี้คุณเอาไปเถอะ เหล่าจางของพวกเราไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น”
เฉินชางมองไปยังแหวนที่เปล่งประกายสีทองอร่าม อย่างน้อยก็ต้องหนักหลายสิบกรัม นับเป็นเงินหลายพันหยวนเลย
เฉินชางรีบปฏิเสธ “นี่เป็นเรื่องที่ผมสมควรทำอยู่แล้วครับ ถ้าคุณให้ผมจริงๆ ผมคงถูกคนอื่นรายงานพฤติกรรม จะต้องตกงานแน่”
จางต้าหลงเห็นว่าเฉินชางปฏิเสธเด็ดขาดจึงทำได้เพียงช่างมัน “เอาเถอะ ถ้างั้นต่อไปนี้หากคุณมีเรื่องอะไรก็โทรหาผมนะครับ ถ้าต้องการเงินหรืออะไรก็บอกได้ตามตรง”
เฉินชางพยักหน้าตอบ
จางต้าหลงเห็นว่ารอบๆ ไม่มีคนอื่นจึงถามเสียงเบา “ปรมาจารย์ครับ คุณว่าผมต้องบำรุงเลือดหรือเปล่า ยังไงซะ…อสุจิหนึ่งหยดเท่ากับเหลือสิบหยด ผมเลือดออกมากขนาดนี้ จะไม่เป็นไรหรือครับ?”
เฉินชางมองไปยังจางต้าหลงที่ร่างกายหยาบหนา แขนข้างเดียวยังหนากว่าเอวเขาซะอีก ทอดถอนใจก่อนจะกล่าวออกมา “ไม่ต้องครับ”
จางต้าหลงรับคำแล้วจึงเดินออกไป แต่เดินไปแค่ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกสงบใจไม่ได้ เดินด้วยท่าทางโซซัดโซเซ เดินไปหนึ่งก้าวหันกลับมาสามครั้ง “ไม่ต้องจริงหรือ? ผมว่าผมเดินไม่ไหว ไตพร่องแน่ๆ!”
เฉินชาง “…”
คุณนี่ช่างมีความรู้ซะจริง…
…………
…………
เมื่อคนกลุ่มนี้จากไปแล้วก็ทำให้แผนกฉุกเฉินเข้าสู่ความสงบชั่วคราว แต่ว่าความสงบนี้อยู่ได้ไม่นานนัก
เฉินชางนั่งกรอกประวัติผู้ป่วยอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ถึงอย่างไรข้อมูลผู้ป่วยนอกอย่างชายฉกรรจ์สิบกว่าคนนี้ก็ยังต้องบันทึก
เมื่อเห็นบันทึกหลายพันคำ เฉินชางก็ต้องถอนใจ เดาว่าแม้แต่นักเขียน วันหนึ่งๆ ยังพิมพ์ไม่มากเท่าตนเลย
คิดถึงตรงนี้เขาก็ต้องถอนใจออกมา
“คุณก็เป็นคนที่ใช้คอมฯ ได้คล่องคนหนึ่ง ทำไมกรอกประวัติผู้ป่วยเองไม่ได้ล่ะ?”
ตอนนี้เอง ฉางลี่น่า พยาบาลน้อยที่กระซิบกระซาบเมื่อครู่นี้ก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าแปลกๆ “หมอเฉินคะ แย่แล้วคุณรีบออกไปดูเถอะ!”
เฉินชางรู้สึกแปลกใจ รีบลุกขึ้นเดินไปยังโถงแผนกฉุกเฉิน
พบว่าบริเวณคัดกรองผู้ป่วยของแผนกฉุกเฉินมีชายวัยรุ่นอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีคนหนึ่ง ดูจากหนวดที่ขึ้นจางๆ แล้วคงจะเป็นนักเรียนมัธยมปลาย
ชายหนุ่มดูแล้วมีลักษณะซื่อสัตย์จริงจัง ตัดผมทรงไถข้าง สีหน้าขาวซีด บนใบหน้าสวมแว่นกรอบดำ บนตัวสวมชุดนอนสีน้ำตาล
แต่ว่า!
เฉินชางพบว่าบนชุดนอนของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเลือด
เฉินชางมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที นี่…เลือดออกหรือ?
ในจุดใต้เอวลงไปหกนิ้ว บริเวณกึ่งกลางถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดง
เฉินชางเบิกตากว้าง รีบถามด้วยความเคร่งเครียด “เป็นอะไรครับ? เกิดอะไรขึ้น?”
เด็กหนุ่มไม่ได้ตกใจอะไร ดูสงบเป็นอย่างมาก!
“หมอครับ ผม…บาดเจ็บภายนอก เลือดออก”
เฉินชางชะงักไป เลือดออกแล้วคุณยังสงบได้ขนาดนี้อีกหรือ?
เฉินชางพูดต่อ “มา ตามผมไปที่ห้องปฏิบัติการ ตรวจดูสักหน่อย”
เฉินชางพาชายหนุ่มคนนั้นเดินไปยังประตูห้องปฏิบัติการ แม่ของชายหนุ่มเดินตามมาด้วย แต่ตอนนั้นเอง แม่ของเขาคิดจะตามเข้าไปด้วยความร้อนใจ
เด็กหนุ่มกลับยิ้มเรียบๆ “แม่ครับ ผมไม่เป็นไร แม่อย่าเข้ามาเลย”
แม่ของเขาได้ฟังก็สีหน้าเปลี่ยนไป “นี่มันเวลาไหนกันแล้ว ยังมาพูดแบบนี้กับแม่อีก!”
ทันใดนั้นเด็กหนุ่มพลันหยุดอยู่ตรงประตู ไม่ยอมขยับ
“ถ้าแม่เข้าไป ผมไม่ทำแล้ว” เด็กหนุ่มดูแน่วแน่มาก ทั้งยังใจเย็นมากด้วย เฉินชางอดทอดถอนใจออกมาไม่ได้