เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 242 เรื่องมาไกลราวกับหมาป่าหลุดพันธนาการ

ไม้กระบองท่อนนี้ค่อนข้างน่ากลัว

 

 

มันพุ่งมาที่ฉินหร่าน

 

 

ร่างของทั้งสองบนหน้าจอใหญ่นั้นชัดเจนมาก คนทั่วไปดูออกว่าถังชิงไม่คิดจะยั้งมือเลย

 

 

“ผู้หญิงเขาเล่นกันหนักขนาดนี้เลยเหรอ?” เจียงตงเยี่ยที่กำลังนั่งดูอยู่บนอัฒจันทร์อดไม่ได้ที่จะถอยออกมาเมื่อเห็นฉากนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

เขาเบี่ยงหน้าเพราะไม่กล้าดูอยู่หน่อยๆ

 

 

พลังหมัด 769 ถ้าถูกถังชิงฟาดด้วยไม้กระบองนั้นแล้วกระดูกหักก็ยังถือว่าเบาไป

 

 

สีหน้าถังชิงยังคงเย็นชา แรงบนมือไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

 

 

ไม่ใช่แค่เจียงตงเยี่ยเท่านั้น แม้กระทั่งผู้ชมที่นั่งอยู่ใต้สังเวียนต่างก็สูดหายใจไปตามๆ กัน

 

 

ฉินหร่านไม่ได้ขยับตัวอะไร เมื่อเห็นว่าไม้กระบองท่อนนั้นกำลังพุ่งมาที่เธอ เธอเพียงแค่ยื่นมือออกไปคว้าไม้ที่ดูน่ากลัวท่อนนั้นด้วยท่าทางสบายๆ

 

 

เดิมทีถังชิงยังคิดว่าฉินหร่านจะต้องลงจากสังเวียนเมื่อไม้ท่อนนี้ฟาดลงไป

 

 

แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าไม้ที่อยู่ในมือของเธอจะถูกจับไว้แน่น ถังชิงหน้าถอดสี เธอยื่นมือไปจะคว้าไม้กระบองกลับมาตามสัญชาตญาณ แต่อย่างไรก็ตาม ไม้กระบองนี้เหมือนได้ถูกเชื่อมเอาไว้ ไม่ขยับแม้แต่น้อย

 

 

เธอสูงกว่าฉินหร่าน ด้วยข้อได้เปรียบทางธรรมชาติ เวลาที่เธอมองฉินหร่านจึงมักจะมองต่ำลงมา

 

 

แต่ทว่า ณ เวลานี้พอเธอเห็นดวงตาดำขลับของฝ่ายตรงข้าม เธอก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับภูเขาลูกใหญ่

 

 

สีหน้าถังชิงก็เปลี่ยนไปมาก

 

 

คนส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ใต้สังเวียนล้วนมองไปที่หน้าจอ ร่างทั้งสองสั่นไหว พวกเขาแทบดูไม่ออกเลยว่าฉินหร่านเคลื่อนไหวอย่างไร บนหน้าจอมีเพียงภาพติดตาและเสียงต้านลม “ฟึ่บ”

 

 

นี่เป็นเสียงตอนที่ถังชิงตวัดไม้กระบอง

 

 

บนสังเวียน ฉินหร่านใช้แรงของไม้ที่ถังชิงถือ สะบัดถังชิงออกไปอย่างง่ายดาย ใช้กลยุทธ์สลับแขกเป็นเจ้าบ้านโดยหาช่องโหว่เพื่อกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ กระแทกไม้ใส่ถังชิงโดยตรงอย่างรุนแรง

 

 

ถังชิงเป็นลูกครึ่ง หน้าคม ดวงตาเหมือนท้องทะเล

 

 

ฉินหร่านคิดอีกทีก็สลับแรงไปที่ท้องของเธอ

 

 

ฉินหร่านเคลื่อนไหวเร็วมากตั้งแต่วินาทีที่แย่งอาวุธจนเริ่มลงมือ ถังชิงไร้ปฏิกิริยาตอบสนองไปโดยสิ้นเชิง

 

 

อย่าว่าแต่ปฏิกิริยาตอบสนอง ถังชิงยังไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของฉินหร่านได้อย่างชัดเจนในระยะใกล้เช่นนี้เลยด้วยซ้ำ

 

 

เธอรู้สึกเพียงว่าไม้กระบองราวกับมีพลัง ปากและฝ่ามือของเธอสั่นไปหมด ไม้กระบองท่อนนั้นหลุดไปจากมือเธออย่างง่ายดาย

 

 

“ปัง!”

 

 

ถังชิงถูกกระแทกอย่างแรง ล้มลงกับพื้นเหมือนว่าว

 

 

ตอนที่ลงมือ ฉินหร่านผ่อนแรงลงบ้างแล้ว มิฉะนั้นหากไม้ท่อนนี้ตีไปที่ตัวถังชิง ก็ไม่รู้ว่าเธอจะยังมีชีวิตรอดหรือไม่

 

 

อย่างไรก็ตาม ในไม้กระบองยังมีอีกแรงที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมา ฉินหร่านตวัดไปที่ด้านข้างถังชิงโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

ไม้กระบองท่อนนี้เธอไม่ได้ยั้งมือ เสียงแตกเป็นเสี่ยงๆ ลอยอยู่ในอากาศ แฝงไปด้วยเสียงบีบรัดของลม

 

 

เป็นเสียงแตกร้าวที่ชัดเจนมาก!

 

 

ผู้ตัดสินเหลือบมองไปที่มือฉินหร่านที่อยู่บนสังเวียน

 

 

คอนกรีตบริเวณรอบๆ แท่งไม้เกือบทั้งหมดแตกร้าว

 

 

ไม้กระบองก็เห็นเป็นภาพเบลอเช่นกัน มันยังคงสั่นไม่หยุดเหมือนมีแรงบางส่วนหลงเหลืออยู่

 

 

มีรอยแตกระนาบเดียวกับไม้กระบองตัดผ่านสังเวียนอย่างเห็นได้ชัด

 

 

สังเวียนเป็นพื้นเรียบ บางคนบนอัฒจันทร์มองไม่เห็น แต่ภาพบนหน้าจอใหญ่กลับถ่ายออกมาได้อย่างชัดเจน

 

 

บนสังเวียนมีรอยแตกผ่าขวางอยู่เส้นหนึ่ง

 

 

ถ้าไม้กระบองท่อนนี้ตีไปที่คน ตัวคนก็คงจะแยกออกเป็นสองซีกสินะ?

 

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้คนที่กำลังจดจ้องไปที่หน้าจอใหญ่ต่างก็เงียบไปตามๆ กัน พวกเขามองรอยแตกที่อยู่บนหน้าจอโดยที่ไม่มีใครตอบสนองไปชั่วขณะ

 

 

น่า…น่ากลัวเหลือเกิน…

 

 

ตอนที่เฉิงมู่กับเจอร์รี่ดวลกันครั้งล่าสุดก็อกสั่นขวัญแขวนเหมือนกัน ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

 

 

ทว่าตอนนั้นเฉิงมู่ไม่มีอาวุธ ซึ่งไม่เหมือนฉินหร่านตอนนี้ที่ถึงขนาดแย่งอาวุธมาจากคู่ต่อสู้ ไหนจะพลังในไม้กระบองท่อนนั่นอีก…

 

 

ความแข็งแกร่งนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ถึงกับผ่าสังเวียนแตกเลยงั้นหรือ?

 

 

ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆ บนอัฒจันทร์ เพราะแม้แต่ผู้กองลั่วและคนอื่นๆ ก็ไร้การตอบสนอง

 

 

“ผู้…ผู้กองลั่ว…” คนที่นั่งข้างผู้กองลั่วพึมพำ “ฉิน คุณหนูฉินมีพลังหมัดเท่าไหร่กันถึงได้ชกจนแตกเป็นเสี่ยงๆ แบบนั้น?”

 

 

ผู้กองลั่วนั่งแถวแรกที่ชิดกับสังเวียน เขาจึงเห็นรอยแตกได้อย่างชัดเจน พอได้ยินดังนั้นก็ส่ายหน้า 

 

 

เขาไม่รู้เลยจริงๆ

 

 

หลังจากปล่อยแรงออกมาจากไม้กระบองท่อนนั้นแล้ว ฉินหร่านก็ยืนตัวตรง บนไม้กระบองแทบไม่มีความเสียหายใดๆ เลย เธอโยนไม้แล้วหันไปหาผู้ตัดสินที่อยู่ด้านข้าง เลิกคิ้ว “เสร็จหรือยัง?”

 

 

“แน่ แน่นอนครับ” ผู้ตัดสินรีบตอบทันทีที่ได้สติ

 

 

“อ้อ” ฉินหร่านโยนไม้กระบองไปตรงๆ

 

 

ผู้ตัดสินก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนใจรอยแตกบนพื้น

 

 

เหลือบมองแวบหนึ่งก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว

 

 

“การแข่งขันการประเมินครั้งนี้ คุณฉินเป็นผู้ชนะ!” ผู้ตัดสินได้ยินเสียงของเขาเอง

 

 

ผลครั้งนี้ไม่ได้เกินความคาดหมายแม้แต่น้อย

 

 

เสียงนี้เหมือนทำลายความสมดุลบางอย่าง เสียงเชียร์บนอัฒจันทร์ยังคงตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นจนดังกระหึ่ม!

 

 

คนในคฤหาสน์ต่างก็ยกย่องผู้แข็งแกร่ง

 

 

ถังชิงก็ทำได้ดี ทำได้ดีมากจริงๆ พูดได้ว่าผู้หญิงอย่างเธอยังเก่งกว่าผู้ชายบางส่วนในคฤหาสน์เสียอีก

 

 

อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้นฉินหร่านก็ยังไม่ได้ออกฝีไม้ลายมืออะไร

 

 

เธอมักใช้วิธีการเล่นแบบต้อนจนมุม

 

 

สุดท้ายยังออมมือให้ถังชิงบนสังเวียน

 

 

ผู้คนมากมายต่างก็พากันคาดเดาความแข็งแกร่งของฉินหร่าน พูดคุยกันด้วยความตื่นเต้นว่าทำไมเธอถึงแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้

 

 

ขณะนี้คนรับใช้กำลังทำการซ่อมแซมสังเวียน

 

 

เมื่อได้ยินคนใต้สังเวียนพูดคุยกัน เฉิงหั่วกับคนอื่นๆ ก็คิดตามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ : ก็แน่ล่ะสิ พลังหมัด 1321 เกินหนึ่งพันมาได้จะไม่แข็งแกร่งได้ยังไง?

 

 

ฉินหร่านหยิบเสื้อคลุมของตัวเองแล้วกลับไปนั่งที่

 

 

เฉิงเจวี้ยนยื่นโทรศัพท์ให้เธอ สีหน้ายังคงเหมือนเดิม “เล่นเสร็จแล้ว”

 

 

“แพ้หรือชนะ?” ฉินหร่านเปิดโทรศัพท์พลางถามเขาโดยไม่ได้เงยหน้ามอง

 

 

เฉิงเจวี้ยนเลิกคิ้ว “ชนะแน่นอน”

 

 

ฉินหร่านก้มดูโทรศัพท์เพื่อดูผลเกม

 

 

ขณะที่ฟังบทสนทนาระหว่างทั้งสอง เจียงตงเยี่ยก็แทบจะระเบิด เรื่องที่ควรจะถกกันในตอนนี้ก็ควรจะเป็นผลการท้าดวลไม่ใช่เหรอ? หรือเรื่องที่ทำไมฉินหร่านแข็งแกร่งขนาดนี้?

 

 

แต่พวกเขาสองคนกำลังคุยกันเรื่องเกม นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ? !

 

 

“ทำไมคุณดูไม่ตกใจเลยล่ะ?” เจียงตงเยี่ยมองกู้ซีฉือ

 

 

กู้ซีฉือละสายตาแล้วเหลือบมองเจียงตงเยี่ย พูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “คนที่ขยันอย่างสุดชีวิต ความแข็งแกร่งก็ย่อมไม่แย่เกินไป”

 

 

เจียงตงเยี่ยฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เฉิงเจวี้ยนกลับเหลือบมองกู้ซีฉืออย่างเงียบๆ

 

 

**

 

 

บนสังเวียน ในที่สุดถังชิงก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง

 

 

เธอลงจากสังเวียนอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ให้ยาเธอมาหนึ่งเม็ด เธอถึงได้ค่อยๆ ตอบสนองขึ้นมาแล้ว

 

 

ใบหน้าเย็นชาเหลือเพียงความมืดมนที่มีสีเหมือนเขม่าก้นหม้อ

 

 

ถังชิงคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก แม้แต่อาวุธตัวเองก็ยังถูกฉินหร่านแย่งไปได้ แพ้อย่างหมดสภาพ

 

 

ไม่มีใครใต้สังเวียนสังเกตเห็นสภาพจนตรอกของเธอ เพราะคนเหล่านั้นล้วนกำลังพูดคุยเรื่องฉินหร่านกันอยู่

 

 

เฉิงสุ่ยยังคงออกมาเป็นพิธีกรโดยเรียกชื่อบุคคลต่อไป

 

 

ถังชิงสูดหายใจ

 

 

เธอเช็ดเลือดที่มุมปากและมองไปทางเฉิงสุ่ย “หน่วยข่าวกรองยังมีการทดสอบประเมินคอมพิวเตอร์ใช่ไหมคะ?”

 

 

พอพูดถึงตรงนี้ ถังชิงก็ส่งสายตามองไปทางฉินหร่าน “ฉันเรียนเกี่ยวกับทักษะคอมพิวเตอร์มาตลอด ฉันไม่เคยเรียนด้านศิลปะการต่อสู้มาก่อนจึงไม่เก่งในเรื่องนี้”

 

 

ถังชิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะใช้วิธีนี้มากู้หน้าตัวเอง

 

 

พูดง่ายๆ ก็คือเธอแพ้ไม่เป็น

 

 

เมื่อได้ยินที่เธอพูด เฉิงสุ่ยก็นิ่งไปสักพัก เขานึกว่าตัวเองฟังผิดไป จึงถามอย่างสุภาพอีกครั้ง “งั้น…คุณจะแข่งคอมพิวเตอร์กับคุณฉิน?”

 

 

“แลกเปลี่ยนความรู้กันน่ะ” ถังชิงส่ายหน้า สายตายังคงจับจ้องฉินหร่าน “คนของหน่วยข่าวกรองเชิญคุณฉินมาสอนตั้งหลายครั้งแล้ว ฉันเองก็อยากจะเรียนรู้ทักษะด้านคอมพิวเตอร์จากคุณฉินสักหน่อยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคุณฉินจะตกลงหรือเปล่า?” 

 

 

ถังชิงภูมิใจกับทักษะคอมพิวเตอร์ของตัวเองมาตลอด

 

 

เฉิงสุ่ยที่ได้ยินถังชิงพูด “…”

 

 

เจอร์รี่ที่นั่งบนอัฒจันทร์ฝั่งหน่วยข่าวกรอง “…”

 

 

ฉินหร่านเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาท้าทายเธอแบบนี้

 

 

เธอที่เพิ่งสวมเสื้อแจ็กเกตขนเป็ด

 

 

พอได้ยินที่ถังชิงพูด ก็เงยหน้าขึ้น ไม่ได้มองถังชิงแต่มองไปที่เฉิงเจวี้ยนพลางพูดเบาๆ “ฉันตกลงได้ไหม?”

 

 

เฉิงเจวี้ยนที่กำลังเคาะนิ้วกับพนักแขนเก้าอี้ยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ “แน่นอน”

 

 

เฉิงหั่วที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกระตุกมุมปาก

 

 

ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมเฉิงสุ่ยถึงวางชื่อฉินหร่านเป็นคนสุดท้าย เพราะถ้าวางเป็นคนที่หนึ่งก็กลัวว่าจะเกิดการนองเลือด…

 

 

แต่ถึงจะเป็นคนสุดท้าย ก็ไม่อาจต้านถังชิงที่ชอบรนหาที่ตายได้

 

 

เรื่องมาไกลราวกับหมาป่าหลุดพันธนาการ ไกลจนกู่ไม่กลับ

 

 

มีคุณฉินอยู่ในการประเมินประจำปี โดดเด่น…ต่างจากคนอื่นจริงๆ ด้วย

 

 

ฉินหร่านที่เพิ่งกลับไปนั่งที่ลุกขึ้นอีกครั้ง เธอเดินไปที่สังเวียนอย่างใจเย็นและยังทักทายเฉิงสุ่ยอย่างร่าเริง “คุณเฉิงสุ่ย เจอกันอีกแล้วนะ”

 

 

เฉิงสุ่ย “…”

 

 

ไม่ ผมไม่อยากเจอคุณบนนี้อีกแล้ว!

 

 

เฉิงสุ่ยกระตุกมุมปากและเรียกคุณฉิน

 

 

จากนั้นก็เหลือบมองถังชิงพร้อมกับสั่งให้คนเตรียมคอมพิวเตอร์

 

 

เดิมทีคอมพิวเตอร์ก็เป็นหนึ่งในรายการการประเมินของหน่วยข่าวกรองอีกหนึ่งรายการ ในที่สุดคอมพิวเตอร์สองเครื่องก็จัดเตรียมเสร็จภายในเวลาไม่ถึงสามนาที

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ
Status: Ongoing
ด้วยว่าพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเล็ก และ ฉินหร่าน ไม่ใช่เด็กประพฤติดี นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนจนผลการเรียนย่ำแย่แล้ว เธอยังหัวรั้นและก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนพักการเรียนไปเป็นปี แตกต่างจาก ฉินอวี่ น้องสาวที่เป็นนักเรียนดีเด่นผู้แสนเพียบพร้อมราวฟ้ากับเหว ด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงเลือกพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียวและทิ้งฉินหร่านเอาไว้ท่ามกลางชนบท ปล่อยให้เธอเติบโตเพียงลำพังในความดูแลของคุณยายวัยชรา สองยายหลานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบสองปี จนกระทั่งวันหนึ่งคุณยายเกิดป่วยหนักอาการโคม่าต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเมือง ครอบครัวฉินจึงได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อคุณยายไม่สามารถดูแลฉินหร่านด้วยตัวเองได้ต่อไปได้อีก แม่ของเธอจึงอาสารับเลี้ยงเธอไว้แทน กระนั้นก็ยังไม่วายเหน็บแนมหญิงสาวอยู่ตลอดว่าอย่าทำตัวน่าขายหน้า ให้เอาอย่างฉินอวี่ผู้เป็นน้องบ้าง กระนั้นกลับไม่มีใครล่วงรู้เลยว่านอกจากฉินหร่านจะมีใบหน้างดงามเกินเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งตัวตนปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ เพราะใครกันล่ะที่ทำข้อสอบกากบาททุกข้อแล้วผลคะแนนสอบจะออกมาได้เท่ากับศูนย์ในทุกๆ วิชา เธอโง่จริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่… เช่นเดียวกับ เฉิงเจวี้ยน หมอหนุ่มประจำโรงเรียนที่แสนธรรมดาคนนั้น ทว่า…เขาเป็นแค่หมอประจำโรงเรียนจริงหรือ เมื่อโชคชะตานำพาให้คนสองคนที่ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้มาพบกัน หน้ากากของใครจะถูกกระชากออกมาก่อนนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset