ตอนที่ 239 : ฉันไม่เคยเห็ยคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน!
เจียงเฉินคาดเดารายละเอียดได้ทันที
ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นลูกสาวของเติ้งจิงเซียว
ก่อนที่ชายชราจะเสียชีวติเธอนั้นไม่เคยปรากฏตัวออกมาให้เห็น แต่หลังจากที่ชายชราจากไป เธอก็กระโดดออกมาเพื่อมรดก แต่สุดท้ายกลับพบว่าพ่อของเธอได้บริจาคมรดกส่วนใหญ่ให้กับเจียงเฉินและพยาบาล!
นี่มันพล็อตเรื่องละครน้ําเน่าชัดๆ!
เจียงเฉินไม่อยากจะเสียเวลาของเขา
แต่สักพักผู้หญิงคนนั้นก็โทรกลับมาอีก
เจียงเฉินไม่รับและตัดสายทิ้ง
และไม่นานก็มีสายเข้ามาอีก
เจียงเฉินรับสายและครั้งนี้ก็เป็นเสียงของผู้ชายที่ฟังดูเหมือนจะกําลังคุกคามเขา
“คุณคือคุณเจียง คุณรู้รึเปล่าว่าคุณมีส่วนกับเหตุการณ์สําคัญ?”
“เหตุการณ์สําคัญ?”
เจียงเฉินรู้สึกตลก ชายหญิงคู่นี้คงจะไม่พ้นเป็นญาติกันล่ะมั้ง? พวกชอบทําตัวเจ้ากี้เจ้าการ และน่ารังเกียจ!
“มีอะไรมากรึเปล่า?
เจียงเฉินหยุดรถและพูดออกมาอย่างขี้เกียจ
ถ้าเขาไม่จบเรื่องนี้คนพวกนี้ก็คงจะเปลี่ยนเบอร์และโทรมาหาเขาตลอดเวลาและมั่นคงทําให้เขาต้องรําคาญมาก
“พ่อของผมโอนทรัพย์สินของเขาให้คุณไป!”
ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างเย็นชา “ผมก็เลยสงสัยว่าคุณหลอกลวงพ่อของผมหรืออาจจะเป็นฆาตกรฆ่าพ่อของผม แล้วปลอมหลักฐานขึ้นมาเพื่อเอาทรัพย์สินของเขาไป! ผมให้เวลาคุณสามวัน—”
“อีกสามวันเดี๋ยวไปหา”
เจียงเฉินวางสายและกดบล็อกเบอร์ไป
สําหรับคนง่เง่าแบบนี้เขานั้นขี้เกียจจะลงไปยุ่งด้วย
และการที่คนพวกนี้หาเขาเจอได้ พวกเขาก็คงจะไปหาทนายความของเติ้งจิงเซียวก่อนที่จะได้รับข่าวร้ายที่พ่อของพวกเขาได้มอบมรดกให้คนที่พวกเขาไม่แม้แต่จะรู้จัก!
และก็จะต้องเป็นทนายความที่นําพินัยกรรมที่ชายชราเขียนให้พวกเขาดูและรวมถึงเอกสารรับรองต่างๆ
หลังจากนั้นพวกนั้นก็เริ่มเข้ามาขู่เขา
ซึ่งนั่นก็หมายพวกเขานั้นไม่ยอมรับการตัดสินใจของพ่อตัวเอง
สําหรับพวกคนที่ปลุกไม่ตื่นแบบนี้เขาจะไปเสียเวลาด้วยทําไม?
เจียงเฉินยังคงขับตี้ตี้ต่อไป–
ไม่ว่าชายหญิงคู่นั้นจะโทรมาเบอร์ไหนเมื่อไหร่เจียงเฉินก็ทําการบล็อคเบอร์ไปทั้งหมด
หลังจากผ่านไปครึ่งวันพวกเขาก็หยุดไป
เจียงเฉินก็รู้สึกสงสัยว่าคนพวกนี้ยอมง่ายๆได้ยังไง?
และในเวลานี้เองก็มีสายเข้ามาอีกสายหนึ่ง
เป็นเสียงของหญิงสาวที่ฟังดูแล้วเหมือนจะกําลังเหนื่อยหน่าย
“คุณเจียงใช้ไหมคะ?”
“คุณคือ?”
“ฉันเป็นพยาบาลที่ดูแลคุณเติ้งจิงเซียวค่ะ ฉันเป็นคนที่ดูแลเขาจนวินาทีสุดท้ายของเขา ฉันชื่อเซินหยูถึงค่ะ”
เซินหยูถึงพูดอย่างประหม่า “และฉันก็เคยพบกับคุณมาก่อนด้วยค่ะ”
“โอ้”
เจียงเฉินจําได้ว่าตอนที่เขาไปส่งเพิ่งจิงเซียวที่โรงพยาบาล เขาเองก็ได้พบเซินหยู่ถึงเธอเป็นพยาบาลที่ดูกระตือรือร้น จริงจังและยังมีความรับผิดชอบมาก
ก่อนที่ผู้อาวุโสเต็งจิงเซียวจะเสียชีวิตเขายังมอบมรดกส่วนหนึ่งให้กับเซินหยู่ถึงคนนี้ด้วย
เห็นได้ชัดว่าเซินหยู่ถึงคนนี้ได้ดูแลเขาเป็นอย่างดีจนกระทั่งช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของเขา
“โอ้….สวัสดีครับ”
เจียงเฉินยิ้ม “มีอะไรผิดปกติหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ…”
เซินหยู่ถึงพูดออกมาพร้อมกับร้องไห้ “วันนี้ฉันไปทํางาน ฉันก็พบกับผู้ชายสองคนและผู้หญิงหนึ่งคนรวมกันเป็นสามคนโทรมาก่อกวนหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังตะโกนด่าทอใส่ฉันและอ้างว่า พวกเขาเป็นลูกชายและลูกสาวของเติ้งจิงเซียว พวกเขานั้นไปอยู่ที่ต่างประเทศมาก่อนที่จะได้ข่าวว่าผู้อาวุโสนั้นได้เสียชีวิตแล้ว พวกเขาจึงพากันกลับมาจัดงานศพและรับมรดก แต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสจะให้มรดกกับคุณแล้วก็ฉัน…”
เจียงเฉิน “”
เห็นได้ชัดว่าพยาบาลตัวน้อยคนนี้กําลังเผชิญกับสถานการณ์เดียวกับเจียงเฉิน!
แต่เพราะว่าเจียงเฉินนั้นมีความแข็งแกร่งของตัวเองดังนั้นเขาจึงกล้าบล็อกพวกเขา และด้วยการที่เขานั้นเป็นคนขับตีตี้คนพวกนั้นจึงหาเขาได้ไม่ง่ายเลย แต่นั้นไม่ใช่กลับเซินหยู่ถึงที่เป็นพยาบาลทํางานที่โรงพยาบาลที่พวกเขาสามารถยื่นมาเข้าไปก่อความวุ่นวายได้ง่ายๆ!
“ พวกเขาพูดว่าอะไรบ้างครับ?”
เจียงเฉินขมวดคิ้ว “การที่พวกเราได้รับมรดกจากผู้อาวุโสซึ่งเป็นเจตจํานงของเขาตามกฎหมาย มันก็สามารภพิสูจน์ได้แล้วว่าเขามอบให้พวกเราด้วยความสมัครใจ คนพวกนั้นจะมาเอะอะอะไรกับเราได้?”
เซินหยู่ถึงพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่กําลังร้องไห้ “ไม่ค่ะ พวกเขามาจริงๆ และพวกเขายังเกรี้ยวกราดมากด้วย คุณมาช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ ตอนนี้ฉันกลัวมากเลย–“
เมื่อได้ยินเสียงของเซินหยู่ถึงที่สั่นเทาและเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
และเจียงเฉินก็ยังได้ยินเสียงคนที่กําลังเอะอะโวยวายดังมาจากปลายสายก่อนจะตามด้วยเสียงของคนที่ถูกทุบตี!
มันจึงอดไม่ได้ที่จะทําให้เจียงเฉินรู้สึกโกรธ!
พวกคุณอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นปีๆแต่กลับไม่มีใครสนใจผู้อาวุโสที่กําลังจะเสียชีวิตแต่พวกคุณก็กลับมาเพียงเพราะมรดกของเขา
แถมยังทุบตีพยาบาลที่คอยดูแลเขาจนวินาทีสุดท้าย?
ที่ดี เป็นลูกที่กตัญญเสียจริงๆ!
เจียงเฉินเหยีบคันเร่งและตรงไปที่โรงพยาบาลทันที
แม้เซินหยู่ถึงจะไม่ได้บอกเขาว่าเธออยู่โรงพยาบาลไหน แต่เจียงเฉินก็พอที่จะเดาได้จากการที่เขาเคยไปส่งผู้อาวุโสไปที่โรงพยาบาล!
เขาจอดรถที่ริมถนนก่อนจะเดินเข้าไปในแผนกผู้ปวยของโรงพยาบาล
ตอนนี้ในแผนกผู้ปวยของโรงพยาบาลมีเสียงดังออกมา
ชายวัยกลางคนและหญิงใจร้ายกําลังล้อมพบาบาลสาวตัวน้อยเซินหยู่ถึงเอาไว้พวกเขาจับไปที่ใบหน้าของเซินหยู่ถึงแอละพูดดูถูกเธอ
“เธอหลอกพ่อของฉันใช่ไหม หม?! เธอพูดออกมาสิ! ต้องเป็นเธอแน่ๆ!”
“ยัยอัปลักษณ์!”
“ยัยโสเภณี รีบเอาบ้านกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”
แม้ว่าจะมีพยาบาลและรูปภ.อยู่ใกล้ๆ แต่พวกเขาก็ถูกคนปาเถื่อนเหล่านี้ขวางทางเอาไว้ไม่ให้เข้าไปใกล้
“หยุด!”
เจียงเฉินตะโกนออกมา
ผู้หญิงคนนั้นก็ปล่อยมือ
เซินหยู่ถึงก็ใช้โอกาศนี้วิ่งไปหาเจียงเฉิน
ใบหน้าของเธอถูกตีจนเลือดไหลออกมา
เจียงเฉินมองไปที่ใบหน้าของเซินหยู่ถึงด้วยดวงตาที่เย็นชา
ชายสองหญิงหนึ่งตอบสนองทันทีที่พวกเขาเห็นเจียงเฉิน
“แกคือเจียงเฉินใช่ไหม?!”
“เป็นแกที่ฆ่าพ่อของพวกเราแล้วขโมยบ้านของพวกเราไปใช่ไหม?!”
“บ้านสองหลังนั้นมีมูลค่ากว่า 10 ล้านแกกล้าดียังไงถึงได้มาเอามันไป?!”
“แกยังเป็นคนอยู่รึเปล่า?!”
ชายสองหญิงหนึ่งพูดออกมาอย่างฉะฉาน คนหนึ่งพูดออกมาอย่างหยาบคายคนหนึ่งก็พูดออกมาอย่างเฉียบแหลมพวกเขาต่างพูดราวกับนัดแนะกันมา!
ผู้หญิงชี้มาที่เจียงเฉินและพูดอย่างชั่วร้าย “แกกับยัยพยาบาลที่อยู่ข้างหลังจะต้องร่วมมือกันหลอกพ่อของฉันแน่ ไม่งั้นทั้งๆที่เขาก็มีลูกชายลูกสาวแต่ทําไมเขาถึงได้มอบทรัพย์สินมูลค่ากว่าสิบล้านให้กับพวกแก?!”
คนผู้ชายก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “ใช่แล้ว ฉันเป็นลูกชายคนโตของเขา ก่อนหน้านี้ฉันก็ได้คุยโทรศัพท์กับเขาและตอนนั้นเขายังไม่เป็นอะไรด้วยซ้ํา! การตายของเขามั่นไม่ปกติเลย! บางทีพวกแกอาจจะวางยาให้เขาตายก็เป็นได้!”
“พวกแกจะต้องฆ่าเขาแน่ๆ!”
ลูกชายคนรองพูดออกมาอย่างขมขึ้น “แม้แต่ลายเซ็นพ่อของฉันพวกแกก็ยังปลอมมัน! ยังไงซะ พวกเราก็อยู่กับเขามานานพวกเรารู้ดีว่านั่นไม่ใช่รายเซ็นของเขา!”
คนที่ฟังอยู่รอบๆและไม่ได้รู้ความจริงอะไรมาก่อนก็เริ่มพูดออกมา
“ใช่แล้ว มรดกมูลค่าสิบล้านแต่เขากลับไม่ให้ลูกของตัวเองแต่เขากลับมอบให้คนขับตีตี้กับพยาบาลได้ยังไง?”
“อันนี้ก็น่าสงสัยจริงๆ”
“บางทีอาจจะมีความลับซ่อนอยู่ก็ได้นะ”
“ฉันว่ามีบางอย่างผิดปกติ…”
“เฮอะ” เจียงเฉินเยาะเย้ยออกมา
สมแล้วที่กลับมาจากต่างประเทศ
การแสดงทําได้ดีจริงๆ ทั้งเจ้าเล่ห์และวางแผนมาเป็นอย่างดี!
คนจีนธรรมดาๆที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนจะรู้ตัวทันได้ยังไง?
เจียงเฉินพูดออกมา “พวกคุณกลับมาและเจอเขาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? ครั้งสุดท้ายที่พวกคุณเจอเขาคือเมื่อไหร่?”
ชายสองหญิงหนึ่งกลายเป็นใบ้ไปในทันที
เพราะว่า–
พวกเขาไม่ได้กลับมาหาพ่อของพวกเขาหลายปีแล้ว!
ครั้งนี้ตอนที่พวกเขาได้ยินว่าพ่อของตัวเองเสียแล้ว และมอบมรดกให้กับคนที่ไม่รู้จักสองคน พวกเขาก็เลยขึ้นเครื่องและกลับมาทันที
เจียงเฉินสามารถมองทุกอย่างออกได้อย่างชัดเจน!
ตอนที่เขาส่งผู้อาวุโสท่านนั้นไปที่โรงพยาบาลเขาดูมีความเหงาอย่างมากจากการที่เขาไม่มีลูกหลานคอยอยู่ด้วย เขาเล่าหลายๆเรื่องให้กับเจียงเฉินฟัง
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างสงบ “วันนั้นผมมาส่งผู้อาวุโสเต็งจิงเซียวที่โรงพยาบาล ตอนนั้นเขาเพิ่งจะล้มป่วยอย่างกระทันหันและตรงนั้นไม่มีลูกๆอยู่ข้างๆ เขาเลยแม้แต่คนเดียว! ผมพาเขามาโรงพยาบาลจ่ายเงินค่ารักษาให้เขา จ่ายค่าอาหารให้เขา! หลังจากนั้นผมก็ทิ้งเบอร์ติดต่อเอาไว้ให้เขา หากเขามีเหตุฉุกเฉินเขาจะได้ติดต่อผมได้ตลอดเวลา!”
พูดจบเจียงเฉินก็ชี้ไปที่เซินหยู่ถึง “พยาบาลคนนี้ที่พวกคุณทุบตี เธอเป็นคนที่ดูแลพ่อของพวกคุณจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตเขา!”
“แล้วพวกคุณที่เป็นลูกล่ะ?!”
“ระหว่างทางที่ผมพาเขามาที่โรงพยาบาลเขาก็เล่าให้ผมฟังว่าภรรยาของเขาจากไปก่อนวัยอันควร เขามีลูกอยู่สามคนและลูกของเขาทั้งสามคนก็ไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ เขานั้นอดทนต่อความยากลําบากเพื่อส่งเงินเลี้ยงดูพวกคุณเพื่อเรียนต่อในระดับปริญญาตรีและเก็บเงินซื้อบ้านให้พวกคุณ!”
“แต่หลังจากผ่านไปเกือบสามสิบปีพวกคุณก็ไม่เคยกลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว!”
“ก่อนวันปีใหม่เขาก็จะโทรหาพวกคุณทุกครั้ง แต่พวกคุณกลับบอกกับเขาว่าพวกคุณยุ่ง! และไม่มีเวลากลับมา!”
“ แถมยังเปลี่ยนเบอร์โดยที่ไม่บอกเขา!”
“ไม่ว่าเขาจะโทรไปกี่ครั้งพวกคุณก็จะบอกว่ากําลังยุ่งอยู่เสมอ!”
“พ่อของพวกคุณมีสุขภาพที่แย่ลงเรื่อยๆพวกคุณเคยคิดถึงเขาบ้างไหม?! กลับมาหาเขาสักครั้งไหม?! ไปกินข้าวกับเขาสักครั้งไหม?!”
ยิ่งเจียงเฉินพูดออกมาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น “พวกคุณไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว!
“พวกคุณทําเป็นว่าบนโลกใบนี้พวกคุณไม่มีพ่อ!”
“อากาษของต่างประเทศมันหอมหวานขนาดนั้นเลยหรอ?!”
“พวกคุณเป็นสุนัขเฝ้าบ้านอยู่ต่างประเทศหรอ?!”
“ก่อนที่พ่อของพวกคุณจะเสีย พวกคุณยังไม่กลับมาอยู่เคียงข้างเขาด้วยซ้ํา!”
“และเหตุผลที่เขาไม่ได้ให้มรดกพวกคุณมันก็อยู่พินัยกรรมของเขาแล้ว!”
“เพราะพวกคุณไม่กตัญญกับเขาเอง!”
เจียงเฉินหยิบสําเนาพินัยกรรมของชายชราออกมาซึ่งมันเป็นตัวที่ทนายได้ทิ้งเอาไว้ให้เขา!
บนกระดาษมีลายมือที่ชายชราเขียนด้วยมือที่สั่นเทา
ตัวหนังสือชุ่มไปด้วยน้ํา
มันเต็มไปด้วยน้ําตาของชายชราคนนั้น
“ชายชราคนนี้เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขารู้ว่าเวลาของตัวเองกําลังจะหมดลง ระหว่างที่เขาเขียนพินัยกรรมเขายังร้องไห้ออกมา!”
เจียงเฉินพูดออกมาด้วยเสียงต่ํา “เขาไม่เคยกลัวความตายของตัวเอง! แต่เขากลับรู้สึกเศร้าที่เขาไม่มีลูกๆที่กตัญญ! ผมอยากจะรู้จริงๆว่าพวกคุณต้องหน้าด้านถึงขนาดไหนถึงกล้ากลับมาเพื่อต่อสู้เพื่อมรดกจากเขา?!!”
คนรอบข้างที่ได้ยินแบบนั้นก็เปลี่ยนฝ่ายกันทันที พวกเขาจ้องมองไปที่ชายสองหญิงหนึ่งที่หน้าด้าน
“ไร้ยางอาย!”
“บอกว่าคนอื่นทําร้ายพ่อของตัวเองหรอ?! พวกนายนั่นแหละที่ทํา! เป็นสิบปีแต่ไม่เคยหวนกลับมาหาพ่อของตัวเองเลย!”
“ พวกนายต่างหากที่ฆ่าพ่อตัวเอง!”
เมื่อได้ยินความโกรธทีปะทุออกมาจากคนรอบๆ การแสดงออกของชายสองหญิงหนึ่งก็เปลี่ยนไปทันที
ผู้หญิงกัดฟันและพูดออกมา “พวกเราไม่ได้กลับมาก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราไม่กตัญญเสียหน่อย! ในประเทศที่พวกเราอยู่พวกเขาก็ไม่ได้เจอพ่อแม่ตัวเองบ่อยขนาดนั้น! หลังจากที่ลูกๆของพวกเขาออกไปทํางานพวกเขาก็จะออกจากบ้านของพ่อแม่อย่างสมบูรณ์! พวกเขาจะไม่ได้เจอหน้ากันจนกว่าจะถึงวันคริสต์มาส! หรือบางทีก็แค่โทรศัพท์หากันแค่นั้น!”
ชายอีกคนหนึ่งหยักหน้าและพูดออกมา “ถูกต้องแล้ว! พวกคุณนั้นแหละที่บ้าและยึดติดกับสิ่งเดิมๆ! กตัญญูแล้วยังไงช่วยชาติพัฒนาไหม?! นั่นแหละสาเหตุที่ว่าทําไมจีนถึงตามหลังสหรัฐ!”
ลูกชายคนที่สองก็พูดออกมา “ชีวิตของพวกเราอยู่สูงเกินไป พวกงี่เง่าในจีนไม่รู้หรอกว่าชีวิตของพวกเราที่นั้นเป็นยังไง?! ไม่รู้ว่าการมีอิสระเป็นยังไง เสรีภาพคืออะไร การปลดปล่อยมันเป็นยังไง!”
“การมีเสรีภาพหมายถึงการที่พวกคุณไม่ต้องการพ่อของพวกคุณแล้วงั้นหรอ?”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเย็นชา “เสรีภาพมันดีถึงขั้นทําให้พวกคุณยอมทําลายสิ่งที่พวกคุณควรจะทําเลยงั้นหรอ?”
“อย่ามาพูดไร้สาระนะ! ไอ้บ้ากาม! ไร้สมอง!”
ผู้หญิงยืนขึ้นออกมาก่อนจะดูถูก “แกยังไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์หรือจิตวิทยาเลยด้วยซ้ํามั้ง?! ฉันเป็นจิตแพทย์ที่จบมาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ต่อให้ฉันอธิบายสิ่งที่ฉันพูดออกมาแกก็คงไม่เข้าใจหรอกจริงไหม?!”
ลูกชายคนโตพูดออกมาอย่างหยิ่งยโส “ระดับความรู้ของพวกคุณมันต่ําเกินไปแถมจิตใจยังต่ําทราม คุณภาพของคนในประเทศถึงจุดที่น่าเป็นห่วง พวกคุณไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเราด้วยซ้ํา!”
ลูกชายคนเล็กก็พูดออกมา “นั่นสิ! คนไร้สมองพวกนี้จะไปรู้อะไร?! อากาศที่นั่นน่ะปลอดโปร่ง แถมยังหอมหวานอีกด้วย! คนที่มีแต่ความกตัญญน่ะไม่มีวันได้สัมผัสอะไรแบบนั้นหรอก ”
เจียงเฉินที่เจอแบบนี้ก็พูดไม่ออก
คนรอบๆก็เริ่มเข้าใจความคิดของสองชายหญิงหนึ่งขึ้นมาทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจแล้ว!”
“สุดท้ายก็แค่พวกหยิ่งยโส!”
“ในเมื่ออากาษของต่างประเทศมันหอมหวานขนาดนั้นจะกลับมาที่นี่ทําไมล่ะ?! จะแย่งชิงบ้านที่พ่อให้คนอื่นเขาไปทําไม? ทําไมไม่ปล่อยมันทิ้งไปล่ะ?”
พวกเขาบางคนเคยได้ยินเรื่องของเด็กที่ได้ไปเรียนต่างประเทศแล้วหลงไหลไปกับสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นจนพวกเขานั้นไม่เคยคิดที่จะติดต่อกลับมาหาคนข้างหลังตัวเองเลย หรือแม้แต่ตอนที่ผู้อาวุโสในบ้านของตัวเองป่วยก็ไม่มีความคิดที่จะกลับมาแม้แต่น้อย–
และพวกเขาจะกลับมาก็แค่ตอนที่ผู้อาวุโสของตัวเองป่วยและทรัพย์สินกําลังจะถูกแบ่ง พวกเขาก็จะวิ่งกันกลับมาอย่างกระตือรือร้นและหาข้ออ้างต่างๆนาๆมากดหัวคนอื่น
และประโยคที่พวกเขาจะใช้ประจําก็คือ “ฉันกลับมาจากต่างประเทศแล้วนี่คือสิ่งที่ฉันได้รับงั้นหรอ?”
ไม่เพียงแต่จะไร้ศีลธรรมแต่ยังมีปัญหาทางสมองอีก! และสิ่งที่ไม่อาจทนได้ก็คือการที่พวกเขาทําตัวเป็นคนชั้นสูงและโอ้อวดชีวิตของตัวเองในต่างประเทศชื่นชมแม้กระทั่งอากาศ
ท่ามกลางฝูงชนก็เริ่มมีการพูดคุยกัน
สําหรับชายสองหญิงหนึ่งพวกเขานั้นก็พากันชี้ใส่และส่ายหัว
หลังจากที่ถูกคนรอบข้างต่อว่า กลุ่มชายสองหญิงหนึ่งก็เริ่มโกรธขึ้นมาเช่นกัน
ดูเหมือนว่าพวกเขายกระดับจิตใจของตัวเองเอาไว้สูง ราวกับว่าพวกเขานั้นไม่ได้เติบโตขึ้นมาที่นี่!
ตอนนี้เจียงเฉินสามารถคาดเดาเรื่องได้ทั้งหมด เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะว่า พวกเขานั้นไม่ได้รับมรดกอะไรจากพ่อของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงมีใบหน้าที่น่าเกลียดและเต็มไปด้วยความโกรธจนทําลายศีลธรรมในใจของพวกเขาไปจนหมด!
“ประเทศจีนมีแต่คนจิตวิปริต!”
“หึหึ! ประเทศก็ล้าหลัง! แถมคนยังชอบสร้างปัญหา!”
“ขอบคุณจริงๆที่พวกเราได้ไปอยู่ต่างประเทศ พวกเราได้รับแต่สิ่งดีๆจากที่นั่น!”
“ประเทศไร้กฎหมาย! กฎหมายไร้ค่าจนใครก็ไม่รู้ก็สามารถชิงมรดกได้!”
ลูกสาวนั้นรู้สึกโกรธมากจนสุดท้าย
เธอก็วิ่งตรงไปหาเซินหยู่ถึงก่อนจะพยายามคว้าผมของเธอและทุบตีให้ตาย!
ส่วนลูกชายอีกสองก็วิ่งไปหาเจียงเฉินทันที
เกิดความโกลาหลขึ้นมาทันที!
ใครจะไปคิดว่าทั้งสามคนที่จะไม่ได้มรดกแล้วจริงๆจะกล้าลงมือขนาดนี้
“บัดซบ พวกเราไม่ใช่คนจีนอีกต่อไป พวกเราคือคนอเมริกัน!”
ใบหน้าของผู้หญิงดูน่าเกลียดเธอคว้าไปที่ใบหน้าของเซินหยู่ถึงที่กําลังส่งเสียงร้องออกมา “ตํารวจจีนก็จับพวกเราไม่ได้! ถ้าพวกเราจะทุบตีพวกแกใครจะสน?”
ชายสองคนก็เข้ามาหาเจียงเฉินอย่างดุร้าย “เราจะตีใครก็ได้ยังไงซะตํารวจก็ไม่กล้าจับพวกเราหรอก! เพราะพวกเรามาจากประเทศอเมริกา!”
คนรอบๆด่าทอออกมาทันที!
“เป็นคนจากประเทศเจ้าโลกมันสุดยอดนักรียังไง?!”
“ ต่อให้บอกว่าตัวเองเป็นอเมริกัน แต่พวกแกก็เปลี่ยนความจริงเรื่องชาติพันธ์ของพวกแกไม่ได้หรอก!”
“พวกแกมีสีเหลืองแต่กลับมีใจเป็นคนผิวขาว ไม่แปลกเลยว่าทําไมคนถึงเรียกพวกแกว่าหมาปาตาขาว!”
“โทรแจ้งตํารวจเลย! มาดูกันว่าตํารวจจะกล้าจับพวกมันไหม?!”
เจียงเฉินมองไปที่ชายทั้งสองคนในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา จนแทบกลายเป็นน้ําแข็ง!
ภาพดวงตาของผู้อาวุโสเต็งจิงเซียวที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความเหงาก็ผ่านเข้ามา
เขานั้นเลี้ยงลูกมาทั้งชีวิต แม้ว่าเขาจะแก่ตัวแต่เขาก็มีเงินเก็บไม่น้อย แต่กลับไม่มีลูกของเขาคนไหนเต็มใจที่จะยืนอยู่กับเขาและกตัญญต่อเขา!
จนสุดท้ายเขาก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและสิ้นหวัง จนทิ้งมรดกของตัวเองไว้กับเขาและเซินหยู่ ถึงที่เป็นคนแปลกหน้าก่อนจะจากไปอย่างโดดเดี่ยว
บางคนแม้จะดูมีชีวิตอยู่แต่ความจริงกลับไม่ได้ต่างอะไรกับคนตาย….
หัวในของเติ้งจิงเชียวคนนี้ได้ตายจากไปนานแล้ว
และคนที่ฆ่าเผึ้งจิงเชียวนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพวกเขา ทั้งสามคนเป็นลูกชายและลูกสาวที่จบการศึกษาจากต่างประเทศ แต่พวกเขากลับประกาศว่าตัวเองไม่ใช่คนจีนและยังดูถูกคนจีนว่าเป็นคนชั้นต่ํา!
แม้จะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเกิดและโตที่นี่ แต่หลังจากที่พวกเขาได้ไปต่างประเทศพวกเขากลับกลายเป็นคนที่รังเกลียดคนจีนและยังรู้สึกอับอายที่เป็นคนจีน แต่กลับรู้สึกดีที่ได้เป็นคนของประเทศเจ้าโลก!
คนอื่นอาจจะทนได้ แต่เจียงเฉินคนหนึ่งที่ไม่ยอมทน!
ชก!!
หมักแรกผ่านไป! หันไปต่อยอีกหมัด!
เจียงเฉินน็อคฝั่งตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย!
ชายทั้งสองคนคนหนึ่งนอนอยู่ทางซ้านคนหนึ่งนอนอยู่ทางขวา พวกเขาถูกเจียงเฉินทุบตีจนเลือดกําเดาพุ่งออกมา
“ฉันจะสอนบทเรียนแทนพ่อของพวกนายเอง!”
“ฉันจะให้พวกนายได้รู้ถึงคําว่ายุติธรรมที่แท้จริง!”
ตอนนี้เจียงเฉินนั้นมีร่างกายที่ไม่ได้ต่าอะไรจากหน่วยรบพิเศษเลย และเขาก็มีวินัยมากเพราะเขานั้นจะฝึกฝนเป็นพิเศษเป็นเวลาสองชั่วโมงทุกๆวัน!
ความแข็งแกร่งของเขาจึงปรากฏออกมานานแล้ว
ดังนั้นสําหรับการจัดการผู้ชายสองคนนี้ถือว่าง่ายมาก! สําหรับเจียงเฉินแล้วนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเป็นคนลงมือกับคนจริงๆ!
ถ้าไม่ใช่เพราะการตายของผู้อาวุโสเพิ่งจิงเซียวที่ทําให้เจียงเฉินรู้สึกสงสารเขาคงไม่ลงมือเองง่ายๆแบบนี้แน่!
แต่ตอนนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะโกรธ!
“แกกล้าดียังไงถึงมาทุบตีพวกเรา?!”
ผู้หญิงกร็ดออกมา!
เจียงเฉินกระชากผมของเธอก่อนจะกดหัวเธอลงกับพื้นโดยไม่พูดอะไรสักคํา แต่เขากลับหันหน้าไปพูดกับเงินหยู่ถึง “ใบหน้าของเธอถูกข่วนนะ! เธอน่าจะเอาคืนสักหน่อย!”
บนใบหน้าของเซินหยู่ถึงเต็มไปด้วยเลือด
เซินหยู่ถึงที่เดิมที่เป็นคนขี้ขลาดแต่เธอนั้นก็ยังพยายามรวมรวมความกล้าก่อนจะตบใบหน้าของหญิงตรงหน้าของเธอ!
เพี้ยะ!
ผู้หญิงคร่ําครวญออกมา “ฉันเป็นพลเมืองของสหรัญอเมริกานะ! พวกแกคนจีนชั้นต่ํา! พวกแกกล้าตบหน้าฉันงั้นหรอ?! ฉันจะไปสถานฑูต ฉันจะประท้วง! ฉันจะแจ้งตํารวจ—
“ไม่ต้องแจ้งตําราจหรอก เพราะตํารวจอยู่ที่นี่แล้ง!”
มีเสียงดังออกมา
เจ้าหน้าที่ตํารวจหลายนายเดินเข้ามาจุดเกิดเหตุ