ตอนที่ 240 : ทรัพย์สินของเจียงเฉินทะลุสี่แสนล้านแล้ว!
……
เจียงเฉินหันไปมอง
หลินซีหลานนําทีมตํารวจเดินเข้ามา
เมื่อเธอเห็นเจียงเฉินสายตาของเธอก็ดูอ่อนโยนลงทันที
เธอเข้าไปหาเจียงเฉินแล้วถามออกมา “เจียงเฉิน มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
เจียงเฉินอธิบายออกมาสั้นๆ
“อะไรนะ?!”
หลินซีหลานที่ได้ฟังเรื่องที่เหล่าลูกชายและลูกสาวทั้งสามคนทําตัวอกตัญญก่อนที่พ่อของพวกเขาจะเสียชีวิต และหลังจากที่พ่อของพวกเขาเสียชีวิต พวกเขาก็รีบวิ่งกลับมาเพื่อรับมรดกแต่เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังทําตัวโอ้อวดอีก!
หลินซีหลานและตํารวจคนอื่นๆเดินเข้าไปหาทั้งสามคนทันที
ทั้งสามก็ยังคงตะโกนออกมา “พวกคุณคือตํารวจใช้ไหม? สองคนนั้นทุบตีพวกเรา พวกคุณต้องจับเขาเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงจนพวกคุณรับไม่ได้แน่!”
หลินซีหลานพูดออกมาอย่างเย็นชา “จะคนจีนหรือคนประเทศไหน เมื่ออยู่บนแผ่นดินจีนก็ต้องใช้กฎหมายจีนเท่านั้น! เพราะนั่นคือกฎหมายของประเทศเรา! ต่อให้พวกคุณมาจากประเทศมหาอํานาจพวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์ทํารัยคนอื่นก่อน!”
ผู้หญิงกรีดร้องออกมา “แม้ว่าพวกเขาจะทุบตีฉันก่อนน่ะหรอ?”
“ไม่ใช่!”
กลุ่มคนที่ยืนดูอยู่ก็ออกมาให้การ “ผู้หญิงคนนี้เป็นฝ่ายไปทุบตีนางพยาบาลก่อน! หลังจากนั้นทั้งสามก็ยังพยายามเข้ามาทุบตีน้องชายคนนี้ด้วย! แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายโดนน้องชายทุบตีแทน!”
“ได้ยินแล้วใช่ไหม”
หลินซีหลานพูดออกมาด้วยน้ําเสียงเย็นชา “พวกเขาไม่ได้ทําอะไรพวกคุณก่อนเลย แต่เป็นคุณที่เข้าไปทําร้ายพวกเขาก่อน!”
“ไม่พวกคุณนั่นแหละที่ไม่เข้าใจ!”
ผู้หญิงพูดออกมา “ประเทศของพวกเรามีกฎหมายคุ้มครองอยู่ ถ้าใครก็ตามรู้สึกว่าตัวเองกําลังดูถูก ก็จะสามารถโจมตีคนอื่นก่อนได้ ”
ใบหน้าสวยของหลินซีหลานเต็มไปด้วยความโกรธ “ที่นี่คือแผ่นดินจีน ไม่ใช่แผ่นดินของพวกคุณ คุณคิดจริงๆหรอว่าพวกคุณมีอํานาจมากขนาดนั้น?”
“เอาเถอะ ยังไงซะเรื่องนี้ก็เป็นฝ่ายคุณที่ผิด!”
หลินซีหลานพูดกับทั้งสาม “พวกคุณก่อเรื่องทะเลาะวิวาทและก่อให้เกิดปัญหา ตามกฎหมายแล้ว พวกคุณจะต้องถูกจับเป็นเวลา 5 วัน!”
“อะไรนะ พวกนายแกกล้า?!”
ผู้หญิงกรีดร้องออกมา
หลินซีหลานกลอกตาและพูดออกมาด้วยความรังเกียจ “พวกคุณคิดว่าการที่พวกคุณไม่ใช่คนจีนอีกต่อไปแล้วมันจะทําให้พวกคุณยิ่งใหญ่กว่าคนจีนงั้นหรอ? เลิกฝันได้แล้ว!”
“เอาตัวไป!”
หลินซีหลานโบกมืออย่างเย็นชา!
ตํารวจอาชญากรรมสามคนเดินเข้าไปก่อนจะใส่กุญแจมือ
“พวกคุณจะถูกจับกุมเป็นเวลา 5 วัน!”
ทั้งสามถูกใส่กุญแจมือและนําตัวออกไป
“เดี๋ยวก่อนสิ! ปล่อยฉัน!”
ผู้หญิงหันกลับมามองไปที่เจียงเฉิน “ฉันจะให้อํานาจของฉันจัดการแกแน่! ฉันจะทําให้แกต้องอับอาย! เรื่องสื่อสังคมพวกเราเก่งที่สุด แกรอฉันได้เลย!”
เจียงเฉินยักไหล่
คนแบบนี้เขาจําเป็นต้องกลัวด้วยหรอ?
พวกคุณมีอะไรเทียบกับฉันได้บ้าง?
…..
…..
5 วันต่อมา
ในที่สุดทั้งสามก็ได้ออกมาจากคุก
อับอายมาก!
ผู้หญิงกัดฟันด้วยความโกรธจนอยากจะฆ่าเจียงเฉินให้ตาย
“เจียงเฉิน ฉันจะแก้แค้นแกแน่!”
“แต่จะแก้แคนยังไงดี?”
พี่ชายคนโตพูดออกมาอย่างท้อแท้
“ฉันรู้จักคนใหญ่คนโตอยู่! พวกเราเป็นคนใหญ่คนโตและพวกเขาจะต้องยอมช่วยเราแน่!”
หญิงสาวเยาะเย้ยออกมา “พวกคนใหญ่คนโตพวกนั้นมักจะชอบเรื่องคนดังกับเรื่องสิทธิมนุษยชนทุกวัน ถ้าพวกเขาได้ยินว่าเพื่อนร่วมชาติของพวกเขาถูกทําร้ายในประเทศจีน พวกเขาจะต้องสนับสนุนเราแน่ และถ้าพวกเราทําให้เรื่องนี้ดังมากพอบางที่ศาลอาจจะยกมรดกกลับมาให้พวกเราก็ได้!”
“ฉลากมาก!”
ดวงตาของชายทั้งสองเป็นประกาย
คนทั้งสามต่างก็ได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศสหรัฐอเมริกาดังนั้น ระดับความคิดของพวกเขาจึงไม่เลวเลย พวกเขาเริ่มติดต่อกับเหล่าคนใหญ่คนโตและเล่าเรื่องออกไปพร้อมกับเติมแต่งเข้าไปด้วย
เมื่อพวกเขาพูดออกไปเหล่าคนใหญ่คนโตต่างก็โมโหขึ้นมาทันที
พวกเขาเริ่มทําการต่อว่าผ่านเว่ยป๋อกันทันที
แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้โง่จนถึงขั้นเอาเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย พวกเขาเพียงแต่บอกว่าเจียงเฉินและพยาบาลเซินหยู่ถึงสมคบคิดกันฆ่าชายชราและยึดทรัพย์สินของเขาในเมืองหลวง
หลังจากนั้นพวกเขาก็ใช้เงินเพื่อทําการปั่นกระแสเรื่องนี้ออกไป
และในไม่ช้าข้อความหัวข้อนี้ก็โผล่ออกมาเป็นจํานวนมากบนโลกอินเทอร์เน็ต
[ตกตะลึง! ชายวัย 80 ปีถูกฆ่าชิงทรัพย์และฆาตกรก็คือพยาบาลในโรงพยาบาล]
[ความจริงเบื้องหลังการเสียชีวิตของชายชราคืออะไรกันแน่?]
[ลูกชายคนรองตกตะลึงหลังจากได้ยินข่าวร้ายและกลับมาที่จีนเพราะพ่อของเขาไม่เพียงเสียชีวิตแต่บ้านยังถูกยึด! หลังจากนั้น…]
[…]
ในเวลาเพียงไม่นานหัวข้อแบบนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต
….
….
ในเวลานี้เจียงเฉินก็กําลังนั่งดูข้อมูลของบริษัท [ByteDance] ที่เขาเพิ่งจะได้รับมาเป็นรางวัล
ในตอนแรกเจียงเฉินนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนักกับรางวัลของระบบชิ้นนี้
แต่!
หลังจากที่เขาตรวจสอบข้อมูลแล้วความแข็งแกร่งของบริษัท [ByteDace] ก็ทําให้เขาต้องตกตะลึง!
บริษัท ByteDance นั้นไม่ต่างจากดาวรุ่งของอินเทอร์เน็ตจีน
นี่เป็นสถานที่ๆคนธรรมดาทั่วไปจํานวนมากทํางานในฐานะนักเขียนและเผยแพร่ข่าว! ปริมารของข่าวสารที่ออกจากที่นี่ต่อวันมีมากถึงหลักแสนถึงหลักล้านข่าว! และแน่นอนว่าดเวยปริมาณ ขนาดนี้ก็ย่อมต้องดึงดูดคนได้อย่างมหาศาล!
ด้วยปริมาณของผู้เสพข่าวที่มากการจะเขียนข่าวให้คนได้อ่านก็สามารถลดความลําบากได้ไม่น้อยเลย
นอกจากนี้บริษัทนี้ยังมีระบบอัลกอริธึมที่ทําการคัดกรองข่าวที่ผู้ใช้สนใจและผลักดันออกมาได้อย่างแม่นยํา!
หลังจากก่อตั้งมาไม่ถึงปีมันก็สามารถไต่เต้าขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการสื่อ!
ทั้งยังเพิ่มฟังก์ชั่นวีดีโอสั้นๆเข้าไป ระบบการสั่นแจ้งเตือน ฯลฯ และยังมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับ การเงินประกันภัย และการต่างประเทศ
เนื่องจากการรับและการส่งข้อมูลมหาศาลมันจึงเป็นดั่งราชาแห่งยุคของอินเทอร์เน็ต
ราคามูลค่าในตลอดของมันเท่าไหร่น่ะหรอ?
กว่าเจ็ดหมื่นห้าพันล้าน!
และหน่วยก็เป็นดอลลาร์ไม่ใช่หยวน!
และนอกจากนี้รายได้ของครึ่งปีแรกของ Byte Dance นั้นมีมากถึงเจ็ดหมื่นล้านหยวนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 280%!
สิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไรน่ะหรอ?
มันบ่งบอกถึงสภาพทางการเงินที่ดีของบริษัท!
มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากจากอุตสาหรรมอินเทอร์เน็ต
ถ้าหากเปิดเผยเรื่องนี้ออกสาสาธารณธเมื่อไหร่มูลค่าของมันจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน!
และตอนนี้เจียงเฉินถือหุ้นของ [ByteDance] อยู่ที่ 64%!
แม้ว่าบริษัทจะจัดการระดมทุนไปแล้วถึงสามรอบทําให้หุ้นถูกกระจายออกไปมากมาย แต่ระบบกลับรวบรวมมันมาให้เจียงเฉินได้ถึง 64%!
นี่เป็นครั้งแรกที่ทําให้เจียงเฉินนั้นต้องเงียบไปถึงสองวินาที
วินาทีถัดมาเจียงเฉินก็ต้องเต็มไปด้วยความสุข!
ถ้าตามราคาของหุ้นทั้งหมดที่เจ็ดหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์ดังนั้นหุ้น 64% มันก็จะเท่ากับ
เงินหยวนกว่าสามแสนสามหมื่นล้านหยวน!
นี่มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่เขาเคยได้รับมา
ถ้าก่อนหน้านี้การจะเรียกเจียงเฉินว่าเศรษฐีแสนล้านมันอาจจะยังคลุมเคลืออยู่เล็กน้อยๆ
แต่ตอนนี้มันไม่อีกแล้ว!
เขานั้นได้กลายเป็นมหาเศรษฐีสี่แสนล้านแล้ว
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“นี่ฉันเป็นเศรษฐีสี่แสนล้านแล้วหรอ?”
….
….
บริษัท Byte Dance กรุ๊ป
ในเวลานี้เองประธานจางเต็มไปด้วยความปวดหัว
เขาเพิ่งจะพบว่าตัวเองนั้นหลุดจากตําแหน่งผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสอง
เนื่องจากเขานั้นเพิ่งจะได้ข่าวว่าเจียงเฉินได้ทําการซื้อหุ้น 64% จากการระดมทุนรอบที่หนึ่งสองและสามซึ่งมันมากกว่าหุ้นของเขาที่มีเพียง 21%!
หรือกล่าวอีกอย่างก็คือเขานั้นกลายเป็นลูกจ้างแทนไปแล้ว
นี่มันหุ้นที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านเลยนะ!
คุณเจียงมีเงินซื้อหุ้นมากขนาดนี้ในครั้งเดียวได้ยังไงกัน แต่อย่างไรก็ตามนี้มันก็มากเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้ว่าทรัพยากรทางการเงินของคุณเจียงคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน!
“คิดไม่ถึงเลยว่าฉันที่เพิ่งจะเจอกับเขาไปที่งานนิทรรศการเครื่องประดับจะกลายมาเป็นเจ้านายของฉันแล้ว”
จางเป่ยยิ้มอย่างขมขื่น
ชีวิตมันน่าอัศจรรย์จริงๆ
ในเวลานี้เองผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการหัวข้อข่าวก็เข้ามารายงานอะไรบางอย่างกับเขา
“เจ้านายครับ มีข่าวร้อนที่เพิ่งปรากฏบนอินเทอร์เน็ต เป็นชายวัยแปดสิบปีที่เสียชีวิตอย่างลึกลับ ไม่เท่านั้นเขานั้นก็ไม่ได้ยกมรดกให้กับลูกชายและลูกสาวของเขาแต่กลับยกมรดกที่มีมูลค่ากว่าสิบล้านของเขาให้กับ คนนอกสองคน… และตอนนี้บนเว่ยป๋อมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เต็มไปหมด ดังนั้นผมคิดว่าข่าวนี้เป็นข่าวที่น่าสนใจมากพอที่จะให้เราลงไปทํางานครับ”
จางเป่ยแปลกใจ
มีเรื่องแปลกๆแบบนี้ด้วยหรอ?
ยังไงก็ตาม หัวข้อข่าวแบบนี้ควรจะตามให้ไวดีกว่า
จางเป่ย “ในเมื่อมันเป็นข่าวร้อนน่าสนใจก็ จัดข่าวนี้ผลักดันไปให้ผู้ใช้ของเราอ่านก็แล้วกัน…”
“ครับ!” ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการออกไป
จางเป่ยคลิกไปที่เว่ยป๋อด้วยความวงวัยก่อนเขาจะเห็น แฮชแท็กร้อนขึ้นมา #ผู้อาวุโสเสียชีวิตแต่มรดกนับสิบล้านกลับเป็นของคนนอก!
เขาคลิกเข้าไปดู
ในเนื้อหามีข่าวเขียนอยู่คร่าวๆ “ชายชราคนหนึ่งเสียชีวิตแต่หลังจากที่ลูกชายและลูกสาวกลับมาจากต่างประเทศก็พบว่าทรัพย์สินมรดกกลับถูกมอบให้คนขับตีตี้และพยาบาล จนเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าเป็นไปได้ไหมที่คนขับติ์ตี้และพยาบาลสมคบคิดกันฆ่าชายชราและฝึกทรัพย์สินไป?!”
เมื่องจางเป่ยได้เห็นข่าวเขาก็ต้องรู้สึกโกรธขึ้นมา
“ฆ่าคนอายุแปดสิบปี?”
และนอกจากนี้ในข่าวก็ยังมีการแนบรูปภาพน่าเศร้าของลูกชายและลูกสาวที่กําลังร้องไห้พร้อมกับดวงตาที่เย็นชาของเจียงเฉินและพยาบาล
หลังจากที่จางเป่ยได้เห็นคนที่ในข่าวระบุว่าเป็น “ฆาตกร” เขาก็ต้องตกตะลึง
อะไรกัน?!
นี่ไม่ใช่เจ้านายของฉันหรอ?
หลังจากที่เห็นเจียงเฉินอยู่ในภาพจางเป่ยก็สามารถยืนยันได้ทันทีว่าข่าวนี้เป็นข่าวปลอม!
ฆาตกรรมบ้าอะไร?!
เจ้านายเป็นคนใหญ่คนโตมีทรัพย์สินเป็นแสนล้าน เขาจะฆ่าคนตายเพื่อบ้านหลังละสิบล้านไป ทําไม?
เรื่องตลกชัดๆ!
เขาเข้าไปดูที่ความคิดเห็น
มีการประณามด่าทออยู่มากมาย
“บัดซบ บนโลกนี้มีคนชั่วอย่างนี้ได้ยังไง?!”
“โรงพยาบาลยอมให้มีพยาบาลชั่วๆแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
“ทําไมตํารวจถึงยังไม่รู้เรื่อง?!”
แต่ก็ยังมีคนจํานวนหนึ่งที่สงสัย
“พวกคุณไม่เห็นอะไรแปลกๆเลยหรอ ทําไมลูกชายและลูกสาวถึงต้องกลับมาหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วด้วย? ความแตกต่างของเวลาแบบนี้มันสมเหตุสมผลแล้วหรอ?”
ไม่นานก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นต่อ “มีอะไรไม่สมเหตุสมผล?”
“คนชราแต่ไร้ลูกหลารก็มีเห็นได้ทั่วไปในประเทศจีน”
หลังจากนั้นก็มีความคิดเห็นเข้ามาเรื่อยๆ
“อา….นี่มันเทพบุตรของฉันไม่ใช่หรอ?”
“เทพบุตรของฉันหลอกคน? แถมยังเป็นฆาตกร?”
“ฉันไม่เชื่อ มันจะต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่! พระเจ้า! ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่าเขาจะทําแบบนั้น!”
“มีความเป็นไปได้อีกอย่างก็คือ ชายชรารู้สึกว่าลูกชายและลูกสาวของเขานั้นไม่เอาไหน ก็เลยไม่อยากมอบบ้านให้พวกเขาและหันไปมอบให้คนอื่นแทนนั่นก็คือเทพบุตรของพวกเรา!!”
เหล่าแฟนๆของเจียงเฉินเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างน่าประทับใจ
ความคิดเห็นสุดท้ายตรงใจจางเปยมากๆและเขาคิดว่านี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ!
แต่ต่อไปเขาจะต้องทํายังไง?
แล้วฉันจะคิดหาตัวเลือกไปทําไม?
สู้เพื่อเจ้านายใหม่ของตัวเองดีกว่า!
ฉันจะต้องยึดมั่นในตัวตนของเจ้านายของฉันและหยัดยืนต่อสู้กับศัตรู!
จางเป่ยโทรหาผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ “ฉันเจอจุดสําคัญของข่าวที่นายเพิ่งจะเอามารายงานฉัน ตอนนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว!!”
ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ “???”
เสียงของจางเป่ยเต็มไปด้วยความจริงจัง “สําหรับเรื่องนี้ฉันคิดว่า : ลูกชายและลูกสาวทั้งสามคนนั้นไม่ใช่คนดี ความตายจากการแก่ชราเป็นเรื่องปกติ และบางทีการมอบบ้านให้คนอื่นก็อาจจะเพราะว่าเขาชอบในความหล่อเหลา สุภาพและใจดีของชายคนนั้นก็ได้
ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ “…”
มีอะไรผิดปกติกับเจ้านายกัน?
ทําไมอยู่ๆเขาถึงยืนอยู่ข้าง ฆาตกร คนนั้น?
แถมยังชมเชยเขาอีก?
ไม่สิมันไม่ใช่การชมแล้วมันแทบจะกลายเป็นการเยินยอแล้ว!
มันจะต้องมีอะไรแปลกๆแน่ๆ!
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที!
“หรือว่าจะ…”
“ชายหนุ่มคนนั้นมีสถานะพิเศษ ที่แม้แต่เจ้านายก็ยังต้องก้มหัวให้?”
หลังจากระดมสมองของเขามาคิด ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการก็เหมือนจะได้ข้อสรุป!
ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการพูดออกมาทันที “ฮ่าฮ่าฮ่า— เจ้านายเป็นคนฉลากอยู่แล้ว หลังจากที่เจ้านายพูดออกมาผมก็รู้สึกขึ้นมาทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นทั้งสง่าทั้งหล่อเหล่าทั้งมีมารยาทที่ดีด้วย ส่วนพยาบาลก็…”
จางเป่ยตกตะลึง
ผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการที่มีคิวหนาตาโตกลับประจบออกมาแบบไม่คาดคิด!
“เจ้านาย ผมมีวิธีการทําให้เรื่องทั้งหมดไปในทางที่มันควรจะไป!”
“โอเค งั้นลงมือเลย!”
…..
ด้วยความแข็งแกร่งของบริษัท หลังจากที่พวกเขาลงมือไปไม่นานความจริงก็ถูกขุดขึ้นมา!
จากนั้นหัวข้อข่าวของวันนี้ก็เปลี่ยนไป!
ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง บทความนับพันที่สนับสนุนเจียงเฉินและพยาบาลก็กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต!
[คืนความยุติธรรม! พวกลูกชายลูกสาวทั้งสามคนนั้นไม่ได้กลับมาประเทศจีนเป็นสิบปีแล้ว! แถมชายชราคนนั้นก็ต้องสิ้นใจไปด้วยความสิ้นหวัง]
[โลกที่ช่างสมบูรณ์แบบและสวยงาม น้องชายคนขับติ์ตี้และพยายาลได้รับมรดกจากผู้อาวุโสท่านหนึ่งกว่าสิบล้านหยวน!]
[ตกตะลึง! พวกลูกชายและลูกสาวทั้งสามคนเป็นพวกอกตัญญเป็นพวกผิวเหลืองแต่หัวใจขาว!]
[ทําไมชายชราวัยแปดสิบปีต้องมาตายด้วยความสิ้นหวัง? เพราะลูกอกตัญญู!]
[คําแถลงของตํารวจ : ชายวัยแปดสิบปีที่เสียชีวิตนั้นมีสาเหตุการเสียชีวิตมาจากสาเหตุทางธรรมชาติและพินับกรรมทุกอย่างก็ถูกต้องตามกฎหมาย]
และยังมีคริปวิดิโอที่สามพี่น้องทุบตีคนในโรงพยาบาลและโอ้อวดถูกปล่อยออกมาด้วย
สถานการณ์ตอนนี้ก็ได้กลับกันโดยสิ้นเชิง!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพฤติกรรมของทั้งสามที่ไปคุกเข่าเลียเท้าประเทศอื่นและดูถูกประเทศจีน มันเป็นสิ่งที่กระตุ้นความโกรธของคนจีนจํานวนนับไม่ถ้วน!
และในเวลาไม่นานเหล่าคนใหญ่คนโตที่สนับสนุนทั้งสามก็รีบลบสิ่งที่พวกเขาเคยทําไว้ก่อนหน้านี้ออกเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่กําลังจะเกิดขึ้น
……..
ทางด้านของเจียงเฉินก็ได้เห็นข่าวนี้เช่นเดียวกัน
“ขอบคุณครับ” เจียงเฉินส่งข้อความไปหาจางเป่ย
“ด้วยความยินดีครับ เจ้านาย” จางเป่ยตอบกลับทันที
เจียงเฉิน “???”
เจ้านาย?
ผ่านไปซักพักเจียงเฉินก็นึกขึ้นได้ถ้าเขาไม่ได้เห็นข่าวเขาก็คงลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทข่าวทางอินเทอร์เน็ตไปแล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนี้เขาก็จะไม่ต้องเกรงใจอีกต่อไป
เจียงเฉิน “ช่วยผมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคนใหญ่คนโตที่เข้ามาโจมตีผมแล้วส่งเรื่องให้บริษทกฏหมายเทียนกวนฟ้องพวกเขาที่ครับ…”
จางเป่ย “ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย!”
หลังจากออกคําสั่งไปแล้ว เจียงเฉินก็คิดถึงบ้านสองหลังที่ได้รับเป็นมรดกมาจากชายชราและ เขานั้นก็ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องเก็บมันเอาไว้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้แย่นักดังนั้น เขาจึงคิดจะโอนไปให้มูลนิธิของตัวเองเพื่อขายออกไปและเมื่อขายออกไปแล้วก็จําให้นําเงินตรงนั้นไปช่วยคนไร้บ้าน
เจียงเฉินโทรหาหลิวเต๋ออันและสั่งการทันที
หลิวเต๋ออัน “โอเคครับเถ้าแก่ ผมจะจัดการให้ทันทีครับ”
…..
จากนั้นเจียงเฉินก็โทรหาเว่ยหยงเซียงประธานโรงพยาบาลหมิงเต๋อกรุ๊ป
หมิงเต๋อกรุ๊ปนั้นเป็นกิจการร่วมระหว่างจีน-สหรัญอเมริกา ในช่วงแรกๆของการก่อตั้งหมิงเต๋อกรุ๊ปนั้นจะเน้นไปที่การบริการแก่ทูตและชาวต่างชาติดังนั้นพวกเขาจึงรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทข้ามชาติที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนดีที่สุด!
จากนั้นเจียงเฉินก็โทรหาหลิงหยุนที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับประเทศสหรัฐอเมริกา
เจียงเฉินพูดอย่างไม่อ้อมค้อม “พวกคุณช่วยผมหาข้อมูลของสามคนนี้ให้หน่อย ถ้าสามารถหาที่ทํางานของพวกเขาได้ด้วยก็ดี แต่ใช้การหาแบบลับๆจะดีที่สุด…”
เว่ยหยงเซียง “ฮ่าฮ่าฮ่า คุณเจียงวางใจได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะส่งข้อมูลให้คุณภายในครึ่งวันแน่นอน!”
หลิงหยุน “ได้ครับ เดี๋ยวผมช่วยพี่เฉินเอง!”
สามชั่วโมงต่อมาเว่ยหยงเซียงก็ตอบกลับมา “ได้มาแล้วสอง! ยังเหลืออีกหนึ่ง…และดูเหมือนว่าจะยุ่งยากนิดหน่อย!”
ในเวลาเดียวกันหลิงหยุนก็ตอบกลับมา “พี่เฉิน ผมได้ของอีกคนมาแล้ว! แต่อีกสองคนเหมือนว่าจะทํางานเกี่ยวกับแพทย์หรืออะไรสักอย่าง?”
เจียงเฉินปรบมือ “สมบูรณ์แบบ! งานเสร็จแล้ว!”
เว่ยหยงเซียงและหลิงหยุนตกตะลึง!
สามคนนี้คงไม่ตายหรอกใช่ไหม?
สองในสามนั้นอยู่ในวงการแพทย์และอีกคนหนึ่งก็อยู่ในวงการการเงินของหลิงหยุนและด้วยอํานาจของหลิงหยุนและเว่ยหยงเซียงที่หนุนกันและกัน
สามคนนั้นถ้าไม่ตายในบริษัทก็จะต้องถูกไล่ออกแน่นอน!
เรื่องนี้มันง่ายมาก!
……
โรงแรม
เหล่าลูกชายและลูกสาวทั้งสามกําลังเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ด้วยความโมโห และสาปแช่งออกมา
“ทําไมพวกคนจีนโง่ๆถึงได้รู้ความจริงเร็วขนาดนี้?”
“น่าเกลียด!”
ในตอนแรกสิ่งต่างๆก็เป็นไปตามที่พวกเขาคิด กระแสสังคมด้านลบนั้นถาโถมไปที่เจียงเฉิน และพยาบาล
แต่ผลลัพธ์นั้น….
เพียงผ่านไปไม่นาน ทิศทางของลมก็เปลี่ยนไป จากที่เจียงเฉินแลพยาบาลที่เป็นผ่านถูกโจมตีก็กลายเป็นคนดีมีศีลธรรม ส่วนพวกเขาก็กลายเป็นคนอกตัญญที่ลืมบรรพบุรุษของพวกเขา
พวกเขาถูกด่าสาปแช่ง!
ทั้งสามย่อมต้องอารมณ์เสียที่เห็นคนที่พวกเขานั้นคิดว่าโง่มาด่าพวกเขา!
“พวกลูกนอกคอก ลืมบรรพบุรุษของตัวเอง!”
“คนเหล่านี้ไม่มีวันประสบความสําเร็จหรอก!”
ในเวลานี้เอง….
ตรู๊ด–
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ลูกชายคนโตก็ได้รับสายจากบริษัทของตัวเอง ในไม่ช้าสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ฉันถูกไล่ออก! ทําไมกัน?! เพียงเพราะฉันทําให้ชาวเน็ตจีนขุ่นเคืองเลยทําให้บริษัทขยายเข้าไปในประเทศจีนไม่ได้เนี่ยนะ?!
ต่อมาลูกชายคนรองและลูกสาวก็ได้รับโทรศัพท์จากบริษัทของตัวเองและถูกไล่ออกตาม!
เหตุผลก็คือ พวกเขาทําให้ชาวเน็ตจีนไม่พอใจและส่งผลเสียต่อบริษัทในการขยายกิจการในประเทศจีน!
พี่น้องทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
ลูกสาวกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง “กรี๊ด– มันเป็นไปได้ยังไง?! ฉันจะโดนไล่ออกได้ยังไง?!”
ลูกชายคนโตตกตะลึง “งานทุกวันนี้ก็หายากมาก”
ลูกชายคนเล็กราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง “มันจบแล้ว! สําหรับคนผิวเหลืองอย่างเรา การหางานที่นั่นก็ยากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้งานของพวกเราหายไป งานดีๆพวกเราคงหาไม่ได้อีกแล้ว!”
ทั้งสามรู้สึกสิ้นหวัง
และในตอนนี้เอง…
ก็อก ก็อก ก็อก—
มีเสียงเคาะประตู
เปิดประตู
หวางกวนเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยของเขา “ทั้งสามครับผมคือหวางกวน ทนายความจากบริษัทกฎหมายเทียนกวนและผมมาเพื่อแจ้งเรื่องกับพวกคุณอย่างเป็นทางการว่าผมคือตัวแทนของคุณเจียงในการฟ้องพวกคุณข้อหา การใส่ร้ายผู้อื่นจนผู้อื่นต้องเสียชื่อเสียงและพวกคุณยังมีข้อหาทําร้ายร่างกายคุณเซินหยูถิงด้วย”
สามพี่น้องกรีดร้องออกมา!
“ พวกเราไม่ได้ใส่ร้ายเขา! หยุดรังแกพวกเราตามใจได้แล้ว! ไม่งั้นฉันจะให้ทนายความจากอเมริกายื่นฟ้องพวกคุณ!”
“นางเพศยาเซินหยูถึงนั่นปล้นบ้านของพวกเราไป นั่นก็เป็นเหตุผลที่มากพอที่ฉันจะทุบตีมันแล้ว!”
หวางกวนยักไหล่ด้วยรอยยิ้มดูลูก “ผมมาเพื่อแจ้งเรื่องเท่านั้น หากคุณมีหลักฐานอะไรมาหักล้างคุณสามารถเอาไปแจ้งแก่ศาลและผู้พิพากษาได้…”
พูดจบก็หันหลังกลับ
สามพี่น้องกรี๊ดลั่น!
ในเวลานี้เองหวางกวนก็หันกลับมาก่อนจะมองด้วยความดูถูกแล้วพูดออกมา “อ่ออีกอย่างนะ..ดูเหมือนว่าพวกคุณคงจะได้รับหนังสือเลิกจ้างจากบริษัทของพวกคุณแล้ว ผมจะบอกความจริงให้ก็ได้…นี่เป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนที่คุณเจียงมอบให้พวกคุณ!”
เมื่อสามพี่น้องได้ยินก็ต้องตกตะลึง!
“อะไรนะ พวกแกทําให้พวกเราถูกไล่ออกหรอ?!”
“น่าเกลียด!”
“ฉันจะสู้กับพวกแก!!”
และหวางกวนก็เดินออกไป
….
หวางกวนเดินลงมาชั้นล่าง
โทรหาเจียงเฉิน
“คุณเจียง เรียบร้อยแล้วครับ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะโกรธไม่น้อยเลย…”
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ไปจับตาดูการเคลื่อนไหวบนเว่ยป๋อของพวกเขาแล้วรวบรวมหลักฐานของพวกเขาเพิ่มเติม”
“ครับ! คุณเจียง!”
หวางกวนวางสาย
การหาเรื่องคนก็ไม่ใช่เรื่องที่ดียู่แล้ว โดยเฉพาะการหาเรื่องกับคุณเจียงนี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตายยังไง?
และครั้งนี้หวางกวนก็ได้พบกับวิธีใหม่ของเจียงเฉินในการจัดการกับคน
ช่างเป็นวิธีที่สุดยอดอะไรขนาดนี้เพียงแค่โทรสายเดียวก็ทําให้คนตกงานได้
………
………
ผ่านไปครึ่งเดือน
เรื่องของเติ้งจิงเซียวก็จบลงอย่างสมบูรณ์
คลื่นของการจัดการของเจียงเฉินนั้นรุนแรงดุดเสือโคร่งที่กําลังล่าเหยื่อ!
ในข่าววันนี้ก็เต็มไปด้วยการสนทนาถึง ผู้ใช้เว่ยป๋อจํานวนมากที่พากันสนับสนุนเจียงเฉินและด่าทอสามพี่น้องอกตัญญู
และก็ยังมีไอดอลบางคนที่มีผู้ติดตามจํานวนมากรับเงินค่าจ้างมาจากสามพี่น้องให้ด่าเจียงเฉิน สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเสียผู้ติดตามเป็นจํานวนมาก
และในชั้นศาลสามพี่น้องก็ถูกทนายความหวางกวนปิดคดีได้ในเวลาไม่นาน
สามพี่น้องต้องชดใช้เงินให้กับเจียงเฉินถึง 180,000 หยวนและเซินหยู่ถึง 260,000 หยวน!
ส่วนสาเหตุที่เซินหยู่ถึงได้รับเงินเป็นจํานวนมากก็เพราะว่าเธอนั้นได้ถูกสามพี่น้องทําร้ายมาก่อน
ทั้งสามพี่น้องในตอนนี้ก็มีประวัติอาชญากรรมติดตัวจากการทําร้ายร่างกายของคนอื่น พวกเขาจึงถูกจํากัดสิทธิต่างๆในประเทศจีนและการจะขอวีซ่าเพื่อกลับไปประเทศอเมริกาก็เป็นเรื่องยาก!
ที่สําคัญ คนทั้งสามต่างก็ถูกไล่ออกจากบริษัท โดยให้เหตุผลว่าพวกเขานั้นเลือกปฏิบัติกับคน และพฤติกรรมของพวกเขาทําให้บริษัทต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
“หลังจากการตรวจสอบ คุณเติ้งXX(เพศหญิง) ที่เป็นพนักงานของบริษัทเรา ได้ก่อเรื่องในประเทศจีน โดยคุณเติ้งxx ได้มีการกระทําที่อกตัญญูต่อบิดาของเธอ และยังข่มเหงและทําร้ายร่างกายชาวจีน และมีการพูดที่มีความหมายส่อไปทางการเหยียดชาติพันธ์ ซึ่งไม่สอดคล้องกับสิ่งที่พนักงานของบริษัทควรจะทํา ดังนั้นทางบริษัทจึงตัดสินใจให้เธอออกจากที่ทํางานโดยคําสั่งนั้นมีผลทันที!”
บริษัทของพี่ชายคนโตและคนรองต่างก็พูดออกมาในแนวเดียวกันและก็ถูกไล่ออกด้วยเหตุผลเดียวกัน
สุดท้ายทั้งสามก็ได้กลับไปที่อเมริกาด้วยความสิ้นหวังแ