การผ่าตัดเริ่มต้น ทุกคนพากันจับจ้อง!
ในห้องสำนักงานด้านนอก ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ อยู่ๆ ก็ได้ยินหลิวซือฉีพูดว่า “เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว!”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นจึงรีบเพ่งสมาธิมองอย่างจริงจัง เหมือนเด็กอนุบาลที่กำลังนั่งฟังอาจารย์บรรยาย เหล่าเด็กตัวเล็กๆ ที่อยู่ด้านล่างกางหูฟังอย่างตั้งใจ
ความจริงห้องผ่าตัดเบอร์หนึ่งและเบอร์สองเริ่มผ่าตัดไปสองนาทีแล้ว แต่ทุกคนไม่มีความคิดที่จะดูอย่างจริงจัง ต่างคุยไปหัวเราะไป
จริงๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่จริงจัง แต่ถ้าเป็นการผ่าตัดธรรมดา คนเฒ่าคนแก่กลุ่มนี้มองเพียงไม่กี่ครั้งก็พอแล้ว ถึงอย่างไรการผ่าตัดเล็กๆ แบบนี้ก็ไม่มีอะไรน่าดูจริงๆ!
พวกเขาเข้าใจการผ่าตัดระดับนี้จนขึ้นสมอง ย่อมไม่มีอะไรนอกเหนือความคาดหมาย
มีแค่เฉินชางที่อยู่ห้องผ่าตัดเบอร์สามเท่านั้นที่ทำให้คนทั้งห้าคาดการณ์ไม่ได้ เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น!
หลิวซือฉีมองไปยังสายตาของแต่ละคนที่กำลังจับจ้องไปยังเฉินชางราวกับพญาเสือ อดคิดไม่ได้ว่า ตอนนี้พวกคุณรู้แค่ว่าเฉินชางผ่าตัดไส้ติ่งได้ดี ไม่รู้ว่าเขาเย็บแผลได้ดีกว่า!
เมื่อคิดถึงตรงนี้หลิวซือฉีก็ตัดสินใจแล้วว่า หลังจบการแข่งขันจะต้องไปคุยกับเฉินชางให้ดี ต้องเชิญเขาไปทำงานที่โรงพยาบาลประชาชนของตนให้ได้
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นต้นอ่อนที่หาได้ยากจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม จู่ๆ หลิวซือฉีก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา…เดิมทีวันนี้เขามาเพื่อให้คะแนนเฉินชาง ดูท่าทางผู้อำนวยการฉินของโรงพยาบาลอันดับสองก็ไม่ใช่คนธรรมดา คงพบความร้ายกาจของเฉินชางแล้วเช่นกัน
ยุ่งยากซะแล้วสิ…
ให้ศูนย์คะแนนดีหรือเปล่า?
มีปัญหาจริงๆ!
เขาปรายตามองไปยังส่วนท้ายของใบคะแนน พบว่าจำเป็นต้องลงชื่อ ทันใดนั้นจึงคิดไปว่า การให้คะแนนโดยต้องลงชื่อแบบนี้ช่างไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ!
การผ่าตัดเริ่มขึ้นแล้ว คราวนี้เฉินชางตัดสินใจว่าทดลองใช้ “การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบด้วยแผลเล็กฉบับปรับปรุง!”
เริ่มด้วยการผ่าผิวหนัง สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันคุ้นเคย
ผ่าเปิด!
แผลขนาดหนึ่งจุดห้าเซนติเมตรปรากฏออกมาอย่างแม่นยำ!
เริ่มแยกชั้นกล้ามเนื้อ เยื่อบุช่องท้อง…
จู่ๆ ในสมองของเฉินชางก็ปรากฏเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง
หากผมสามารถลอกหนังคุณออกทีละชั้น ทีละชั้น แยกเส้นเอ็นของคุณออกไป
ผมก็จะค้นพบ ค้นพบความวิเศษ
ไส้ติ่งของคุณไม่สวยงามแม้แต่น้อย!
[ไส้ติ่งเป็นหนอง ระดับ 18]
ภายในห้องสำนักงาน เฉียนเลี่ยงมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาโดยพลัน “ไอ้หนูนี่จะประมาทเกินไปแล้ว!”
ทุกคนตกตะลึง!
“หมายความว่ายังไงครับ?”
เฉียนเลี่ยงพูดอย่างจริงจังว่า “คราวนี้เขาคิดจะใช้วิธีการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบด้วยแผลเล็ก แต่ผู้ป่วยคนนี้มีลักษณะไส้ติ่งที่เป็นหนอง แผลเล็กจะไปจำกัดการมองเห็น ทำให้เกิดปัญหาได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น…”
“เขาทำแบบนี้ให้ความรู้สึกเหมือนโอ้อวดเล็กน้อย!”
เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา ทุกคนก็พากันขมวดคิ้ว
นี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไร
ข้อห้ามสูงสุดของผู้ที่ทำงานด้านการแพทย์ก็คือการโอ้อวด
การศึกษาทางการแพทย์ค่อนข้างเข้มงวด การช่วยชีวิตผู้ป่วยคือสิ่งสำคัญที่สุด ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง!
แต่ตอนนี้พวกเขาคิดว่าเฉินชางกำลัง “โอ้อวด” อย่างชัดเจน
นี่คือการผ่าตัด!
ไม่ใช่การแสดง!
ไม่ว่าใครก็ไม่ควรใช้การแสดงมาเป็นเป้าหมายในการผ่าตัด!
ตอนนี้คนทั้งหลายทีเพิ่งจะชื่นชมเฉินชางไปเมื่อครู่อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ เกิดความรู้สึกรังเกียจขึ้นหลายส่วน
สำหรับพวกเขา การมองข้ามและไม่ให้ความเคารพต่อชีวิตถือเป็นความอัปยศและความจุดด่างพร้อยที่ใหญ่ที่สุดของแพทย์
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉียนเลี่ยงก็หยิบปากกาขึ้นมา คิดจะเขียนคะแนนลงไป
แต่จะให้คะแนนต่ำก็ไม่ได้ ให้คะแนนสูงก็ไม่ได้เหมือนกัน ควรมอบบทเรียนที่จะทำให้เฉินชางจดจำไปอย่างลึกซึ้งจริงๆ
เขาเริ่มลังเล!
ไม่ใช่แค่เขาที่ลังเล ทุกคนรอบๆ ก็ลังเล
กระทั่งหลิวซือฉีก็ลังเล!
กี่คะแนนดี?
หลายคนขมวดคิ้ว นี่เป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากจริงๆ
คนหนุ่มที่มีความสามารถขนาดนี้คงยากจะหลีกเลี่ยงความหยิ่งยโส แต่ฝีมืออย่างเขาก็ดีพอให้ยโสจริงๆ ดีพอให้โอ้อวด แต่ในการแพทย์โดยเฉพาะศัลยแพทย์ในแผนกฉุกเฉินที่ความเป็นความตายของผู้ป่วยขึ้นอยู่กับมีดผ่าตัด จะอย่างไรความปลอดภัยก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
อะไรคือการโอ้อวด?
ความหมายของการโอ้อวด ไม่ใช่ว่าไม่ให้คุณแสดงความสามารถออกมา แต่หมายถึงการเลือกกระทำการบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลออกมาเพราะต้องการแสดงเป้าหมายบางอย่างโดยที่คุณไม่มั่นใจ
นี่จึงเรียกว่าการโอ้อวด
ในความเห็นของเฉียนเลี่ยง การกระทำของเฉินชางก็คือการโอ้อวด!
เพราะเดิมทีการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบด้วยแผลเล็กก็มีข้อจำกัดมากอยู่แล้ว ยิ่งเป็นไส้ติ่งอักเสบที่มีภาวะเป็นหนองยิ่งมีความยากชัดเจน ในคู่มือการแพทย์สมัยนี้ การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กที่ใหม่ที่สุดยังไม่รวมการผ่าตัดไส้ติ่งที่มีภาวะเป็นหนองเข้าไปด้วย
เพราะการผ่าตัดด้วยแผลเล็กไม่ครอบคลุมไปถึงปัญหาเหล่านี้!
แต่เฉินชางกลับใช้การผ่าตัดชนิดนี้มารับมือกับอาการนี้
จะประมาทเกินไปแล้ว!
ไม่คิดให้รอบด้านจริงๆ!
ตอนนี้ในใจของเฉียนเลี่ยงรู้สึกลังเลขึ้นมาบ้างแล้ว ตัดสินใจให้โอกาสคนหนุ่มผู้ยอดเยี่ยมคนนี้สักหน่อย จึงพูดออกมาว่า “ถ้าหาก…ตอนนี้เขาขยายแผลได้ ผมคิดว่าจะให้อภัยเขาสักหน่อย ถึงอย่างไร…เขาก็ยังหนุ่ม!”
คนอื่นๆ พากันพยักหน้า
แต่ว่า!
เฉินชางไม่ได้ทำเช่นนั้น
กลับกัน เขาเริ่มปรับเตียงผ่าตัดให้เอียงในระดับสามสิบองศา จากนั้นจึงเริ่มทำการผ่าตัดแต่ละขั้นตอนไปตามทัศนะวิสัยอันจำกัด
จากนั้นจึงปรับเตียงในระดับสิบห้าองศาอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ก็จับคีมในมือให้มั่นคง ใช้มือขวายกช่องท้องขึ้นมาโดยใช้นิ้วนางมือขวายกผิวหนัง ทันใดนั้นทัศนวิสัยในการผ่าตัดก็ถูกขยายใหญ่ขึ้น
เฉินชางดำเนินการผ่าตัดไปอย่างงดงาม!
ตอนนี้ภายในห้องสำนักงานไร้ซึ่งสรรพเสียง!
เฉียนเลี่ยงยืดตัวลุกขึ้นยืนทันที เบิกตากว้างยกมือขวาขึ้นมาชี้ไปยังการผ่าตัดโดยไร้ซึ่งคำพูดใด!
เนิ่นนานผ่านไปจึงค่อยพูดออกมาประโยคหนึ่ง “นี่…นี่ไม่ใช่การโอ้อวด! ไอ้หนูนี่…ไอ้หนูนี่เป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ เขาปรับปรุงการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กให้ดีขึ้นได้! อะ…โอ้โห! นี่มันเป็นไปได้ไง?”
ไม่ใช่แค่เฉียนเลี่ยง! คนอื่นๆ ก็อุทานออกมา โอ้โห ยอดเยี่ยมจริงๆ!แม้จะอุทานออกมาไม่กี่คำแต่ก็แสดงความตื่นตะลึงของคนในเหตุการณ์ออกมาได้อย่างลึกล้ำ สะท้อนให้เห็นระดับการเปลี่ยนแปลงทางความคิดจากความสงสัยไปเป็นความตื่นตะลึงจนดวงตาสว่างวาบของทุกคนออกมาได้เป็นอย่างดี มีทั้งความจดจ้องและประหลาดใจ เพียงแค่เอา “โอ้โห” ไปวางต่อท้ายประโยคและเสริมด้วยอารมณ์ทอดถอนใจก็แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดทางอารมณ์ได้แล้ว ประหนึ่งดอกไม้ที่ถูกประดิดประดอยด้วยมืออันยอดเยี่ยม มีความหมายลึกซึ้ง แสดงถึงความย้อนแย้งและความตื่นตะลึงก่อนหน้านี้ออกมาได้อย่างดี!
ถึงกับให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างไร้ขีดจํากัด!
ทุกคนทอดถอนใจอย่างลึกล้ำ!
รู้สึกยอดเยี่ยมยิ่งนัก!
เนิ่นนานผ่านไปก็ยังไม่อาจสงบอารมณ์!
หน้าอกของเฉียนเลี่ยงกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด คล้ายกับมีคำพูดมากมายมหาศาลต้องการพูดออกมารวดเดียว!
ครึ่งค่อนวันผ่านไป เฉียนเลี่ยงอดพูดไม่ได้ว่า “เด็กคนนี้คือผู้มีพรสวรรค์! เป็นหัตถ์เทพกลับชาติมาเกิด เป็นผลงานจากสวรรค์! การผ่าตัดไส้ติ่งเล็กๆ ก็ทำออกมาได้อย่างยอมเยี่ยมขนาดนี้ ผมนับถือจริงๆ!”
“ฮ่าๆๆๆ! ยอดเยี่ยม วิธีนี้ตรงไปตรงมาจริงๆ เด็กคนนี้เป็นคนมีพรสวรรค์! ผมอยากแย่งเขาไป เอาไปไว้ข้างตัวจริงๆ!”
เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา! ทุกคนรอบๆ พลันดวงตาเปล่งประกาย!เป็นความคิดที่ดี!
คนแซ่เฉียนไม่มีสมองจริงๆ ความคิดแบบนี้ก็ยังพูดออกมาได้ พวกเราอุตส่าห์คิดเงียบๆ ไม่ทำให้แตกตื่นแล้วเชียว!
เมื่อเห็นสายตาราวกับพญาเสือของเพื่อนร่วมอาชีพรอบด้าน ในใจของหลิวซือฉีก็ยิ่งรู้สึกซับซ้อน จ้องมองเฉินชางที่กำลังเย็บแผลอยู่ในจอ ก่นด่าในใจว่า คุณแสดงฝีมือให้มันน้อยๆ หน่อยได้หรือเปล่า? ต้องทำให้คนอื่นรู้ว่าคุณยอดเยี่ยมขนาดนี้เชียวหรือ?
อา…
ตอนนี้ดีจริงๆ!
เมื่อหลิวซือฉีเห็นผู้อำนวยการและหัวหน้าแผนกแต่ละคนที่อยู่รอบด้านพากันมองไปยังเฉินชางด้วยดวงตาแวววาว เขาก็รู้สึกเจ็บปวด
เด็กคนนี้ ถ้าคิดจะแย่งมาคงยากแล้ว…
เมื่อมีการผ่าตัดทั้งสองเคสเป็นพื้นฐาน การผ่าตัดเฉพาะทางเคสที่สามก็ไม่มีความหมายอะไรอีก
แต่ทุกคนยังรอดูด้วยความอดทน ถึงอย่างไรทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นกับเฉินชางมาก อยากรู้ว่าเด็กคนนี้เชี่ยวชาญอะไรที่สุด
ผู้ป่วยคนที่สามเป็นผู้ป่วยที่ถูกดาบฟันบริเวณเส้นเอ็น ค่อนข้างธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้นขณะที่ทำการผ่าตัด จากความเข้าใจของทุกคน เฉินชางจะต้องหยิบมีดขึ้นมาผ่าตัดและเย็บจนสำเร็จอย่างรวดเร็วแน่นอน
น่าเสียดาย!
พวกเขาพบว่าเฉินชางสังเกตอาการอย่างจริงจังอยู่นาน จากนั้นจึงเริ่มเย็บแผลอย่างระมัดระวัง
เฉินชางรู้ดีว่าการเย็บเส้นเอ็นจะต้องระมัดระวังให้มาก ลำพองใจไม่ได้ ในตอนที่ทักษะการเย็บเส้นเอ็นของเขาไปถึงระดับปรมาจารย์ เขาจึงเข้าใจข้อดีข้อเสียของการเย็บเส้นเอ็นมากขึ้น รวมไปถึงการฟื้นตัวในภายหลังด้วย
หลิวซือฉีดูอย่างจริงจังที่สุดเพราะเขารู้ระดับของเฉินชางดี
แต่ว่า…
หากไม่เห็นคงไม่รู้ แต่เมื่อได้เห็นก็ต้องตกใจ เด็กคนนี้พัฒนาขึ้นอีกแล้ว!