ตอนที่ 226 : งานเลี้ยงปิดกล้อง
ในเวลานี้หลิงหยุนได้ชวนเจียงเฉินมาที่คลับเฮาส์เพื่อจัดงานเลี้ยง
“คุณเจียง?”
หลิงหยุนยิ้มออกมาและพูดว่า “ตอนนี้การถ่ายละครเรื่อง “ประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” ที่มีคุณเป็นนักแสดงนําได้ถ่ายทํากันเสร็จสิ้นแล้วพวกเรามาฉลองกันหน่อยไหมครับ?”
“งานฉลองงั้นหรอ?”
เจียงเฉินรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
“งานเลี้ยงปิดกล้องครับ!”
หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “ที่คลับเฮาส์ดอกไม้จันทราดับเป็นคลับเฮาส์ชั้นนําที่มีสาวงามอยู่มากมาย คุณน่าจะสนใจนะครับ”
เจียงเฉิน “…”
“ไม่ไป!”
“อะไรนะครับ?”
หลิงหยุนตกตะลึง
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างชอบธรรมและน่าเกรงขาม “อย่าทําให้ฉันเสียคนสิ ฉันยังเด็กอยู่นะ…”
หลังหยุน “…”
กระอักเลือด!
คุณยังเด็กอยู่!
ผมจําได้ว่าทุกครั้งที่เจอคุณ คุณมักจะมีสาวสวยระดับเทพธิดาอยู่รอบตัวคุณไม่ใช่หรอ?
และที่น่ากลัวคือทุกคนต่างเทพธิดาของเขาไม่เคยซ้ําหน้ากันเลย!
เรื่องนี้แม้แต่หลิงหยุนผู้ที่เป็นเพลย์บอยยังต้องมองด้วยความอิจ ฉาริษยาจนตาแดงก่ํา
ไม่มีดาราสาวคนไหนที่เขารู้จักที่จะสวยพอมาเทียบกับเทพธิดารอบๆตัวเจียงเฉินเลย
แต่สุดท้ายเขาจะทําอะไรได้ ใครใช้ให้เจียงเฉินนั้นเป็นคนใหญ่คนโตกัน?
หลิงหยุน “พี่ใหญ่ นี่เป็นงานเลี้ยงฉลองนะครับ! คุณจะไม่มาจริงๆหรอ?”
เจียงเฉิน: “…”
ฉันยังเด็ก
“ก็ได้ ฉันจะไป!”
เจียงเฉินกระแอมออกมา “ยังไงซะฉันก็เป็นนักแสดงนํา มันคงจะไม่ดีจริงๆถ้าฉันไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงปิดกล้อง”
หลิงหยุน “…”
เจียงเฉิน “เห้อ…ฉันไม่อยากจะไปเลยจริงๆ แต่สุดท้ายนายก็บังคับให้ฉันไป”
หลังจากนั้น
เจียงเฉินเดินทางมาคลับจันทราดับพร้อมกับหลิงหยุน
ว้าว!
สาวสวยในชุดกี่เพ้าเดินกันเต็มไปหมด!
และทุกคนยังมีความสวยอยู่ที่ 80 คะแนน!
หลิงหยุนพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี “คุณเจียง ตอนนี้ละครของเรามีกําหนดฉายแล้วและจะเริ่มทําการฉายอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ผลิครับ!”
เจียงเฉินประหลาดใจ “มีเวลาแค่หนึ่งเดือนเองนะก่อนที่จะถึงฤดูใบไม้ผลิ เอไอจะตัดต่อใบหน้าของฉันทันหรอ?”
หลิงหยุนยิ้ม “ไม่ต้องกังวลครับ ผมได้จัดการใช้เทคโนโลยีการสับเปลี่ยนใบหน้าด้วยเอไอที่ล้ําสมัยที่สุด มันจะรวดเร็วและไร้ข้อผิดพลาด…”
เจียงเฉินพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “โอเค…”
เขานั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องละครมากเท่าไหร่
อีกด้านหนึ่ง
ซงเซจิก็ถามประธานเพิ่งไห้ด้วยความไม่เต็มใจ “พี่ไห่ ผมจะกลับประเทศเกาหลีมนอีกสามวันข้างหน้านี้แล้ว พี่ช่วยหาคนๆนั้นให้เจอภายในสามวันด้วยนะครับผมอยากจะทุบตีเขาเพื่อระบายความเกลียดในใจของผม!!”
ประธานเพิ่งไห่ตบหน้าอกด้วยความภูมิใจ “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการเองน้องชาย ถึงฉันจะไม่ได้ดีอะไรมากแต่ฉันก็เป็นคนซื่อสัตย์ฉันพูดแล้วไม่คืนคําแน่นอน…”
ซงเซจิสะดุ้ง “ใต้หล้านี้พี่ชายของผมไร้เทียมทาน!”
หลังจากดื่มไปซักพักซงเซจิเริ่มรู้สึกอึดอัดก่อนจะขอตัวออกไปเข้าห้องน้ํา
“ผมขอออกไปสูดอากาศก่อนนะครับ!”
เพิ่งไห่ “งั้นฉันไปด้วย”
เพิ่งไห่ ซงเซจิและผู้จัดการส่วนตัวออกมาจากห้อง
และทันทีที่ออกมาเขาก็ได้ยินเสียงเข้ามาในประสาทหูของเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้คริปของซงเซจิจากประเทศเกาหลีโดนแพร่ออกไปทั่วแล้ว!”
“ใช่ๆฉันก็ดูแล้วมันตลกจริงๆ!”
“ดาราเกาหลีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ใบหน้าของซงเซจิเปลี่ยนไปทันทีที่เขาได้ยิน
ผู้จัดการส่วนตัวของเขาคว้าตัวซงเซจิเอาไว้ทันที “เดี๋ยวก่อน! ถอยออกไปก่อน! ที่นี่คือประเทศจีนนะ!”
“คนพวกนั้นต้องขอโทษฉันให้หมด!” ซงเซจิกัดฟันแน่น “อย่าให้ฉันเจอพวกมันอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นพวกมันตาย…”
ทันใดนั้นเสียงของซงเซจิก็หยุดลง
หนุ่มหล่อคนหนึ่งเดินผ่านมา
ซงเซจิมองเจียงเฉิน “…”
เพิ่งไห่สบถออกมาด้วยความรําคาญ “ต่อให้นายก่อเรื่องที่นี่มันก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ!”
“คนๆนั้น!”
ซงเซจิตะโกนออกมา “หนุ่มหล่อคนนั้นก็คือคนที่สนามบินวันนั้น!”
เพิ่งไห่ “???”
บังเอิญขนาดนั้นเลย?
ดวงตาของเขาจ้องไปที่ชายหนุ่มรูปงาม(เจียงเฉิน)ที่เดินอยู่ห่างอ ชอกไปไม่ไกล!
“นั่นเขา! เป็นเขานั่นแหละ!”
ซงเซจิชี้ไปที่เจียงเฉินที่อยู่ห่างออกไปและตะโกนอย่างตื่นเต้น “เขาคือคนที่ทําให้ผมเป็นแบบนี้!”
“บัดซบ! ฉันจะไปหาเขาเพื่อล้างแค้น!”
ความเกลียดที่ซงเซจิมีต่อเจียงเฉินมันมากพอจนทําให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป
ในตอนนี้เจียงเฉินนั้นเหมือนกับมารในจิตใจของเขา เขานั้นแทบจะทนไม่ไหวที่จะเข้าไปสั่งสอนและระบายความแค้นออกจากใจของเขา
เขากลับไปที่ห้องส่วนตัวและรวบรวมคนทันที
“ไป!”
ซงเซจิออกคําสั่ง
เขานําบอดี้การ์ดและผู้จัดการส่วนตัวนับสิบคนออกไป
ซงเซจินําคนของเขาออกมาอย่างดุดันฉากนี้ใครมองต่างก็ต้องชื่นชม!
ในเวลานี้เองเจียงเฉินนั้นได้เข้ามาที่ห้องส่วนตัวแล้ว
ทีมงานกองถ่ายของ “ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” ก็กําลังทําการเลี้ยงฉลองปิดกล้องกันอยู่
ผู้กํากับ ผู้ช่วยผู้กํากับ นางเอกหานซูหยาน สตั้นท์แมนลู่อี้หัง…
งานนั้นจัดอย่างยิ่งใหญ่!
และคนที่ได้นั่งตรงกลางก็คือเจียงเฉิน!
ทีมงานและนักลงทุนต่างเข้ามาชื่นชมเจียงเฉิน
หลิงหยุนประจบประแจง “คารวะพี่ใหญ่! การแสดงของพี่ใหญ่สุดยอดมาก!”
ผู้กํากับยกแก้วขึ้น “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับคนใหญ่คนโตที่กําลังจะได้เป็นซูเปอร์สตาร์!”
ผู้ช่วยผู้กํากับยิ้มและเบิกตากว้าง “ตอนที่ผมได้เจอคุณเจียงตอนกําลังขับที่ที่รู้ไหมว่าผมตกตะลึงแค่ไหน?!”
ลู่อี้หัง “ผมภูมิใจมากๆเลยครับที่ได้เป็นสตั้นท์แมนให้กับคุณ!”
หานซูหยาน “…”
พวกนายยังจะอยากได้หน้าอีกหรอ?
พวกคุณต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตในวงการบันเทิงนะ แต่พวกคุณกลับคุกเข่าและเลียแข้งเลียขาของเจียงเฉิน?
หานซูหยานนั่งข้างๆเจียงเฉินอย่างเขินอายเธอยกแก้วขึ้นมา “เจียงเฉินแก้วนี้ฉันดื่มให้คุณค่ะ!”
เจียงเฉินยิ้มและทั้งสองก็ดื่มพร้อมๆกัน
หานซูหยานเอนตัวเข้าไปใกล้หูของเจียงเฉินและกระซิบ “ฉันอยากจะขอบคุณคุณมากจริงๆค่ะ”
เจียงเฉิน “???”
“ครั้งนี้ฉันได้เป็นนางเอกสมใจแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ!”
ใบหน้าของหานซูหยานแดง “ฉันอยากจะชวนคุณออกไปเที่ยวสักวันแบบสองต่อสอง
เจียงเฉิน “???”
ในเวลานี้เองก็มีเสีงดังปิ้งดังขึ้นมาและประตูก็ถูกเปิด!
ซงเซจินคนเข้ามาในห้องของเจียงเฉินและหลิงหยุนอย่างอุกอาจ!
ซงเซจินั้นตกตะลึงทันทีที่เห็นคนที่อยู่ข้างใน
และยิ่งได้เห็นเจียงเฉินที่อยู่ตรงกลางเขาก็ยิ่งตกตะลึงเข้าไปอีกมา
แต่อย่างไรก็ตามความเกลียดชังที่มีต่อเจียงเฉินมันมีมากกว่าจนทําให้เขาไม่สนเรื่องอื่นอีกต่อไป เขาชี้ไปที่เจียงเฉินและตะโกนออกมา “แกก็คือคนๆนั้น! ที่สนามบินวันนั้นแกทําให้ฉันอับอาย! วันนี้ฉันจะทุบตีนาย! และสั่งสอนบทเรียนให้นาย!”
ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยความดังของเขามันทําให้เขานั้นหยิ่งผยองขึ้นมาเรื่อยๆ เขานั้นไม่ได้มีความเกรงใจต่อแผ่นดินจีนอยู่เลยแม้แต่น้อย!
ด้านหลังของเขาบอดี้การ์ดและผู้จัดการส่วนตัวก็วิ่งเข้าไปหาเจียงเฉิน
คนในห้องพากันโกรธขึ้นมาทันที
“หึ!”
หลิงหยุนที่เป็นดั่งเจ้าบ้านเขานั้นสร้างความสัมพันธ์กับเจียงเฉินขึ้นมาอย่างยากลําบากเขานั้นกําลังมีความสุขกับการประจบสอพลอกับมังกรที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่ทันไรเขาก็ต้องมาถูกขัดจังหวะ และคนพวกนั้นดูเหมือนเป็นพวกไร้เหตุผลและทําตัวหยิ่งผยอง แถมยังจะเข้ามาทุบตีคนใหญ่คนโตของเขาอย่างไร้เหตุผลอีก?
แม่งเอ๊ย!
ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยงั้นหรอ?!
“ไอ้พวกเวร! พวกแกเข้ามาหาฉันให้หมด!”
มีหรอที่หลิงหยุนจะไม่มีคนติดตามมา?
ด้านนอกประตูมีคนหลายคนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
คนกลุ่มนี้ต่างก็เป็นลูกน้องของหลิงหยุน!
จากนั้นการต่อสู้ครั้งใหญ่ก็เริ่มต้น!
“ตีมัน! ฆ่าพวกมันด้วยไม้ไปเลย!”
หลิงหยุนตะโกนออกมาอย่างดุเดือด!
ส่วนเจียงเฉินนั้นก็ดึงตัวของหานซูหยานไปดูการต่อสู้อยู่ข้างๆแทน
แม้ว่าซงเซจิจะโกรธมากแต่ความหยิ่งผยองของเขานั้นก็ยังมากกว่า
ส่วนเจียงเฉินนั้นไม่ได้ทําอะไรนอกจากยืนดูการต่อสู้อยู่ข้างๆ!
เขานั้นไม่ได้ทําอะไรเลยแม้แต่น้อย
ในไม่ช้าการต่อสู้ก็จบลง
ลูกน้องของหลิงหยุนนั้นแข็งแกร่งกว่ามาก ไม่เพียงแต่จะสามารถล้มบอดี้การ์ดลงได้เท่านั้นแต่ยังสามารถจัดการซงเซจิได้ด้วย!
ใบหน้าที่ผ่านการศัลยกรรมมาเกิดความเสียหายอย่างหนัก!
ซงเซจิร้องไห้ออกมา
หลังจากนั้นจะเป็นยังไง? การหาเงินของเขาล่ะ?
การทําศัลยกรรมของในประเทศเกาหลีนั้นเป็นสิ่งจําเป็นมาก!
หากไม่มีการทําศัลยกรรมก็อย่าหวังที่จะได้เข้าสู่วงการบันเทิง
พวกเขาล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งใบหน้าของตัวเอง!
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสียงตะโกนดังออกมา
เพิ่งไห่เดินเข้ามาก่อนที่จะพูดกับหลิงหยุน “พวกนายไปกินดีหมีหัวใจเสือกันมารียังไง?! กล้าดียังไงถึงมาตีคนของฉัน?! เชื่อไหมว่าฉันจะโทรแจ้งตํารวจมาจับกุมพวกนาย?!”
“พวกนายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
“ถ้าฉันพูดออกมาพวกนายคงได้ตกใจตายไปก่อนแน่!”
“ฉันคือประธานของบริษัทอี้ตาพิคเจอร์ เพิ่งไหน”
“พวกนายยังจะกล้าขัดขืนอีกต่อไปไหม…”
เพิ่งไห่แสดงความแข็งแกร่งออกมา
ในเวลานี้เองหลิงหยุนก็พูดออกมาอย่างเกียจคร้าน “อะไรนะ เพิ่งไห่นายร่วมมือกับไอ้หมอนี่แล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งนักรียังไง?!”
“หลิง…คุณชายหลิง?”
ดวงตาของเมิงไห้แทบถลนออกมา….
เดิมที่เขารู้เพียงแค่ว่าเจียงเฉินอยู่ในห้องส่วนตัวนี้และคนที่อยู่ในห้องนี้ก็คงจะมีแต่คนธรรมดาและความแข็งแกร่งก็คงจะด้อยกว่าเขา
แต่ใครจะไปคิด–
คนที่อยู่ในห้องกับเจียงเฉินจริงๆก็คือ….หลิงหยุน!
หลิงหยุน!
หลิงหยุนที่เป็นดั่งคุณชายใหญ่แห่งเมืองหลวง!
ในแง่ความแข็งแกร่ง การเป็นประธานบริษัทของอี้ตําพิคเจอร์นั้นก็ไม่เลวเลยแต่เมื่อเทียบกับหลิงหยุนแล้วช่องว่านับว่ากว้างมาก!
หลิงหยุนเยาะเย้ยออกมา “เพิ่งไห่ ถ้านายทําให้ฉันขุ่นเคืองฉันก็ยังพอทนได้! แต่ครั้งนี้!”
เขาชี้ไปที่เจียงเฉิน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตเขาพูดออกมา “นายรู้จักคุณเจียงคนนี้ไหม?”
“เจียง….คุณเจียง!?”
ขาของเพิ่งไห่อ่อนแรงลงทุนทีเมื่อเห็นหลิงหยุนแต่เมื่อเขาได้ยินชื่อของเจียงเฉินเขายิ่งกลัวหนักกว่าเดิม
เขานั้นรู้สึกราวกับตัวเองเป็นอัมพาตและเกือบจะล้มลงไปกับพื้นทันที!
ชื่อของเจียงเฉินในตอนนี้นับว่าเริ่มโด่งดังในเมืองหลวงแล้ว!
และด้วยความที่เจียงเฉินนั้นชอบเก็บตัวและไม่ชอบร่วมงานปาร์ตี้ระดับไฮเอนด์ ดังนั้นแม้ว่าจะมีคนรู้จักชื่อของเขามาก แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา!
ไม่ว่าเพิ่งไห่จะทําตัวไม่ดีขนาดไหนจะเป็นอันธพาลยังไงแต่เขาก็ยังอยู่ในสังคมแวดวงคนรวยและเขาก็ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อของเจียงเฉิน!
เขานั้นได้ยินมาว่าหลิงหยุนนั้นถูกเจียงเฉินจัดการจนอยู่หมัด ไม่เพียงแต่ต้องเดินเท้าเปล่าบนทางที่เต็มไปเศษแก้วยาวกว่า 8 เมตรแต่ยังต้องสูญเสียเงินไปอีก 1 พันล้าน
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบถึงสาเหตุแต่ยังไงก็ตามเรื่องนี้มันน่ากลัวมาก!
ใครจะไปคิดว่าคนที่เจ้าซงเซจิคิดจะล่วงเกินคือคุณเจียง?
เม่งไห่เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
การที่ควงเทพธิดาสาวเดินออกมาพร้อมกับแอร์โฮสเตสตามหลัง 12 คน
มันคงจะดูหล่อมากจนแฟนๆของซงเซจิทุกคนเข้าใจผิด
คนแบบนี้จะเป็นคนธรรมดาได้ยังไงกัน?
คนที่หล่อจนฟ้าถล่มดินสลายคนนั้นก็คือคุณเจียง!!
“พี่เพิ่ง! พี่ไห!”
ซงเซจิที่ถูกทุบตีจนใบหน้าและจมูกเต็มไปด้วยรอยฟกช้ําและ บวมจมูกของเขาที่ผ่านการศัลยกรรมมาก็ยุบลง ตอนนี้เขานั้นไม่เหลือความหล่อแม้แต่น้อย
เขาที่เห็นเม่งไห่เดินเข้ามากราวกับเห็นฟางเชือกสุดท้ายที่จะเข้ามาช่วยชีวิตเขาเขาคลานเข้าไปเพื่อที่จะคว้าฟางเส้นนั้นไว้และระหว่างที่คลานไปเขาก็ร้องไห้ออกมาอย่าบ้าคลั่ง
“ผมถูกคนจีนที่แสนปาเตือนทุบตี! พี่ต้องโทรหาตํารวจให้ผมนะ! ผมจะโพสต์เรื่องนี้ลงบนอินสตาแกรมแล้วก็ทวิตเตอร์! ให้คนทั้งโลกรู้ว่าคนจีนปาเถื่อนแค่ไหน! ผมจะให้แฟนๆของผมมาปิดล้อมพวกมัน พี่เมิ่งพี่เรียกใครก็ได้เข้ามาทุบตีพวกมันเร็ว!”
ซงเซจิผู้หยิ่งผยองและมีแต่รังแกคน เขาจะไปยอมถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียวได้ยังไง?
ในเวลานี้ดวงตาของเขานั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับเลือดเพราะความเกลียดชังที่มีต่อเจียงเฉิน
“ฉันมีแฟนๆจํานวนมากอยู่ในจีนพวกแกจะต้องโดนคนนับแสนรุมทุบตี! โทษฐานที่กล้าล่วงเกินฉันคนนี้!”
ซงเซจิตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “ฉันบอกให้พวกเขาไปทางตะวันออกพวกเขาจะไม่มีวันไปทิศตะวันตกแน่ พวกเขาจะคอยทําตามที่ฉันบอกทุกอย่าง!”
และวินาทีถัดมาสิ่งที่เขาคิดไว้พลิกผันไปทั้งหมด!
เพิ่งไห่ตบหน้าซงเซจิอย่างรุนแรง
จากนั้นเขาก็พูดออกมา “ที่นี่คือประเทศจีน! ไม่ใช่ที่ๆนายจะมาทําตัวบ้าๆได้! พวกเขาเป็นชายหนุ่มที่ดูใจดี (เจียงเฉิน,หลิงหยุน) จะตายไปทําไมแกต้องมารังแกคนอื่นด้วย!”
ซงเซจิปิดใบหน้าของตัวเองและมองไปที่เพิ่งไห้ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“พี่เพิ่งทําไมกัน?”
“พี่ชาย ใครพี่ชายของแกกันหะ! ฉันสนิทกับแกขนาดนั้นเลยหรอ?!” เพิ่งไห่ด่าออกมา “ฉันไม่ชอบแกมานานแล้ว! คนจีนได้มารยาทงั้นหรอ?! แกมันก็คนขี้ขลาดเหมือนกันนั่นแหละ! เอาเลยสิเอาแฟนๆของแกมาเลยให้พวกเขาได้เห็นสภาพของแกกับคุณเจียงฉันพนันได้เลยว่าพวกเขาจะเลิกติดตามแกแล้วไปติดตามคุณเจียงแทน!”
เพิ่งไร่ตะโกนออกมาขณะที่เหยีบใบหน้าของซงเซจิ
ซงเซจิตกตะลึง
ตกลงแฟนๆนับสิบล้านของฉันยกย่องฉันเป็นพระเจ้าจริงรึเปล่า?
แล้วไหนบอกว่าคุณเป็นพี่ชายของผมไง?
ไหนบอกว่าจะคอยช่วยน้องชายคนนี้?
แล้วทําไมอยู่ๆถึงได้กลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปแล้ว?
แล้วมารยาท…?
แล้วคุณเจียงที่เขาพูดถึงคือใครกัน?
แล้วทําไมฉันถึงถูกเหยียบอยู่ตรงนี้?
เจียงเฉินยืนขึ้นก่อนจะเดินมาข้างหน้าซงเซจิและก้มลงมามองเขา
เขาขี้เกียจเกินกว่าจะพูดออกมา
สําหรับคนแบบเจียงเฉินแล้วการเอาคําพูดของมนุษย์มาคุยกับขยะอย่างซงเซจิมันมีแต่เสียแรงและเวลา!
เจียงเฉินโบกมือ
หลิงหยุนกับเพิ่งไห่ก็พร้อมใจกันลากซงเซจิออกไปด้วยกัน
และไม่นานข่าวนี้ก็กระจายไปทั่วทั้งคลับเฮาส์
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดาราจากเกาหลีมีจุดจบแบบนี้นี่เอง!”
“ฉันเห็นหลิงหยุนกับเพิ่งไห่ทุบตีจนใบหน้าที่ผ่านการศัลยกรรมพังไปหมดเลย!”
“ฉันได้ยินมาว่าคนที่เดินผ่านไปที่สนามบิยวันนั้น แม้แต่หลิงห ยุนก็ยังต้องประจบเลยนะ!”
“นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้ สนุกจริงๆเลย!”
“คนที่ผ่านมาคนนั้นคือใครกัน?”
“มีข่าวลือว่าอาจจะเป็นคนใหญ่คนโตในตํานานที่ขับตี้ตี้!”
“ขับตีตี้?! พรูด-”
เจียงเฉินเองก็อยู่ตรงนั้น
ไปดีกว่า
หานซูหยานมองไปที่ซงเซจิที่ยั่วยุเจียงเฉินแต่เจียงเฉินกลับไม่สนใจแม้แต่น้อยเธอปรบมือและชื่นชมออกมา
“พวกศิลปินจากเกาหลีเคยชินกับความโงดังของตัวเองในประเทศจีน จนคิดว่าตัวเองสูงส่งทั้งๆที่ทําตัวไม่ต่างจากขยะ!”
หานซูหยานชอมเจียงเฉินจากใจจริง “วันนี้นายช่วยกําจัดอันตรายให้พี่น้องชาวจีนแล้วนะ”
เจียงเฉินยิ้ม
“แต่นายเป็นใครกันแน่?”
หานซูหยานกระพริบตาอย่างสงสัยและอดไม่ได้ที่จะถามออกมา “ฉันอยากรู้จริงๆนะ”
“ผมหรอ?”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ผมก็คือ–คนขับตีตี้!”
“ปีก!”
หานซูหยานล้มลงกับพื้น!
วันต่อมา
เจียงเฉินยังคงไปขับตี้ตี้ตามปกติ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้รับสายจากเอเวล
เสียงของเอเวลที่ดังออกมาผ่านทางโทรศัพท์นั้นฟังดูลังเลเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของเจียงเฉินทันที
เอเวลที่เป็นหญิงสาวลูกครึ่งและยังเป็นประธานสาวที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เธอนั้นมักจะพูดอย่างตรงไปตรงมาแต่วันนี้ทําไมเธอถึงพูดอย่างลังเลกัน?
เธอมีอะไรในใจรึเปล่า?