ตอนที่ 433 : นายรู้รึเปล่าว่าคําว่าตายมันสะกดยังไง?!
กลุ่มคนรวยรุ่นที่สองหลายคนตกตะลึงอย่างสมบูรณ์!
หนึ่งล้านล้าน?
ล้อเล่นกันรึเปล่า?
คนที่อยู่รอบข้างก็ตกตะลึง–
มีการพูดคุยกันมากมาย
“พระเจ้าช่วย ล้านล้าน?”
“เจ้าของร้านแผงลอยคนนี้มีทรัพย์สินมูลค่าหนึ่งล้านล้าน?”
“คนที่รวยที่สุดในประเทศจีนตอนนี้มีทรัพย์สินเท่าไหร่เอง? นี่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกใช่ไหม?”
“นายอย่าเอาแต่คิดแบบนั้นสิ ทุกคนก็รู้ดีว่าในประเทศจีนยังมีเศรษฐีที่มองไม่เห็นอยู่อีกมากมาย และไม่จําเป็นว่าจะต้องเป็นบอสหม่าที่เป็นคนที่ร่ารวยที่สุดในประเทศ!”
“แต่ไม่ว่าจะซ่อนตัวมากแค่ไหนแต่น้องชายคนนี้ที่เป็นเจ้าของร้านขายของแผงลอยก็คงไม่มีทรัพย์สินถึงหนึ่งล้านล้านหรอก นี่มันเกินจริงมากเกินไป!”
แทบไม่มีใครจะเชื่อเลย “หึ แม้ว่าคุณจะเป็นหวังกวนตัวจริง ผมก็ไม่เชื่อหรอก!”
คนรวยที่สองพากันอุทานออกมา “ผมชื่อว่าหลิงหู เป็นทายาทตระกูลหลิงของเมืองหลวง! ผมไม่เชื่อพวกคุณหรอก! ในเมืองหลวงของประเทศจีนจะไปมีคนแบบนั้นได้ยังไง?!”
แต่ใครจะรู้
ในเวลานี้เองก็มีรถฮัมเมอร์ขับผ่านมา
รถหยุดลง
แล้วก็มีชายหนุ่มที่ดูดีคนหนึ่งกระโดดลงมาจากรถ
เขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “หลิงหู เกิดอะไรขึ้น?” “พี่หยุน!”
ดวงตาของหลิงหูเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ ราวกับว่าเขานั้นได้ตกลงไปในน้ําและได้มีคนยื่นฟางมาช่วยชีวิตเขา “พี่หยุน พี่มาแล้ว! ตอนนี้มีคนกําลังจะแบล็กเมล์ลูกพี่ลูกน้องของพี่อยู่!”
“ใครกันถึงกล้ามาแบล็คเมล์นาย?”
เขายิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน “ให้ฉันดูหน่อยหลิงหยุน ว่าคนตาบอดที่ไหนกล้ามาแบล็คเมล์ลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
ในเวลานี้เองดวงตาของหลิงหยุนก็มองไปตามรถหรูของผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องก่อนที่จะพบกับเจียงเฉินที่กําลังยืนอยู่ใกล้ๆ
เจียงเฉินยิ้มออกมาแล้วมองไปที่หลิงหยุน “โอ้? นายน้อยหลิงหยุนนี่เอง นายเป็นยังไงบ้างล่ะ? พอดีว่าน้องชายของฉันถูกคนบางคนเอาเปรียบฉันก็เลยอยากจะเอาคืนสักหน่อย! ถ้าวันนี้เขาไม่ยอมชดใช้ก็อย่าดิ้ดจะจากไปเชียว!”
หลิงหที่อยู่ข้างๆก็กระโดดขึ้นลง “พี่หยุน พี่ดูเขาสิ เจ้าบ้านี่มันโคตรเย่อหยิ่งเลย เห็นได้ชัดว่า มันเป็นพ่อค้าแผงลอยชั้นต่ํา แต่ไม่รู้ว่าไปเอาทนายมาจากไหน แถมยังอ้างอีกว่าตัวเองมีทรัพย์สินมูลค่าล้านล้าน! และสามารถหาเงินสองร้อยล้านทุกวัน แถมยังต้องการให้ฉันชดใช้เงินให้เขาสองร้อยล้านหยวนด้วย!”
ในเวลานี้เองหลิงหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆก็แข็งที่อไป
ส่วนหลิงหูก็ทําตัวหยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อยๆ
คนรวยรุ่นที่สองที่อยู่รอบๆพากันตื่นเต้นและยิ้มออกมาอย่างแจ่มใส
“นายน้อยหลิงอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ว่ายังไงเพราะเราจะต้องชนะแน่นอน!”
“รอดูได้เลยว่ามันจะได้ตายยังไง”
“คิดจะเอาเปรียบพวกเรา ก็จะต้องเจอนายน้อยหลังสักหน่อย จะได้รู้ว่าคําว่าตายมันสะกดยังไง!”
“หึ นี่เจ้าหนู รีบคุกเข่าแล้วยอมจํานนดีกว่า อย่าหาว่าไม่เตือนนะ”
ความมั่นใจของคนรวยรุ่นที่สองนั้นไม่ได้มีมาอย่างไร้เหตุผล
ส่วนเหตุผลที่พวกเขากล้าที่จะมั่นใจ ก็เพราะว่าหลิงหยุนนั้นได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในสี่สุดยอดนายน้อยแห่งเมืองหลวง!”
ครอบครัวเต็มไปด้วยความมั่งคั่งและอํานาจ เป็นคนรวยรุ่นที่สองที่น่าหวาดกลัวที่สุดในเมืองหลวง!
พลังอํานาจของเขาสูงมากและเขานั้นก็ไม่มีความปราณีในการทําธุรกิจ แถมยังเป็นคนที่มีอ่านาจมืดอยู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเมืองหลวงด้วย
เขามีส่วนร่วมในหลายอุตสาหกรรมเช่นภาพยนตร์และโทรทัศน์ สื่อบันเทิง….. ความแข็งแกร่งของเขามากเพียงพอที่ทําให้คนใหญ่คนโตหลายคนต้องหวาดกลัว
ส่วนเรื่องของความมั่งคั่งของเขาคาดว่าก็น่าจะอยู่ในหลักหลายหมื่นล้าน และจากที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ว่าใครที่ได้เจอต่างก็ต้องหวาดกลัวกันทั้งนั้น
ดวงตาของหลิงหยนสบไปที่ดวงตาของเจียงเฉินจากนั้นรอยยิ้มของเขาก็ค่อยๆแข็งที่อ–
ให้ตายเถอะ–
ในวินาทีถัดมา
เขาก็กางฝ่ามือและตบหน้าของคนที่อยู่ข้างๆอย่างแรง
แรงมากจนตัวคนนั้นหมุนเป็นวงกลม
“แกทําอะไรของแก @[email protected]#[email protected][email protected]#[email protected]!” หลิงหูที่ถูกตบก็ลงไปนอนอยู่กับพื้น
เขาปิดใบหน้าและพูดออกมาว่า “พี่หยุน พี่ตบผมทําไมเจ้านั่นต่างหากที่รังแกผม!”
ดวงตาของหลิงหยุนราวกับมีไฟออกมาเขาตะโกนออกมาว่า “ไร้สาระ! พี่ใหญ่เจียงจะสร้างปัญหาให้กับนายโดยไม่มีเหตุผลได้ยังไง?! เป็นนายต่างหากที่ไปกลั่นแกล้งคนอื่นก่อนใช่ไหม?!”
หลิงหูตกตะลึง!
พระเจ้า!
ลูกพี่ลูกน้องของฉันรู้ได้ยังไงกัน?
หลิงหยนสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของหลิงหุจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “แน่นอนว่าฉันต้องรู้ดีถึงนิสัยขี้เล่นของนาย! ให้ตายเถอะ! ถ้าฉันไม่ได้มาเจอนายก่อนนายคงได้ตายเพราะเงื้อมมือของพี่ใหญ่เจียงจริงๆแน่!”
“พี่หยุน ผมไม่ได้รังแกคนอื่นก่อนจริงๆนะ พี่ลองไปดูที่รถซุปเปอร์คาร์ของผม! พี่เห็นใช่ไหมว่ารถซูเปอร์คาร์ผมมีรอยขีดข่วน!”
หลิงหูพูดออกมาด้วยความไม่พอใจและดึงหลิงหยุนไปดูรอยขีดข่วน
หลิงหยุนเดินไปที่รถซุปเปอร์คาร์ที่มีรอยขีดข่วนก่อนจะหันไปมองเจ้าโง่จ
สามวินาทีต่อมา
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของเขาก็จ้องมองไปที่หลิงหู “รอยขีดข่วนแค่นี้เนี่ยนะ แล้วนายเรียกร้องน้องชายคนนี้ไปเท่าไหร่?!”
หลิงหูมองใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องของตัวเองก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆว่า “ผมไม่ได้ขอมากเกินไปเลย ที่จริงแล้วมันควรจะเป็นหนึ่งแสนด้วยซ้ํา
“แกกล้างั้นหรอ?!”
หลิงหยุนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“ผม ผมเปลี่ยนใจทีหลังแล้วก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่ห้าหมื่นเท่านั้น!”
หลิงหูยื่นมือออกมาแล้วพูดด้วยความกลัว
“ห้าหมื่นนายกล้าดียังไงถึงเรียกร้องไปห้าหมื่นสําหรับรอยแค่นี้?!”
หลิงหยุนตะโกน “แกไอ้เวร แกทําให้ตระกูลหลิงต้องอับอาย! ตระกูลหลิงของเราขาดเงินห้าหมื่นหยวนด้วยหรอ?! และด้วยรอยเล็กน้อยแบบนี้นายกลับกล้าเรียกเงินไปห้าหมื่นนายไม่ละอายใจบ้างเลยหรือยังไง?! นี่ก็เห็นได้ชัดแล้วว่านายก่าลังต้มตุ้นคนอื่น!”
“ไม่ ไม่ น้องชายคนนั้นไม่ได้ให้เงินผม!”
เมื่อหลิงหูเห็นว่าอารมณ์ของหลิงหยุนกําลังเดือดจัด เขาก็รีบพูดออกมาด้วยความตกใจ เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อลูกพี่ลูกน้องเขาโกรธแม้แต่ญาติเขาก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเพราะเขานั้นถูกลูกพี่ลูกน้องของตัวเองทุบตีมาตั้งแต่ยังเด็ก
“ยังไม่ได้ให้เงินมางั้นเหรอ งั้นก็ไม่เป็นไร”
หลิงหยุนพูดออกมาด้วยความโล่งอก
ตราบใดที่เจ้าโง่ ยังไม่ได้ให้เงินเรื่องก็คงจบได้ด้วยดีและพี่ใหญ่เจียงก็คงไม่โกรธจนเกินไป
แต่ใครจะรู้
ในวินาทีถัดมา
หลิงหูชี้ไปที่เจียงเฉินด้วยความเย่อหยิ่ง “แต่ไอ้ผู้ชายตรงนั้นจ่ายเงินให้ผมมาห้าหมื่น!”
“อะไรนะ?!”
อารมณ์โกรธของหลิงหยุนกลับมาอีกครั้ง “พี่ใหญ่เจียง ให้เงินนายห้าหมื่นหรอ?!”
“ใช่—
หลิงหูรู้สึกสับสนเล็กน้อย ทําไมลูกพี่ลูกน้องเขาต้องเรียกเจ้าของร้านแผงลอยนั้นว่าพี่ใหญ่เจียงด้วย?
“ฉัน[email protected]#@#…[email protected]#[email protected]!”
หลิงหยุนทนไม่ไหวอีกต่อไปเขาตบหน้าลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอีกครั้ง
เขาสูบบุหรี่ด้วยความโกรธก่อนที่จะหยิบอิฐขึ้นมาจากพื้นก่อนหนึ่ง
แล้วก็นํามันไปทุกกระจกรถ Porsche อย่างแรง!
เพลง!!!!
กระจกรถยนต์ Porsche 911 สุดแพงแตกเป็นที่เรียบร้อย
ผู้คนตกตะลึง
หลิงหูก็ตกตะลึง
นี่คือรถของเขา รถยนต์มูลค่าสองล้านที่เขาพึ่งจะซื้อมาเมื่ออาทิตย์ก่อน
แต่ตอนนี้มันกลับโดนลูกพี่ลูกน้องของตัวเองทุบ?
หลิงหยุนโกรธมากเขาเหวี่ยงก้อนอิฐทุบรถของหลิงหูอย่างรุนแรง
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ! นายทําให้คุณเพียงต้องขุ่นเคืองและการพังรถคันนี้ถือว่าเบามากแล้ว!”
เจ้าโง่จูก็ยืนมองด้วยความงง–
เขาที่อยู่ข้างเจียงเฉินก็ถามเจียงเฉินออกมาว่า “พี่เฉิน เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้? ทําไมเขาถึงต้องทุบรถลูกพี่ลูกน้องของตัวเองด้วย? หรือว่าสมองเขากําลังมีปัญหา?”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “เราไม่ต้องไปสนใจเรื่องของพวกเขาหรอก”
หลิงหยุนไม่หยุดเพียงแค่การทุบรถแต่เขายังโบกมือส่งสัญญาณ
บนรถของเขามีชายชุดดําประมาณสี่ถึงห้าคนลงมารวมตัวกัน
พวกเขาลงมาช่วยกันทุบรถหลิงหู
คนรอบข้างก็เริ่มพูดคุยกัน
“ทําไมมันถึงออกมาเป็นแบบนี้?”
“หึหึ รถหรราคาสองล้านเพิ่งถอยมาใหม่ก็พังแล้วงั้นเหรอ?”
“น่าเสียดายจริงๆ– ยกมันให้ฉันยังมีประโยชน์กว่านะ”
หลิงหูอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่มีน้ําตา
เขาไม่กล้าขัดขึ้น
ในตระกูลของเขาเขาเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กๆเท่านั้นเป็นเพียงแค่คนจากตระกูลสาขาย่อย
ส่วนหลินหยุนส่วนหลิงหยุนนั้นเป็นทายาทสายตรงของตระกูลหลัก
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานะหรือความแข็งแกร่งลูกพี่ลูกน้องเขานั้นเหนือกว่าเขาในทุกด้าน เขาจึงไม่อาจขัดขืนอะไรได้
ได้แต่เพียงหลั่งน้ําตาออกมาด้วยความหวาดกลัวและตัวสั่นเท่านั้น “ลูกพี่ลูกน้องพักเถอะครับ”
หลิงหพยายามเกลี้ยกล่อมหลิงหยุน “รถของผมมันแข็งจะตายไป มันอาจจะทําให้ลูกพี่ลูกน้องบาดเจ็บได้นะ”
“ใช่มันค่อนข้างแข็งเลยทีเดียว”
ความโกรธของหลิงหยุนนั้นยังไม่ได้ลดลง เขาหยิบก้อนอิฐขึ้นมาแล้วพูดอย่างเย็นชากับหลิงหูว่า “ดังนั้นฉันจะเปลี่ยนมาทุบหัวนายแทน!”
“อย่า อย่า!”
หลิงหตกใจมากและรีบหาที่ซ่อนทันที “พี่ชายปล่อยผมไปเถอะผมรู้สึกผิดแล้ว!”
“แล้วใครให้ความกล้ากับนายให้ไปทําให้คุณเจียงขุ่นเคืองกัน?!” หลิงหยุนจับหลิงหูได้และคํารามออกมา “นายรู้รึเปล่าว่าคําว่าตายมันสะกดยังไง?!”
หลิงหูตอนนี้รู้แล้วว่าที่หลิงหยุนโกรธนั้นเป็นเพราะคนที่ชื่อเจียงเฉิน!
ทําไมเขาถึงหวาดกลัวคนที่ชื่อเจียงเฉินขนาดนี้?
พ่อค้าร้านแผงลอยคนนั้นน่ะเหรอ?
หลิงหยุนเตะเข่าของหลิงหู
หลิงหูลงไปคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเจียงเฉิน!
“เจ้าบ้า ถ้านายอยากจะตายก็ไปตายได้ แต่อย่ามาลากฉันกับตระกูลหลิงให้ตายไปกับนายด้วย! ในเมื่อนายกล้าที่จะยั่วยพี่เจียงนายก็ต้องรับผิดชอบมัน! พี่เจียง ผมนําคนผิดมาให้พี่แล้ว ได้โปรดพี่บอกข้ามตระกูลหลิงของผมด้วย!”
คนรวยรุ่นที่สองอีกสองสามคนที่เห็นว่าหลิงหยุนนําตัวหลิงหูไปส่งมอบต่อหน้าเชิญพวกเขาก็ตกใจมากจนวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลิงหูในตอนนี้ก็รู้แล้วว่าตัวเขานั้นทําผิดอะไรไป
คนๆนี้แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องฉันก็ยังไม่กล้าทําให้ขุ่นเคือง
หวังกวนบอกว่าเขามีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านล้าน แต่ทําไมตอนแรกเขากลับไม่ยอมเชื่อ–
หลิงหูร้องไห้ออกมาด้วยใบหน้าที่โศกเศร้าเขาตะโกนออกมาเสียงดัง “พี่เฉิน! ผม ผมสับสนไปเอง ผมมันเป็นคนโง่ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าพี่เป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน! ได้โปรดปล่อยผมไปด้วยเถอะ ผม ผมยอมจ่ายแล้วจริงๆ”
เจียงเฉินพูดออกมา “สองร้อยล้านหยวน!”
“อะไรนะ?”
หลิงหูตกตะลึง!
สองร้อยล้านหยวน?
นี่เขาต้องการให้ฉันจ่ายเงินเป็นร้อยล้านจริงเหรอ? เจียงเฉินยกนิ้วโป้งที่ได้รับบาดเจ็บของเขาขึ้นมา
เพื่อให้อาการบาดเจ็บดูสมจริงเขาเพิ่งเอานิ้วก้อยของเขาไปขยพริกมา
ดูเหมือนว่ามันจะแดงและบวมขึ้นมาเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เจ็บปวดเพียงแค่คันเท่านั้น
เจียงเฉินยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคํา
“อีก!”
หลิงหยุนเตะหลิงหูจากด้านหลังด้วยความโกรธ
หลิงหนอนลงไปกับพื้นทันที
“กล้าดียังไงถึงมาทําลายพี่เฉิน?!”
“เจ้าบ้า!”
“ทําไมใช่เพราะว่าฉันเห็นแก่หน้าพ่อแม่ของแก ฉันคงจะฆ่าแกไปแล้ว!” หลิงหยุนตะโกนออกมา “เร็วเข้า! จ่ายเงินได้แล้ว!”
หลิงหูทําหน้าบึง “เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบจัดการทันที!”
คนรอบข้างตกตะลึง
“โอ้พระเจ้า! นี่เขาจะจ่ายเงินสองร้อยล้านจริงเหรอ?”
“คนรวยรุ่นที่สองขับรถชนถึงกับต้องจ่ายเงินสองร้อยล้าน?” “เพียงเพราะเขาก่าลังขับรถแล้วเผลอไปชนนิ้วก้อยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ?”
“นิ้วก้อยแค่บวมนิดหน่อยเองไม่ใช่หรอแต่ต้องจ่ายเงินหลักร้อยล้านเลย?”
เจียงเฉินได้รับข้อความแจ้งเตือน “บัญชีของคุณได้รับเงินโอนเข้า 200 ล้านหยวน [ธนาคารหัวเซี่ย” เจียงเฉินยิ้มและเดินจากไป
“โอเค นายกับฉันไม่มีอะไรติดค้างกันอีกแล้ว”
เจียงเฉินยังคงมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและเป่านิ้วก้อยของตัวเอง “วันนี้ฉันโชคร้ายจริงๆ! ช่างมันเถอะ ยังไงซะก็ได้เงินชดเชยมาสองร้อยล้านหยวนแล้ว พรุ่งนี้ก็คงไม่ต้องมาสนใจเรื่องค่าจ้างแล้วมั้ง ไปนอนพักที่บ้านดีกว่า”
หลิงหู “…”
กลุ่มคนรวยรุ่นที่สอง “
ให้ตายเถอะ!
นายเพิ่งจะโกงเงินพวกเราไปสองร้อยล้านเลยนะ!
โกรธมาก!
คนรอบข้างตกตะลึง
เจียงเฉินโบกมือให้กับหลิงหยุนแล้วเดินจากไป
ส่วนด้านหลังของเขา
“เห้อ การเปิดร้านแผงลอยมันไม่ง่ายเลย”
คนกลุ่มหนึ่งอึ้งและล้มลงกับพื้นพร้อมกับฟองที่ออกมาเต็มปาก–