ตอนที่ 237 : เจียงเฉินตัวสั่น-
ลานจอดรถของโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนหยานจิง
ซูเจียเหยาทำหน้าบูดบึงอยู่หน้ารถมาเซราติของเขา
ครั้งนี้เขานั้นเสียหน้าอย่างหนักและไม่มีความสุขเอามากๆ!
“น่าขยะแขยง!”
“เจ้าเจียงเฉินบ้านี่มาจากไหน?!”
“ไม่ ฉันจะเสียหน้าเปล่าๆแบบนี้ไม่ได้?”
ขณะที่ซูเจียเหยากำลังขบเคี้ยวฟันของตัวเอง เขานั้นเห็นเจียงเฉินเดินจับมือกับหลินซีหลานผ่านหน้ารถของเขาไปก่อนจะขึ้นรถออดี้เอสามออดี้!
ซูเจียเหยาตกตะลึง! Σ(☉▽☉”)?
เจียงเฉินเป็นผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลหมิงเตือไม่ใช่หรอ? แต่ทำไมเขาขับรถชั้นต่ำอย่างออดี้?
“หรือว่าจะ….”
แสงสว่างวาบขึ้นมาในดวงตาของเขา!
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!
“นามบัตรนั่นจะต้องเป็นของปลอม! ตำแหน่งผู้ถือหุ้นก็ปลอม! แท้จริงแล้วเขาเป็นคนจน!”
“ตำแหน่งกัปตันกองตำรวจอาชญากรรมก็ปลอมเหมือนกัน! หัวหน้าหน่วยที่ไหนจะอายุน้อยแถมยังสวยขนาดนี้?!”
“แม่งเอ้ย! ฉันถูกพวกเขาหลอกหรอ?!”
ซูเจียเหยาโกรธมากจนปอดของเขาแทบระเบิด!
เขาโทรเรียกอันธพาลมาทันที “ฉันให้เวลาพวกแก 20 นาทีพาคนมาหาฉัน ฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้คน! เดี๋ยวฉันจะส่งพิกัดไปให้อีกที!”
อันธพาล “ตกลงครับ ผมจะหาคนให้ทันที!”
ซูเจียเหยาวางสายก่อนจะมองออกไปอย่างชั่วร้าย
เจียงเฉินกับหลินซีหลานก็ขึ้นไปบนรถก่อนจะขับออกมาและพบกับรถมาเซราติที่คุ้นเคย
“ หมายเลขทะเบียน : 945ZB ปักกิ่ง?”
“นี่มันรถของประธานบริษัทบิลิบลิไม่ใช่หรอ? เขาก็มาที่นี่ด้วยหรอ?”
แต่เจียงเฉินก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเขาขับรถออกไปพร้อมกับหลินซีหลานทันที
แต่สิ่งที่เจียงเฉินไม่รู้ก็คือในรถมาเซราติคนนั้นคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างในก็คือ —
ซูเจียเหยา!!
ห้านาทีต่อมา
“หืม ทำไมรถคันนั้นถึงตามเรามา?”
เจียงเฉินสังเกตไปที่หลังรถของเขาและพบว่ารถมาเซราติทะเบียน [945ZB ปักกิ่ง] กำลังตามเขามา
ตอนแรกเขาก็คิดว่ามันอาจจะแค่บังเอิญแต่หลังจากนั้นเจียงเฉินก็ลองเลี้ยวที่สีแยกและรถคันนั้นก็ยังตามมาอยู่
เจียงเฉินรู้สึกงง
เขาโทรหาประธานบริษัทบิลิบลิทันที
“เถ้าแก่ซูครับ”
“สวัสดีครับคุณเจียง”
“คุณอยู่หลังรถผมหรอ ผมเห็นคุณตามมามาเกือบสิบนาที่แล้วนะ
“เอ่อ ตอนนี้ผมไม่ได้ขับรถนะครับ…”
“แล้วรถมาเซราติทะเบียน [945ZB ปักกิ่ง เป็นของคุณรึเปล่าครับ?”
“คุณเจียง นั่นเป็นรถของลูกชายของผมครับ วันนั้นรถของผมเสียก็เลยต้องขับรถของเขาไปแทน”
เจียงเฉินตกตะลึง
ถ้านี่ไม่ใช่ซูหมิงอี้แล้วรถข้างหลังจะตามเขามาทำไม?
หรือว่า
เจียงเฉินถาม “ลูกชายของคุณชื่ออะไรครับ?”
ซูหมิงอี้ “ลูกชายของผมชื่อซูเจียเหยาครับ”
เจียงเฉิน “…”
คนที่โอ้อวดในโรงพยาบาลก็คือลูกชายของซูหมิงอี้ซูเจียเหยา!
บังเอิญไปหน่อยไหม?
“คุณเจียง…”
ซูหมิงอี้ตระหนักได้ทันทีว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ ทำไมลูกชายของเขาต้องขับรถตามคุณเจียงตอนนี้ด้วย?
จากนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าลูกชายของเขาชอบไปเที่ยวกับกลุ่มอันธพาลตลอด!
และเขามั่นใจว่าลูกชายของเขากำลังพยายามหาเรื่องเจียงเฉินอย่างแน่นอน!
“บ้าเอ๊ย!”
ซูหมิงอี้ร้องไห้ออกมาในใจ
เขารีบพูดออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง “คุณเจียง เพราะลูกชายของผมไม่เคารพคุณ ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะครับคุณเจียง เดี๋ยวผมจะสั่งสอนลูกชายของผมเอง!”
วางสายโทรศัพท์
ซูหมิงอี้โทรหาลูกชายของเขาซูเจียเหยาอย่างรวดเร็ว
แต่ซูเจียเหยานั้นกำลังโทรศัพท์คุยกับลูกน้องของเขาอยู่ “ตอนนี้พวกนายถึงที่ไหนแล้ว โอ้ ยังเหลืออีก 1 กิโลเมตรใช้ไหม โอเค รีบมาล่ะ…ฉันรออยู่”
ซูหมิงอี้ร้องไห้ออกมาด้วยความกังวล
หลินซีหลานหันไปถามเจียงเฉิน “มีอะไรแปลกๆเกี่ยวกับรถคันข้างหลังหรอ?”
เจียงเฉินยิ้มก่อนจะเล่าออกมา
“อะไรนะ?”
หลินซีหลานขมวดคิ้วด้วยความโกรธทันที “เขากล้าขนาดนี้เลยหรอ เขาต้องการสร้างปัญหาให้เราจริงๆใช่ไหม?”
เจียงเฉิน “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเขสก็ถูกจัดการแล้ว”
เรื่องเล็กน้อยแบบนี้เจียงเฉินไม่ได้อยากจะใส่ใจเท่าไหร่
10 นาทีต่อมา…
ก็มีรถเข้ามาขวางทางรถออดี้ของเจียงเฉินเอาไว้ก่อนที่รถอีก 3 คันจะเข้ามาล้อมรถของเจียงเฉิน
ซูเจียเหยาลงมาจากรถพร้อมกับกลุ่มลูกน้องของเขา
ผู้คนกว่าหนึ่งโหลถือไม้และตะโกนใส่เจียงเฉิน
ซูเจียเหยาโบกไม้ในมือของเขาไปมาด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง ก่อนจะชี้ไปที่เจียงเฉินแล้วตะโกนออกมา
“ออกมา! หรือให้ฉันทุบรถของแก!”
“ออกมาเร็วๆ!”
“ไอ้คนจน! แกพูดเรื่องผู้ถือหุ้นบ้าอะไรของแก! แกมันก็แค่คนจนที่ขับรถออดี้!”
พวกอันธพาลตะโกนตามออกมา
“คนๆนี้โงไปหน่อยไหมเนี่ย? ฉันเองก็บอกกับเขาไปแล้วว่าฉันเป็นหัวหน้าหน่วยตำรวจอาชญากรรม ทำไมเขาถึงจำอะไรไม่ได้เลย?”
เมื่อหลินซีหลานเห็นซูเจียเหยาเธอก็มองเขาราวกับคนปัญญาอ่อน
นี่ไม่ใช่การเอาตัวเองมาอยู่หน้าปากกระบอกปืนรียังไง?
คิดหาความตายหรอ?
ตราบใดที่หลินซีหลานโทรเรียกหน่วยตำรวจอาชญากรรมของเธอมา คนกลุ่มนี้ก็จะถูกจัดการลงอย่างแน่นอน!
เธอไม่เข้าใจสมองของพวกเขาจริงๆ
“บางทีเขาอาจจะคิดว่าตำแหน่งของเธอเป็นของปลอมมั้ง?” เจียงเฉินอธิบายออกมาด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ถือโทรศัพท์อยู่ในมือเขาถ่ายวีดีโอของซูเจียเหยาและพวกอันธพาลก่อนจะส่งให้กับซูหมิงอี้
เขานั้นหยุดรถด้วยความตั้งใจของตัวเอง
ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ที่ราวกับสัตว์ร้ายใครมันจะไปหยุดรถคันนี้ได้กัน?
แค่ชนเบาๆก็ผ่านไปได้แล้ว!
แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของซูเจียเหยาก็จะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์และเจียงเฉินก็จะไม่รู้สึกสบายใจ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจหยุดรถและล่อให้ซูเจียเหยาเข้ามาจับเหยื่อจากนั้นก็เรียกให้พ่อของเขามาจัดการต่อ
แต่เจียงเฉินก็ไม่ได้ระดมพลตำรวจเข้ามาเสริมเพราะเขาคิดว่ามันจะทำให้เหตุการณ์นั้นบานปลายเกินไป
ซูหมิงอี้ตอบกลับมา “คุณเจียง ผมกำลังจะถึงในอีก 5 นาที!”
ในเวลานี้เองซูเจียเหยาที่เห็นว่าเจียงเฉินไม่ยอมลงจากรถก็เริ่มโกรธ!
“ไม่ลงจากรถใช่ไหม?!”
“ทุบมันเลย!”
“ทุบมันแรงๆ!!”
หลังจากนั้นคนก็พากันเข้าไปทุบรถ แต่สภาพของรถกลับยังดีอยู่แต่ไม้ที่พวกเขาอามาด้วยเริ่มหักกันไปทีละท่อน!
“บ้าจริง! นี่มันรถบ้าอะไรกัน?!”
พวกเขาเริ่มสาปแช่งด้วยความโกรธออกมาทีละคน
ผู้คนที่ผ่านไปมาก็พากันไปหาที่หลบและทำการถ่ายรูปและคลิปกันอย่างเมามันด้วยมือถือของพวกเขา
และในไม่ช้าซูหมิงอี้ก็มาถึง
แถมยัง….
นำตำรวจเข้ามาด้วย!
เพื่อความยุติธรรมต่อให้เป็นคนในสายเลือดก็พร้อมที่จะเชือดทิ้ง!
เจียงเฉินตกตะลึง!
ไร้ความปราณีจริงๆ!
ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไม่เรียกตำรวจ แต่เขากลับเรียกตำรวจมาด้วยตัวเองเลยงั้นหรอ?!
ซูเจียเหยาที่หันกลับไปก็เริ่มตกตะลึง “พ่อทำไมพ่อถึงมาที่นี่แล้วทำไมพ่อเอาตำรวจมาด้วย?…”
อะไรนะ!!!
เขาตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!
พ่อของเขาพาตำรวจมาทำไม?
ซูเจียเหยาตกตะลึงสมองของเขาว่าเปล่า!
ในเวลานี้เองเจียงเฉินกับหลินซีหลานก็ลงจากรถและตำรวจหลายคนที่เห็นต่างก็ตกใจและรีบเข้าไปล้อมพวกเขาทันที
“เจ้าหน้าที่เจียง! กัปตันหลิน!”
“ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่กันครับ?!”
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอครับ?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายเคารพเจียงเฉินและหลินซีหลานมากพวกเขาจะไม่เคารพหัวหน้าของทีมตำรวจอาชญากรรมได้ยังไงกัน?
เหล่าอันธพาลตัวน้อยที่ได้ยินก็เริ่มเปลี่ยนการแสดงออกกันทันที!
บ้าไปแล้ว! ที่พวกเขาเพิ่งทุบไปเมื่อกี้มันเป็นรถของตำรวจ?!
เจียงเฉินอธิบายออกมา “ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หลินกับฉันไปโรงพยาบาลมา แต่พอเราออกมาพวกเราก็ถูกชายคนนี้ตามมาตลอดทางแถมเขายังนำกลุ่มอันธพาลมาอีกและก็ทำการทุบรพของฉันด้วยไม้ ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะทำให้เรื่องมันใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นไหนๆพวกคุณก็มาแล้วดังนั้นก็จัดการไปตามนั้นเลยก็แล้วกัน”
“รถถูกทุบหรอ?”
หลินซีหลานมองหารอยบนรถ…
ตกตะลึง! ทำไมถึงไม่มีรอยเลย?!
ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่รถออดี้ของเธอถูกส่งให้เจียงเฉินมันเหมือนจะได้รับการดัดแปลงครั้งใหญ่!
ทั้งประสิทธิภาพ รูปลักษณ์ภายใน…ล้วนถูกยกระดับ!
กลายเป็นระดับไฮเอนด์!
สามีนี่นายทำอะไรกับรถออดี้ของฉันรึเปล่าเนี่ย?
นี่มันยังเป็นรถออดี้ของฉันคันเดิมอยู่ใช่ไหม?
(หลินซีหลาน(???): ถึงจะรู้ว่าเขาดัดแปลงมันมา แต่ฉันก็จะไม่พูดอะไรออกไปอยู่ดี)
หลินซีหลานบีบคางของเธอแกล้งทำเป็นครุ่นคิด!
ในเวลานี้เองซูหมิงอี้ก็เดินเข้ามาตบหน้าลูกชายของเขาซูเจียเหยา
“แก แก แกทำให้ฉันผิดหวังมาก! เจ้าหน้าที่เจียงทั้งหล่อ ทั้งใจดี แถมยังถ่อมตน แต่แกกลับไปอิจฉาความหล่อของเขาแถมยังจะสั่งสอนบทเรียนให้เขาอีก! แกกล้ามากจริงๆ!”
เกรี้ยวกราดมาก!
ซูเจียเหยา “???” เครื่องหมายคำถามขึ้นมาเต็มใบหน้าของเขา!
พระเจ้า! ทำไมวันนี้พ่อของฉันถึงดูแปลกไป?!
แถม เจียงเฉินนั้นก็ไม่ได้โทรหาตำรวจแล้วใครพาพวกเขามาที่
ในเวลานี้เองซูหมิงอี้หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ “สหายตำรวจนี่คือลูกชายของผม พวกคุณพาเขาไปเข้าคุกได้เลย! รบกวนช่วยสอนบทเรียนให้เขาด้วย!”
ซูเจียเหยาแข็งค้างกลายเป็นหินไปทันที!
เขารับความจริงไม่ได้!
พ่อนี่ผมลูกพ่อนะ!
พ่อสนิทกับพวกเขาไม่ใช่หรอช่วยคุยกับพวกเขาให้ผมหน่อยได้ไหม?!
เรื่องมันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!
ซูเจียเหยาพลิกโต๊ะ
หลังจากนั้น
ภายใต้ความชอบธรรมของซูหมิงอี้พลเมืองผู้มีจิตใจดี เหล่าอันธพาลที่ถูกนำมาโดยซูเจียเหยาก็ถูกนำตัวส่งไปยังสถานนีตำรวจ
พวกเขานั้นจะถูกจับเข้าคุกเป็นเวลา 15 วัน
เมื่อซูเจียเหยาถูกใส่กุญแจมือเขาก็หลั่งน้ำตาด้วยความสำนึกผิด
พ่อโหดร้ายมาก!
หลังจากวันนั้นเจียงเฉินก็กลับมาขับตี้ตี้ต่อ แต่เขาก็ยังไม่เจอลูกค้าคนไหนที่พิเศษเลย
วันที่ 5
เจียงเฉินได้รับโทรศัพท์จากทนายความ
พวกเขามาพบกันที่ คาเฟ่แห่งหนึ่ง
ทนายความนั่งลงและหยิบเอกสารออกมา “คุณเจียงครับ นี่คือพินัยกรรมของคุณเติ้งจิงเซียวครับ เขาเสียชีวิตเมื่อวานนี้และได้ทำการเขียนพินัยกรรมไว้ซึ่งคุณจะได้รับบ้านที่เขาอยู่อาศัยมากว่า 30 ปีและเงินอีก 12 ล้านครับ”
พูดจบเขาก็หยิบสมัดบัญชีออกมา
เจียงเฉินตกตะลึง
“ผู้อาวุโสเติ้งจิงเซียวเป็นใครหรอครับ?”
ทนายความอธิบายออกมา “คุณยังจำเหตุการณ์เมื่อ 5 วันก่อนได้ไหมครับ คุณได้ไปส่งชายชราคนหนึ่งที่โรงพยาบาลหยานจิงโดยที่ไม่ได้รับเงินแถมคุณยังให้เงินเขาสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกและตอนนั้นคุณก็ได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เขาพร้อมกับชื่อของคุณ
เจียงเฉินตกใจมาก “ผู้อาวุโสคนนั้นเสียชีวิตแล้วหรอครับ?”
ในวันนั้นเจียงเฉินยังรู้สึกอยู่เลยว่าสภาพจิตใจของผู้อาวุโสคนนี้ยังค่อนข้างดีอยู่และยังพูดได้เก่งมาก
ทนายความพยักหน้า “ใช่ครับ จากการชันสูตรเป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติครับ”
เจียงเฉินส่ายหัว “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแต่เขาไม่มีครอบครัวเลยหรอครับ? ทำไมเขาถึงได้ยกบ้านให้ผมกัน?”
ทนายความพูดอย่างใจเย็น “ดูเหมือนว่าลูกๆของเขาจะอยู่ต่างประเทศกันหมดครับและไม่มีญาติคอยดูแลก่อนที่จะเสียชีวิตด้วย แต่อย่างไรก็ตาม พยาบาลที่ดูแลเขาก่อนจะเสียชีวิตเองก็ได้รับห้องสวีทไปด้วยครับ…”
เจียงเฉินโบกมือของเขา
สำหรับเจียงเฉินแล้วบ้านหลังนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรแม้แต่น้อย แต่การสูญเสียชีวิตมันก็ทำให้เจียงเฉินรู้สึกเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย
และในเวลานี้เอง
[เติ้ง! เปิดกิจกรรมพิเศษ! ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ!]
[รางวัล : หุ้นของ [Byte Dance] จำนวน 64%]
[ระบบสัมผัสประสบการณ์ชีวิต 2 เจียงเฉิน : “…”]
พระเจ้า!!
เจียงเฉินไม่รู้แล้วว่าตัวเองควรจะเสียใจหรือดีใจดี?
เจียงเฉินเดินออกมาจากร้านคาเฟ
ในเวลานี้เองเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยวเสี่ยวที่โทรมาชวนเขาไปทานอาหารเย็น
ห้างจอยซิตี้
เมื่อพบหน้ากันเจียงเฉินก็พบว่าหน้าของซธิเสี่ยวเสี่ยวดูหดหู่เล็กน้อย
เจียงเฉินเข้าไปลูบหัวของเธอ “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมดูไม่มีความสุขล่ะ โดนรังแกในบริษัทหรอ?”
“เปล่า…”
ซูเสี่ยวเสี่ยวเม้มปากของเธอ “ฉันอยากจะไปงานฉลองส่งท้ายปีเก่าที่บิลิบิลิน่ะ…แต่น่าเสียดายที่ฉันซื้อตั๋วที่หน้างานไม่ทัน”
ซูเสียวเสี่ยวงอตัวนอนไปกับโต๊ะ
“หืม? บิลิบลิหรอ?”
เจียงเฉินสบายใจขึ้นมาทันที
หลังจากที่ไปช้อปปิ้งเสร็จเจียงเฉินก็ไปส่งซูเสี่ยวเสี่ยวกลับบ้านและในตอนที่เขาเพิ่งจะลงจากรถสายโทรศัพท์จากซูหมิงอี้ก็ดังขี้นมา
ซูหมิงอี้นั้นจะลืมเชิญคนใหญ่คนโตอย่างเจียงเฉินให้มาร่วมฉลอ งกับบิลิบิลิของเขาได้ยังไง?
ซูหมิงอี้ “คุณเจียง วันอาทิตย์นี้คุณว่างไหมครับ? ผมอยากจะเชิญคุณมารวมงานส่งท้ายปีเก่าที่บิลิบิลิสักหน่อย”
เจียงเฉินเงียบไปก่อนจะพูดออกมา “อืม….ตกลงครับช่วงนั้นผมว่างพอดี”
ซูหมิงอี้ดีใจมาก “คุณต้องการตัวกใบครับ…ผมจะได้ให้คนรีบนำไปส่งให้คุณทันที!”
“ไม่มากหรอกครับ”
เจียงเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ขอแค่สองก็พอแล้วครับ”
“ตกลงครับ ผมจะให้ลูกชายของผมไปส่งตัวให้คุณทันทีครับ” ซูหมิงอี้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคารพ
“อาการบาดเจ็บของลูกชายคุณเป็นยังไงบ้างครับ” เจียงเฉินถามออกมา
“ยี่สี่ เด็กคนนี้ทนมือทนเท้าอยู่แล้วครับคุณเจียงจะทุบตีเพิ่มก็ยัง ได้!” ซูหมิงอี้ยิ้ม
เมื่อวานซูหมิงอี้และภรรยาของเขาก็เดินทางไปที่เรือนจำและทุบตีซูเจียเหยากันอย่างดุเดือด
สภาพของเขานั้นดูน่าสงสารมาก
หลังจากที่เจียงเฉินได้รู้เรื่องนี้ เขาก็รู้สึกทนไม่ไหวแทน เลยโทรไปขอให้เรือนจำปล่อยตัวคนออกมาเพื่อทำการรักษาก่อน
เพราะหากมีคนที่มีสภาพแบบนั้นอยู่เรือนจำคงดูไม่ดีเท่าไหร่
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ซูเจียเหยาก็วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่บอบช้ำและเหนื่อยหอบก่อนจะส่งตัวสองใบให้เจียงเฉิน
ตั้งแต่ที่รู้ว่าเจียงเฉินนั้นเป็นตำรวจอาชญากรรมและถูกพ่อของเขาทุบตี ซูเจียเหยาก็กลายเป็นคนที่มีมารยาทดีขึ้นมากทันทีไม่เหมือนกับคนป่าเถื่อนคนก่อน เจียงเฉินไม่มีทางเลือกนอกจากถอนหายใจออกมา
ซูเจียเหยาที่มีใบหน้าบวมราวกับหมูก็พูดออกมาด้วยความเคารพ “คุณเจียง ตั๋วสองใบนี้เป็นตัวระดับ VIP สุดพิเศษที่นั่งถูกจัดอยู่ที่แถวหน้าสามารถมองเวทีได้อย่างชัดเจนครับ!”
เจียงเฉินพยักหน้าตั๋วสองใบนี้ไม่มีขายในตลาด ทั้งหมดล้วนแต่เป็นตัวพิเศษจากการเชิญหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว
“โอเค นายไปได้แล้ว”
เจียงเฉินโบกมือ
สามวันต่อมางานเลี้ยงส่งท้ายปีของบิลิปิลิก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เจียงเฉินขับรถพาซูเสี่ยวเสี่ยวไปงานด้วยระออดี้ดัดแปลงพิเศษของเขา
ระหว่างทางซูเสี่ยวเสี่ยวก็กระโดโลดเต้นไปมาอย่างตื่นเต้นราวกับกระต่ายตัวน้อยๆ
“เยี่ยมไปเลย! เยี่ยมไปเลย!”
เธอเข้ามาจูบเจียงเฉิน
เจียงเฉินหัวเราะออกมา “ถ้าเธอยังทำแบบนี้ต่อไปฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
ซูเสียวเสี่ยวหัวเราะออกมาก่อนจะกอดคอเจียงเฉินแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “สามี นายได้ทั่วทั้งสองใบมาได้ยังไงกัน? มันเป็นตัว VIP เชียวนะ! ฉันเคยหาในออนไลน์แล้วแต่ก็หาไม่ได้เลย!”
เจียงเฉินยิ้ม “ฉันบังเอิญรู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งก็เลยมีช่องทางซื้อตัวนี้มา”
“สามีนายน่าทึ่งจริงๆ!”
ซูเสียวเสียวขยับตัวและดวงตาที่สวยงามของเธอก็เป็นประกาย “ฉันอยากเข้าไปแล้ว!”
เจียงเฉินยิ้ม “เดี๋ยวเข้าไปถึงที่นั่งเธอจะยิ่งตกใจกว่านี้อีกนะ”
เข้าไปข้างใน
มันเป็นแบบที่เจียงเฉินพูดเอาไว้จริงๆ!
ซูเสี่ยวเสี่ยวเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง!
เหลือเชื่อ!
เนื่องจากตำแหน่งนี้เป็นที่นั่งสำหรับ Super VIP และยังเป็นที่นั่งที่อยู่ด้านหน้าสุด!
หากจะถามว่าที่นั่งไหนมีโอกาศได้สัมผัสกับดารามากที่สุดก็จะต้องเป็นตำแหน่งนี้นี่แหละ!
เหล่าดารานักแสดงก็จะสามารเห็นพื้นที่บริเวณนี้ได้อย่างชัดเจนด้วย!
และในเวลานี้เองช่างภาพมืออาชีพ)ก็เห็นเจียงเฉินที่กำลังสวมหน้ากากอยู่เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“หนุ่มหล่อคนนั้นไม่ใช่คนที่เดินผ่านมากแล้วก็บดขยี้ซงเซจิดาราจากประเทศเกาหลีจนเละใช้ไหม?!”
ในนามหญิงสาวที่ได้เข้าไปถ่ายรูปในวันนั้น เธอก็ต้องกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
พระเจ้า! เจอเขาอีกแล้ว!
ตั้งแต่วันที่เจียงเฉินนั้นบดขยี้ซงเซจิเธอนั้นก็ได้กลายมาเป็นแฟนตัวยงของเขามาโดยตลอด!
และเธอนั้นก็คอยอัพเดทรูปหล่อๆของเจียงเฉินที่เธอเคยได้ถ่ายเอาไว้ทุกๆวัน!
และจำนวนแฟนคลับที่เข้ามานั้นก็เพิ่มขึ้นหลายหมื่นคนในทุกๆ วันจนกระทั่งตอนนี้แฟนคลับนั้นก็มีว่า 800,000 คนแล้ว!
แต่น่าเสียดายมากเพราะรูปหล่อๆของเจียงเฉินที่เธอเคยถ่ายเอาไว้กำลังจะหมดไป!
เธอนั้นก็จะคอยวิ่งไปที่สนามบินทุกวันเพื่อลองเสี่ยงโชคดูว่าเธอนั้นจะได้พบกับเทพบุตรเจียงเฉินอีกหรือไม่ แต่น่าเสียดายตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอนั้นก็ไม่เจอเจียงเฉินอีกเลย
แต่สุดท้ายเธอกลับมาบังเอิญเจอเขาที่งานส่งท้ายปีเก่าของบิลิบ
ตาของเธอลุกเป็นไฟ!
ถ่ายรูปก่อน!
เธอยกกล้องขึ้นมาถ่ายโดยที่ไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย!
กล้องของเธอนั้นเป็นกล้องตัวละสามถึงสี่หมื่น!
ในฐานะที่เธอนั้นเป็นช่างถ่ายภาพมืออาชีพเธอนั้นก็จะต้องเลือดของที่มีคุณภาพมาใช้
หลังจากที่เธอถ่ายภาพเธอก็เช็ดน้ำลายที่มุมปกของเธอและจู่ๆ เธอนั้นก็คิดอยากจะโอ้อวด!
แค่ก แค่ก แค่ก ในที่สุดก็ได้เจอกับเทพบุตรฉันจะไม่โอ้อวดได้ยังไง?
จากนั้นเธอก็โพสต์ลงเว่ยป๋อ [ฉันโชคดีมากเลยได้เจอกับเทพบุตรที่งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าของบิลิบิลิด้วย]
หลังจากนั้น–
เธอก็โพสต์รูปหล่อๆ 3 รูปของเจียงเฉิน! [เจียงเฉิน.jpg]
เวลานี้
แฟนๆในเว่ยป๋อตกตะลึง!
สาวๆนับไม่ถ้วนออกมา!
“ที่ไหน?!”
“โอ้พระเจ้า ในที่สุดเทพบุตรรูปงานก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว”
“ฉันจะไป! ฉันจะไปหาเขา!”
“ไม่ได้แล้ว ฉันต้องรีบไปแล้ว!!”
“พิกัดไหน?! บอกฉันมาหน่อยถ้าบอกในนี้ไม่ได้ก็ส่งข้อความส่วนตัวมาหาฉันได้เลย”
เพียงไม่กี่นาทีแฟนๆนับหมื่นก็เข้ามาคอมเมนต์ ทำให้หญิงสาวนักถ่ายภาพมีความสุขมาก
หลังจากดูไปสักพักเธอก็อดไม่ได้ที่จะเปิดเผยสถานที่ออกมา
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่งานเลี้ยงส่งท้ายปีของบิลิบลิ ที่ถนนวงแหวนรอบที่สี่ทางเหนือ XXX.”
หลังจากที่ได้สถานที่กันมาแล้ว บรรดาแฟนๆในเมืองหลวงต่างขับรถไปที่งานเลี้ยงส่งท้ายปีของบิลิบิลิกันทันที
“เร็วกว่านี้”
“ไปเร็ว! บางทีพวกเราอาจจะไปทันเขา!”
“เหลืออีก 30 วิจะถึงสนามรบแล้ว!”
“น่าเสียดายที่ฉันซื้อตั๋วไม่ได้!”
“ไม่เป็นไร ถ้าเข้าไม่ได้ก็อยู่ข้างนอก! ยังไงเทพบุตรของพวกเราก็ต้องออกมาอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา แฟนๆหลายร้อยคนก็มารวมตัวกันที่นอกงาน
พวกเธอพากันถือโทรศัพท์มือถือและกล้องเอาไว้และเล็งกันไปที่ทางออกของงาน
สาวๆบางคนถือดอกไม้เอาไว้อย่างใจจดใจจ่อ
“พอเทพบุตรออกมา ห้ามใครแย่งเขาไปจากฉัน!”
“เทพบุตรเป็นของฉัน!”
“อย่ามาขวางฉัน!”
เห็นได้ชัดว่าเจียงเฉินยังอยู่ในงานและกลุ่มหญิงสาวก็พร้อมที่จะเข้าไปรุมจับเขาได้ทุกเวลา!
เจียงเฉินที่อยู่ในงานแต่อยู่ๆเขาก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมา