บทที่ 293 ยังคงหวาดกลัว!
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นความสามารถที่แพทย์ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินพึงมี รวมแพทย์ทุกสายก็จำเป็นต้องมีความสามารถในด้านนี้เช่นกัน
เฉินชางที่ผ่านประสบการณ์การทำงานในแผนกฉุกเฉินมาเป็นเวลาสามปี เขาคุ้นเคยกับตำแหน่งบนร่างกายที่ต้องติดลีด V1-V6 ดียิ่งกว่าปุ่มลัด QWER สี่ปุ่มบนแป้นพิมพ์ที่ใช้เวลาเล่นเกมส์ลีกออฟเลเจ็นดส์ (League of Legends) สมัยเรียนปริญญาตรีเสียอีก
โดยพื้นฐานแล้ว แค่คุณจัดท่านอนของผู้ป่วยให้ดี มองแวบแรกคุณก็รู้แล้วว่าจะต้องติดลีดที่ตำแหน่งไหนบ้าง ไม่ว่าผู้ป่วยจะสวมเสื้อหรือไม่ก็ตาม
เพราะอาการป่วยที่แผนกฉุกเฉินเจอบ่อยที่สุดก็คือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย ที่แผนกฉุกเฉินมีผู้ป่วยฉุกเฉินประเภทนี้เข้ามาอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นหลังจากที่เฉินชางได้เข้าไปทำงานที่โรงพยาบาลอันดับสองแล้ว ภายในระยะเวลาครึ่งปี เขาก็ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับอ่านผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นแล้ว
ตอนนี้เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตั้งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เห็นได้ชัดว่าผู้ป่วยเพิ่งจะตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวไปอีกหนึ่งครั้งแล้ว
สายตาของทั้งสามคนในขณะนี้ต่างจับจ้องไปที่เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่กำลังแปลผลและพิมพ์ผลตรวจออกมาช้าๆ
ในหัวของเมิ่งซียังคงครุ่นคิดถึงผลตรวจครั้งก่อนอยู่ เธอรู้สึกคุ้นตาว่าเคยเห็นหน้าตาผลตรวจแบบนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ก็ยังคิดไม่ออก รู้สึกเพียงเลือนรางว่าเคยเห็นมาก่อน
ช่วง ST ไม่ยกสูงขึ้น แต่ไม่เสมอไปว่าภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจะต้องมีช่วง ST ยกสูงขึ้น!
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นการคัดกรองรูปแบบหนึ่ง หลังจากที่คัดกรองจึงคัดเลือก และหลังจากที่คัดเลือกแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยเพื่อยืนยันผลและดำเนินการรักษาในลำดับต่อไป
ความจริงแล้ว บางครั้งการวิเคราะห์โรคของผู้ป่วยก็เหมือนกันกับเวลาที่คุณแก้โจทย์ปัญหา จำเป็นต้องใช้ตรรกะความคิดในการวิเคราะห์และแก้โจทย์
สมมติว่ามีผู้ป่วยรายหนึ่งมีอาการเจ็บหน้าอก สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของคุณก่อนเป็นอันดับแรกคือทุกสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้
จากนั้นอาศัยประสบการณ์ของคุณ อาศัยการตรวจร่างกายผู้ป่วย อาศัยการตรวจสอบทางชีวเคมี และการเอกซเรย์เป็นต้น ใช้แต่ละวิธีมาเป็นเครื่องมือในการพิสูจน์ยืนยันโรคที่น่าจะใช่หรือตัดโรคที่ไม่ใช่ออกไป
สิ่งนี้เป็นกระบวนการในการตรวจและรักษาทางการแพทย์
ต้องกล่าวว่า ในเมื่อกระบวนการในการตรวจและรักษาทางการแพทย์ของแพทย์แผนปัจจุบันเป็นเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นกระบวนการในการตรวจและรักษาทางการแพทย์ของแพทย์แผนจีนจะเป็นแบบไหน
ทุกคนอาจมองว่าแพทย์แผนจีนเป็นศาสตร์การรักษาที่อยู่พื้นฐานของวิถีแห่งเทพและความลี้ลับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แพทย์แผนจีนต้องใช้ความสามารถในการคิดเชิงตรรกะ ไม่ใช่การรักษาส่งเดช
คนโบราณไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายมนุษย์นัก ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทดสอบสอบทางสรีรวิทยากับทางชีวเคมี ยามที่มีผู้ป่วยมารักษาก็ผ่าตัดให้ไม่ได้! เพราะถึงอย่างไรเสีย การผ่าตัดในยุคสมัยนั้นก็มีโอกาสสูงมากที่ผู้ป่วยจะติดเชื้อจนถึงแก่ชีวิต…
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นปกติมาก
การแพทย์แผนจีนจึงอาศัยดูอาการเจ็บป่วยภายนอกเพื่อหาความเกี่ยวโยงกับอาการเจ็บป่วยภายในที่แสดงมาถึงภายนอกของร่างกายมนุษย์
กระบวนการในการตรวจและการรักษาทางการแพทย์ของแพทย์แผนจีนประกอบด้วยสี่ขั้นตอน คือ ดู ฟัง ถาม จับ การดูอาการจากภายนอก การฟังเสียงและการดมกลิ่น การสอบถามอาการเบื้องต้น การจับชีพจร
มองด้วยตาก็วินิจฉัยโรคได้ เรียกว่าความเชี่ยวชาญขั้นเทพ มีหมอหลายท่านที่มากด้วยประสบการณ์ เห็นมากรู้มาก เพียบแวบแรกที่เห็นสีหน้า ผิวพรรณ ท่าทาง น้ำเสียง สีลิ้นของผู้ป่วยก็วินิจฉัยโรคได้ในทันที
คนสมัยโบราณสั่งสมประสบการณ์ในการตรวจโรคต่างๆ จากการดู ฟัง ถาม จับ และหสั่งสมข้อมูลเคสตัวอย่างมายาวนานหลายร้อยปีจนตกผลึกกลายมาเป็นศาสตร์การแพททย์แผนจีน
กระบวนการในการวินิจฉัยและการรักษาที่อาศัยการดู ฟัง ถาม จับ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องมือในการพิสูจน์ยืนยันอาการของโรคที่สอดคล้องกับอาการที่ผู้ป่วยเป็น เพียงเท่าก็รู้ได้ว่าจะต้องดำเนินการรักษาอย่างไรต่อไป!
บางครั้งก็อดชื่นชมสติปัญญาอันยิ่งใหญ่ของคนโบราณไม่ได้
…
ผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพิ่งจะพิมพ์ออกมา เฉินชางกำลังจะนำไปให้เมิ่งซีดู แต่หลังจากที่เขาถืออยู่ในมือแล้ว จู่ๆ เขาก็ชะงักเล็กน้อย!
เพราะผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจนี้…ค่อนข้างต่างจากเดิมเล็กน้อย!
อันดับแรกเลยคือ ในตำแหน่ง V1 – V6 ที่ปรากฏบนกราฟตรงตำแหน่ง J point กดต่ำลง 1-3 mm ช่วง ST ดิ่งลง ช่วง T wave สมมาตรและยกสูง!
รองลงมาคือ มีจังหวะคลื่นที่สม่ำเสมอไม่ผิดปกติเลยสักนิด
สุดท้ายคือในตำแหน่ง AVR กับช่วง ST ยกสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย
หลังจากเฉินชางวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนอีกหนึ่งรอบแล้ว ทันใดนั้นเขาก็คิดเชื่อมโยงถึงความเป็นไปได้หนึ่งอย่าง
หรือว่า…เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเฉินชางก็พลันเปลี่ยน!
เขาขบคิดอย่างละเอียดต่ออีก มีความเป็นไปได้!
หลังจากผ่านไปสองสามวินาที เฉินชางวิเคราะห์อาการของผู้ป่วยรวมถึงช่วงอายุอีกรอบ แล้วเขาก็นึกโรคที่น่าจะเป็นไปขึ้นได้!
เขาหันไปหาเมิ่งซี แล้วรีบยื่นผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้เมิ่งซี
เมิ่งซีรับผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมาดู เธอขมวดคิ้วอย่างควบคุมไม่ได้ ต่างจากผลตรวจอันก่อนหน้านี้ไม่มาก
หรือว่าจะเป็น NSTE-ACS (ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่ไม่พบการการยกตัวของช่วง ST) จริงๆ?
เดิมทีเฉินชางคิดว่าในฐานะที่เมิ่งซีเป็นถึงระดับด็อกเตอร์จบนอก ก็น่าจะรู้และเข้าใจในทุกอย่าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ดูเหมือนว่ายังลังเลไม่แน่ใจ เฉินชางก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันใด
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็กล่าวขึ้นว่า “อาจารย์เมิ่งครับ ผมว่าผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยสอดคล้องกันมากกับลักษณะของ De-Winter (ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่เกิดจาการอุดตันของลิ่มเลือดแบบไม่พบการการยกตัวของช่วง ST) จำเป็นต้องรีบตรวจในขั้นตอนต่อไปให้เร็วที่สุด จะได้รักษาได้ทัน!”
ไม่เวลาให้ลังเลใจใดๆ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมามัวลังเลใจ เพราะกราฟคลื่นไฟฟ้าหัวใจรูปแบบนี้จัดอยู่ในประเภทของผู้ป่วยที่เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเพราะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด! หรือที่เรียกว่า ‘De-Winter’
หลังจากที่เฉินชางกล่าวประโยคนี้ออกไป เมิ่งซีกับเก่อฮว๋ายต่างก็ถึงกับมึนงง!
หลังจากที่เก่อฮว๋ายได้ฟังแล้ว เขาก็ชะงักเล็กน้อย กราฟแบบนี้ค่อนข้างคุ้นตา!
เพราะกราฟคลื่นไฟฟ้าหัวใจรูปแบบนี้มีการสรุปรวบรวมข้อมูลภายในประเทศน้อยมาก ผู้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับหัวข้อนี้เป็นอายุรแพทย์โรคหัวใจแห่งรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้วิจัยได้ศึกษาวิจัยผู้ป่วยภาวะหลอดเหลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันจำนวนหนึ่งพันห้าร้อยสามสิบสองรายย้อนหลัง และพบว่ามีผู้ป่วยสามสิบรายที่ช่วง ST ไม่ยกตัวขึ้น หลังจากได้ศึกษาวิจัยแล้ว พบว่ามีลักษะของกราฟคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่มีลักษณะพิเศษอยู่ไม่กี่รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ ‘De-Winter’ ต่อมาบทความวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ลงบนวารสาร ‘การแพทย์นิวอิงแลนด์’
และกราฟที่เห็นนี้ก็คือรูปแบบที่เรียกว่า De-Winter!
แต่ผู้ป่วยประเภทนี้มีน้อยมาก วิทยานิพนธ์เกี่ยวกับหัวข้อนี้ภายในประเทศไม่ได้มีให้อ่านมากนัก หมอหลายท่านจึงไม่ค่อยรู้จัก
แต่เมื่อเฉินชางเตือนความจำเมิ่งซีเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็พลันเปลี่ยน De-Winter?
ใช่!
เหมือนมาก!
เป็นไปได้สูง!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เมิ่งซีหยิบใบผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขึ้นมาดูเพื่อเปรียบเทียบต่ออีกครั้ง
เมิ่งซียิ่งดูก็ยิ่งตื่นตระหนก ยิ่งดูก็ยิ่งตื่นกลัว
เธอหันไปมองเก่อฮว๋าย แล้วรีบกล่าวขึ้นว่า “หมอเก่อ รีบออกคำสั่งแพทย์ ตรวจทุกอย่างให้ละเอียดอีกครั้ง เตรียมเอกสารเซ็นยินยอม…เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้…”
ถ้าผลตรวจยืนยันชัดเจนแล้ว ก็ต้องรีบรักษาด้วยการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด และเปิดหลอดเลือดที่อุดตันให้เร็วที่สุด เพื่อรักษากล้ามเนื้อหัวใจและชีวิตผู้ป่วยเอาไว้ให้ได้!
ปัจจุบันนี้สิ่งสำคัญที่เป็นตัวบ่งชี้ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือดคือช่วง ST ที่ยกสูงขึ้น แขนงประสาทข้างซ้ายของตัวนำคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ถึงแม้ De-Winter จะเป็นลักษณะของคลื่นหัวใจที่ผิดปกติ แต่กลับตรวจไม่พบลักษณะที่บ่งชี้ว่ามีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือด
ตามทฤษฎีแล้ว การรักษาด้วยการให้ยาสลายลิ่มเลือดเป็นวิธีที่อาจจะได้ผล แต่ในสภาวะนี้ ‘เกินขอบเขตของข้อบ่งชี้’ ของตัวยาไปแล้ว คู่มือโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ชนิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน (STEMI) ของทั้งในและต่างประเทศก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงผู้ป่วยประเภทนี้
หมายความว่าอย่างไร หมายความว่ายามที่รับรักษาโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม จำเป็นต้องรักษาตามหลักการรักษาที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันแล้ว
แต่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือดที่ผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นแบบ De-Winter การรักษาด้วยการให้ยาสลายลิ่มเลือดไม่ได้อยู่ในหลักการรักษาที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันแล้ว ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาด ความรับผิดชอบจะตกเป็นของแพทย์ผู้รักษา
ทว่าการรักษาก็เป็นหนึ่งในการพัฒนาการแพทย์ และในการการรักษาผู้ป่วยแต่ละเคสมีใครรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดปัญหา?
ในฐานะที่เป็นหมอ จำเป็นต้องมีความระวังและละเอียดรอบคอบ!
ทันทีที่เก่อฮว๋ายได้ยินคำสั่งของเมิ่งซี เขาก็รีบปฏิบัติตามคำสั่งทุกลำดับขั้นตอนทันที!
เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาทีดั่งสายน้ำไหล เฉินชาง เมิ่งซี และเก่อฮว๋ายต่างก็ยุ่งกับการตรวจทุกอย่างโดยละเอียด!
ตอนที่ได้ข้อมูลภาพหลอดเลือดที่ฉีดสารทึบรังสีเพื่อตรวจการตีบแคบของหลอดเลือดหัวใจมาแล้ว สีหน้าของทั้งสามคนก็เคร่งขรึมในทันใด!
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ!
เป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือดที่ผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นแบบ De-Winter!
ในเมื่อได้ผลตรวจที่ยืนยันแน่ชัดแล้ว ลำดับต่อไปจำเป็นต้องรีบรักษาด้วยการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด เปิดหลอดเลือดที่อุดตัน
เมิ่งซีกับทีมแพทย์ลงมือช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยความฮึกเหิมกระตือรือร้น เวลาทุกนาทีทุกวินาทีใช้อย่างคุ้มค่าไม่มีการล่าช้าใดๆ จนกระทั่งเวลาห้าทุ่ม การผ่าตัดเสร็จสิ้นในที่สุด
ตลอดการการผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น!
เมื่อชีวิตหนึ่งชีวิตได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากความตายด้วยวิธีที่สมบูรณ์เช่นนี้ ทั้งสามต่างก็อดทอดถอนใจด้วยความรู้สึกโล่งใจเป็นพิเศษไม่ได้!ทันใดนั้น เฉินชางก็ได้เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นที่ข้างหู
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี +15]