เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 102 ขาใหญ่สามคนพากันพูดคุยและหัวเราะกัน

ตอนที่ 102 : ขาใหญ่สามคนพากันพูดคุยและหัวเราะกัน

 

เป็นเวลานานกว่าริมฝีปากของทั้งคู่จะแยกออกจากกัน

 

ซูเสียวเสี่ยวในตอนนี้เปลี่ยนชุดไปเป็นชุดกระโปรงสีขาว สําหรับตามเจียงเฉินไปงานเลี้ยงคืนนี้

 

ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอู่หลิงเมาเทนท์วิลล่า

 

บรรยากาศรอบเงียบสงบดูสวยงามและมีเสน่ห์แบบโบราณสมัยราชวงศ์ฮั่น

 

ผู้ที่จะมาเยือนที่นี่มีแต่คนที่ได้ต้องมีเงินถึงเท่านั้น มีแต่คนแบบนี้ที่จะสามารถเข้ามาเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่ราวกับสวรรค์นี้ได้

 

ด้วยการแต่งหน้าบางๆของซูเสี่ยวเสี่ยวเมื่อมาปรากฏตัวในที่ๆมีบรรยากาศหรูหราแบบนี้มันทําให้เธอนั้นดูมีเสน่ห์และสวยมาก

 

โจวหมิงที่เห็นทั้งสองเข้ามาก็ทักทายทันที “น้องเจียงเฉิน มานี่สิ”

 

ทั้งสามพากันเดินเข้าไปในห้องทันทีแต่ทันใดนั้นคนที่คุ้นเคยก็เดินสวนออกมา!

 

จางเทียนเหิง!

 

ประธานบริษัทกฎหมายเทียนกวน!

 

“ประธานเจียงก็มาด้วยหรอครับ?”

 

เขาต้องการยืนยันว่าคนที่เขาเห็นนั้นเขาไม่ได้มองผิดไปจริงๆ เขารีบเดินเข้าไปดูใกล้ๆทันที และเขาก็มั่นใจทันทีว่าคนข้างหน้าเขาคือเจียงเฉินจริงๆ!

 

ตื่นเต้น!

 

จางเทียนเหิงตามกลับเข้าไปในห้องแล้วพูดอย่างดีใจทันที “น้องเจียง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ นายก็มาพักผ่อนที่วิลล่าด้วยหรอ?”

 

บ้าเอ้ย?!

 

โจวหมิงในตอนนี้เองก็เห็นจางเทียนเหิง “จาง บอสจาง คุณก็รู้จักน้องเจียงเฉินด้วยหรอ?”

 

ดวงตาของจางเทียนเหิงเป็นประกายจากความแปลกใจ “นี่ประธานโจวใช่ไหม?”

 

ทั้งสองเคยมีโอกาศทานอาหารค่ําด้วยกันมาก่อน ดังนั้นทั้งสองต่างรู้จักกันแต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันนัก

 

จางเทียนเหิงแสดงท่าทางตกตะลึงออกมา “ประธานโจว คุณรู้จักน้องเจียงเฉินได้ยังไงกัน?”

 

โจวหมิงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม “ผมไม่ได้รู้จักกับเขามาก่อนหรอก ผมพบกับน้องเจียงได้ก็เพราะได้คําแนะนํามาจากลู่เว่ย และสัญญาการเช่าอาคารของผมนั้นก็ใกล้หมดแล้วและก็ปรากฏว่าน้องเจียงเขาเป็นเจ้าของอาคารนั้นพอดี!”

 

“อะไรนะ!”2(ว:1:)ว

 

จางเทียนเหิงตกตะลึง!

 

“ที่ฉันรู้มาบริษัทของนายตั้งอยู่ที่อาคารกลางถนนศูนย์กลางทางการเงินไม่ใช่หรอ แล้วอาคารนั้นก็เป็นของน้องเจียงเฉิน?”

 

จางเทียนเหิงมองไปที่เจียงเฉินด้วยอาการไม่อยากจะเชื่อ

 

โจวหมิงพยักหน้า “ใช่แล้วบอสจาง แล้วคุณล่ะรู้จักกับน้องเจียงได้ยังไงกัน?”

 

เมื่อได้ยินคําตอบจากโจวหมิงดวงตาของจางเทียนเหิงก็หมองคล้ําลง!

 

ฉันจะบ้าตาย

 

อาคารกลางถนนศูนย์กลางทางการเงินนั้นมีมูลค่า ในตลาดกว่า 8 พันล้านเลยนะ!

 

แล้วที่มากไปกว่านั้นคือด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจมันก็ทําให้มูลค่าของอาคารนั้นสูงตามขึ้นไปด้วยเรื่อยๆ!

 

นี่ไม่เท่ากับว่าเจียงเฉินเขามีทรัพย์สินกว่าหมื่นล้านแล้วหรอ!

 

พระเจ้า!

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้จางเทียนเหิงก็รู้สึกขอบคุณสวรรค์ทันที่ที่ส่งหุ้นส่วนที่ทรงพลังแบบนี้มาให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

ใบหน้าของจางเทียนเหิงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “ผมหรอ? ที่ผมรู้จักน้องเจียงเฉินก็เพราะว่า! ผมเป็นหุ้นส่วนกับเขา!”

 

“ใช่แล้ว! น้องเจียงเฉินน่ะเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของบริษัทกฎหมายของผม! และความสัมพันธ์ส่วนตัวของผมกับเขาก็ถือว่าดีทีเดียว!”

 

หวางกวนที่ไม่รู้ว่าอยู่มางั้งแต่เมื่อไหร่ก็ปรากฏกายออกมาจากหลังของจางเทียนเหิงก่อนจะทําการทักทายกับเจียงเฉิน

 

เจียงเฉินที่เห็นก็ยิ้มและโบกมือกลับ

 

“ผู้ถือหุ้นลํากับที่สอง?”

 

ดวงตาของโจวหมิงเบิกกว้าง ดูเหมือนว่าตัวตนที่แท้จริงของน้องเจียงเฉินจะที่อะไรมากกว่าที่เขารู้แล้ว!

 

ลึกลับ ลึกลับมากจริงๆ!

 

หลังจากที่จางเทียนเหิงนั้นรู้ว่าเจียงเฉินนั้นทรงพลังแค่ไหน เขาก็ให้หวางกวนไปทานอาหารกับลูกค้าทันที่ส่วนตัว เขาจะไปทานอาหารกับเจียงเฉิน!

 

เขานั้นรู้ดีในระยะยาวเจียงเฉินนั้นจะทรงพลังยิ่งกว่านี้ เพราะเจียงเฉินจะไม่จบที่การที่เขามีทรัพย์สินหลักหมี่ล้านแน่!

 

แค่อาคารกลางของถนนศูนย์กลางทางการเงินแค่นี้ก็มีมูลค่าตั้งเท่าไหร่แล้ว?

 

การจะครอบครองอาคารนั้นได้ไม่รู้ว่าต้องมีเบื้อหลังที่ใหญ่ขนาดไหน ความสัมพันธ์กับธนาคารแน่นแฟ้นกันเท่าไหร่ หรืออาจจะไปถึงคนของรัญบาลด้วยซ้ํา!

 

ความสัมพันธ์ขนาดนั้นเงินแค่หมื่นล้านมันไม่น่าพูดถึงแล้วด้วยซ้ํา!

 

จางทียนเหงยิ่งคิดแล้วยิ่งตื่นเต้นเขาตั้งเป้าหมายทันที ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องคงความสัมพันธ์ที่ดีกับเจียงเฉินไว้ให้ได้ มุมมองของเขาที่มีต่อเจียงเฉินเปลี่ยนไปเป็นความเคารพทันที

 

โจวหมิงก็รู้เรื่องนี้ดี และเขาก็ยังต้องตกตะลึงเรื่องที่เจียงเฉินนั้นก็เป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของบริษัทกฎหมายเทียนกวนด้วย!

 

นี่มันหมายความว่าอะไรน่ะหรอ?

 

บริษัทกฎหมายเทียนกวนนั้นราวกับอํานาจทางกฎหมายในเมืองหลวง ใครที่ได้ครอบครองมันก็ราวกับว่าตัวเองนั้นอยู่เหนือกฎหมายบางข้อไปแล้ว!

 

และชัดเจนเลยว่า….

 

เจียงเฉินคนนี้กําลังเล่นเกมส์เดิมพันครั้งใหญ่อยู่!

 

บางทีเมื่อเขาเปิดเผยตัวตน โลกทั้งโลกอาจจะต้องตกตะลึง!

 

โจวหมิงคิดอย่างรอบคอบพลางรู้สึกหวาดกลัวไปด้วย เขายิ่งคิดแล้วยิ่งรู้สึกกลัวเจียงเฉินมากขึ้นกว่าเดิน!

 

โจวหมิงและจางเทียนเหิงมองหน้ากันและกันการที่มีเพื่อนร่วมกัน ย่อมหมายความว่าศัตรูนั้นจะลดน้อยลงไปอีกหนึ่ง!

 

นอกจากนี้พวกเขานั้นต่างก็รู้จักเจียงเฉินกัน และเป้าหมายของพวกเขาก็เหมือนกันดังนั้นพวกเขานั้นจะไม่มีทางขัดแย้งกันเองแน่!

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวนั่งดูและฟังพวกเขาอย่างเงียบๆ

 

แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจเรื่องอะไรในวงการนี้มากแต่เธอรับรู้ได้เลยว่าเจียงเฉินของเธอนั้นสุดยอดเอามากๆ

 

และยังทรงพลังกว่าที่เธอเคยคาดไว้ด้วย!

 

จางเทียนเหิงหัวเราะออกมา “น้องเจียงเฉิน นายถ่อมตัวเกินไปแล้ว! มาเถอะ แก้วนี้ฉันดื่มให้นาย ในอนาคตถ้านายต้องการนายสามารถเรียกใช้ทรัพยากรทุกอย่างในบริษัทกฎหมายของเราได้เลย ไม่ต้องเกรงใจฉันด้วย!”

 

“น้องเจียง มาๆมาดื่มเถอะ”

 

โจวหมิงยกแก้วขึ้นมาดื่มก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความเคารพ “ถ้านายมีปัญหาทางการเงินอะไรติดต่อฉันมาได้เลย ไม่ว่าจะเรื่องการลงทุนหรือหุ้นต่างๆ!”

 

เจียงเฉินยิ้มออกมาก่อนจะชนแก้วกับทั้งสอง “ได้ยังไงกัน ผมยังเป็นแค่ลูกนกหัดบินผมยังต้องฟังคําแนะนําจากทั้งพี่เทียนเหิงและพี่โจวหมิงตั้งเยอะ!”

 

จริงๆก็อยากจะทําตัวถ่อมตนซักหน่อยแต่ดูเหมือนว่าโอกาสจะไม่มีจริงๆ!

 

เรื่องการที่ฉันมีทรัพย์สินกว่าหมื่นล้านโดนเปิดเผยเข้าแล้ว!

 

จางเทียนเหิงดื่มไวน์ทั้งแก้วในครั้งเดียว “ว้าว- น้องเจียง นายถ่อมตัวเกินไปแล้ว ต้องเป็นพวกพี่สิที่ต้องขอคําแนะนําจากน้อง”

 

โจวหมิงก็พยายามวางตัวให้ต่ํากว่าเจียงเฉินเช่นกัน “ใช่ น้องเจียงวันนี้ฉินเฟิงทําตัวไม่ให้เกียรตินาย ฉันต้องขอโทษนายแทนเขาแล้ว”

 

เจียงเฉินโบกมือเบาๆ “ผมผ่านโลกมาก็เยอะแล้ว เรื่องแค่นี้ผมไม่ใส่ใจมันหรอก”

 

โจวหมิงที่ได้ยินก็ไม่พูดเรื่องนี้ต่อเขาเปลี่ยนมาเอาใจเจียงเฉินกับซูเสี่ยวเสี่ยวแทน “น้องชายน้องสาว ทานเลยๆ”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าก่อนจะก้มลงทานอาหารอย่างเชื่อ

 

ภายในห้อง เจียงเฉิน โจวหมิงและจางเทียนเหิง ขาใหญ่ทั้งสามพากันพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

 

หลังจากดื่มกันไปสามรอบ

 

ตาของโจวหมิงก็ขยับ “น้องเจียงเฉิน ฉันเพิ่งนึกอะไรบางอย่างได้ เมื่อเร็วๆนี้บริษัทของฉันอยากจะเปลี่ยนบริษัทคําแนะนําทางกฎหมายน่ะน้องชายพอจะมีที่แนะนําให้บ้างไหม?”

 

นี่คือการถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว!

โจวหมิงต้องการสร้างความโปรดปรานนี้ให้กับเจียงเฉิน!

 

เขานั้นก็รู้อยู่แล้วว่าประธานบริษัทกฎหมายเทียนกวนนั้นก็นั่งอย่าใกล้ๆนี่เอง แต่เขาต้องการแสร้งทําเป็นไม่รู้เท่านั้น

 

เพราะเจียงเฉินต่างหากที่เป็นขาใหญ่ตัวจริง!

 

เจียงเฉินมองไปที่จางเทียนเหิง “พี่เทียนเหิง พี่อยากจะแนะนําบริษัทของเราให้พี่โจมหวังหน่อยไหม?”

 

“เอาสิๆ!”

 

ธุรกิจมาส่งถึงหน้าประตูแล้วเขาก็สร่างเมาจากไวน์ทันที

 

เขานั้นเข้าใจในทันทีว่าเจียงเฉินนั้นมอบงานนี้ให้กับเขา!

 

การจัดการทรัพย์สินของบริษัทลงทุนแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนซึ่งต่างจากทรัพย์สินทั่วๆไปเป็นอย่างมาก

 

รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทพวกนี้จะเป็นเงินจากค่าคอมมิชชั่นและรายจ่าของตัวบริษัทส่วนใหญ่ก็จะเป็นเงินเดือนขอลูกจ้างเท่านั้น

 

และโดยบริษัทใหญ่ๆนั้นจะโดนเรียกสอบหลายครั้งมากในแต่ละปี แต่ก็จะมีแค่นานๆทีเท่านั้นที่จะมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น!

 

โจวหมิงที่มีทักษะการแสดงเข้าขั้นห่วยแตกก็เอามือตบหน้าผากของตัวเอง “โอ๊ะ สมองฉันนี้จริงๆเลย ทําไมถึงลืมไปได้ว่าพี่เทียนเหิงกับน้องเจียงเป็นประธานของบริษัทกฎหมายกันนะ งั้นเราก็ไม่ต้องพูดอะไรกัยมากแล้ว เอาง่ายๆเลยก็แล้วกันทําสัญญากันตรงนี้เลยเนี่ยแหละ!”

 

“ได้ ได้”

 

จางเทียนเหิงมองไปที่เจียงเฉินด้วยความยําเกรง นี่แหละขาใหญ่ของจริง!!

 

นี่เป็นการเจรจาทําสัญญาที่ง่ายที่สุดตั้งแต่เขาเคยเจอมาตลอดทั้งชีวิต เซ็นสัญญาโดยไม่พูดอะไรเลยซักอย่าง!

 

พี่เจียงเฉิน

 

หนูรู้ว่าพี่นั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน ครั้งก่อนพี่ก็ช่วยพ่อในการสู้คดี!

 

ในใจของซูเสี่ยวเสี่ยวในตอนนี้มีแต่ความคลั่งไคล้เจียงเฉิน! : พี่เจียงเฉินสุดยอดที่สุด!

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset